เมนู

ตตฺถ ‘‘มชฺเฌ ฐตฺวา’’ติ เอเตน มชฺฌฏฺฐภาวทีปเนน วิเสสโต จตุนฺนํ อาคมานํ สาธารณฏฺฐกถา วิสุทฺธิมคฺโค, น สุมงฺคลวิลาสินีอาทโย วิย อสาธารณฏฺฐกถาติ ทสฺเสติฯ ‘‘วิเสสโต’’ติ จ อิทํ วินยาภิธมฺมานมฺปิ วิสุทฺธิมคฺโค ยถารหํ อตฺถวณฺณนา โหติ เอวาติ กตฺวา วุตฺตํฯ

[16] อิจฺเจวาติ อิติ เอวฯ ตมฺปีติ วิสุทฺธิมคฺคมฺปิฯ เอตายาติ ปปญฺจสูทนิยาฯ เอตฺถ จ ‘‘สีหฬทีปํ อาภตา’’ติอาทินา อฏฺฐกถากรณสฺส นิมิตฺตํ ทสฺเสติ, ‘‘ทีปวาสีนมตฺถาย, สุชนสฺส จ ตุฏฺฐตฺถํ, จิรฏฺฐิตตฺถญฺจ ธมฺมสฺสา’’ติ เอเตน ปโยชนํ, ‘‘มชฺฌิมาคมวรสฺส อตฺถํ ปกาสยิสฺสามี’’ติ เอเตน ปิณฺฑตฺถํ, ‘‘อปเนตฺวาน ตโตหํ สีหฬภาส’’นฺติอาทินา, ‘‘สีลกถา’’ติอาทินา จ กรณปฺปการํฯ สีลกถาทีนํ อวิจารณมฺปิ หิ อิธ กรณปฺปกาโร เอวาติฯ

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

นิทานกถาวณฺณนา

[1] วิภาควนฺตานํ สภาววิภาวนํ วิภาคทสฺสนมุเขเนว โหตีติ ปฐมํ ตาว ปณฺณาสวคฺคสุตฺตาทิวเสน มชฺฌิมาคมสฺส วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ มชฺฌิมสงฺคีติ นามา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ ตตฺถาติ ยํ วุตฺตํ ‘‘มชฺฌิมาคมวรสฺส อตฺถํ ปกาสยิสฺสามี’’ติ, ตสฺมิํ วจเนฯ ยา มชฺฌิมาคมปริยาเยน มชฺฌิมสงฺคีติ วุตฺตา, สา ปณฺณาสาทิโต เอทิสาติ ทสฺเสติ ‘‘มชฺฌิมสงฺคีติ นามา’’ติอาทินาฯ ตตฺถาติ วา ‘‘เอตาย อฏฺฐกถาย วิชานาถ มชฺฌิมสงฺคีติยา อตฺถ’’นฺติ เอตฺถ ยสฺสา มชฺฌิมสงฺคีติยา อตฺถํ วิชานาถาติ วุตฺตํ, สา มชฺฌิมสงฺคีติ นาม ปณฺณาสาทิโต เอทิสาติ ทสฺเสติฯ ปญฺจ ทสกา ปณฺณาสา, มูเล อาทิมฺหิ ปณฺณาสา, มูลภูตา วา ปณฺณาสา มูลปณฺณาสาฯ มชฺเฌ ภวา มชฺฌิมา, มชฺฌิมา จ สา ปณฺณาสา จาติ มชฺฌิมปณฺณาสาฯ อุปริ อุทฺธํ ปณฺณาสา อุปริปณฺณาสาปณฺณาสตฺตยสงฺคหาติ ปณฺณาสตฺตยปริคณนาฯ

อยํ สงฺคโห นาม ชาติสญฺชาติกิริยาคณนวเสน จตุพฺพิโธฯ

ตตฺถ ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาวาจา, โย จ สมฺมากมฺมนฺโต, โย จ สมฺมาอาชีโว , อิเม ธมฺมา สีลกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. 1.462) อยํ ชาติสงฺคโหฯ ‘‘โย จาวุโส วิสาข, สมฺมาวายาโมฯ ยา จ สมฺมาสติ, โย จ สมฺมาสมาธิ, อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ อยํ สญฺชาติสงฺคโหฯ ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาทิฏฺฐิ, โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป, อิเม ธมฺมา ปญฺญากฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ อยํ กิริยาสงฺคโหฯ ‘‘หญฺจิ จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ, เตน วต เร วตฺตพฺเพ จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิต’’นฺติ (กถา. 471) อยํ คณนสงฺคโหฯ อยเมว จ อิธาธิปฺเปโตฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ปณฺณาสตฺตยสงฺคหาติ ปณฺณาสตฺตยปริคณนา’’ติฯ

