เมนู

4. ราชวคฺโค

1. ฆฏิการสุตฺตวณฺณนา

[282] จริยนฺติ โพธิจริยํ, โพธิสมฺภารสมฺภรณวเสน ปวตฺติตํ โพธิสตฺตปฏิปตฺตินฺติ อตฺโถฯ สุการณนฺติ โพธิปริปาจนสฺส เอกนฺติกํ สุนฺทรํ การณํ, กสฺสปสฺส ภควโต ปยิรุปาสนาทิํ สนฺธาย วทติฯ ตญฺหิ เตน สทฺธิํ มยา อิธ กตนฺติ วตฺตพฺพตํ ลภติฯ มนฺทหสิตนฺติ อีสกํ หสิตํฯ กุหํ กุหนฺติ หาส-สทฺทสฺส อนุกรณเมตํฯ หฏฺฐปหฏฺฐาการมตฺตนฺติ หฏฺฐปหฏฺฐมตฺตํฯ ยถา คหิตสงฺเกตา ‘‘ปหฏฺโฐ ภควา’’ติ สญฺชานนฺติ, เอวํ อาการทสฺสนมตฺตํฯ

อิทานิ อิมินา ปสงฺเคน ตาสํ สมุฏฺฐานํ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘หสิตญฺจ นาเมต’’นฺติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ อชฺฌุเปกฺขนวเสนปิ หาโส น สมฺภวติ, ปเคว โทมนสฺสวเสนาติ อาห ‘‘เตรสหิ โสมนสฺสสหคตจิตฺเตหี’’ติฯ นนุ จ เกจิ โกธวเสนปิ หสนฺตีติ? น, เตสมฺปิ ยํ ตํ โกธวตฺถุ, ตสฺส มยํ ทานิ ยถากามการิตํ อาปชฺชิสฺสามาติ ทุวิญฺเญยฺยนฺตเรน โสมนสฺสจิตฺเตเนว หาสสฺส อุปฺปชฺชนโตฯ เตสูติ ปญฺจสุ โสมนสฺสสหคตจิตฺเตสุฯ พลวารมฺมเณติ อุฬารอารมฺมเณ ยมกมหาปาฏิหาริยสทิเสฯ ทุพฺพลารมฺมเณติ อนุฬาเร อารมฺมเณฯ อิมสฺมิํ ปน ฐาเน…เป.… อุปฺปาเทสีติ อิทํ โปราณฏฺฐกถายํ ตถา อาคตตฺตา วุตฺตํฯ น อเหตุกโสมนสฺสสหคตจิตฺเตน ภควโต สิตํ โหตีติ ทสฺสนตฺถํฯ

อภิธมฺมฏีกายํ (ธ. ส. มูลฏี. 568) ปน ‘‘อตีตํสาทีสุ อปฺปฏิหตํ ญาณํ วตฺวา ‘อิเมหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตสฺส พุทฺธสฺส ภควโต สพฺพํ กายกมฺมํ ญาณปุพฺพงฺคมํ ญาณานุปริวตฺต’นฺติอาทิวจนโต (มหานิ. 69, 156; จูฬนิ. มาฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส 85; ปฏิ. ม. 3.5; เนตฺติ. 15; ที. นิ. อฏฺฐ. 3.305; วิภ. มูลฏี. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา; ที. นิ. ฏี. 3.141, 305) ‘ภควโต อิทํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’ติ วุตฺตวจนํ วิจาเรตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํฯ ตตฺถ อิมินา หสิตุปฺปาทจิตฺเตน ปวตฺติยมานมฺปิ ภควโต สิตกรณํ ปุพฺเพนิวาส-อนาคตํส-สพฺพญฺญุตญฺญาณานํ อนุวตฺตกตฺตา ญาณานุปริวตฺติเยวาติ, เอวํ ปน ญาณานุปริวตฺติภาเว สติ น โกจิ ปาฬิอฏฺฐกถานํ วิโรโธฯ

