เมนู

คนฺถสฺส ปริหณํ ธารณํ, ตํ ปน ปเรสุ ปติฏฺฐาปนํ ปากฏํ โหตีติ อาห – ‘‘อญฺเญสํ วาเจนฺโต ธาเรติ นามา’’ติฯ เสสํ เหฏฺฐา วุตฺตนยเมวฯ

โลมสกกงฺคิยภทฺเทกรตฺตสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา

สมตฺตาฯ

5. จูฬกมฺมวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา

[289] องฺคสุภตายาติ องฺคานํ หตฺถปาทาทิสรีราวยวานํ สุนฺทรภาเวนฯ ยํ อปจฺจํ กุจฺฉิตํ มุทฺธํ วา, ตตฺถ โลเก มาณวโวหาโร, เยภุยฺเยน สตฺตา ทหรกาเล สุทฺธธาตุกา โหนฺตีติ วุตฺตํ, ‘‘ตรุณกาเล โวหริํสู’’ติฯ อธิปติตฺตาติ อิสฺสรภาวโตฯ

สมาหารนฺติ สนฺนิจยํฯ ปณฺฑิโต ฆรมาวเสติ ยสฺมา อปฺปตเรปิ พฺยยมาเน โภคา ขียนฺติ, อปฺปตเรปิ สญฺจยมาเน วฑฺฒนฺติ, ตสฺมา วิญฺญุชาติโก กิญฺจิ พฺยยํ อกตฺวา อยเมว อุปฺปาเทนฺโต ฆราวาสํ อนุติฏฺเฐยฺยาติ โลภาเทสิตมตฺถํ วทติฯ

ธนโลเภน…เป.… นิพฺพตฺโตฯ โลภวสิกสฺส หิ คติ นิรโย วา ติรจฺฉานโยนิ วาฯ วุตฺตญฺเหตํ – ‘‘นิมิตฺตสฺสาทคถิตํ วา, ภิกฺขเว, วิญฺญาณํ ติฏฺฐมานํ ติฏฺฐติ อนุพฺยญฺชนสฺสาทคถิตํ วาฯ ตสฺมิํ สมเย กาลงฺกเรยฺย, ทฺวินฺนํ คตีนํ อญฺญตรํ คติํ วทามิ – นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนิํ วา’’ติ (สํ. นิ. 4.235)ฯ นิรเย นิพฺพตฺติสฺสติ กโตกาสสฺส กมฺมสฺส ปฏิพาหิตุํ อสกฺกุเณยฺยภาวโตฯ

ปตฺตกฺขนฺธอโธมุขภาวํ สนฺธาย ‘‘โอนาเมตฺวา’’ติ วุตฺตํฯ พฺราหฺมณจาริตฺตสฺส ภาวิตตํ สนฺธายาห ‘‘พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺโต’’ติฯ ตํ ปวตฺติํ ปุจฺฉีติ สุตเมตํ มยา, ‘‘มยฺหํ ปิตา สุนโข หุตฺวา นิพฺพตฺโต’’ติ, เอตํ โภตา โคตเมน วุตฺตนฺติฯ กิมิทํ วุตฺตนฺติ อิมํ ปวตฺติํ ปุจฺฉิฯ

ตเถว วตฺวาติ ยถา สุนขสฺส วุตฺตํ, ตเถว วตฺวาฯ อวิสํวาทนตฺถนฺติ, ‘‘โตเทยฺยพฺราหฺมโณ สุนโข ชาโต’’ติ อตฺตโน วจนสฺส อวิสํวาทนตฺถํ, วิสํวาทนาภาวทสฺสนตฺถนฺติ อธิปฺปาโยฯ