วคฺคโตติ สมูหโต, โส ปเนตฺถ ทสกวเสน เวทิตพฺโพฯ เยภุยฺเยน หิ สาสเน ทสเก วคฺคโวหาโรฯ เตเนวาห ‘‘เอเกกาย ปณฺณาสาย ปญฺจ ปญฺจ วคฺเค กตฺวา’’ติฯ ปนฺนรสวคฺคสมาโยคาติ ปนฺนรสวคฺคสํโยคาติ อตฺโถฯ เกจิ ปน สมาโยคสทฺทํ สมุทายตฺถํ วทนฺติฯ ปทโตติ เอตฺถ อฏฺฐกฺขโร คาถาปาโท ‘‘ปท’’นฺติ อธิปฺเปโต, ตสฺมา ‘‘อกฺขรโต ฉ อกฺขรสตสหสฺสานิ จตุราสีตุตฺตรสตาธิกานิ จตุจตฺตาลีส สหสฺสานิ จ อกฺขรานี’’ติ ปาเฐน ภวิตพฺพนฺติ วทนฺติฯ ยสฺมา ปน นวกฺขโร ยาว ทฺวาทสกฺขโร จ คาถาปาโท สํวิชฺชติ, ตสฺมา ตาทิสานมฺปิ คาถานํ วเสน อฑฺฒเตยฺยคาถาสตํ ภาณวาโร โหตีติ กตฺวา ‘‘อกฺขรโต สตฺต อกฺขรสตสหสฺสานิ จตฺตาลีสญฺจ สหสฺสานิ เตปญฺญาสญฺจ อกฺขรานี’’ติ วุตฺตํฯ เอวญฺหิ ปทภาณวารคณนาหิ อกฺขรคณนา สํสนฺทติ, เนตรถาฯ ภาณวาโรติ จ ทฺวตฺติํสกฺขรานํ คาถานํ วเสน อฑฺฒเตยฺยคาถาสตํ, อยญฺจ อกฺขรคณนา ภาณวารคณนา จ ปทคณนานุสาเรน ลทฺธาติ เวทิตพฺพาฯ อิมเมว หิ อตฺถํ ญาเปตุํ สุตฺตคณนานนฺตรํ ภาณวาเร อคเณตฺวา ปทานิ คณิตานิฯ ตตฺริทํ วุจฺจติ –

‘‘ภาณวารา ยถาปิ หิ, มชฺฌิมสฺส ปกาสิตา;

อุปฑฺฒภาณวาโร จ, เตวีสติปทาธิโกฯ

สตฺต สตสหสฺสานิ, อกฺขรานํ วิภาวเย;

