เมนู

อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา ‘‘กตเม จ ถปติ กุสลา สีลา? กุสลํ กายกมฺมํ กุสลํ วจีกมฺม’’นฺติ สีลสฺส กุสลกายกมฺมวจีกมฺมภาวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อาชีวปาริสุทฺธมฺปิ โข อหํ ถปติ สีลสฺมิํ วทามี’’ติ (ม. นิ. 2.265) เอวํ ปวตฺตาย มุณฺฑิกปุตฺตสุตฺตเทสนาย ‘‘กายกมฺมวจีกมฺเมน สมนฺนาคโต กุสเลนา’’ติ สีลสฺส กุสลกายกมฺมวจีกมฺมภาวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ปริสุทฺธาชีโว’’ติ เอวํ ปวตฺตา อยํ สามญฺญผลสุตฺตเทสนา เอกสงฺคหา อญฺญทตฺถุ สํสนฺทติ สเมติ ยถา ตํ คงฺโคทเกน ยมุโนทกํ, ตสฺมา อีทิสีปิ ภควโต เทสนาวิภูติ อตฺเถวาติ สีลสฺมิํ วทามีติ สีลนฺติ วทามิ, สีลสฺมิํ วา อาธารภูเต อนฺโตคธํ ปริยาปนฺนํ, นิทฺธารณสมุทายภูเต วา เอกํ สีลนฺติ วทามิฯ

ติวิเธนาติ จูฬสีลมชฺฌิมสีลมหาสีลโต ติวิเธนฯ ‘‘มนจฺฉฏฺเฐสู’’ติ อิมินา กายปญฺจมานเมว คหณํ นิวตฺเตติฯ อุปริ นิทฺเทเส วกฺขมาเนสุ สตฺตสุ ฐาเนสุฯ ติวิเธนาติ จตูสุ ปจฺเจกํ ยถาลาภยถาพลยถาสารุปฺปตาวเสน ติพฺพิเธนฯ

จูฬมชฺฌิมมหาสีลวณฺณนา

[194-211] เอวนฺติ ‘‘โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรตี’’ติอาทินา นเยนฯ ‘‘สีลสฺมิ’’นฺติ อิทํ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ ตโต เอกสฺส นิทฺธารณียตฺตาติ อาห ‘‘เอกํ สีล’’นฺติฯ อปิจ อิมินา อาธาเร ภุมฺมํ ทสฺเสติ สมุทายสฺส อวยวาธิฏฺฐานตฺตา ยถา ‘‘รุกฺเข สาขา’’ติฯ ‘‘อิท’’นฺติ ปเทน กตฺวตฺถวเสน สมานาธิกรณํ ภุมฺมวจนสฺส กตฺวตฺเถ ปวตฺตนโต ยถา ‘‘วนปฺปคุมฺเพ ยถ ผุสิตคฺเค’’ติ (ขุ. ปา. 6.13; สุ. นิ. 236) ทสฺเสติ ‘‘ปจฺจตฺตวจนตฺเถ วา เอตํ ภุมฺม’’นฺติ อิมินาฯ อยเมวตฺโถติ ปจฺจตฺตวจนตฺโถ เอวฯ พฺรหฺมชาเลติ พฺรหฺมชาลสุตฺตวณฺณนายํ, (ที. นิ. อฏฺฐ. 1.7) พฺรหฺมชาลสุตฺตปเท วาฯ สํวณฺณนาวเสน วุตฺตนเยนาติ อตฺโถฯ ‘‘อิทมสฺส โหติ สีลสฺมิ’’นฺติ เอตฺถ มหาสีลปริโยสาเนน นิทฺธาริยมานสฺส อภาวโต ปจฺจตฺตวจนตฺโถเยว สมฺภวตีติ อาห ‘‘อิทํ อสฺส สีลํ โหตีติ อตฺโถ’’ติ, ตโตเยว จ ปาฬิยํ อปิคฺคหณมกตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ

[212] อตฺตานุวาทปรานุวาททณฺฑภยาทีนิ อสํวรมูลกานิ ภยานิฯ ‘‘สีลสฺสาสํวรโตติ สีลสฺส อสํวรณโต, สีลสํวราภาวโตติ อตฺโถ’’ติ (ที. นิ. ฏี. 1.280) อาจริเยน วุตฺตํ, ‘‘ยทิทํ สีลสํวรโต’’ติ ปน ปทสฺส ‘‘ยํ อิทํ ภยํ สีลสํวรโต ภเวยฺยา’’ติ อตฺถวจนโต, ‘‘สีลสํวรเหตุ ภยํ น สมนุปสฺสตี’’ติ จ อตฺถสฺส อุปปตฺติโต สีลสํวรโต สีลสํวรเหตูติ อตฺโถเยว สมฺภวติฯ ‘‘ยํ อิทํ ภยํ สีลสํวรโต ภเวยฺยา’’ติ หิ ปาโฐปิ ทิสฺสติฯ

‘‘สํวรโต’’ติ เหตุํ วตฺวา ตทธิคมิตอตฺถวเสน ‘‘อสํวรมูลกสฺส ภยสฺส อภาวา’’ติปิ เหตุํ วทติฯ ยถาวิธานวิหิเตนาติ ยถาวิธานํ สมฺปาทิเตนฯ ขตฺติยาภิเสเกนาติ ขตฺติยภาวาวเหน อภิเสเกนฯ มุทฺธนิ อวสิตฺโตติ มตฺถเกเยว อภิสิตฺโตฯ เอตฺถ จ ‘‘ยถาวิธานวิหิเตนา’’ติ อิมินา โปราณกาจิณฺณวิธานสมงฺคิตาสงฺขาตํ เอกํ องฺคํ ทสฺเสติ, ‘‘ขตฺติยาภิเสเกนา’’ติ อิมินา ขตฺติยภาวาวหตาสงฺขาตํ, ‘‘มุทฺธนิ อวสิตฺโต’’ติ อิมินา มุทฺธนิเยว อภิสิญฺจิตภาวสงฺขาตํฯ อิติ ติวงฺคสมนฺนาคโต ขตฺติยาภิเสโก วุตฺโต โหติฯ เยน อภิสิตฺตราชูนํ ราชานุภาโว สมิชฺฌติฯ เกน ปนายมตฺโถ วิญฺญายตีติ? โปราณกสตฺถาคตนเยนฯ วุตฺตญฺหิ อคฺคญฺญสุตฺตฏฺฐกถายํ มหาสมฺมตาภิเสกวิภาวนาย ‘‘เต ปนสฺส เขตฺตสามิโน ตีหิ สงฺเขหิ อภิเสกมฺปิ อกํสู’’ติ (ที. นิ. อฏฺฐ. 3.131) มชฺฌิมาคมฏฺฐกถายญฺจ มหาสีหนาทสุตฺตวณฺณนายํ วุตฺตํ ‘‘มุทฺธาวสิตฺเตนาติ ตีหิ สงฺเขหิ ขตฺติยาภิเสเกน มุทฺธนิ อภิสิตฺเตนา’’ติ (ม. นิ. อฏฺฐ. 1.160) สีหฬฏฺฐกถายมฺปิ จูฬสีหนาทสุตฺตวณฺณนายํ ‘‘ปฐมํ ตาว อภิเสกํ คณฺหนฺตานํ ราชูนํ สุวณฺณมยาทีนิ ตีณิ สงฺขานิ จ คงฺโคทกญฺจ ขตฺติยกญฺญญฺจ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ

อยํ ปน ตตฺถาคตนเยน อภิเสกวิธานวินิจฺฉโย – อภิเสกมงฺคลตฺถญฺหิ อลงฺกตปฏิยตฺตสฺส มณฺฑปสฺส อนฺโตกตสฺส อุทุมฺพรสาขมณฺฑปสฺส มชฺเฌ สุปฺปติฏฺฐิเต อุทุมฺพรภทฺทปีฐมฺหิ อภิเสการหํ อภิชจฺจํ ขตฺติยํ นิสีทาเปตฺวา ปฐมํ ตาว มงฺคลาภรณภูสิตา ชาติสมฺปนฺนา ขตฺติยกญฺญา คงฺโคทกปุณฺณํ สุวณฺณมยสามุทฺทิกทกฺขิณาวฏฺฏสงฺขํ อุโภหิ หตฺเถหิ สกฺกจฺจํ คเหตฺวา สีโสปริ อุสฺสาเปตฺวา เตน ตสฺส มุทฺธนิ อภิเสโกทกํ อภิสิญฺจติ, เอวญฺจ วเทติ ‘‘เทว ตํ สพฺเพปิ ขตฺติยคณา อตฺตานมารกฺขตฺถํ อิมินา อภิเสเกน อภิเสกิกํ มหาราชํ กโรนฺติ, ตฺวํ ราชธมฺเมสุ ฐิโต ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรหิ, เอเตสุ ขตฺติยคเณสุ ตฺวํ ปุตฺตสิเนหานุกมฺปาย สหิตจิตฺโต, หิตสมเมตฺตจิตฺโต จ ภว, รกฺขาวรณคุตฺติยา เตสํ รกฺขิโต จ ภวาหี’’ติฯ