ญาโตมฺหิ อิมินาติ อิมินา มม ปุตฺเตน มยฺหํ ปุริมชาติยํ ปิตาติ เอวํ ญาโต อมฺหีติ ชานิตฺวาฯ พุทฺธานุภาเวน กิร สุนโข ตถา ทสฺเสติ, น ชาติสฺสรตายฯ ภควนฺตํ ทิสฺวา ภุกฺกรณํ ปน ปุริมชาติสิทฺธวาสนายฯ ภวปฏิจฺฉนฺนนฺติ ภวนฺตรภาเวน ปฏิจฺฉนฺนํฯ นาม-สทฺโท สมฺภาวเนฯ ปฏิสนฺธิอนฺตรนฺติ อญฺญชาติปฏิสนฺธิคฺคหเณน เหฏฺฐิมชาตํ คติํฯ องฺควิชฺชาปาฐโก กิเรส, เตน อปฺปายุกทีฆายุกตาทิวเสน จุทฺทส ปญฺเห อภิสงฺขริ; เอวํ กิรสฺส อโหสิ, ‘‘อิเมสํ สตฺตานํ อปฺปายุกตาทโย วิเสสา องฺคปจฺจงฺควเสน สลฺลกฺขิยนฺติฯ น โข ปเนตํ ยุตฺตํ ‘องฺคปจฺจงฺคานิ ยาว เตสํ เตสํ การณ’นฺติ; ตสฺมา ภวิตพฺพเมตฺถ อญฺเญเนว การเณนฯ สมโณ โคตโม ตํ การณํ วิภชิตฺวา กเถสฺสติ, เอวายํ สพฺพญฺญูติ นิจฺฉโย เม อปณฺณโก ภวิสฺสตี’’ติฯ อปเร ปน ภณนฺติ, ‘‘ติรจฺฉานคตํ มนุสฺสํ วา อาวิสิตฺวา อิจฺฉิตตฺถกสาวนํ นาม มหามนฺตวิชฺชาวเสน โหติ; ตสฺมา น เอตฺตาวตา สมณสฺส โคตมสฺส สพฺพญฺญุตา สุนิจฺฉิตา โหติฯ ยํ นูนาหํ กมฺมผลมสฺส อุทฺทิสฺส ปญฺหํ ปุจฺเฉยฺยํ, ตตฺถ จ เม จิตฺตํ อาราเธนฺโต ปญฺหํ พฺยากริสฺสติฯ เอวายํ สพฺพญฺญูติ วินิจฺฉโย เม ภวิสฺสตีติ เต ปญฺเห ปุจฺฉตี’’ติฯ

ภณฺฑกนฺติ สาปเตยฺยํ, สนฺตกนฺติ อตฺโถฯ กมฺมุนา ทาตพฺพํ อาทิยนฺตีติ กมฺมทายาทา, อตฺตนา กตูปจิตกมฺมผลภาคีติ อตฺโถฯ ตํ ปน กมฺมทายชฺชํ การโณปจาเรน วทนฺโต, ‘‘กมฺมํ เอเตสํ ทายชฺชํ ภณฺฑกนฺติ อตฺโถ’’ติ อาห – ยถา ‘‘กุสลานํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ สมาทานเหตุ เอวมิทํ ปุญฺญํ ปวฑฺฒตี’’ติ (ที. นิ. 3.80)ฯ ยวติ ผลํ สภาวโต ภินฺนมฺปิ อภินฺนํ วิย มิสฺสิตํ โหติ, เอเตนาติ โยนีติ อาห – ‘‘กมฺมํ เอเตสํ โยนิ การณ’’นฺติฯ มมตฺตวเสน พชฺฌติ สํพชฺฌตีติ พนฺธุ, ญาติ สาโลหิโต จฯ กมฺมํ ปน เอกนฺตสมฺพนฺธเมวาติ อาห – ‘‘กมฺมํ เอเตสํ พนฺธู’’ติฯ ปติฏฺฐาติ อวสฺสโยฯ กมฺมสทิโส หิ สตฺตานํ อวสฺสโย นตฺถิ, อญฺโญ โกจิ อิสฺสโร พฺรหฺมา วา น กโรติ ตาทิสํ กตฺตุํ สชฺชิตุํ อสมตฺถภาวโตฯ ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํฯ

กมฺมเมวาติ กสฺมา อวธาริตํ, นนุ กิเลสาปิ สตฺตานํ หีนปณีตภาวการณํ, น เกวลนฺติ ? สจฺจเมตํ, กิเลสปโยเคน วิปากวฏฺฏํ นิพฺพตฺตํ กมฺมปวตฺติตเมวาติ กตฺวา วุตฺตํฯ ‘‘กถิตสฺส อตฺถํ น สญฺชานาสี’’ติ สงฺเขปโต วตฺวา นนุ ภควา มหาการุณิโก ปเรสํ ญาปนตฺถเมว ธมฺมํ เทเสตีติ อาห – ‘‘มานนิสฺสิโต กิเรสา’’ติอาทิฯ

