เมนู

สาคตตฺเถรวตฺถุ

[232] ทสเม ฉพฺพคฺคิยานํ วจเนนาติ โกสมฺพิกา กิร อุปาสกา อายสฺมนฺตํ สาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ ฐิตา เอวมาหํสุ – ‘‘กิํ, ภนฺเต, อยฺยานํ ทุลฺลภญฺจ มนาปญฺจ, กิํ ปฏิยาเทมา’’ติ? เอวํ วุตฺเต ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู โกสมฺพิเก อุปาสเก เอตทโวจุํ – ‘‘อตฺถาวุโส กาโปติกา, นาม ปสนฺนา ภิกฺขูนํ ทุลฺลภา จ มนาปา จ, ตํ ปฏิยาเทถา’’ติฯ อถ โกสมฺพิกา อุปาสกา ฆเร ฆเร กาโปติกํ ปสนฺนํ ปฏิยาเทตฺวา อายสฺมนฺตํ สาคตํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา เอตทโวจุํ – ‘‘ปิวตุ, ภนฺเต, อยฺโย สาคโต กาโปติกํ ปสนฺนํ, ปิวตุ, ภนฺเต, อยฺโย สาคโต กาโปติกํ ปสนฺน’’นฺติฯ อถายสฺมา สาคโต ฆเร ฆเร กาโปติกํ ปสนฺนํ ปิวิตฺวา นครมฺหา นิกฺขมนฺโต นครทฺวาเร ปติฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘ฉพฺพคฺคิยานํ วจเนน สพฺพเคเหสุ กาโปติกํ ปสนฺนํ ปฏิยาเทตฺวา’’ติอาทิฯ ตตฺถ กาโปติกา นาม กโปตปาทสมานวณฺณา รตฺโตภาสาฯ ปสนฺนาติ สุรามณฺฑสฺเสตํ อธิวจนํฯ วินเย สมุฏฺฐิตนฺติ สุราปานสิกฺขาปเท (ปาจิ. 326 อาทโย) อาคตํฯ

ราธตฺเถรวตฺถุ

[233] เอกาทสเม สตฺถา สาริปุตฺตตฺเถรสฺส สญฺญํ อทาสีติ พฺราหฺมณํ ปพฺพาเชตุํ สญฺญํ อทาสิ, อาณาเปสีติ วุตฺตํ โหติฯ ภควา กิร ตํ พฺราหฺมณํ ปพฺพชฺชํ อลภิตฺวา กิสํ ลูขํ ทุพฺพณฺณํ อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาตํ ทิสฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘โก, ภิกฺขเว, ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อธิการํ สรตี’’ติฯ เอวํ วุตฺเต อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อธิการํ สรามี’’ติฯ กิํ ปน ตฺวํ, สาริปุตฺต, พฺราหฺมณสฺส อธิการํ สรสีติฯ อิธ เม, ภนฺเต, โส พฺราหฺมโณ ราชคเห ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส กฏจฺฉุภิกฺขํ ทาเปสิ, อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อธิการํ สรามี’’ติฯ สาธุ สาธุ, สาริปุตฺตฯ กตญฺญุโน หิ, สาริปุตฺต, สปฺปุริสา กตเวทิโน, เตน หิ ตฺวํ, สาริปุตฺต, ตํ พฺราหฺมณํ ปพฺพาเชหิ อุปสมฺปาเทหีติฯ อฏฺฐุปฺปตฺติยํ อาคโตติ อลีนจิตฺตชาตกสฺส (ชา. 1.2.11-12) อฏฺฐุปฺปตฺติยํ (ชา. อฏฺฐ. 2.2.อลีนจิตฺตชาตกวณฺณนา) อาคโตฯ

