เมนู

ตถา อนิจฺจโต มนสิกโรโต ญาณํ อุปฺปชฺชติ…เป.… ปีติ ปสฺสทฺธิ สุขํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุปฏฺฐานํ อุเปกฺขา นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ, นิกนฺติ ธมฺโมติ นิกนฺติํ อาวชฺชติ, ตโต วิกฺเขโป อุทฺธจฺจํ, เตน อุทฺธจฺเจน วิคฺคหิตมานโส อนิจฺจโต อุปฏฺฐานํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติฯ ทุกฺขโต…เป.… อนตฺตโต อุปฏฺฐานํ ยถาภูตํ นปฺปชานาตี’’ติ (ปฏิ. ม. 2.6)ฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ

ยุคนทฺธสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

ปฏิปทาวคฺควณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

(18) 3. สญฺเจตนิยวคฺโค

1. เจตนาสุตฺตวณฺณนา

[171] ตติยสฺส ปฐเม กายสญฺเจตนาเหตูติ กายกมฺมนิมิตฺตํ, กายิกสฺส กมฺมสฺส กฏตฺตา อุปจิตตฺตาติ อตฺโถฯ เอส นโย เสสสญฺเจตนาทฺวเยปิฯ อุทฺธจฺจสหคตเจตนา ปวตฺติวิปากํ เทติเยวาติ ‘‘วีสติวิธา’’ติ วุตฺตํฯ ตถา วจีสญฺเจตนา มโนสญฺเจตนาติ เอตฺถ กามาวจรกุสลากุสลวเสน วีสติ เจตนา ลพฺภนฺติฯ อิทํ ตถา-สทฺเทน อุปสํหรติฯ อปิเจตฺถ นว มหคฺคตเจตนาปิ ลพฺภนฺตีติ อิมินา นวหิ รูปารูปกุสลเจตนาหิ สทฺธิํ มโนทฺวาเร เอกูนติํสาติ ตีสุ ทฺวาเรสุ เอกูนสตฺตติ เจตนา โหนฺตีติ ทสฺเสติฯ อวิชฺชาปจฺจยาวาติ อิทํ ตาปิ เจตนา อวิชฺชาปจฺจยาว โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ ยถาวุตฺตา หิ เอกูนสตฺตติ เจตนา กุสลาปิ อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺติ, ปเคว อิตรา อปฺปหีนาวิชฺชสฺเสว อุปฺปชฺชนโต ปหีนาวิชฺชสฺส อนุปฺปชฺชนโตฯ

ยสฺมา ยํ ตํ ยถาวุตฺตํ เจตนาเภทํ กายสงฺขารญฺเจว วจีสงฺขารญฺจ มโนสงฺขารญฺจ ปเรหิ อนุสฺสาหิโต สามมฺปิ อสงฺขาริกจิตฺเตน กโรติ, ปเรหิ การิยมาโน สสงฺขาริกจิตฺเตนปิ กโรติ, ‘‘อิทํ นาม กมฺมํ กโรนฺโตปิ ตสฺส เอวรูโป นาม วิปาโก ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ กมฺมํ วิปากญฺจ ชานนฺโตปิ กโรติ, มาตาปิตูสุ เจติยวนฺทนาทีนิ กโรนฺเตสุ อนุกโรนฺโต ทารโก วิย เกวลํ กมฺมญฺเญว วิชฺชานนฺโต ‘‘อิมสฺส ปน กมฺมสฺส อยํ วิปาโก’’ติ วิปากํ อชานนฺโตปิ กโรติ , ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สามํ วา ต’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ปเรหิ อนาณตฺโตติ สรเสเนว วตฺตมาโนฯ ชานนฺโตติ อนุสฺสวาทิวเสน ชานนฺโตฯ

นนุ จ ขีณาสโว เจติยํ วนฺทติ, ธมฺมํ ภณติ, กมฺมฏฺฐานํ มนสิ กโรติ, กถมสฺส กายกมฺมาทโย น โหนฺตีติ? อวิปากตฺตาฯ ขีณาสเวน หิ กตกมฺมํ เนว กุสลํ โหติ นากุสลํ, อวิปากํ หุตฺวา กิริยามตฺเต ติฏฺฐติฯ เตนสฺส เต กายาทโย น โหนฺติฯ เตเนวาห ‘‘ขีณาสวสฺส กาเยน กรณกมฺมํ ปญฺญายตี’’ติอาทิฯ นฺติ กุสลากุสลํฯ