[290] สมตฺเตนาติ ปริยตฺเตน, ยถา ตํ ผลํ ทาตุํ สมตฺถํ โหติ, เอวํ กเตน, อุปจิเตนาติ อตฺโถฯ ตาทิสํ ปน อตฺตโน กิจฺเจ อนูนํ นาม โหตีติ อาห ‘‘ปริปุณฺเณนา’’ติฯ สมาทินฺเนนาติ เอตฺถ สมาทานํ นาม ตณฺหาทิฏฺฐีหิ คหณํ ปรามสนนฺติ อาห – ‘‘คหิเตน ปรามฏฺเฐนา’’ติฯ ปฏิปชฺชติ เอตาย สุคติทุคฺคตีติ ปฏิปทา, กมฺมํฯ ตถา หิ ตํ ‘‘กมฺมปโถ’’ติ วุจฺจติฯ

เอสาติ ปฏิปทาฯ ทุพฺพลํ อุปฆาตกเมว สิยาติ อุปปีฬกสฺส วิสยํ ทสฺเสตุํ, ‘‘พลวกมฺเมนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ พลวกมฺเมนาติ ปุญฺญกมฺเมนฯ วทติ นามาติ วทนฺโต วิย โหติ นิพฺพตฺตาเปยฺยนฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ อุปปีฬกสภาวํ กมฺมํ ชนกสภาวํ น โหตีติ? สพฺพเมตํ ปริกปฺปนวจนํ, ยถา มนุสฺสา ปจฺจตฺถิกํ ปฏิปกฺขํ กิญฺจิ กาตุํ อสมตฺถาปิ เกจิ อาลมฺพนวเสน สมตฺถา วิย อตฺตานํ ทสฺเสนฺติ, เอวํสมฺปทมิทนฺติ เกจิฯ อปเร ปน ภณนฺติ – ยสฺสิทํ กมฺมสฺสวิปากํ ปีเฬติ, สเจ ตสฺมิํ อโนกาเส เอว สยํ วิปจฺจิตุํ โอกาสํ ลเภยฺย, อปาเยสุ เอว ตํสมงฺคิปุคฺคลํ นิพฺพตฺตาเปยฺย, ยสฺมา ตํ กมฺมํ พลวํ หุตฺวา อวเสสปจฺจยสมวาเยน วิปจฺจิตุํ อารทฺธํ, ตสฺมา อิตรํ ตสฺส วิปากํ วิพาเธนฺตํ อุปปีฬกํ นาม ชาตํฯ เอตทตฺถเมว เจตฺถ ‘‘พลวกมฺเมน นิพฺพตฺต’’นฺติ พลวคฺคหณํ กตํฯ กิจฺจวเสน หิ เนสํ กมฺมานํ เอตา สมญฺญา, ยทิทํ อุปปีฬกํ อุปจฺเฉทกํ ชนกํ อุปตฺถมฺภกนฺติ, น กุสลานิ วิย อุปตฺถมฺภานิ โหนฺติ นิพฺพตฺตตฺถายฯ ปีเฬตฺวาติ วิเหเฐตฺวา ปฏิฆาฏนาทิวเสน อุจฺฉุเตลยนฺตาทโย วิย อุจฺฉุติลาทิเก วิพาเธตฺวาฯ นิโรชนฺติ นิตฺเตชํฯ นิยูสนฺติ นิรสํฯ กสฏนฺติ นิสฺสารํฯ ปริสฺสยนฺติ อุปทฺทวํฯ

อิทานิ ปริสฺสยสฺส อุปนยนาการํ ทสฺเสนฺเตน ตตฺถ, ‘‘ทารกสฺสา’’ติอาทิํ วตฺวา โภคานํ วินาสนาการํ ทสฺเสตุํ, ปุน ‘‘ทารกสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ กุมฺภโทหนาติ กุมฺภปูรขีราฯ โคมณฺฑเลติ โคยูเถฯ