นิธีนนฺติ ตตฺถ ตตฺถ นิทหิตฺวา ฐปิตานํ หิรญฺญสุวณฺณาทิปูรานํ นิธิกุมฺภีนํฯ ปวตฺตารนฺติ กิจฺฉชีวิเก ทุคฺคตมนุสฺเส อนุกมฺปํ กตฺวา ‘‘เอหิ, เต สุเขน ชีวนุปายํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ นิธิฏฺฐานํ เนตฺวา หตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘อิมํ คเหตฺวา สุขํ ชีวา’’ติ อาจิกฺขิตารํ วิยฯ วชฺชทสฺสินนฺติ ทฺเว วชฺชทสฺสิโน ‘‘อิมินา นํ อสารุปฺเปน วา ขลิเตน วา สงฺฆมชฺเฌ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ รนฺธคเวสโก จ, อนญฺญาตํ ญาปนตฺถาย ญาตํ อนุคฺคณฺหนตฺถาย สีลาทีนมสฺส วุทฺธิกามตาย ตํ ตํ วชฺชํ โอโลกเนน อุลฺลุมฺปนสภาวสณฺฐิโต จฯ อยํ อิธ อธิปฺเปโตฯ ยถา หิ ทุคฺคตมนุสฺโส ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ ตชฺเชตฺวาปิ โปเถตฺวาปิ นิธิํ ทสฺเสนฺเต โกปํ น กโรติ, ปมุทิโตว โหติ, เอวเมวํ เอวรูเป ปุคฺคเล อสารุปฺปํ วา ขลิตํ วา ทิสฺวา อาจิกฺขนฺเต โกโป น กาตพฺโพ, ตุฏฺเฐเนว ภวิตพฺพํฯ ‘‘ภนฺเต, มหนฺตํ โว กมฺมํ กตํ มยฺหํ อาจริยุปชฺฌายฏฺฐาเน ฐตฺวา โอวทนฺเตหิ, ปุนปิ มํ วเทยฺยาถา’’ติ ปวาเรตพฺพเมวฯ

นิคฺคยฺหวาทินฺติ เอกจฺโจ หิ สทฺธิวิหาริกาทีนํ อสารุปฺปํ วา ขลิตํ วา ทิสฺวา ‘‘อยํ เม มุโขทกทานาทีหิ สกฺกจฺจํ อุปฏฺฐหติ, สเจ นํ วกฺขามิ, น มํ อุปฏฺฐหิสฺสติ, เอวํ เม ปริหานิ ภวิสฺสตี’’ติ ตํ วตฺตุํ อวิสหนฺโต น นิคฺคยฺหวาที นาม โหติ, โส อิมสฺมิํ สาสเน กจวรํ อากิรติฯ โย ปน ตถารูปํ วชฺชํ ทิสฺวา วชฺชานุรูปํ ตชฺเชนฺโต ปณาเมนฺโต ทณฺฑกมฺมํ กโรนฺโต วิหารา นีหรนฺโต สิกฺขาเปติ, อยํ นิคฺคยฺหวาที นาม เสยฺยถาปิ, สมฺมาสมฺพุทฺโธฯ วุตฺตญฺเหตํ – ‘‘นิคฺคยฺห นิคฺคยฺหาหํ, อานนฺท, วกฺขามิ, ปวยฺห ปวยฺห , อานนฺท, วกฺขามิ, โย สาโร, โส ฐสฺสตี’’ติ (ม. นิ. 3.196)ฯ เมธาวินฺติ ธมฺโมชปญฺญาย สมนฺนาคตํฯ ตาทิสนฺติ เอวรูปํ ปณฺฑิตํ ภเชยฺย ปยิรุปาเสยฺยฯ ตาทิสญฺหิ อาจริยํ ภชมานสฺส อนฺเตวาสิกสฺส เสยฺโย โหติ น ปาปิโย, วฑฺฒิเยว โหติ, โน ปริหานีติฯ

