เมนู

6. อปฺปสฺสุตสุตฺตวณฺณนา

[6] ฉฏฺเฐ อปฺปกํ สุตํ โหตีติ นวงฺคสตฺถุสาสเน กิญฺจิเทว สุตํ โหติฯ ตเทว นวงฺคสตฺถุสาสนํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุตฺตํ เคยฺย’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ สุตฺตาทีนิ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อุภโตวิภงฺคนิทฺเทสกฺขนฺธกปริวารา’’ติอาทิมาหฯ กถํ ปนายํ วิภาโค ยุชฺเชยฺยฯ สคาถกญฺหิ สุตฺตํ เคยฺยํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ เวยฺยากรณํฯ ตทุภยวินิมุตฺตญฺจ สุตฺตํ อุทานาทิวิเสสสญฺญารหิตํ นตฺถิ, ยํ สุตฺตงฺคํ สิยาฯ มงฺคลสุตฺตาทีนญฺจ (ขุ. ปา. 5.1 อาทโย; สุ. นิ. 261 อาทโย) สุตฺตงฺคสงฺคโห น สิยา คาถาภาวโต ธมฺมปทาทีนํ วิย ฯ เคยฺยงฺคสงฺคโห วา สิยา สคาถกตฺตา สคาถาวคฺคสฺส วิยฯ ตถา อุภโตวิภงฺคาทีสุ สคาถกปฺปเทสานนฺติ? วุจฺจเต –

‘‘สุตฺตนฺติ สามญฺญวิธิ, วิเสสวิธโย ปเร;

สนิมิตฺตา นิรุฬฺหตฺตา, สหตาญฺเญน นาญฺญโต’’ฯ (เนตฺติ. อฏฺฐ. สงฺคหวารวณฺณนา; ที. นิ. ฏี. 1.ปฐมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา; สารตฺถ. ฏี. 1.ปฐมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา)

สพฺพสฺสปิ หิ พุทฺธวจนสฺส สุตฺตนฺติ อยํ สามญฺญวิธิฯ เตเนวาห อายสฺมา มหากจฺจาโน เนตฺติยํ (เนตฺติ. สงฺคหวาโร) ‘‘นววิธสุตฺตนฺตปริเยฏฺฐี’’ติฯ เอตฺตกํ ตสฺส ภควโต สุตฺตาคตํ สุตฺตปริยาปนฺนํ (ปาจิ. 655, 1242) สกวาเท ปญฺจ สุตฺตสตานีติ (ธ. ส. อฏฺฐ. นิทานกถา; กถา. อฏฺฐ. นิทานกถา) เอวมาทิ จ เอตสฺส อตฺถสฺส สาธกํฯ วิเสสวิธโย ปเร สนิมิตฺตา ตเทกเทเสสุ เคยฺยาทโย วิเสสวิธโย เตน เตน นิมิตฺเตน ปติฏฺฐิตาฯ ตถา หิ เคยฺยสฺส สคาถกตฺตํ ตพฺภาวนิมิตฺตํฯ โลเกปิ หิ สสิโลกํ สคาถกํ วา จุณฺณิยคนฺถํ ‘‘เคยฺย’’นฺติ วทนฺติฯ คาถาวิรเห ปน สติ ปุจฺฉํ กตฺวา วิสฺสชฺชนภาโว เวยฺยากรณสฺส ตพฺภาวนิมิตฺตํฯ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนญฺหิ ‘‘พฺยากรณ’’นฺติ วุจฺจติฯ พฺยากรณเมว เวยฺยากรณํฯ เอวํ สนฺเต สคาถกาทีนมฺปิ ปุจฺฉํ กตฺวา วิสฺสชฺชนวเสน ปวตฺตานํ เวยฺยากรณภาโว อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ เคยฺยาทิสญฺญานํ อโนกาสภาวโต, ‘‘คาถาวิรเห สตี’’ติ วิเสสิตตฺตา จฯ ตถา หิ ธมฺมปทาทีสุ เกวลํ คาถาพนฺเธสุ สคาถกตฺเตปิ โสมนสฺสญาณมยิกคาถายุตฺเตสุ ‘‘วุตฺตํ เหต’’นฺติอาทีวจนสมฺพนฺเธสุ อพฺภุตธมฺมปฺปฏิสํยุตฺเตสุ จ สุตฺตวิเสเสสุ ยถากฺกมํ คาถาอุทานอิติวุตฺตกอพฺภุตธมฺมสญฺญา ปติฏฺฐิตา, ตถา สติปิ คาถาพนฺธภาเว ภควโต อตีตาสุ ชาตีสุ จริยานุภาวปฺปกาสเกสุ ชาตกสญฺญา, สติปิ ปญฺหวิสฺสชฺชนภาเว สคาถกตฺเต จ เกสุจิ สุตฺตนฺเตสุ เวทสฺส ลภาปนโต เวทลฺลสญฺญา ปติฏฺฐิตาติ เอวํ เตน เตน สคาถกตฺตาทินา นิมิตฺเตน เตสุ เตสุ สุตฺตวิเสเสสุ เคยฺยาทิสญฺญา ปติฏฺฐิตาติ วิเสสวิธโย สุตฺตงฺคโต ปเร เคยฺยาทโยฯ ยํ ปเนตฺถ เคยฺยงฺคาทินิมิตฺตรหิตํ, ตํ สุตฺตงฺคํ วิเสสสญฺญาปริหาเรน สามญฺญสญฺญาย ปวตฺตนโตฯ

