เมนู

ติวิธรูปสงฺคหวณฺณนา

[585] ปกิณฺณกทุเกสุ อชฺฌตฺติกทุกํ มุญฺจิตฺวา อญฺโญ สพฺพทุเกหิ ติกวเสน โยชนํ คจฺฉนฺโต นตฺถิ, วิญฺญตฺติทุโก จ โยชนํ น คจฺฉตีติ สพฺพทุกโยคีสุ อาทิภูตํ อชฺฌตฺติกทุกเมว คเหตฺวา เสเสหิ สพฺพทุเกหิ โยเชตฺวา ติกา วุตฺตาฯ สกฺกา หิ เอเตน นเยน อญฺเญสมฺปิ ทุกานํ ทุกนฺตเรหิ ลพฺภมานา ติกโยชนา วิญฺญาตุนฺติฯ

จตุพฺพิธาทิรูปสงฺคหวณฺณนา

[586] จตุกฺเกสุ เอกนฺตจิตฺตสมุฏฺฐานสฺส วิญฺญตฺติทฺวยภาวโต วิญฺญตฺติทุกาทีหิ สมานคติโก จิตฺตสมุฏฺฐานทุโกติ เตน สห อุปาทาทุกสฺส โยชนาย ลพฺภมาโนปิ จตุกฺโก น วุตฺโต, ตถา สนิทสฺสนทุกาทีนํ เตน ตสฺส จ โอฬาริกทูรทุเกหิ โยชนาย ลพฺภมานา น วุตฺตา, ธมฺมานํ วา สภาวกิจฺจานิ โพเธตพฺพาการญฺจ ยาถาวโต ชานนฺเตน ภควตา เตน อญฺเญสํ ตสฺส จ อญฺเญหิ โยชนา น กตาติ กิํ เอตฺถ การณปริเยสนาย, อทฺธา สา โยชนา น กาตพฺพา, ยโต ภควตา น กตาติ เวทิตพฺพาฯ อญฺเญ ปน ปกิณฺณกทุกา อญฺเญหิ ปกิณฺณกทุเกหิ โยเชตุํ ยุตฺตา, เตหิ โยชิตา เอวฯ วตฺถุทุกาทีสุ ปน โสตสมฺผสฺสารมฺมณทุกาทโย วชฺเชตฺวา อญฺเญหิ อารมฺมณพาหิรายตนาทิลพฺภมานทุเกหิ อุปาทินฺนกทุกสฺส อุปาทินฺนุปาทานิยทุกสฺส จ โยชนาย จตุกฺกา ลพฺภนฺติ, จิตฺตสมุฏฺฐานทุกสฺส จ สพฺพารมฺมณพาหิรายตนาทิลพฺภมานทุเกหิฯ อวเสเสหิ ปน เตสํ อญฺเญสญฺจ สพฺพวตฺถุทุกาทีหิ โยชนาย น ลพฺภนฺตีติ เวทิตพฺพาฯ

อุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

รูปวิภตฺติ

เอกกนิทฺเทสวณฺณนา

[594] อวิชฺชมานวิภาคสฺส วิภาคาภาวทสฺสนเมว นิทฺเทโส นิจฺฉยกรณโต, ตสฺมา ‘‘สพฺพํ รูปํ น เหตุเมวา’’ติอาทินา วิภาคาภาวาวธารเณน เอว-สทฺเทน นิทฺเทสํ กโรติฯ เหตุเหตูติ มูลเหตุ, เหตุปจฺจยเหตูติ วา อยมตฺโถฯ มหาภูตา เหตูติ อยเมวตฺโถ มหาภูตา ปจฺจโยติ เอเตนปิ วุตฺโตติฯ เหตุปจฺจยสทฺทานํ สมานตฺถตฺตา ปจฺจโย เอว เหตุ ปจฺจยเหตุฯ โย จ รูปกฺขนฺธสฺส เหตุ, โส เอว ตสฺส ปญฺญาปนาย เหตูติ วุตฺโต ตทภาเว อภาวโตฯ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ ฐานโส เหตุโส วิปากนฺติ เอตฺถ วิชฺชมาเนสุปิ อญฺเญสุ ปจฺจเยสุ อิฏฺฐานิฏฺฐวิปากนิยามกตฺตา อุตฺตมํ ปธานํ กุสลากุสลํ คติอุปธิกอาลปโยคสมฺปตฺติวิปตฺติฏฺฐานนิปฺผาทิตํ อิฏฺฐานิฏฺฐารมฺมณญฺจ กมฺมมิว ปธานตฺตา ‘‘เหตู’’ติ วุตฺตนฺติ อิมินา อธิปฺปาเยน กมฺมารมฺมณานิ ‘‘อุตฺตมเหตู’’ติ วุตฺตานิฯ วกฺขติ จ ‘‘คติอุปธิกาลปโยคา วิปากสฺส ฐานํ, กมฺมํ เหตู’’ติฯ อิธ ปน กมฺมมิว อุตฺตมตฺตา อารมฺมณมฺปิ เหตุวจนํ อรหตีติ ‘‘อุตฺตมเหตู’’ติ วุตฺตํฯ สงฺขารานนฺติ ปุญฺญาภิสงฺขาราทีนํ อวิชฺชา สาธารณปจฺจยตฺตา ‘‘เหตู’’ติ วุตฺตาฯ ผรตีติ คจฺฉติ ปาปุณาติฯ ปฏิกฺเขปนิทฺเทโสติ อิทํ มาติกาย อาคตปฏิกฺเขปวเสน วุตฺตํฯ อิธ ปน มาติกาย น เหตุปทาทิสงฺคหิตตา จ รูปสฺส วุตฺตา ตํตํสภาวตฺตา, อวธาริตตา จ อนญฺญสภาวโตฯ

รูปีทุเก รูปีปทเมว อิธ ‘‘รูป’’นฺติ วุตฺตํฯ เตน รูปีรูปปทานํ เอกตฺถตา สิทฺธา โหติ รุปฺปนลกฺขณยุตฺตสฺเสว รูปีรูปภาวโตฯ อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิญฺญาเณหิ วิญฺเญยฺยนฺติ อรูปโต วิธุรํ รูปสฺส สภาวํ ทสฺเสติฯ น หิ อรูปํ อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิญฺญาเณหิ วิญฺเญยฺยํ ยถา รูปํ, เตน รูปํ อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิญฺญาเณหิ วิญฺเญยฺยํ, น อรูปนฺติ อรูปโต นิวตฺเตตฺวา รูเป เอว เอตํ สภาวํ นิยเมติ, น รูปํ เอตสฺมิํ สภาเวฯ อตฺถิ หิ รูปํ อตีตานาคตํ ยํ อุปฺปนฺนํ ฉหิ วิญฺญาเณหิ วิญฺเญยฺยสภาวํ น โหตีติฯ เอตเมว จ นิยมํ ปุน เอวสทฺเทน นิยเมติ ‘‘ยถาวุตฺโต นิยโม รูเป อตฺถิ เอว, อรูเป วิย น นตฺถี’’ติฯ อถ วา สพฺพํ รูปนฺติ ภูตุปาทายรูปํ กาลเภทํ อนามสิตฺวา ‘‘สพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ อรูเปหิ สมานวิญฺเญยฺยสภาวํ อตีตานาคตํ นิวตฺเตตุํ อุปฺปนฺนนฺติ เอเตน วิเสเสติ, ตํ อุปฺปนฺนํ สพฺพํ รูปํ ฉหิ วิญฺญาเณหิ วิญฺเญยฺยเมวาติ อตฺโถฯ