ตถา หิ อภิธมฺมฏฺฐกถายํ (ธ. ส. อฏฺฐ. 568) ‘‘เตสํ ญาณานํ จิณฺณปริยนฺเต อิทํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํฯ อวสฺสญฺจ เอตํ เอวํ อิจฺฉิตพฺพํ, อญฺญถา อาวชฺชนสฺสปิ ภควโต ปวตฺติ ตถารูเป กาเล น สํยุชฺเชยฺย, ตสฺสปิ หิ วิญฺญตฺติสมุฏฺฐาปกภาวสฺส อิจฺฉิตตฺตา, ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘เอวญฺจ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนสฺสปิ วิญฺญตฺติสมุฏฺฐาปกตฺตํ อุปปนฺนํ โหตี’’ติ, น จ วิญฺญตฺติสมุฏฺฐาปกตฺเต ตํสมุฏฺฐิตาย วิญฺญตฺติยา กายกมฺมาทิภาวํ อาปชฺชนภาโว วิพนฺธตีติ ตเมว สนฺธาย วทติฯ เตนาห ‘‘เอวํ อปฺปมตฺตกมฺปี’’ติฯ สเตริตา วิชฺชุลตา นาม สเตรตาวิชฺชุลตาฯ สา หิ อิตรวิชฺชุลตา วิย ขณฏฺฐิติกา สีฆนิโรธา จ น โหติ, อปิจ โข ทนฺธนิโรธา, ตญฺจ สพฺพกาลํ จตุทีปิกมหาเมฆโตว นิจฺฉรติ เตนาห ‘‘จาตุทฺทีปิกมหาเมฆมุขโต’’ติฯ อยํ กิร ตาสํ รสฺมิวฏฺฏีนํ ธมฺมตา, ยทิทํ ติกฺขตฺตุํ สิรวรํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ทาฐคฺเคสุเยว อนฺตรธานํฯ

[283] ยทิปิ จตฺตาริ อสงฺเขฺยยฺยานิ กปฺปานํ สตสหสฺสญฺจ ปญฺญาปารมิตา ปริภาวิตา, ตถาปิ อิทานิ ตํ พุทฺธนฺตรํ ตสฺสา ปฏิปาเทตพฺพตฺตา วุตฺตํ ‘‘อปริปกฺกญาณตฺตา’’ติฯ กามญฺจสฺส ญาณาย อิทานิปิ ปฏิปาเทตพฺพตา อตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ นนุ สมฺมาสมฺพุทฺเธสุ ปสาเทน สมฺภาวนาย ภวิตพฺพํ ตถา จิรกาลํ ปริภาวิตตฺตา, กถํ ตตฺถ หีฬนาติ อาห ‘‘พฺราหฺมณกุเล’’ติอาทิฯ จิรกาลปริจิตาปิ หิ คุณภาวนา อปฺปเกนปิ อกลฺยาณมิตฺตสํสคฺเคน วิปริวตฺตติ อญฺญถตฺตํ คจฺฉติฯ เตน มหาสตฺโตปิ ชาติสิทฺธายํ ลทฺธิยํ ฐตฺวา ชาติสิทฺเธน มาเนน เอวมาห – ‘‘กิํ ปน เตน มุณฺฑเกน สมณเกน ทิฏฺเฐนา’’ติฯ ตถา หิ วุตฺตํ อฏฺฐกถายํ

‘‘ตสฺมา อกลฺยาณชนํ, อาสีวิสมิโวรคํ,

อารกา ปริวชฺเชยฺย, ภูติกาโม วิจกฺขโณ’’ติฯ (ที. นิ. อฏฺฐ. 1.170-172);

นฺหานจุณฺเณน สุตฺเตน กตา โสตฺติ, กุรุวินฺทคุฬิกา, สา เอว สินายนฺติ กายํ วิโสเธนฺติ เอตายาติ สินานํฯ เตนาห – ‘‘โสตฺติ สินานนฺติ สินานตฺถาย กตโสตฺติ’’นฺติฯ