นนุ จ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ เวยฺยากรณนฺติ สุตฺตงฺคํ น สมฺภวตีติ โจทนา ตทวตฺถาวาติ? น ตทวตฺถา โสธิตตฺตาฯ โสธิตญฺหิ ปุพฺเพ ‘‘คาถาวิรเห สติ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนภาโว เวยฺยากรณสฺส ตพฺภาวนิมิตฺต’’นฺติฯ

ยญฺจ วุตฺตํ – ‘‘คาถาภาวโต มงฺคลสุตฺตาทีนํ สุตฺตงฺคสงฺคโห น สิยา’’ติ, ตํ น, นิรุฬฺหตฺตาฯ นิรุฬฺโห หิ มงฺคลสุตฺตาทีนํ สุตฺตภาโวฯ น หิ ตานิ ธมฺมปทพุทฺธวํสาทโย วิย คาถาภาเวน ปญฺญาตานิ, อถ โข สุตฺตภาเวเนว, เตเนว หิ อฏฺฐกถายํ ‘‘สุตฺตนามก’’นฺติ นามคฺคหณํ กตํฯ ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สคาถกตฺตา เคยฺยงฺคสงฺคโห สิยา’’ติ, ตทปิ นตฺถิ, ยสฺมา สหตาญฺเญนฯ สห คาถาหีติ หิ สคาถกํฯ สหภาโว นาม อตฺถโต อญฺเญน โหติ, น จ มงฺคลสุตฺตาทีสุ คาถาวินิมุตฺโต โกจิ สุตฺตปฺปเทโส อตฺถิ, โย ‘‘สห คาถาหี’’ติ วุจฺเจยฺย, น จ สมุทาโย นาม โกจิ อตฺถิฯ ยทปิ วุตฺตํ – ‘‘อุภโตวิภงฺคาทีสุ สคาถกปฺปเทสานํ เคยฺยงฺคสงฺคโห สิยา’’ติ, ตทปิ น, อญฺญโตฯ อญฺญา เอว หิ ตา คาถา ชาตกาทิปริยาปนฺนตฺตาฯ อโต น ตาหิ อุภโตวิภงฺคาทีนํ เคยฺยงฺคภาโวติฯ เอวํ สุตฺตาทีนํ องฺคานํ อญฺญมญฺญํ สงฺกราภาโว เวทิตพฺโพฯ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย สารตฺถทีปนิยา (สารตฺถ. ฏี. 1.ปฐมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา) อมฺเหหิ ปกาสิโต, อิจฺฉนฺเตหิ ตโตเยว คเหตพฺโพฯ

น อตฺถมญฺญาย ธมฺมมญฺญาย ธมฺมานุธมฺมปฺปฏิปนฺโน โหตีติ อฏฺฐกถาญฺจ ปาฬิญฺจ ชานิตฺวา โลกุตฺตรธมฺมสฺส อนุรูปธมฺมํ ปุพฺพภาคปฺปฏิปทํ ปฏิปนฺโน น โหตีติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพฯ เตเนวาห ‘‘น อตฺถมญฺญาย ธมฺมมญฺญายาติ อฏฺฐกถญฺจ ปาฬิญฺจ ชานิตฺวา…เป.… น ปฏิปนฺโน โหตี’’ติฯ

อปฺปสฺสุตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

7. โสภนสุตฺตวณฺณนา

[7] สตฺตเม ปญฺญาเวยฺยตฺติเยนาติ สจฺจสมฺปฏิเวธาทิปญฺญาเวยฺยตฺติเยนฯ วินยํ อุเปตาติ ตทงฺคาทิวเสน กิเลสานํ วินยํ อุเปตาฯ เวสารชฺเชนาติ สารชฺชกรานํ ทิฏฺฐิวิจิกิจฺฉาทิปาปธมฺมานํ วิคมนโต เวสารชฺเชน, สารชฺชรหิเตนาติ อตฺโถฯ เตปิฏกวเสน พหุ สุตํ เอเตสนฺติ พหุสฺสุตาฯ ตเมว ปริยตฺติธมฺมํ ธาเรนฺติ สุวณฺณภาชเน ปกฺขิตฺตสีหวสํ วิย วินสฺสนฺตํ อกตฺวา สุปฺปคุณสุปฺปวตฺติภาเวน หทเย ฐเปนฺตีติ ธมฺมธราฯ เอทิสา จ อตฺตนา สุตสฺส ธมฺมสฺส อาธารภูตา นาม โหนฺตีติ อาห ‘‘สุตธมฺมานํ อาธารภูตา’’ติฯ

โสภนสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

8. เวสารชฺชสุตฺตวณฺณนา

[8] อฏฺฐเม พฺยาโมหวเสน สรณปริเยสนํ สารชฺชนํ สารโท, พฺยาโมหภยํฯ วิคโต สารโท เอตสฺสาติ วิสารโท, ตสฺส ภาโว เวสารชฺชํฯ ตํ ปน ญาณสมฺปทํ, ปหานสมฺปทํ, เทสนาวิเสสสมฺปทํ เขมญฺจ นิสฺสาย ปวตฺตํ จตุพฺพิธปจฺจเวกฺขณญาณํฯ เตนาห ‘‘จตูสุ ฐาเนสู’’ติอาทิฯ อุสภสฺส อิทนฺติ อาสภํ, เสฏฺฐฏฺฐานํฯ สพฺพญฺญุตปฏิชานนวเสน อภิมุขํ คจฺฉนฺติ, อฏฺฐ วา ปริสา อุปสงฺกมนฺตีติ อาสภา, ปุพฺพพุทฺธาฯ อิทํ ปนาติ พุทฺธานํ ฐานํ สพฺพญฺญุตเมว วทติฯ ติฏฺฐมาโนวาติ อวทนฺโตปิ ติฏฺฐมาโนว ปฏิชานาติ นามาติ อตฺโถฯ อุปคจฺฉตีติ อนุชานาติฯ

อฏฺฐสุ ปริสาสูติ ‘‘อภิชานามิ โข ปนาหํ, สาริปุตฺต, อเนกสตํ ขตฺติยปริสํ อุปสงฺกมิตา…เป.… พฺราหฺมณปริสํ คหปติปริสํ, สมณปริสํ, จาตุมหาราชิกปริสํ, ตาวติํสปริสํ, มารปริสํ, พฺรหฺมปริสํ อุปสงฺกมิตา, ตตฺรปิ มยา สนฺนิสินฺนปุพฺพญฺเจว สลฺลปิตปุพฺพญฺจ สากจฺฉา จ สมาปชฺชิตปุพฺพาฯ ตตฺร วต มํ ‘ภยํ วา สารชฺชํ วา โอกฺกมิสฺสตี’ติ นิมิตฺตเมตํ, สาริปุตฺต, น สมนุปสฺสามี’’ติ (ม. นิ. 1.151) เอวํ วุตฺตปริสาสุฯ อภีตนาทํ นทตีติ ปรโต ทสฺสิตญาณโยเคน วิสารโท อหนฺติ อภีตนาทํ นทติฯ สีหนาทสุตฺเตนาติ ขนฺธวคฺเค อาคเตน สีหนาทสุตฺเตนฯ