11. มหากปฺปินสุตฺตํ
[245] สาวตฺถิยํ วิหรติฯ อถ โข อายสฺมา มหากปฺปิโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ มหากปฺปินํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห ภิกฺขเว, เอตํ ภิกฺขุํ อาคจฺฉนฺตํ โอทาตกํ ตนุกํ ตุงฺคนาสิก’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ฯ ‘‘เอโส โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มหิทฺธิโก มหานุภาโวฯ น จ สา สมาปตฺติ สุลภรูปา ยา เตน ภิกฺขุนา อสมาปนฺนปุพฺพาฯ ยสฺส จตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติฯ
อิทมโวจ ภควาฯ อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ขตฺติโย เสฏฺโฐ ชเนตสฺมิํ, เย โคตฺตปฏิสาริโน;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน, โส เสฏฺโฐ เทวมานุเสฯ
‘‘ทิวา ตปติ อาทิจฺโจ, รตฺติมาภาติ จนฺทิมา;
สนฺนทฺโธ ขตฺติโย ตปติ, ฌายี ตปติ พฺราหฺมโณ;
อถ สพฺพมโหรตฺติํ [อถ สพฺพมโหรตฺตํ (สี. สฺยา. กํ.)], พุทฺโธ ตปติ เตชสา’’ติฯ เอกาทสมํ;
12. สหายกสุตฺตํ
[246] สาวตฺถิยํ วิหรติฯ อถ โข ทฺเว ภิกฺขู สหายกา อายสฺมโต มหากปฺปินสฺส สทฺธิวิหาริโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุฯ อทฺทสา โข ภควา เต ภิกฺขู ทูรโตว อาคจฺฉนฺเตฯ ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอเต ภิกฺขู สหายเก อาคจฺฉนฺเต กปฺปินสฺส สทฺธิวิหาริโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ฯ ‘‘เอเต โข เต ภิกฺขู มหิทฺธิกา มหานุภาวาฯ น จ สา สมาปตฺติ สุลภรูปา, ยา เตหิ ภิกฺขูหิ อสมาปนฺนปุพฺพาฯ ยสฺส จตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’’ติฯ