ตโต ปุน ปุโรหิโตปิ โปโรหิจฺจฐานานุรูปาลงฺกาเรหิ อลงฺกตปฏิยตฺโต คงฺโคทกปุณฺณํ รชตมยํ สงฺขํ อุโภหิ หตฺเถหิ สกฺกจฺจํ คเหตฺวา ตสฺส สีโสปริ อุสฺสาเปตฺวา เตน ตสฺส มุทฺธนิ อภิเสโกทกํ อภิสิญฺจติ, เอวญฺจ วเทติ ‘‘เทว ตํ สพฺเพปิ พฺราหฺมณคณา อตฺตานมารกฺขตฺถํ อิมินา อภิเสเกน อภิเสกิกํ มหาราชํ กโรนฺติ, ตฺวํ ราชธมฺเมสุ ฐิโต ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรหิ, เอเตสุ พฺราหฺมณคเณสุ ตฺวํ ปุตฺตสิเนหานุกมฺปาย สหิตจิตฺโต, หิตสมเมตฺตจิตฺโต จ ภว, รกฺขาวรณคุตฺติยา เตสํ รกฺขิโต จ ภวาหี’’ติฯ ตโต ปุน เสฏฺฐิปิ เสฏฺฐิฏฺฐานภูสนภูสิโต คงฺโคทกปุณฺณํ รตนมยํ สงฺขํ อุโภหิ หตฺเถหิ สกฺกจฺจํ คเหตฺวา ตสฺส สีโสปริ อุสฺสาเปตฺวา เตน ตสฺส มุทฺธนิ อภิเสโกทกํ อภิสิญฺจติ, เอวญฺจ วเทติ ‘‘เทว ตํ สพฺเพปิ คหปติคณา อตฺตานมารกฺขตฺถํ อิมินา อภิเสเกน อภิเสกิกํ มหาราชํ กโรนฺติ, ตฺวํ ราชธมฺเมสุ ฐิโต ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรหิ, เอเตสุ คหปติคเณสุ ตฺวํ ปุตฺตสิเนหานุกมฺปาย สหิตจิตฺโต, หิตสมเมตฺตจิตฺโต จ ภว, รกฺขาวรณคุตฺติยา เตสํ รกฺขิโต จ ภวาหี’’ติฯ เต ปน ตสฺส เอวํ วทนฺตา ‘‘สเจ ตฺวํ อมฺหากํ วจนานุรูปํ รชฺชํ กริสฺสสิ, อิจฺเจตํ กุสลํฯ โน เจ กริสฺสสิ, ตว มุทฺธา สตฺตธา ผลตู’’ติ เอวํ รญฺโญ อภิสปนฺติ วิยาติ ทฏฺฐพฺพนฺติฯ วฑฺฒกีสูกรชาตกาทีหิ จายมตฺโถ วิภาเวตพฺโพ, อภิเสโกปกรณานิปิ สมนฺตปาสาทิกาทีสุ (ปารา. อฏฺฐ. 1.ตติยสงฺคีติกถา) คเหตพฺพานีติฯ

ยสฺมา นิหตปจฺจามิตฺโต, ตสฺมา น สมนุปสฺสตีติ สมฺพนฺโธฯ อนวชฺชตา กุสลภาเวนาติ อาห ‘‘กุสลํ สีลปทฏฺฐาเนหี’’ติอาทิฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – กุสลสีลปทฏฺฐานา อวิปฺปฏิสารปาโมชฺชปีติปสฺสทฺธิธมฺมา, อวิปฺปฏิสาราทินิมิตฺตญฺจ อุปฺปนฺนํ เจตสิกสุขํ ปฏิสํเวเทติ, เจตสิกสุขสมุฏฺฐาเนหิ จ ปณีตรูเปหิ ผุฏฺฐสรีรสฺส อุปฺปนฺนํ กายิกสุขนฺติฯ