[284] อริยปริหาเรนาติ อริยานํ ปริหาเรน, อนาคามีนํ นฺหานกาเล อตฺตโน กายสฺส ปริหารนิยาเมนาติ อตฺโถฯ

อตฺตโน ญาณสมฺปตฺติยา วิภวสมฺปตฺติยา ปสนฺนการํ กาตุํ สกฺขิสฺสติฯ เอตทตฺถนฺติ ‘‘อหิตนิวารณํ, หิเต นิโยชนํ พฺยสเน ปริวชฺชน’’นฺติ ยทิทํ, เอตทตฺถํ มิตฺตา นาม โหนฺติฯ เกจิ ‘‘ยาเวตฺถ อหุปี’’ติ ปฐนฺติ, เตสํ ยาว เอตฺถ เกสคฺคคหณํ ตาว อยํ นิพนฺโธ อหุปีติ อตฺโถฯ

[285] สติปฏิลาภตฺถายาติ โพธิยา มหาภินีหารํ กตฺวา โพธิสมฺภารปฏิปทาย ปูรณภาเว สติยา ปฏิลาภตฺถายฯ อิทานิ ตสฺส สตุปฺปาทนียกถาย ปวตฺติตาการํ สงฺเขเปเนว ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺส หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ น ลามกฏฺฐานํ โอติณฺณสตฺโตติ อิมินา มหาสตฺตสฺส ปณีตาธิมุตฺตตํ ทสฺเสตฺวา เอวํ ปณีตาธิมุตฺติกสฺส ปมาทกิริยา น ยุตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตาทิสสฺส นาม ปมาทวิหาโร น ยุตฺโต’’ติ อาหฯ ตทา โพธิสตฺตสฺส เนกฺขมฺมชฺฌาสโย เตลปฺปทีโป วิย วิเสสโต นิพฺพตฺติ, ตํ ทิสฺวา ภควา ตทนุรูปํ ธมฺมกถํ กโรนฺโต ‘‘ตาทิสสฺส…เป.… กเถสี’’ติฯ ปรสมุทฺทวาสี เถรา อญฺญถา วทนฺติฯ อฏฺฐกถายํ ปน นายํ พุทฺธานํ ภาโร, ยทิทํ ปูริตปารมีนํ โพธิสตฺตานํ ตถา ธมฺมเทสนา เตสํ มหาภินีหารสมนนฺตรมฺปิ โพธิสมฺภารสฺส สยมฺภุญาเณเนว ปฏิวิทิตตฺตาฯ ตสฺมา โพธิสตฺตภาวปเวทนเมว ตสฺส ภควา อกาสีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สติปฏิลาภตฺถายา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ สติปฏิลาภตฺถายาติ สมฺมาปฏิปตฺติยา อุชฺชลเน ปากฏกรสติปฏิลาภายฯ

[286] ญาณญฺหิ กิเลสธมฺมวิทาลนปทาลเนหิ สิงฺคํ วิยาติ สิงฺคํฯ ตญฺหิ ปฏิปตฺติยา อุปตฺถมฺภิตํ อุสฺสิตํ นาม โหติ, ตทภาเว ปติตํ นามฯ เกจิ ปน วีริยํ สิงฺคนฺติ วทนฺติฯ ตสฺมิํ สมฺมปฺปธานวเสน ปวตฺเต พาหิรปพฺพชฺชํ อุปคตาปิ มหาสตฺตา วิสุทฺธาสยา อปฺปิจฺฉตาทิคุณสมงฺคิโน ยถารหํ คนฺถธุรํ วาสธุรญฺจ ปริพฺรูหยนฺตา วิหรนฺติ, ปเคว พุทฺธสาสเน อปฺปิจฺฉตาทีหีติ อาห ‘‘จตุปาริสุทฺธิสีเล ปนา’’ติอาทิฯ วิปสฺสนํ พฺรูเหนฺตา สิขาปฺปตฺตวิปสฺสนา โหนฺตีติ วุตฺตํ – ‘‘ยาว อนุโลมญาณํ อาหจฺจ ติฏฺฐนฺตี’’ติ, อนุโลมญาณโต โอรเมว วิปสฺสนํ ฐเปนฺตีติ อตฺโถฯ มคฺคผลตฺถํ วายามํ น กโรนฺติ ปญฺญาปารมิตาย สพฺพญฺญุตญฺญาณคพฺภสฺส อปริปุณฺณตฺตา อปริปกฺกตฺตา จฯ