จตฺตาลีส สหสฺสานิ, เตปญฺญาสญฺจ อกฺขร’’นฺติฯ

อนุสนฺธิโตติ เทสนานุสนฺธิโตฯ เอกสฺมิํ เอว หิ สุตฺเต ปุริมปจฺฉิมานํ เทสนาภาคานํ สมฺพนฺโธ อนุสนฺธานโต อนุสนฺธิฯ เอตฺถ จ อตฺตชฺฌาสยานุสนฺธิ ปรชฺฌาสยานุสนฺธีติ ทุวิโธ อชฺฌาสยานุสนฺธิฯ โส ปน กตฺถจิ เทสนาย วิปฺปกตาย ธมฺมํ สุณนฺตานํ ปุจฺฉาวเสน, กตฺถจิ เทเสนฺตสฺส สตฺถุ สาวกสฺส ธมฺมปฏิคฺคาหกานญฺจ อชฺฌาสยวเสน, กตฺถจิ เทเสตพฺพสฺส ธมฺมสฺส วเสน โหตีติ สมาสโต ติปฺปกาโรฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ปุจฺฉานุสนฺธิอชฺฌาสยานุสนฺธิยถานุสนฺธิวเสน สงฺเขปโต ติวิโธ อนุสนฺธี’’ติฯ สงฺเขเปเนว จ จตุพฺพิโธ อนุสนฺธิ เวทิตพฺโพฯ ตตฺถ ‘‘เอวํ วุตฺเต อญฺญตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ ‘กิํ นุ โข, ภนฺเต, โอริมํ ตีรํ, กิํ ปาริมํ ตีรํ, โก มชฺเฌ สํสีโท, โก ถเล อุสฺสาโท, โก มนุสฺสคฺคาโห, โก อมนุสฺสคฺคาโห, โก อาวตฺตคฺคาโห, โก อนฺโตปูติภาโว’ติ’’ (สํ. นิ. 4.241)? เอวํ ปุจฺฉนฺตานํ วิสฺสชฺเชนฺเตน ภควตา ปวตฺติตเทสนาวเสน ปุจฺฉานุสนฺธี เวทิตพฺโพฯ ‘‘อถ โข อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ ‘อิติ กิร โภ รูปํ อนตฺตา… เวทนา… สญฺญา… สงฺขารา… วิญฺญาณํ อนตฺตา, อนตฺตกตานิ กมฺมานิ กมตฺตานํ ผุสิสฺสนฺตี’ติฯ อถ โข ภควา ตสฺส ภิกฺขุโน เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย ภิกฺขู อามนฺเตสิ ฐานํ โข ปเนตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ, ยํ อิเธกจฺโจ โมฆปุริโส อวิทฺวา อวิชฺชาคโต ตณฺหาธิปเตยฺเยน เจตสา สตฺถุสาสนํ อติธาวิตพฺพํ มญฺเญยฺย ‘อิติ กิร โภ รูปํ อนตฺตา…เป.… ผุสิสฺสนฺตี’ติฯ ตํ กิํ มญฺญถ , ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ (ม. นิ. 3.90) เอวํ ปเรสํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ภควตา ปวตฺติตเทสนาวเสน ปรชฺฌาสยานุสนฺธิ เวทิตพฺโพฯ

‘‘ตสฺส มยฺหํ พฺราหฺมณ เอตทโหสิ ‘ยํนูนาหํ ยา ตา รตฺติโย อภิญฺญาตา อภิลกฺขิตา จาตุทฺทสี ปญฺจทสี อฏฺฐมี จ ปกฺขสฺส, ตถารูปาสุ รตฺตีสุ ยานิ ตานิ อารามเจติยานิ วนเจติยานิ รุกฺขเจติยานิ ภิํสนกานิ สโลมหํสานิ, ตถารูเปสุ เสนาสเนสุ วิหเรยฺยํ อปฺเปว นามาหํ ภยเภรวํ ปสฺเสยฺย’นฺติ’’ (ม. นิ. 1.49) เอวํ ภควตา, ‘‘ตตฺราวุโส โลโภ จ ปาปโก โทโส จ ปาปโก โลภสฺส จ ปหานาย โทสสฺส จ ปหานาย อตฺถิ มชฺฌิมา ปฏิปทา, จกฺขุกรณี ญาณกรณี อุปสมาย อภิญฺญาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตตี’’ติ (ม. นิ. 1.33) เอวํ ธมฺมเสนาปตินา จ อตฺตโน อชฺฌาสเยเนว ปวตฺติตเทสนาวเสน อตฺตชฺฌาสยานุสนฺธิ เวทิตพฺโพฯ เยน ปน ธมฺเมน อาทิมฺหิ เทสนา อุฏฺฐิตา, ตสฺส อนุรูปธมฺมวเสน วา ปฏิปกฺขธมฺมวเสน วา เยสุ สุตฺเตสุ อุปริ เทสนา อาคจฺฉติ, เตสํ วเสน ยถานุสนฺธิ เวทิตพฺโพฯ เสยฺยถิทํ อากงฺเขยฺยสุตฺเต (ม. นิ. 1.65) เหฏฺฐา สีเลน เทสนา อุฏฺฐิตา, อุปริ อภิญฺญา อาคตาฯ วตฺถุสุตฺเต (ม. นิ. 1.70) เหฏฺฐา กิเลเสน เทสนา อุฏฺฐิตา, อุปริ พฺรหฺมวิหารา อาคตาฯ โกสมฺพกสุตฺเต (ม. นิ. 1.491) เหฏฺฐา ภณฺฑเนน เทสนา อุฏฺฐิตา, อุปริ สารณียธมฺมา อาคตาฯ กกจูปเม (ม. นิ. 1.222) เหฏฺฐา อกฺขนฺติยา วเสน เทสนา อุฏฺฐิตา, อุปริ กกจูปมา อาคตาติฯ

