3. ภทฺทิยสุตฺตวณฺณนา
[193] ตติเย กรณสฺส อุตฺตรํ กิริยํ กรณุตฺตริยํ, ตํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ กรณุตฺตริยลกฺขโณฯ เสสํ สุวิญฺเญยฺยเมวฯ
ภทฺทิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ
4. สามุคิยสุตฺตวณฺณนา
[194] จตุตฺเถ ปุคฺคลสฺส ปาริสุทฺธิยา ปธานภูตานิ วา องฺคานิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคานิฯ เสสเมตฺถ สุวิญฺเญยฺยเมวฯ
สามุคิยสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ
5. วปฺปสุตฺตวณฺณนา
[195] ปญฺจเม ปิหิตตฺตาติ อกุสลสฺส ปเวสนทฺวารํ ปิทหิตฺวา ฐิตตฺตาฯ กาเยน สํวริตพฺพญฺหิ อปิหิเตน ทฺวาเรน ปวตฺตนกํ ปาปธมฺมํ สํวริตฺวา ฐิโต กาเยน สํวุโต นามฯ ขยวิราเคนาติ อจฺจนฺตขยสงฺขาเตน วิรชฺชเนน, อนุปฺปาทนิโรเธนาติ อตฺโถฯ กิํ วิชฺชา ปุพฺเพ อุปฺปนฺนาติ? อุภยเมตํ น วตฺตพฺพํฯ ปหานาภิสมยภาวนาภิสมยานํ อภินฺนกาลตฺตา ปทีปุชฺชลเนน อนฺธการํ วิย วิชฺชุปฺปาเทน อวิชฺชา นิรุทฺธาว โหติ, วตฺตพฺพํ วา เหตุผลตฺตมุปจารวเสนฯ ยถา หิ ปทีปุชฺชลนเหตุโก อนฺธการวิคโม, เอวํ วิชฺชุปฺปาทเหตุโก อวิชฺชานิโรโธฯ เหตุผลธมฺมา จ สมานกาลาปิ ปุพฺพาปรกาลา วิย โวหรียนฺติ ยถา ‘‘จกฺขุญฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณ’’นฺติ (ม. นิ. 1.400; 3.421, 425, 426; สํ. นิ. 2.43-44; 2.4.60; กถา. 465, 467) ปจฺจยาทานุปฺปชฺชนกิริยาฯ จิตฺตสฺส กายสฺส จ วิหนนโต วิฆาโต, ทุกฺขํฯ ปริทหนโต ปริฬาโหฯ
นิจฺจวิหาราติ สพฺพทา ปวตฺตนกวิหาราฯ ฐเปตฺวา หิ สมาปตฺติเวลํ ภวงฺคเวลญฺจ ขีณาสวา อิมินา ฉฬงฺคุเปกฺขาวิหาเรน สพฺพกาลํ วิหรนฺติฯ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุวิญฺญาเณน รูปํ ทิสฺวาฯ