อฏฺฐุสภคมนํ กตฺวาติ อฏฺฐอุสภปฺปมาณํ ปเทสํ ปจฺจตฺถิกํ อุทฺทิสฺส ธนุคฺคโห อนุยายิํ กตฺวาฯ นฺติ สรํฯ อญฺโญติ ปจฺจตฺถิโกฯ ตตฺเถว ปาเตยฺย อจฺจาสนฺนํ กตฺวา สรสฺส ขิตฺตตฺตาฯ วาฬมจฺโฉทกนฺติ มกราทิวาฬมจฺฉวนฺตํ อุทกํฯ

ปฏิสนฺธินิพฺพตฺตกํ กมฺมํ ชนกกมฺมํ นาม ปริปุณฺณวิปากทายิภาวโต, น ปวตฺติวิปากมตฺตนิพฺพตฺตกํฯ โภคสมฺปทาทีติ อาทิ-สทฺเทน อาโรคฺยสมฺปทาทิ-ปริวารสมฺปทาทีนิ คณฺหาติฯ น ทีฆายุกตาทีนิ หิ อปฺปายุกตาสํวตฺตนิเกน กมฺมุนา นิพฺพตฺตานิ; อญฺญํ ทีฆายุกตากรเณน อุปตฺถมฺเภตุํ สกฺโกติ; น อติทุพฺพณฺณํ อปฺเปสกฺขํ นีจกุลีนํ ทุปฺปญฺญํ วา วณฺณวนฺตตาทิวเสนฯ ตถา หิ วกฺขติ, ‘‘อิมสฺมิํ ปน ปญฺหวิสฺสชฺชเน’’ติอาทิ, ตํ ปน นิทสฺสนวเสน วุตฺตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ

ปุริมานีติ อุปปีฬโกปจฺเฉทกานิฯ อุปปีฬกุปฆาตา นาม กุสลวิปากปฏิพาหกาติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทฺเว อกุสลาเนวา’’ติ วุตฺตํฯ อุปตฺถมฺภกํ กุสลเมวาติ เอตฺถ ยถา ชนกํ อุภยสภาวํ, เอวํ อิตเรสมฺปิ อุภยสภาวตาย วุจฺจมานาย น โกจิ วิโรโธฯ เทวทตฺตาทีนญฺหิ นาคาทีนํ อิโต อนุปฺปวจฺฉิตานํ เปตาทีนญฺจ นรกาทีสุ อกุสลกมฺมวิปากสฺส อุปตฺถมฺภนุปปีฬนุปฆาตนานิ น น สมฺภวนฺติฯ เอวญฺจ กตฺวา ยา เหฏฺฐา พหูสุ อานนฺตริเยสุ เอเกน คหิตปฏิสนฺธิกสฺส อิตเรสํ ตสฺส อนุพลปฺปทายิตา วุตฺตา, สาปิ สมตฺถิตา โหติฯ ยสฺมิญฺหิ กมฺเม กเต ชนกนิพฺพตฺตํ กุสลผลํ วา อกุสลผลํ วา พฺยาธิธาตุสมตาทินิมิตฺตํ วิพาธียติ, ตมุปตฺถมฺภกํฯ ยสฺมิํ ปน กเต ชาติสมตฺถสฺส ปฏิสนฺธิยํ ปวตฺติยญฺจ วิปากกฏตฺตารูปานํ อุปฺปตฺติ โหติ, ตํ ชนกํฯ ยสฺมิํ ปน กเต อญฺเญน ชนิตสฺส อิฏฺฐสฺส วา อนิฏฺฐสฺส วา ผลสฺส วิพาธาวิจฺเฉทปจฺจยานุปฺปตฺติยา อุปพฺรูหนปจฺจยุปฺปตฺติยา จ ชนกสามตฺถิยานุรูปํ ปริวุตฺติจิรตรปพนฺธา โหติ, เอตํ อุปตฺถมฺภกํฯ ตถา ยสฺมิํ กเต ชนกนิพฺพตฺตํ กุสลผลํ อกุสลผลํ วา พฺยาธิธาตุสมตาทินิมิตฺตํ วิพาธียติ, ตํ อุปปีฬกํฯ ยสฺมิํ ปน กเต ชนกสามตฺถิยวเสน จิรตรปพนฺธารหมฺปิ สมานํ ผลํ วิจฺเฉทกปจฺจยุปฺปตฺติยา วิจฺฉิชฺชติ, ตํ อุปฆาตกนฺติ อยเมตฺถ สาโรฯ