[287] เถเรหีติ วุทฺธตเรหิฯ นิวาเส สตีติ ยสฺมิํ ฐาเน ปพฺพชิโต, ตตฺเถว นิวาเสฯ วปฺปกาลโตติ สสฺสานํ วปฺปกาลโตฯ ปุพฺเพ วิย ตโต ปรํ ติขิเณน สูริยสนฺตาเปน ปโยชนํ นตฺถีติ วุตฺตํ – ‘‘วปฺปกาเล วิตานํ วิย อุปริ วตฺถกิลญฺชํ พนฺธิตฺวา’’ติฯ ปุฏเกติ กลาเปฯ

[288] ปจฺจยสามคฺคิเหตุกตฺตา ธมฺมปฺปตฺติยา ปเทสโต ปริญฺญาวตฺถุกาปิ อริยา อุปฏฺฐิเต จิตฺตวิฆาตปจฺจเย ยเทตํ นาติสาวชฺชํ, ตเทวํ คณฺหนฺตีติ อยเมตฺถ ธมฺมตาติ อาห – ‘‘อลาภํ อารพฺภ จิตฺตญฺญถตฺต’’นฺติอาทิฯ โสติ กิกี กาสิราชาฯ พฺราหฺมณภตฺโตติ พฺราหฺมเณสุ ภตฺโตฯ เทเวติ พฺราหฺมเณ สนฺธายาหฯ ภูมิเทวาติ เตสํ สมญฺญา, ตทา พฺราหฺมณครุโก โลโกฯ ตทา หิ กสฺสโปปิ ภควา พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติฯ ธีตุ อวณฺณํ วตฺวาติ, ‘‘มหาราช, ตว ธีตา พฺราหฺมณสมยํ ปหาย มุณฺฑปาสณฺฑิกสมยํ คณฺหี’’ติอาทินา ราชปุตฺติยา อคุณํ วตฺวาฯ วรํ คณฺหิํสุ ญาตกาฯ รชฺชํ นิยฺยาเตสิ ‘‘มา เม วจนํ มุสา อโหสิ, อฏฺฐเม ทิวเส นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติฯ

ปาวนอสฺมนยนวเสน สมฺมา ปาวีกตตฺตา ปริสุทฺธตณฺฑุลานิฯ ปาฬิยํ ตณฺฑุลปฏิภสฺตานีติ ตณฺฑุลขณฺฑานิฯ มุคฺคปฏิภสฺตกฬายปฏิภสฺเตสุปิ เอเสว นโยฯ

[289] โก นุ โขติ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห – ‘‘กุหิํ นุ โข’’ติ ปาริปูริํ โยชียนฺติ พฺยญฺชนโภชนานิ เอตฺถาติ ปริโยโค, ตโต ปริโยคาฯ เตนาห ‘‘สูปภาชนโต’’ติฯ สญฺญํ ทตฺวาติ วุตฺตํ สพฺพํ อาจิกฺขิตฺวา ตุมฺหากํ อตฺถาย สมฺปาเทตฺวา นิกฺขิตฺโต อุปฏฺฐาโกติ ภควโต อาโรเจถาติ สญฺญํ ทตฺวาฯ อติวิสฺสตฺโถติ อติวิย วิสฺสตฺโถฯ ปญฺจวณฺณาติ ขุทฺทิกาทิวเสน ปญฺจปฺปการาฯ

