10. เถรนามกสุตฺตํ
[244] เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ เถรนามโก เอกวิหารี เจว โหติ เอกวิหารสฺส จ วณฺณวาทีฯ โส เอโก คามํ ปิณฺฑาย ปวิสติ เอโก ปฏิกฺกมติ เอโก รโห นิสีทติ เอโก จงฺกมํ อธิฏฺฐาติฯ อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, อญฺญตโร ภิกฺขุ เถรนามโก เอกวิหารี เอกวิหารสฺส จ วณฺณวาที’’ติฯ
อถ โข ภควา อญฺญตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน เถรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา ตํ, อาวุโส เถร, อามนฺเตตี’’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา เถโร เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ เถรํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส เถร, อามนฺเตตี’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา เถโร ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ เถรํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, เถร, เอกวิหารี เอกวิหารสฺส จ วณฺณวาที’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ฯ ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, เถร, เอกวิหารี เอกวิหารสฺส จ วณฺณวาที’’ติ? ‘‘อิธาหํ, ภนฺเต, เอโก คามํ ปิณฺฑาย ปวิสามิ เอโก ปฏิกฺกมามิ เอโก รโห นิสีทามิ เอโก จงฺกมํ อธิฏฺฐามิฯ เอวํ ขฺวาหํ, ภนฺเต, เอกวิหารี เอกวิหารสฺส จ วณฺณวาที’’ติฯ
‘‘อตฺเถโส, เถร, เอกวิหาโร เนโส นตฺถีติ วทามิฯ อปิ จ, เถร, ยถา เอกวิหาโร วิตฺถาเรน ปริปุณฺโณ โหติ ตํ สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข…เป.…ฯ ‘‘กถญฺจ , เถร, เอกวิหาโร วิตฺถาเรน ปริปุณฺโณ โหติฯ อิธ, เถร, ยํ อตีตํ ตํ ปหีนํ, ยํ อนาคตํ ตํ ปฏินิสฺสฏฺฐํ, ปจฺจุปฺปนฺเนสุ จ อตฺตภาวปฏิลาเภสุ ฉนฺทราโค สุปฺปฏิวินีโตฯ เอวํ โข, เถร, เอกวิหาโร วิตฺถาเรน ปริปุณฺโณ โหตี’’ติฯ
อิทมโวจ ภควาฯ อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘สพฺพาภิภุํ สพฺพวิทุํ สุเมธํ,
สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อนูปลิตฺตํ;
สพฺพญฺชหํ ตณฺหากฺขเย วิมุตฺตํ,
ตมหํ นรํ เอกวิหารีติ พฺรูมี’’ติฯ ทสมํ;
11. มหากปฺปินสุตฺตํ
[245] สาวตฺถิยํ วิหรติฯ อถ โข อายสฺมา มหากปฺปิโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสา โข ภควา อายสฺมนฺตํ มหากปฺปินํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห ภิกฺขเว, เอตํ ภิกฺขุํ อาคจฺฉนฺตํ โอทาตกํ ตนุกํ ตุงฺคนาสิก’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ฯ ‘‘เอโส โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ มหิทฺธิโก มหานุภาโวฯ น จ สา สมาปตฺติ สุลภรูปา ยา เตน ภิกฺขุนา อสมาปนฺนปุพฺพาฯ ยสฺส จตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติฯ
อิทมโวจ ภควาฯ อิทํ วตฺวาน สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –
‘‘ขตฺติโย เสฏฺโฐ ชเนตสฺมิํ, เย โคตฺตปฏิสาริโน;
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน, โส เสฏฺโฐ เทวมานุเสฯ
‘‘ทิวา ตปติ อาทิจฺโจ, รตฺติมาภาติ จนฺทิมา;
สนฺนทฺโธ ขตฺติโย ตปติ, ฌายี ตปติ พฺราหฺมโณ;
อถ สพฺพมโหรตฺติํ [อถ สพฺพมโหรตฺตํ (สี. สฺยา. กํ.)], พุทฺโธ ตปติ เตชสา’’ติฯ เอกาทสมํ;
12. สหายกสุตฺตํ
[246] สาวตฺถิยํ วิหรติฯ อถ โข ทฺเว ภิกฺขู สหายกา อายสฺมโต มหากปฺปินสฺส สทฺธิวิหาริโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุฯ อทฺทสา โข ภควา เต ภิกฺขู ทูรโตว อาคจฺฉนฺเตฯ ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ปสฺสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, เอเต ภิกฺขู สหายเก อาคจฺฉนฺเต กปฺปินสฺส สทฺธิวิหาริโน’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ฯ ‘‘เอเต โข เต ภิกฺขู มหิทฺธิกา มหานุภาวาฯ น จ สา สมาปตฺติ สุลภรูปา, ยา เตหิ ภิกฺขูหิ อสมาปนฺนปุพฺพาฯ ยสฺส จตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรนฺตี’’ติฯ