เมนู

9. พาลปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา

[19] อวิชฺชา นีวรณา ภวาทิ-อาทีนวสฺส นิวาริตปฏิจฺฉาทิกา เอตสฺสาติ อวิชฺชานีวรโณ, อวิชฺชาย นิวุโตติ อาห ‘‘อวิชฺชาย นิวาริตสฺสา’’ติฯ อยํ กาโยติ พาลสฺส อปฺปหีนกิเลสสฺส ปจฺจุปฺปนฺนํ อตฺตภาวํ รกฺขํ กตฺวา อวิชฺชาย ปฏิจฺฉาทิตาทีนเว อยาถาวทสฺสนวเสน ตณฺหาย ปฏิลทฺธจิตฺตสฺส ตํตํภวูปคา สงฺขารา สงฺขรียนฺติฯ เตหิ จ อตฺตภาวสฺส อภินิพฺพตฺติ, ตสฺมา อยญฺจ อวิชฺชาย กาโย นิพฺพตฺโตติฯ อสฺสาติ พาลสฺสฯ อยํ อตฺโถติ ‘‘อยํ กาโย นามรูปนฺติ จ วุตฺโต’’ติ อตฺโถ ทีเปตพฺโพ อุปาทานกฺขนฺธสฬายตนสงฺคหโต เตสํ ธมฺมานํฯ เอวเมตํ ทฺวยนฺติ เอวํ อวิชฺชาย นิวาริตตฺตา, ตณฺหาย จ สํยุตฺตตฺตา เอวํ สปรสนฺตานคตสวิญฺญาณกกายสงฺขาตํ ทฺวยํ โหติฯ อญฺญตฺถาติ สุตฺตนฺตเรสุฯ ‘‘จกฺขุญฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติอาทินา (ม. นิ. 1.204, 400; 3.421, 425-426; สํ. นิ. 2.43-45; 4.60-61; กถา. 465, 467) อชฺฌตฺติกพาหิรายตนานิ ภินฺทิตฺวา จกฺขุรูปาทิทฺวยานิ ปฏิจฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทโย วุตฺตา, อิธ ปน อภินฺทิตฺวา ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรายตนานิ ปฏิจฺจ จกฺขุสมฺผสฺสาทโย วุตฺตา ‘‘ทฺวยํ ปฏิจฺจ ผสฺโส’’ติ, ตสฺมา มหาทฺวยํ นาม กิเรตํ อนวเสสโต อชฺฌตฺติกพาหิรายตนานํ คหิตตฺตาฯ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานีติ เอตฺถาปิ หิ สฬายตนานิ สงฺคหิตาเนวฯ ผสฺสการณานีติ ผสฺสปวตฺติยา ปจฺจยานิฯ เยหีติ เหตุทสฺสนมตฺตนฺติ อาห ‘‘เยหิ การณภูเตหี’’ติฯ ผสฺโส เอว ผุสนกิจฺโจ, น ผสฺสายตนานีติ วุตฺตํ ‘‘ผสฺเสน ผุฏฺโฐ’’ติฯ ปริปุณฺณวเสนาติ อเวกลฺลวเสนฯ อปริปุณฺณายตนานํ หีนานิ ผสฺสสฺส การณานิ โหนฺติ, เตสํ วิยาติ ‘‘เอเตสํ วา อญฺญตเรนา’’ติ วุตฺตํฯ กายนิพฺพตฺตนาทิมฺหีติ สวิญฺญาณกสฺส กายสฺส นิพฺพตฺตนํ กายนิพฺพตฺตนํ, กาโย วา นิพฺพตฺตติ เอเตนาติ กายนิพฺพตฺตนํ, กิเลสาภิสงฺขาราฯ อาทิสทฺเทน ผสฺสสฬายตนาทิสงฺคโหฯ อธิกํ ปยสติ ปยุญฺชติ เอเตนาติ อธิปฺปยาโส, วิเสสการณนฺติ อาห ‘‘อธิกปโยโค’’ติฯ