ตตฺถาติ เตสุ กมฺเมสุฯ อุปจฺเฉทกกมฺเมนาติ อายุโน อุปฆาตกกมฺเมนฯ สฺวายมุปฆาตกภาโว ทฺวิธา อิจฺฉิตพฺโพติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปาณาติปาตินา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ น สกฺโกติ ปาณาติปาตกมฺมุนา สนฺตานสฺส ตถาภิสงฺขตตฺตาฯ ยสฺมิญฺหิ สนฺตาเน นิพฺพตฺตํ, ตสฺส เตน อภิสงฺขตตา อวสฺสํ อิจฺฉิตพฺพา ตตฺเถว ตสฺส วิปากสฺส วินิพนฺธนโตฯ เอเตน กุสลสฺส กมฺมสฺส อายูหนกฺขเณเยว ปาณาติปาโต ตาทิสํ สามตฺถิยุปฆาตํ กโรตีติ ทสฺเสติ, ตโต กมฺมํ อปฺปผลํ โหติฯ ‘‘ทีฆายุกา’’ติอาทินา อุปฆาตสามตฺถิเยน เขตฺเต อุปฺปนฺนสสฺสํ วิย อุปปตฺตินิยามกา ธมฺมาติ ทสฺเสติฯ อุปปตฺติ นิยตวิเสเส วิปจฺจิตุํ โอกาเส กโรนฺเต เอว กุสลกมฺเม อากฑฺฒิยมานปฏิสนฺธิกํ ปาณาติปาตกมฺมํ อปฺปายุกตฺถาย นิยเมตีติ อาห – ‘‘ปฏิสนฺธิเมว วา นิยาเมตฺวา อปฺปายุกํ กโรตี’’ติฯ ปาณาติปาตเจตนาย อจฺจนฺตกฏุกวิปากตฺตา สนฺนิฏฺฐานเจตนาย นิรเย นิพฺพตฺตติ ตสฺสา อตฺถสฺส ขีณาภาวโต; อิตเร ปน น ตถา ภาริยาติ อาห – ‘‘ปุพฺพา…เป.… โหตี’’ติฯ อิธ ปน ยํ เหฏฺฐา วุตฺตสทิสํ, ตํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํฯ

มนุสฺสามนุสฺสปริสฺสยาติ มานุสกา อมานุสกา จ อุปทฺทวาฯ ปุรโตติ ปุพฺพทฺวารโตฯ ปจฺฉโตติ ปจฺฉิมวตฺถุโตฯ ปวฏฺฏมานาติ ปริชนสฺส, เทวตานํ วา เทเสน ปวฏฺฏมานาฯ ปเรหีติ ปุราตเนหิ ปเรหิฯ สมฺมุขีภาวนฺติ สามิภาววเสน ปจฺจกฺขตฺตํฯ อาหริตฺวา เทนฺติ อิณายิกาฯ กมฺมนฺตาติ วณิชฺชาทิกมฺมานิฯ อปาณาติปาตกมฺมนฺติ ปาณาติปาตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ กมฺมํ; ปาณาติปาตา วิรติวเสน ปวตฺติตกมฺมนฺติ อตฺโถฯ ทีฆายุกสํวตฺตนิกํ โหติ วิปากสฺส กมฺมสริกฺขภาวโต อิมินา นเยนาติ อิมินา อปฺปายุกทีฆายุกสํวตฺตนิเกสุ กมฺเมสุ ยถาวุตฺเตน ตํ สํวตฺตนิกวิภาวนนเยนฯ

วิเหฐนกมฺมาทีนิปีติ ปิ-สทฺเทน โกธอิสฺสามนกมจฺเฉรถทฺธอวิทฺทสุภาววเสน ปวตฺติตกมฺมานิ สงฺคณฺหาติฯ ตเถวาติ ยถา ปาณาติปาตกมฺมํ อตฺถโต เอวํ วทติ นามาติ วุตฺตํ, ตเถว วทมานานิ วิย