[290] กินฺติ นิสฺสกฺเก ปจฺจตฺตวจนํ, กสฺมาติ อตฺโถ? ธมฺมิโกติ อิมินา อาคมนสุทฺธิํ ทสฺเสติ ภิกฺขูนํ ปตฺเต ภตฺตสทิโสติ อิมินา อุปาสเกน สตฺถุ ปริจฺจตฺตภาวํ ตตฺถ สตฺถุโน จ อปริสงฺกตํ ทสฺเสติฯ สิกฺขาปทเวลา นาม นตฺถีติ ธมฺมสฺสามิภาวโต สิกฺขาปทมริยาทา นาม นตฺถิ ปณฺณตฺติวชฺเช, ปกติวชฺเช ปน เสตุฆาโต เอวฯ

[291] ฉทนฏฺฐาเน ยทากาสํ, ตเทว ตสฺส เคหสฺส ฉทนนฺติ อากาสจฺฉทนํฯ ปกติยา อุตุผรณเมวาติ ฉาทิเต ยาทิสํ อุตุ, ฉทเน อุตฺติณภาเวปิ ตมฺหิ เคเห ตาทิสเมว อุตุผรณํ อโหสิฯ เตสํเยวาติ เตสํ ฆฏิการสฺส มาตาปิตูนํ เอวฯ

[292] ‘‘จตสฺโส มุฏฺฐิโย เอโก กุฑุโว, จตฺตาโร กุฑุวา เอโก ปตฺโถ, จตฺตาโร ปตฺถา เอโก อาฬฺหโก, จตฺตาโร อาฬฺหกา เอกํ โทณํ, จตฺตาริ โทณานิ เอกา มานิกา, จตสฺโส มานิกา เอกา ขารี, วีสติ ขาริกา เอโก วาโหติ ตเทว เอกสกฏ’’นฺติ สุตฺตนิปาตฏฺฐกถาทีสุ (สุ. นิ. อฏฺฐ. 2.662) วุตฺตํ, อิธ ปน ‘‘ทฺเว สกฏานิ เอโก วาโห’’ติ วุตฺตํฯ เตลผาณิตาทินฺติ อาทิ-สทฺเทน สปฺปิอาทิํ มริจาทิกฏุกภณฺฑญฺจ สงฺคณฺหาติฯ นาหํ รญฺญา ทิฏฺฐปุพฺโพ, กุโต ปริปฺผสฺโสติ อธิปฺปาโยฯ นจฺจิตฺวาติ นจฺจํ ทตฺวาฯ

ฆฏิการสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ

2. รฏฺฐปาลสุตฺตวณฺณนา

[293] ถูลเมว ถุลฺลํ, ถุลฺลา วิปุลา มหนฺตา โกฏฺฐา ชาตา อิมสฺสาติ ถุลฺลโกฏฺฐิกนฺติ โอทนปูปปหูตวเสน ลทฺธนาโม นิคโมฯ อฏฺฐกถายํ ปน ถุลฺลโกฏฺฐนฺติ อตฺโถ วุตฺโตฯ เตน ปาฬิยํ อิก-สทฺเทน ปทวฑฺฒนํ กตนฺติ ทสฺเสติฯ

[294] รฏฺฐปาโลติ อิทํ ตสฺส กุลปุตฺตสฺส นามํฯ ปเวณิวเสน อาคตกุลวํสานุคตนฺติ สมุทาคมโต ปฏฺฐาย ทสฺเสตุํ ‘‘กสฺมา รฏฺฐปาโล’’ติอาทิ วุตฺตํฯ สนฺธาเรตุนฺติ วินาสนโต ปุพฺเพ ยาทิสํ, ตเถว สมฺมเทว ธาเรตุํ สมตฺโถฯ สทฺธาติ กมฺมผลสทฺธาย สมฺปนฺนาฯ สามเณรํ ทิสฺวาติ สิกฺขากามตาย เอตทคฺเค ฐปิยมานํ ทิสฺวาฯ