ภควา อมฺหากํ อุปฺปาทกภาเวน มูลภาเวน ภควํมูลกาฯ อิเม ธมฺมาติ อิเม การณธมฺมาฯ เยหิ มยํ พาลปณฺฑิตานํ สมาเนปิ กายนิพฺพตฺตนาทิมฺหิ วิเสสํ ชาเนยฺยาม, เตนาห ‘‘ปุพฺเพ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺเธน อุปฺปาทิตา’’ติอาทิฯ อาชานามาติ อภิมุขํ ปจฺจกฺขโต ชานามฯ ปฏิวิชฺฌามาติ ตสฺเสว เววจนํ, อธิคจฺฉามาติ อตฺโถฯ เนตาติ อมฺหากํ สนฺตาเน ปาเปตาฯ วิเนตาติ ยถา อลมริยญาณทสฺสนวิเสโส โหติ, เอวํ วิเสสโต เนตา, ตทงฺควินยาทิวเสน วา วิเนตาฯ อนุเนตาติ อนุรูปํ เนตาฯ

อนฺตรนฺตรา ยถาธมฺมปญฺญตฺติยา ปญฺญาปิตานํ ธมฺมานํ อนุรูปโต ทสฺสนํ โหตีติ อาห ‘‘ยถาสภาวโต …เป.… ทสฺเสตา’’ติฯ อาปาถํ อุปคจฺฉนฺตานํ ภควา ปฏิสรณํ สโมสรณฏฺฐานนฺติ ภควํปฏิสรณา ธมฺมาฯ เตนาห ‘‘จตุภูมกธมฺมา’’ติอาทิฯ ปฏิสรติ ปฏิวิชฺฌตีติ ปฏิสรณํ, ตสฺมา ปฏิวิชฺฌนวเสน ภควา ปฏิสรณํ เอเตสนฺติ ภควํปฏิสรณาฯ เตนาห ‘‘อปิ จา’’ติอาทิฯ ผสฺโส อาคจฺฉตีติ ปฏิวิชฺฌนกวเสน ผสฺโส ญาณสฺส อาปาถํ อาคจฺฉติ, อาปาถํ อาคจฺฉนฺโตเยว โส อตฺถโต ‘‘อหํ กินฺนาโม’’ติ นามํ ปุจฺฉนฺโต วิย, ภควา จสฺส นามํ กโรนฺโต วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อหํ ภควา’’ติอาทิฯ อุปฏฺฐาตูติ ญาณสฺส ปจฺจุปฏฺฐาตุฯ ภควนฺตํเยว ปฏิภาตูติ ภควโต เอว ภาโค โหตุ, ภควาว นํ อตฺตโน ภาคํ กตฺวา วิสฺสชฺเชตูติ อตฺโถ, ภควโต ภาโค ยทิทํ ธมฺมสฺส อกฺขานํ, อมฺหากํ ปน สวนํ ภาโคติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโยฯ เอวญฺหิ สทฺทลกฺขเณน สเมติฯ เกจิ ปน ปฏิภาตูติ อตฺถํ วทนฺติ ญาเณน ทิสฺสตุ เทสียตูติ วา อตฺโถฯ เตนาห ‘‘ตุมฺเหเยว โน กเถตฺวา เทถาติ อตฺโถ’’ติฯ

พาลสฺส ปณฺฑิตสฺส จ กายสฺส นิพฺพตฺติยา ปจฺจยภูตา อวิชฺชา จ ตณฺหา จฯ เตนาห ‘‘กมฺมํ…เป.… นิรุทฺธา’’ติฯ ชวาเปตฺวาติ คหิตชวนํ กตฺวา, ยถา ปฏิสนฺธิํ อากฑฺฒิตุํ สมตฺถํ โหติ, เอวํ กตฺวาฯ ยทิ นิรุทฺธา, กถํ อปฺปหีนาติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิฯ ภวติ หิ ตํสทิเสปิ ตพฺโพหาโร ยถา ‘‘สา เอว ติตฺติรี, ตาเนว โอสธานิ, ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสนา’’ติ จฯ ทุกฺขกฺขยายาติ ตทตฺถวิเสสนตฺถนฺติ อาห ‘‘ขยตฺถายา’’ติฯ ปฏิสนฺธิกายนฺติ ปฏิสนฺธิคหณปุพฺพกํ กายํฯ ปาฬิยํ ‘‘พาเลนา’’ติ กรณวจนํ นิสฺสกฺเกติ อาห ‘‘พาลโต’’ติฯ ภาวินา สห ปฏิสนฺธินา สปฺปฏิสนฺธิโกฯ โย ปน เอกนฺตโต เตนตฺตภาเวน อรหตฺตํ ปตฺตุํ ภพฺโพ, โส ภาวินา ปฏิสนฺธินา ‘‘อปฺปฏิสนฺธิโก’’ติ, ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘สปฺปฏิสนฺธิโก’’ติ วุตฺตํฯ กิญฺจาปิ วุตฺตํ, โส จ ยาว อริยภูมิํ น โอกฺกมติ, ตาว พาลธมฺมสมงฺคี เอวาติ กตฺวา ‘‘สพฺโพปิ ปุถุชฺชโน พาโล’’ติ วุตฺตํฯ ตถา หิ ‘‘อปฺปฏิสนฺธิโก ขีณาสโว ปณฺฑิโต’’ติ ขีณาสว-สทฺเทน อปฺปฏิสนฺธิโก วิเสสิโตฯ ยทิ เอวํ เสกฺขา กถนฺติ อาห ‘‘โสตาปนฺนา’’ติอาทิฯ