‘‘ยํ ยเทวาติปตฺเถนฺติ, สพฺพเมเตน ลพฺภตี’’ติ (ขุ. ปา. 8.10) วจนโต ยถา สพฺพกุสลํ สพฺพาสํ สมฺปตฺตีนํ อุปนิสฺสโย, เอวํ สพฺพํ อกุสลํ สพฺพาสํ วิปตฺตีนํ อุปนิสฺสโยติ, ‘‘อุปปีฬเนน นิพฺโภคตํ อาปาเทตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ ฯ ตถา หิ ปาณาติปาตกมฺมวเสนปิ อยํ นโย ทสฺสิโตฯ อวิเหฐนาทีนีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อกฺโกธน-อนิสฺสามน-ทาน-อนติมาน-วิทฺทสุภาเวน ปวตฺตกมฺมานิ สงฺคณฺหาติฯ

[293] อิสฺสา มโน เอตสฺสาติ อิสฺสามนโกติ อาห ‘‘อิสฺสาสมฺปยุตฺตจิตฺโต’’ติฯ อุปกฺโกสนฺโตติ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนฺโตฯ อิสฺสํ พนฺธตีติ อิสฺสํ อนุพนฺธติ อิสฺสาสหิตเมว จิตฺตํ อนุปวตฺเตติฯ อปฺเปสกฺโขติ อปฺปานุภาโว อปฺปญฺญาโตฯ เตนาห ‘‘น ปญฺญายตี’’ติฯ สา ปนสฺส อปฺปานุภาวตา ปริวาราภาเวน ปากฏา โหตีติ อาห ‘‘อปฺปปริวาโร’’ติฯ

[294] มจฺฉริยวเสน น ทาตา โหตีติ สพฺพโส เทยฺยธมฺมสฺส อภาเวน น ทาตา น โหติฯ อมจฺฉรี หิ ปุคฺคโล สติ เทยฺยธมฺเม ยถารหํ เทติเยวฯ

[295] อภิวาเทตพฺพํ เขตฺตวเสน มตฺถกปฺปตฺตํ ทสฺเสตุํ, ‘‘พุทฺธํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อญฺเญปิ มาตุปิตุเชฏฺฐภาตราทโย อภิวาทนาทิอรหา สนฺติ, เตสุ ถทฺธาทิวเสน กรณํ นีจกุลสํวตฺตนิกเมวฯ น หิ ปวตฺเต สกฺกา กาตุนฺติ สมฺพนฺโธฯ เตน ปวตฺติวิปากทายิโน กมฺมสฺส วิสโย เอโสติ ทสฺเสติฯ เตนาห ‘‘ปฏิสนฺธิเมว ปนา’’ติอาทิฯ

[296] อปริปุจฺฉเนนาติ อปริปุจฺฉามตฺเตน นิรเย น นิพฺพตฺตติ; อปริปุจฺฉาเหตุ ปน กตฺตพฺพากรณาทีหิ สิยา นิรยนิพฺพตฺตีติ ปาฬิยํ, ‘‘น ปริปุจฺฉิตา โหตี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต, ‘‘อปริปุจฺฉโก ปนา’’ติอาทิมาหฯ ยถานุสนฺธิํ ปาเปสีติ เทสนํ ยถานุสนฺธินิฏฺฐานํ ปาเปสิฯ เสสํ วุตฺตนยตฺตา สุวิญฺเญยฺยเมวฯ

จูฬกมฺมวิภงฺคสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ

6. มหากมฺมวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา

[298] กมฺมสฺส โมฆภาโว นาม ผเลน ตุจฺฉตา ผลาภาโวติ อาห – ‘‘โมฆนฺติ ตุจฺฉํ อผล’’นฺติฯ ตถํ ภูตนฺติ สจฺจสทฺทสฺส อตฺถมาหฯ ปริพฺพาชโก ปน ‘‘สจฺจ’’นฺติ อิมินา ตเมว สผลนฺติ วทติฯ สผลญฺหิ กมฺมํ สตฺถุ อภิมตมโนกมฺมนฺติ อธิปฺปาโยฯ อิทญฺจ ‘‘โมฆํ กายกมฺม’’นฺติอาทิวจนํฯ ตํ คเหตฺวาติ ปรมฺปราย คเหตฺวาฯ เอสาติ โปตลิปุตฺโต ปริพฺพาชโกฯ อภิสญฺญานิโรธกถํ สนฺธาย วทติฯ สาปิ หิ ติตฺถิยานํ อนฺตเร ปากฏา ชาตาติฯ เถโรติ สมิทฺธิตฺเถโรฯ ยถา ภควตา วุตฺตํ, ตโต จ อญฺญถาว โทสาโรปนภเยน คเหตฺวา ตโต ภควนฺตํ เถโร รกฺขตีติ อธิปฺปาเยน ปริพฺพาชโก, ‘‘ปริรกฺขิตพฺพํ มญฺญิสฺสตี’’ติ อโวจาติ อาห – ‘‘ปริรกฺขิตพฺพนฺติ ครหโต โมจเนน รกฺขิตพฺพ’’นฺติฯ สญฺเจตนา อสฺส อตฺถีติ สญฺเจตนิกํฯ กมฺมนฺติ สญฺเจตนิกสฺสปิ กมฺมสฺส อตฺตโน สมเย อิจฺฉิตตฺตา ปริพฺพาชเกน วุตฺตํฯ

สงฺขตสงฺขารตาย รูปเมว ‘‘ติลมตฺตมฺปิ สงฺขาร’’นฺติ วุตฺตํฯ เตนาห – ‘‘มํสจกฺขุนาว ปสฺสตี’’ติฯ สมาคมทสฺสนํ สนฺธายาติ กตฺถจิปิ ตสฺส ทสฺสนํ สนฺธาย, น ปริญฺญาทสฺสนํฯ เตนาห ภควา – ‘‘กุโต ปเนวรูปํ กถาสลฺลาป’’นฺติฯ

[299] วฏฺฏทุกฺขนฺติ สํสารทุกฺขํฯ กิเลสทุกฺขนฺติ กิเลสสมฺภวราคปริฬาหทุกฺขํฯ สงฺขารทุกฺขนฺติ ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺขนฺติ เอวํ วุตฺตทุกฺขํฯ สเจ ภาสิตํ ภเวยฺยาติ อิมํ อีทิสํ ทุกฺขํ สนฺธาย อายสฺมตา สมิทฺธินา ภาสิตํ สิยา นุ ภควา, อวิภชิตฺวา พฺยากรณํ ยุตฺตเมวาติ อธิปฺปาโยฯ

[300] อุมฺมงฺคนฺติ อุมฺมุชฺชนํ, กถามุฬฺเหน อนฺตรา อญฺญาณวิสยปญฺหา อุมฺมงฺคํฯ เตนาห – ‘‘ปญฺหาอุมฺมงฺค’’นฺติ เนว ทิพฺพจกฺขุนาติ กสฺมา วุตฺตํฯ น หิ ตํ อโยนิโส อุมฺมุชฺชนํ ทิพฺพจกฺขุวิสยนฺติ? กามญฺเจตํ น ทิพฺพจกฺขุวิสยํ, ทิพฺพจกฺขุปริภณฺฑญาวิสยํ ปน สิยาติ ตถา วุตฺตํฯ อธิปฺปาเยเนวาติ อุทายิตฺเถรสฺส อธิปฺปาเยเนว คยฺหมาเนน ตํ อโยนิโย อุมฺมุชฺชนํ อญฺญาสิฯ สนฺนิสีทิตุํ ปุพฺเพ นิสินฺนากาเรน สนฺนิสีทิตุํ น สกฺโกติฯ สมิทฺธิตฺเถเรน อนภิสงฺขตสฺเสว อตฺถสฺส กถิตตฺตา, ‘‘ยํ อภูตํ, ตเทว กเถสฺสตี’’ติ วุตฺตํฯ เตนาห ‘‘อโยนิโส อุมฺมุชฺชิสฺสตี’’ติฯ ติสฺโส เวทนา ปุจฺฉิตา, ‘‘กิํ โส เวทิยตี’’ติ อวิภาเคน เวทิยมานสฺส ชาติตตฺตาฯ สุขาย เวทนาย หิตนฺติ สุขเวทนิยํ