เมนู

17. ปสาทกรธมฺมวคฺควณฺณนา

[366] อทฺธมิทนฺติ สนฺธิวเสน ปาฬิยํ รสฺสํ กตฺวา วุตฺตํ, ม-กาโร ปทสนฺธิกโรติ อาห – ‘‘อทฺธา อิท’’นฺติฯ เอกํโส เอสาติ เอกํโส เหตุ เอส ลาภานํฯ ปาปกํ นามาติ อปฺปกมฺปิ ปาปํ นาม พฺยตฺตํ เอกํเสน น กโรติฯ ตถสฺสาติ ตถา สมฺมาปฏิปชฺชมานสฺส อสฺสฯ อารญฺญิกตฺตํ…เป.… เตจีวริกตฺตนฺติ อิเมสํ ธุตธมฺมานํ คหเณเนว อิตเรสมฺปิ ตํสภาคานํ คหิตภาโว ทฏฺฐพฺโพฯ ถาวรปฺปตฺตภาโวติ สาสเน ถิรภาวปฺปตฺติ เถรภาโวฯ อากปฺปสฺส สมฺปตฺตีติ ‘‘อญฺโญ เม อากปฺโป กรณีโย’’ติ เอวํ วุตฺตสฺส อากปฺปสฺส สมฺปตฺติฯ โกลปุตฺตีติ โกลปุตฺติยนฺติ อาห – ‘‘กุลปุตฺตภาโว’’ติฯ สมฺปนฺนรูปตาติ อุปธิสมฺปทาฯ วจนกิริยายาติ วจนปฺปโยคสฺส มธุรภาโว มญฺชุสฺสรตาฯ เตนสฺส ลาโภ อุปฺปชฺชตีติ อิทํ น ลาภุปฺปาทนูปายทสฺสนปรํ, อถ โข เอวํ สมฺมาปฏิปชฺชมานสฺส อนิจฺฉนฺตสฺเสว ลาโภ อุปฺปชฺชตีติ ลาภสฺส อพฺยภิจารเหตุทสฺสนปรํ ทฏฺฐพฺพํฯ ยถาห –

‘‘อากงฺเขยฺย เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ลาภี อสฺสํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานนฺติ, สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการี’’ติ (ม. นิ. 1.65)ฯ

ปสาทกรธมฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

18. อปรอจฺฉราสงฺฆาตวคฺควณฺณนา

[382] อิทมฺปิ สุตฺตนฺติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท เหฏฺฐา วุตฺตจูฬจฺฉราสงฺฆาตสุตฺตํ สมฺปิณฺเฑติฯ จูฬจฺฉราสงฺฆาตสุตฺเต อปฺปนํ อปฺปตฺตาย เมตฺตาย ตาวมหนฺโต วิปาโก ทสฺสิโต, กิมงฺคํ ปน อิมิสฺสา อปฺปนาปฺปตฺตาย เมตฺตายาติ ทสฺเสตุํ – ‘‘อปฺปนาปฺปตฺตาย หี’’ติอาทิมาหฯ วิปากกถาเยว นตฺถีติ วิปาเก กถาเยว นตฺถิ, อยเมว วา ปาโฐฯ คณนานุปุพฺพตาติ คณนานุปุพฺพตายฯ ปฐมํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ปฐมํ, ปฐมํ สมาปชฺชตีติ อิทํ ปน น เอกนฺตลกฺขณํฯ จิณฺณวสีภาโว หิ อฏฺฐสมาปตฺติลาภี อาทิโต ปฏฺฐาย มตฺถกํ ปาเปนฺโตปิ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ, มตฺถกโต ปฏฺฐาย อาทิํ ปาเปนฺโตปิ, อนฺตรนฺตรา โอกฺกนฺโตปิ สมาปชฺชิตุํ สกฺโกติ เอวฯ ปุพฺพุปฺปตฺติยฏฺเฐน ปน ปฐมํ นาม โหติฯ วิภงฺเคติ ฌานวิภงฺเคฯ วิปสฺสนํ กยิรมานํ ลกฺขณูปนิชฺฌานกิจฺจํ มคฺเคน สิชฺฌติ ตคฺคตสมฺโมหวิทฺธํสนโต ฯ อปิจ วิปสฺสนาย ลกฺขณูปนิชฺฌานํ มคฺเคน อุปฺปนฺเนน สิชฺฌติ อิตรถา ปริวตฺตนโต, ตสฺมา มคฺโค ลกฺขณูปนิชฺฌานํ, น อนิจฺจาทิลกฺขณานํ อารมฺมณกรณโตฯ ยถา ผลํ นิพฺพานสฺส อสงฺขตลกฺขณํ อารมฺมณกรณวเสน อุปนิชฺฌายติ, เอวํ มคฺโคปิฯ เอวมฺปิสฺส ลกฺขณูปนิชฺฌานตํ เวทิตพฺพํฯ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ อริตฺตชฺฌานตายฯ เสสํ วิเสสํ, อริตฺตชฺฌานา เอวาติ อตฺโถฯ