เต หิ สิขาปตฺตปณฺฑิจฺจภาวลกฺขณาภาวโต ปณฺฑิตาติ น วตฺตพฺพา ขีณาสวา วิย, พลวตรานํ ปน พาลธมฺมานํ ปหีนตฺตา พาลาติปิ น วตฺตพฺพา ปุถุชฺชนา วิยฯ ภชิยมานา ปน จตุสจฺจสมฺปฏิเวธํ อุปาทาย ปณฺฑิตปกฺขํ ภชนฺติ, น พาลปกฺขํ วุตฺตการเณนาติฯ

พาลปณฺฑิตสุตฺตวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

10. ปจฺจยสุตฺตวณฺณนา

[20] สพฺพมฺปิ สงฺขตํ อปฺปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ นาม นตฺถีติ ปจฺจยธมฺโมปิ อตฺตโน ปจฺจยธมฺมํ อุปาทาย ปจฺจยุปฺปนฺโน, ตถา ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺโมปิ อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนํ อุปาทาย ปจฺจยธมฺโมติ ยถารหํ ธมฺมานํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตาฯ เยสํ วิเนยฺยานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทเทสนาเยว สุโพธโต อุปฏฺฐาติ, เตสํ วเสน สุฏฺฐุ วิภาคํ กตฺวา ปฏิจฺจสมุปฺปาโท เทสิโตฯ เยสํ ปน วิเนยฺยานํ ตทุภยสฺมิํ วิภชฺช สุเต เอว ธมฺมาภิสมโย โหติ, เต สนฺธาย ภควา ตทุภยํ วิภชฺช ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาทญฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺเน จ ธมฺเม’’ติ อิมํ เทสนํ อารภีติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺโต ‘‘สตฺถา อิมสฺมิํ สุตฺเต’’ติอาทิมาหฯ ปจฺจยสฺส ภาโว ปจฺจยตฺตํ, ปจฺจยนิพฺพตฺตตาฯ อสภาวธมฺเม น ลพฺภตีติ ‘‘สภาวธมฺเม’’ติ วุตฺตํฯ นนุ จ ชาติ ชรา มรณญฺจ สภาวธมฺโม น โหติ, เยสํ ปน ขนฺธานํ ชาติ ชรา มรณญฺจ, เต เอว สภาวธมฺมา, อถ กสฺมา เทสนาย เต คหิตาติ? นายํ โทโส, ชาติ ชรา มรณญฺหิ ปจฺจยนิพฺพตฺตานํ สภาวธมฺมานํ วิการมตฺตํ, นญฺเญสํ, ตสฺมา เต คหิตาติฯ อุปฺปาทา วา ตถาคตานนฺติ น วิเนยฺยปุคฺคลานํ มคฺคผลุปฺปตฺติ วิย ชาติปจฺจยา ชรามรณุปฺปตฺติ ตถาคตุปฺปาทายตฺตา, อถ โข สา ตถาคตานํ อุปฺปาเทปิ อนุปฺปาเทปิ โหติเยวฯ ตสฺมา สา กามํ อสงฺขตา วิย ธาตุ น นิจฺจา, ตถาปิ ‘‘สพฺพกาลิกา’’ติ เอเตน ชาติปจฺจยโต ชรามรณุปฺปตฺตีติ ทสฺเสติฯ เตนาห ‘‘ชาติเยว ชรามรณสฺส ปจฺจโย’’ติฯ ชาติปจฺจยาติ จ ชาติสงฺขาตปจฺจยาฯ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนํฯ ฐิตาว สา ธาตุ, ยายํ อิทปฺปจฺจยตา ชาติยา ชรามรณสฺส ปจฺจยตา ตสฺส พฺยภิจาราภาวโตฯ อิทานิ น กทาจิ ชาติ ชรามรณสฺส ปจฺจโย น โหติ โหติเยวาติ ชรามรณสฺส ปจฺจยภาเว นิยเมติฯ อุภเยนปิ ยถาวุตฺตสฺส ปจฺจยภาโว ยตฺถ โหติ, ตตฺถ อวสฺสํภาวิตํ ทสฺเสติฯ เตนาห ภควา ‘‘ฐิตาว สา ธาตู’’ติฯ ทฺวีหิ ปเทหิฯ ติฏฺฐนฺตีติ ยสฺส วเสน ธมฺมานํ ฐิติ, สา อิทปฺปจฺจยตา ธมฺมฏฺฐิตตาฯ ธมฺเมติ ปจฺจยุปฺปนฺเน ธมฺเมฯ นิยเมติ วิเสเสติฯ เหตุคตวิเสสสมาโยโค หิ เหตุผลสฺส เอวํ ธมฺมตานิยาโม เอวาติฯ