ขิฑฺฑาย ปทุสฺสนฺตีติ ขิฑฺฑาปโทสิโน, ขิฑฺฑาปโทสิโน เอว ขิฑฺฑาปโทสิกาฯ ขิฑฺฑาปโทโส วา เอเตสํ อตฺถีติ ขิฑฺฑาปโทสิกาฯ เต กิร ปุญฺญวิเสสาธิคเตน มหนฺเตน อตฺตโน สิริวิภเวน นกฺขตฺตํ กีฬนฺตา ตาย สมฺปตฺติยา มหนฺตตาย ‘‘อาหารํ ปริภุญฺชิมฺหา น ปริภุญฺชิมฺหา’’ติปิ น ชานนฺติฯ อถ เอกาหาราติกฺกมโต ปฏฺฐาย นิรนฺตรํ ขาทนฺตาปิ ปิวนฺตาปิ จวนฺติเยว น ติฏฺฐนฺติฯ กสฺมา? กมฺมชเตชสฺส พลวตาย กรชกายสฺส มนฺทตายฯ มนุสฺสานญฺหิ กมฺมชเตโช มนฺโท, กรชกาโย พลวาฯ เตสํ เตชสฺส มนฺทตาย กายสฺส พลวตาย สตฺตาหมฺปิ อติกฺกมิตฺวา อุณฺโหทกอจฺฉยาคุอาทีหิ สกฺกา กรชกายํ อุปตฺถมฺเภตุํฯ เทวานํ ปน เตโช พลวา โหติ อุฬารปุญฺญนิพฺพตฺตตฺตา อุฬารครุสินิทฺธสุธาหารชีรณโต จฯ กรชํ มนฺทํ มุทุสุขุมาลภาวโตฯ เต เอกํ อาหารเวลํ อกฺกมิตฺวาว สณฺฐาเปตุํ น สกฺโกนฺติฯ ยถา นาม คิมฺหานํ มชฺฌนฺหิเก ตตฺตปาสาเณ ฐปิตํ ปทุมํ วา อุปฺปลํ วา สายนฺหสมเย ฆฏสเตนปิ สิญฺจิยมานํ ปากติกํ น โหติ วินสฺสติเยว, เอวเมว ปจฺฉา นิรนฺตรํ ขาทนฺตาปิ ปิวนฺตาปิ จวนฺติเยว น ติฏฺฐนฺติฯ กตเม ปน เต เทวาติ? ‘‘อิเม นามา’’ติ อฏฺฐกถาย วิจารณา นตฺถิ, ‘‘อาหารูปจฺเฉเทน อาตเป ขิตฺตมาลา วิยา’’ติ วุตฺตตฺตา เย เกจิ กพฬีการาหารูปชีวิโน เทวา เอวํ กโรนฺติ, เต เอวํ จวนฺตีติ เวทิตพฺพาฯ อภยคิริวาสิโน ปนาหุ ‘‘นิมฺมานรติปรนิมฺมิตวสวตฺติโน เต เทวา, ขิฑฺฑาย ปทุสฺสนมตฺเตเนว เหเต ขิฑฺฑาปโทสิกาติ วุตฺตา’’ติฯ

โก ปเนตฺถ เทวานํ อาหาโร, กา อาหารเวลาติ? ‘‘สพฺเพสมฺปิ กามาวจรเทวานํ สุธา อาหาโร, สา เหฏฺฐิเมหิ เหฏฺฐิเมหิ อุปริมานํ อุปริมานํ ปณีตตมา โหติฯ ตํ ยถาสกํ ทิวสวเสเนว ทิวเส ทิวเส ภุญฺชนฺติฯ เกจิ ปน พทรปฺปมาณํ สุธาหารํ ปริภุญฺชนฺติฯ โส ชิวฺหายํ ฐปิตมตฺโตเยว ยาว เกสคฺคนขคฺคา กายํ ผรติ, เตสํเยว ทิวสวเสน สตฺตทิวสํ ยาปนสมตฺโถว โหตี’’ติ วทนฺติฯ

อิสฺสาปกตตฺตา ปทุฏฺเฐน มนสา ปทุสฺสนฺตีติ มโนปโทสิกาฯ อุสูยวเสน วา มนโส ปโทโส มโนปโทโส, โส เอเตสํ อตฺถิ วินาสเหตุภูโตติ มโนปโทสิกาฯ อกฺกุทฺโธ รกฺขตีติ กุทฺธสฺส โส โกโธ อิตรสฺมิํ อกฺกุชฺฌนฺเต อนุปาทาโน เอกวารเมว อุปฺปตฺติยา อนาเสวโน จาเวตุํ น สกฺโกติ, อุทกนฺตํ ปตฺวา อคฺคิ วิย นิพฺพายติ, ตสฺมา อกฺกุทฺโธ ตํ จวนโต รกฺขติฯ อุโภสุ ปน กุทฺเธสุ ภิยฺโย ภิยฺโย อญฺญมญฺญมฺหิ ปริวฑฺฒนวเสน ติขิณสมุทาจาโร นิสฺสยทหนรโส โกโธ อุปฺปชฺชมาโน หทยวตฺถุํ นิทหนฺโต อจฺจนฺตสุขุมาลํ กรชกายํ วินาเสติ, ตโต สกโลปิ อตฺตภาโว อนฺตรธายติฯ เตนาห ‘‘อุโภสุ ปนา’’ติอาทิฯ ตถา จาห ภควา ‘‘อญฺญมญฺญมฺหิ ปทุฏฺฐจิตฺตา กิลนฺตกาย…เป.… จวนฺตี’’ติ (ที. นิ. 1.47)ฯ