[386-387] หิตผรณนฺติ สตฺเตสุ หิตานุรูปํ ฌานสฺส ผริตฺวา ปวตฺตนํฯ เจโตปฏิปกฺขโต วิมุจฺจติ เอตายาติ เจโตวิมุตฺติ, อปฺปนาปฺปตฺตา เมตฺตาฯ เตนาห – ‘‘อิธา’’ติอาทิฯ เอเสว นโยติ อิมินา กรุณาทีนมฺปิ อปฺปนาปฺปตฺตตํ อติทิสติฯ วฏฺฏํ โหนฺติ กมฺมวฏฺฏภาวโตฯ วฏฺฏปาทา โหนฺตีติ วิปากวฏฺฏสฺส การณํ โหนฺติฯ

[390] อชฺฌตฺตปริกมฺมวเสนาติ อตฺตโน เกสาทีสุ ปริกมฺมกรณวเสนฯ อฏฺฐารสวิเธติ อฏฺฐารสปฺปเภเทฯ กาเยติ รูปกาเยฯ รูปกาโย หิ อิธ องฺคปจฺจงฺคานํ เกสาทีนญฺจ ธมฺมานํ สมูหฏฺเฐน หตฺถิกายรถกายาทโย วิย กาโยติ อธิปฺเปโตฯ สมูหวิสยตาย จสฺส กายสทฺทสฺส สมุทายูปาทนตาย จ อสุภาการสฺส ‘‘กาเย’’ติ เอกวจนํฯ ตถา อารมฺมณาทิวิภาเคน อเนกเภทภินฺนมฺปิ จิตฺตํ จิตฺตภาวสามญฺเญน เอกชฺฌํ คเหตฺวา ‘‘จิตฺเต’’ติ เอกวจนํ กตํฯ กายานุปสฺสีติ อิมสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ – ‘‘ตเมว กายํ ปญฺญาย อนุปสฺสนฺโต’’ติ อาหฯ ตเมว กายนฺติ จ อวธารเณน เวทนาทิอนุปสฺสนํ นิวตฺเตติฯ เตน จ ปุน กายคฺคหณสฺส ปโยชนํ สูจิตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ ‘‘กาเย’’ติ หิ วตฺวาปิ ปุน ‘‘กายานุปสฺสี’’ติ ทุติยํ กายคฺคหณํ อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถํ กตํฯ เตน เวทนาทโยปิ เอตฺถ สิตา, เอตฺถ ปฏิพทฺธาติ กายเวทนาทิอนุปสฺสนปฺปสงฺเคปิ อาปนฺเน น กาเย เวทนานุปสฺสี จิตฺตานุปสฺสี ธมฺมานุปสฺสี วาฯ อถ โข กายานุปสฺสีเยวาติ กายสงฺขาตวตฺถุสฺมิํ กายานุปสฺสนาการสฺเสว ทสฺสเนน อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานํ ทสฺสิตํ โหติฯ ตถา น กาเย องฺคปจฺจงฺควินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสี, นาปิ เกสโลมาทิวินิมุตฺตอิตฺถิปุริสานุปสฺสีฯ