อินฺทฺริยสํวรกถาวณฺณนา

[213] สามญฺญสฺส วิเสสาเปกฺขตาย อิธาธิปฺเปโตปิ วิเสโส เตน อปริจฺจตฺโต เอว โหตีติ อาห ‘‘จกฺขุสทฺโท กตฺถจิ พุทฺธจกฺขุมฺหิ วตฺตตี’’ติอาทิฯ วิชฺชมานเมว หิ อภิเธยฺยภาเวน วิเสสตฺถํ วิเสสนฺตรนิวตฺตเนน วิเสสสทฺโท วิภาเวติ, น อวิชฺชมานํฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยฯ อญฺเญหิ อสาธารณํ พุทฺธานเมว จกฺขุ ทสฺสนนฺติ พุทฺธจกฺขุ, อาสยานุสยญาณํ, อินฺทฺริยปโรปริยตฺตญาณญฺจฯ สมนฺตโต สพฺพโส ทสฺสนฏฺเฐน จกฺขูติ สมนฺตจกฺขุ, สพฺพญฺญุตญฺญาณํฯ ตถูปมนฺติ ปพฺพตมุทฺธูปมํ, ธมฺมมยํ ปาสาทนฺติ สมฺพนฺโธฯ สุเมธ สมนฺตจกฺขุ ตฺวํ ชนตมเวกฺขสฺสูติ อตฺโถฯ อริยมคฺคตฺตยปญฺญาติ เหฏฺฐิมาริยมคฺคตฺตยปญฺญาฯ ‘‘ธมฺมจกฺขุ นาม เหฏฺฐิมา ตโย มคฺคา, ตีณิ จ ผลานี’’ติ สฬายตนวคฺคฏฺฐกถายํ (สํ. นิ. อฏฺฐ. 3.4.418) วุตฺตํ, อิธ ปน มคฺเคเหว ผลานิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสติฯ จตุสจฺจสงฺขาเต ธมฺเม จกฺขูติ หิ ธมฺมจกฺขุฯ ปญฺญาเยว ทสฺสนฏฺเฐน จกฺขูติ ปญฺญาจกฺขุ, ปุพฺเพนิวาสาสวกฺขยญาณํฯ ทิพฺพจกฺขุมฺหีติ ทุติยวิชฺชายฯ อิธาติ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติ อิมสฺมิํ ปาเฐฯ อยนฺติ จกฺขุสทฺโทฯ ‘‘ปสาทจกฺขุโวหาเรนา’’ติ อิมินา อิธ จกฺขุสทฺโท จกฺขุปสาเทเยว นิปฺปริยายโต วตฺตติ, ปริยายโต ปน นิสฺสยโวหาเรน นิสฺสิตสฺส วตฺตพฺพโต จกฺขุวิญฺญาเณปิ ยถา ‘‘มญฺจา อุกฺกุฏฺฐิํ กโรนฺตี’’ติ ทสฺเสติฯ อิธาปิ สสมฺภารกถา อวสิฏฺฐาติ กตฺวา เสสปเทสุปีติ ปิ-สทฺทคฺคหณํ, ‘‘น นิมิตฺตคฺคาหี’’ติอาทิปเทสุปีติ อตฺโถฯ วิวิธํ อสนํ เขทนํ พฺยาเสโก, กิเลโส เอว พฺยาเสโก, เตน วิรหิโต ตถา, วิรหิตตา จ อสมฺมิสฺสตา, อสมฺมิสฺสภาโว จ สมฺปโยคาภาวโต ปริสุทฺธตาติ อาห ‘‘อสมฺมิสฺสํ ปริสุทฺธ’’นฺติ, กิเลสทุกฺเขน อโวมิสฺสํ, ตโต จ สุวิสุทฺธนฺติ อตฺโถฯ สติ จ สุวิสุทฺเธ อินฺทฺริยสํวเร นีวรเณสุ ปธานภูตปาปธมฺมวิคเมน อธิจิตฺตานุโยโค หตฺถคโต เอว โหติ, ตสฺมา อธิจิตฺตสุขเมว ‘‘อพฺยาเสกสุข’’นฺติ วุจฺจตีติ ทสฺเสติ ‘‘อธิจิตฺตสุข’’นฺติ อิมินาฯ