กตเม เตน เทวา ทฏฺฐพฺพาติ เอตฺถ เตนาติ ปจฺจตฺเต กรณวจนนฺติ อาห ‘‘กตเม นาม เต เทวา ทฏฺฐพฺพา’’ติฯ กรณตฺเถเยว วา เอตํ กรณวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เตน วา อตฺตภาเวนา’’ติฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ

เจตนาสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

2. วิภตฺติสุตฺตวณฺณนา

[172] ทุติเย อตฺถปฺปเภทสฺส สลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถานกรณสมตฺถํ อตฺเถ ปเภทคตํ ญาณํ อตฺถปฏิสมฺภิทาฯ อตฺโถติ เจตฺถ สงฺเขปโต เหตุผลํฯ ตญฺหิ เหตุวเสน อรณียํ คนฺตพฺพํ ปตฺตพฺพํ, ตสฺมา ‘‘อตฺโถ’’ติ วุจฺจติฯ ปเภทโต ปน ยํ กิญฺจิ ปจฺจยสมุปฺปนฺนํ, นิพฺพานํ, ภาสิตตฺโถ, วิปาโก, กิริยาติ อิเม ปญฺจ ธมฺมา ‘‘อตฺโถ’’ติ เวทิตพฺพา , ตํ อตฺถํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมิํ อตฺเถ ปเภทคตํ ญาณํ อตฺถปฏิสมฺภิทาฯ เตนาห ‘‘ปญฺจสุ อตฺเถสุ ปเภทคตํ ญาณ’’นฺติฯ อาจิกฺขามีติอาทีสุ อาทิโต กเถนฺโต อาจิกฺขติ นาม, อุทฺทิสตีติ อตฺโถฯ ตเมว อุทฺเทสํ ปริโยสาเปนฺโต เทเสติฯ ยถาอุทฺทิฏฺฐมตฺถํ อุทฺทิสนวเสน ปกาเรหิ ญาเปนฺโต ญาเปติฯ ปกาเรหิ เอว ตมตฺถํ ปติฏฺฐาเปนฺโต ปฏฺฐเปติฯ ยถาอุทฺทิฏฺฐํ ปฏินิทฺทิสนวเสน วิวรติฯ วิวฏํ วิภชติฯ วิภตฺตอตฺถํ เหตูทาหรณทสฺสเนหิ ปากฏํ กโรนฺโต อุตฺตานิํ กโรติ

ติสฺโส ปฏิสมฺภิทาติ ธมฺมนิรุตฺติปฏิภานปฏิสมฺภิทาฯ ตตฺถ ธมฺมปฏิสมฺภิทา นาม ธมฺมปฺปเภทสฺส สลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถานกรณสมตฺถํ ญาณํฯ ธมฺโมติ จ สงฺเขปโต ปจฺจโยฯ โส หิ ยสฺมา ตํ ตํ วิทหติ ปวตฺเตติ เจว ปาเปติ จ, ตสฺมา ‘‘ธมฺโม’’ติ วุจฺจติฯ ปเภทโต ปน โย โกจิ ผลนิพฺพตฺตโก เหตุ, อริยมคฺโค, ภาสิตํ, กุสลํ, อกุสลนฺติ อิเม ปญฺจ ธมฺมา ‘‘ธมฺโม’’ติ เวทิตพฺพา, ตํ ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมิํ ธมฺเม ปเภทคตํ ญาณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทาฯ นิรุตฺติปฺปเภทสฺส สลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถานกรณสมตฺถํ นิรุตฺตาภิลาเป ปเภทคตํ ญาณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาติฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – อตฺเถ จ ธมฺเม จ ยา สภาวนิรุตฺติ, ตํ สภาวนิรุตฺติํ สทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตสฺมิํ สภาวนิรุตฺตาภิลาเป ปเภทคตํ ญาณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาติฯ

เอวมยํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา สทฺทารมฺมณา นาม ชาตา, น ปญฺญตฺติอารมฺมณาฯ กสฺมา? ยสฺมา สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานนฺติฯ ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺโต หิ ‘‘ผสฺโส’’ติ วุตฺเต ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ, ‘‘ผสฺสา’’ติ วา ‘‘ผสฺส’’นฺติ วา วุตฺเต ปน ‘‘อยํ อสภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติฯ เวทนาทีสุปิ เอเสว นโยฯ อญฺญํ ปเนส นามาขฺยาตอุปสคฺคพฺยญฺชนสทฺทํ ชานาติ น ชานาตีติ? ยทคฺเคน สทฺทํ ชานิตฺวา ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺติ, อยํ อสภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ, ตทคฺเคน ตมฺปิ ชานิสฺสตีติฯ ตํ ปน ‘‘นยิทํ ปฏิสมฺภิทากิจฺจ’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิทํ วตฺถุ กถิตํ –

ติสฺสทตฺตตฺเถโร กิร โพธิมณฺเฑ สุวณฺณสลากํ คเหตฺวา ‘‘อฏฺฐารสสุ ภาสาสุ กตรภาสาย กเถมี’’ติ ปวาเรสิฯ ตํ ปน เตน อตฺตโน อุคฺคเห ฐตฺวา ปวาริตํ, น ปฏิสมฺภิทาย ฐิเตนฯ