โมฆราชตฺเถรวตฺถุ

[234] ทฺวาทสเม กฏฺฐวาหนนคเรติ กฏฺฐวาหเนน คหิตตฺตา เอวํลทฺธนามเก นคเรฯ อตีเต กิร พาราณสิวาสี เอโก รุกฺขวฑฺฒกี สเก อาจริยเก อทุติโยฯ ตสฺส โสฬส สิสฺสา เอกเมกสฺส สหสฺสํ อนฺเตวาสิกาฯ เอวํ เต สตฺตรสาธิกา โสฬส สหสฺสา อาจริยนฺเตวาสิกา สพฺเพปิ พาราณสิํ อุปนิสฺสาย ชีวิกํ กปฺเปนฺตา ปพฺพตสมีปํ คนฺตฺวา รุกฺเข คเหตฺวา ตตฺเถว นานาปาสาทวิกติโย นิฏฺฐาเปตฺวา กุลฺลํ พนฺธิตฺวา คงฺคาย พาราณสิํ อาเนตฺวา สเจ ราชา อตฺถิโก โหติ, รญฺโญ เอกภูมกํ วา สตฺตภูมกํ วา ปาสาทํ โยเชตฺวา เทนฺติฯ โน เจ, อญฺเญสมฺปิ วิกฺกิณิตฺวา ปุตฺตทารํ โปเสนฺติฯ อถ เนสํ เอกทิวสํ อาจริโย ‘‘น สกฺกา วฑฺฒกิกมฺเมน นิจฺจํ ชีวิตุํ, ทุกฺกรญฺหิ ชรากาเล เอตํ กมฺม’’นฺติ จินฺเตตฺวา อนฺเตวาสิเก อามนฺเตสิ – ‘‘ตาตา, อุทุมฺพราทโย อปฺปสารรุกฺเข อาเนถา’’ติฯ เต ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา อานยิํสุฯ โส เตหิ กฏฺฐสกุณํ กตฺวา ตสฺสพฺภนฺตรํ ปวิสิตฺวา วาเตน ยนฺตํ ปูเรสิฯ กฏฺฐสกุโณ สุวณฺณหํสราชา วิย อากาเส ลงฺฆิตฺวา วนสฺส อุปริ จริตฺวา อนฺเตวาสีนํ ปุรโต โอรุหิฯ

อถาจริโย สิสฺเส อาห – ‘‘ตาตา อีทิสานิ กฏฺฐวาหนานิ กตฺวา สกฺกา สกลชมฺพุทีเป รชฺเช คเหตุํ, ตุมฺเหปิ ตาตา เอตานิ กโรถ, รชฺชํ คเหตฺวา ชีวิสฺสาม, ทุกฺกรํ วฑฺฒกิสิปฺเปน ชีวิตุ’’นฺติฯ เต ตถา กตฺวา อาจริยสฺส ปฏิเวเทสุํฯ ตโต เน อาจริโย อาห – ‘‘กตมํ ตาตา รชฺชํ คณฺหามา’’ติ? พาราณสิรชฺชํ อาจริยาติฯ อลํ ตาตา, มา เอตํ รุจิตฺถ, มยญฺหิ ตํ คเหตฺวาปิ ‘‘วฑฺฒกิราชา, วฑฺฒกิยุวราชา’’ติ วฑฺฒกิวาทา น มุจฺจิสฺสาม, มหนฺโต ชมฺพุทีโป, อญฺญตฺถ คจฺฉามาติฯ ตโต สปุตฺตทารกา กฏฺฐวาหนานิ อภิรุหิตฺวา สชฺชาวุธา หุตฺวา หิมวนฺตาภิมุขา คนฺตฺวา หิมวติ อญฺญตรํ นครํ ปวิสิตฺวา รญฺโญ นิเวสเนเยว ปจฺจุฏฺฐํสุฯ เต ตตฺถ รชฺชํ คเหตฺวา อาจริยํ รชฺเช อภิสิญฺจิํสุฯ โส ‘‘กฏฺฐวาหโน ราชา’’ติ ปากโฏ อโหสิ, ตํ นครํ เตน คหิตตฺตา ‘‘กฏฺฐวาหนนคร’’นฺเตว นามํ ลภิฯ

ตปจารนฺติ ตปจรณํฯ ปาสาณเจติเย ปิฏฺฐิปาสาเณ นิสีทีติ ปาสาณกเจติยนฺติ ลทฺธโวหาเร ปิฏฺฐิปาสาเณ สกฺเกน มาปิเต มหามณฺฑเป นิสีทิฯ ตตฺถ กิร มหโต ปาสาณสฺส อุปริ ปุพฺเพ เทวฏฺฐานํ อโหสิ, อุปฺปนฺเน ปน ภควติ วิหาโร ชาโต, โส เตเนว ปุริมโวหาเรน ‘‘ปาสาณเจติย’’นฺติ วุจฺจติฯ