อปโร นโย – ฐิตาว สา ธาตูติ ยายํ ชรามรณสฺส อิทปฺปจฺจยตา ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ, เอสา ธาตุ เอส สภาโวฯ ตถาคตานํ อุปฺปาทโต ปุพฺเพ อุทฺธญฺจ อปฺปฏิวิชฺฌิยมาโน, มชฺเฌ จ ปฏิวิชฺฌิยมาโน น ตถาคเตหิ อุปฺปาทิโต, อถ โข สมฺภวนฺตสฺส ชรามรณสฺส สพฺพกาลํ ชาติปจฺจยโต สมฺภโวติ ฐิตาว สา ธาตุ, เกวลํ ปน สยมฺภุญาเณน อภิสมฺพุชฺฌนโต ‘‘อยํ ธมฺโม ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ ปเวทนโต จ ตถาคโต ‘‘ธมฺมสามี’’ติ วุจฺจติ, น อปุพฺพสฺส อุปฺปาทนโตฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ฐิตาว สา ธาตู’’ติฯ สา เอว ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ เอตฺถ วิปลฺลาสาภาวโต เอวํ อวพุชฺฌมานสฺส เอตสฺส สภาวสฺส, เหตุโน วา ตเถว ภาวโต ฐิตตาติ ธมฺมฏฺฐิตตา, ชาติ วา ชรามรณสฺส อุปฺปาทฏฺฐิติ ปวตฺตอายูหน-สํโยค-ปลิโพธ-สมุทย-เหตุปจฺจยฏฺฐิตีติ ตทุปฺปาทาทิภาเวนสฺสา ฐิตตา ‘‘ธมฺมฏฺฐิตตา’’ติ ผลํ ปติ สามตฺถิยโต เหตุเมว วทติฯ ธารียติ ปจฺจเยหีติ วา ธมฺโม, ติฏฺฐติ ตตฺถ ตทายตฺตวุตฺติตาย ผลนฺติ ฐิติ, ธมฺมสฺส ฐิติ ธมฺมฏฺฐิติฯ ธมฺโมติ วา การณํ ปจฺจยภาเวน ผลสฺส ธารณโต, ตสฺส ฐิติ สภาโว, ธมฺมโต จ อญฺโญ สภาโว นตฺถีติ ธมฺมฏฺฐิติ, ปจฺจโยฯ เตนาห ‘‘ปจฺจยปริคฺคเห ปญฺญา ธมฺมฏฺฐิติญาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. มาติกา 4)ฯ ธมฺมฏฺฐิติ เอว ธมฺมฏฺฐิตตาฯ สา เอว ธาตุ ‘‘ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ อิมสฺส สภาวสฺส, เหตุโน วา อญฺญถตฺตาภาวโต, ‘‘น ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’นฺติ วิญฺญายมานสฺส จ ตพฺภาวาภาวโต นิยามตา ววตฺถิตภาโวติ ธมฺมนิยามตาฯ ผลสฺส วา ชรามรณสฺส ชาติยา สติ สมฺภโว ธมฺเม เหตุมฺหิ ฐิตตาติ ธมฺมฏฺฐิตตา, อสติ อสมฺภโว ธมฺมนิยามตาติ เอวํ ผเลน เหตุํ วิภาเวติ, ตํ ‘‘ฐิตาว สา ธาตู’’ติอาทินา วุตฺตํฯ