วิตฺถารโต ปเนตฺถาติ เอวํ สงฺเขปโต ติวิโธ จตุพฺพิโธ จ อนุสนฺธิ เอตฺถ เอตสฺมิํ มชฺฌิมนิกาเย ตสฺมิํ ตสฺมิํ สุตฺเต ยถารหํ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา วิญฺญายมานา นวสตาธิกานิ ตีณิ อนุสนฺธิสหสฺสานิ โหนฺติฯ ยถา เจตํ ปณฺณาสาทิวิภาควจนํ มชฺฌิมสงฺคีติยา สรูปทสฺสนตฺถํ โหติ, เอวํ ปกฺเขปโทสปริหรณตฺถญฺจ โหติฯ เอวญฺหิ ปณฺณาสาทีสุ ววตฺถิเตสุ ตพฺพินิมุตฺตํ กิญฺจิ สุตฺตํ ยาว เอกํ ปทมฺปิ อาเนตฺวา อิมํ มชฺฌิมสงฺคีติยาติ กสฺสจิ วตฺตุํ โอกาโส น สิยาติฯ

เอวํ ปณฺณาสวคฺคสุตฺตภาณวารานุสนฺธิพฺยญฺชนโต มชฺฌิมสงฺคีติํ ววตฺถเปตฺวา อิทานิ นํ อาทิโต ปฏฺฐาย สํวณฺเณตุกาโม อตฺตโน สํวณฺณนาย ตสฺสา ปฐมมหาสงฺคีติยํ นิกฺขิตฺตานุกฺกเมเนว ปวตฺตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ ปณฺณาสาสุ มูลปณฺณาสา อาที’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ ยถาปจฺจยํ ตตฺถ ตตฺถ เทสิตตฺตา ปญฺญตฺตตฺตา จ วิปฺปกิณฺณานํ ธมฺมวินยานํ สงฺคเหตฺวา คายนํ กถนํ สงฺคีติ, มหาวิสยตฺตา ปูชนียตฺตา จ มหตี สงฺคีตีติ มหาสงฺคีติ, ปฐมา มหาสงฺคีติ ปฐมมหาสงฺคีติ, ตสฺสา ปวตฺติตกาโล ปฐมมหาสงฺคีติกาโล, ตสฺมิํ ปฐมมหาสงฺคีติกาเล

นิททาติ เทสนํ เทสกาลาทิวเสน อวิทิตํ วิทิตํ กตฺวา นิทสฺเสตีติ นิทานํ, โย โลกิเยหิ ‘‘อุโปคฺฆาโต’’ติ วุจฺจติ, สฺวายเมตฺถ ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติอาทิโก คนฺโถ เวทิตพฺโพ, น ปน ‘‘สนิทานาหํ, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสมี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. 3.126) วิย อชฺฌาสยาทิเทสนุปฺปตฺติเหตุฯ เตเนวาห ‘‘เอวํ เม สุตนฺติอาทิกํ อายสฺมตา อานนฺเทน ปฐมมหาสงฺคีติกาเล วุตฺตํ นิทานมาที’’ติฯ กามญฺเจตฺถ ยสฺสํ ปฐมมหาสงฺคีติยํ นิกฺขิตฺตานุกฺกเมน สํวณฺณนํ กตฺตุกาโม, สา วิตฺถารโต วตฺตพฺพาฯ สุมงฺคลวิลาสินิยํ (ที. นิ. ฏี. 1.นิทานกถาวณฺณนา) ปน อตฺตนา วิตฺถาริตตฺตา ตตฺเถว คเหตพฺพาติ อิมิสฺสา สํวณฺณนาย มหนฺตตํ ปริหรนฺโต ‘‘สา ปเนสา’’ติอาทิมาหฯ

นิทานกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

1. มูลปริยายวคฺโค

1. มูลปริยายสุตฺตวณฺณนา