เมนู

สมนุยุญฺชาปนกถาวณฺณนา

[385] อนฺตมิติ อาณตฺติยํ ปญฺจมีอตฺตโนปทํฯ ลทฺธิํ ปุจฺฉนฺโตติ ‘‘กิํ สมโณ โคตโม สํกิเลสธมฺเม อนวเสสํ ปหาย วตฺตติ, อุทาหุ ปเร คณาจริยา, เอตฺถ ตาว อตฺตโน ลทฺธิํ วเทหี’’ติ เอวํ ปฏิญฺญาตํ สิทฺธนฺตํ ปุจฺฉนฺโตฯ การณํ ปุจฺฉนฺโตติ ‘‘สมโณว โคตโม สํกิเลสธมฺเม อนวเสสํ ปหาย วตฺตตี’’ติ วุตฺเต ‘‘การเณนปิ เอตมตฺถํ คาหยา’’ติ เอวํ เหตุํ ปุจฺฉนฺโตฯ อุภยํ ปุจฺฉนฺโตติ ‘‘อิทํ นาเมตฺถ การณ’’นฺติ การณํ วตฺวา ปฏิญฺญาเต อตฺเถ สาธิยมาเน อนฺวยโต, พฺยติเรกโต จ การณํ สมตฺเถตุํ สทิสาสทิสปฺปเภทํ อุปโมทาหรณทฺวยํ ปุจฺฉนฺโตฯ อปิจ เหตุปโมทาหรณวเสน ติลกฺขณสมฺปตฺติยา ยถาปฏิญฺญาเต อตฺเถ สาธิเต สมฺมเทว อนุ ปจฺฉา ภาสนฺโต นิคเมนฺโตปิ สมนุภาสติ นามาติ เวทิตพฺพํฯ ‘‘อุปสํหริตฺวา’’ติ ปาฐเสโสฯ ‘‘กิํ เต’’ติอาทิ อุปสํหรณาการทสฺสนํ ทุติยปเทปีติ ‘‘สงฺเฆน วา สงฺฆ’’นฺติ ปเทปิฯ วจนเสสํ, อุปสํหรณาการญฺจ สนฺธาย ‘‘เอเสว นโย’’ติ วุตฺตํฯ

ตมตฺถนฺติ ตํ ปหาตพฺพธมฺมานํ อนวเสสํ ปหาย วตฺตนสงฺขาตํ, สมาทาตพฺพธมฺมานํ อนวเสสํ สมาทาย วตฺตนสงฺขาตญฺจ อตฺถํฯ โยเชตฺวาติ อกุสลาทิปเทหิ โยเชตฺวาฯ อโกสลฺลสมฺภูตาทิอตฺเถน อกุสลา เจว ตโตเยว อกุสลาติ จ สงฺขาตา, สงฺขาตสทฺโท เจตฺถ ญาตตฺโถ, โกฏฺฐาสตฺโถ จ ยุชฺชตีติ อาห ‘‘ญาตา, โกฏฺฐาสํ วา กตฺวา ฐปิตา’’ติ, ปุริเมน เจตฺถ ปเทน เอกนฺตากุสเล วทติ, ปจฺฉิเมน ตํ สหคเต, ตปฺปฏิปกฺขิเย จฯ เอวญฺหิ โกฏฺฐาสกรเณน ฐปนํ อุปปนฺนํ โหติฯ อกุสลปกฺขิกภาเวน หิ ววตฺถาปนํ โกฏฺฐาสกรณํฯ อวชฺชสทฺโท โทสตฺโถ คารยฺหปริยายตฺตา, อ-สทฺทสฺส จ ตพฺภาววุตฺติโตติ อาห ‘‘สโทสา’’ติฯ อริยา นาม นิทฺโทสาฯ อิเม ปน อกุสลา กถญฺจิปิ นิทฺโทสา น โหนฺตีติ นิทฺโทสฏฺเฐน อริยา ภวิตุํ นาลํ อสมตฺถาฯ

[386-392] ‘‘ย’’นฺติ เอตํ การเณ ปจฺจตฺตวจนนฺติ ทสฺเสติ ‘‘เยนา’’ติ อิมินาฯ ยํ วา ปนาติ อสมฺภาวนาวจนเมตํ, ยํ วา ปน กิญฺจีติ อตฺโถฯ ปหาย วตฺตนฺตีติ จ อตฺถวสา ปุถุวจนวิปริณาโมติ วุตฺตํ ‘‘ยํ วา ตํ วา อปฺปมตฺตกํ ปหาย วตฺตนฺตี’’ติฯ คณาจริยา เจตฺถ ปูรณมกฺขลิอาทโยฯ สตฺถุปภวตฺตา สงฺฆสฺส สงฺฆสมฺปตฺติยาปิ สตฺถุสมฺปตฺติ วิภาวียตีติ อาห ‘‘สงฺฆ…เป.… สิทฺธิโต’’ติ, สา ปน ปสํสา ปสาทเหตุกาติ ปสาทมุเขน ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปสีทมานาปี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ สมฺปิณฺฑนตฺเถน ปิ-สทฺเทน อปฺปสีทมานาปิ เอวเมว น ปสีทนฺตีติ สมฺปิณฺเฑติฯ ยถา หิ อนฺวยโต สตฺถุสมฺปตฺติยา สาวเกสุ, สาวกสมฺปตฺติยา จ สตฺถริ ปสาโท สมุจฺจียติ, เอวํ พฺยติเรกโต สตฺถุวิปตฺติยา สาวเกสุ, สาวกวิปตฺติยา จ สตฺถริอปฺปสาโทติ ทฏฺฐพฺพํฯ ‘‘ตถา หี’’ติอาทิ ตพฺพิวรณํฯ สรีรสมฺปตฺตินฺติ รูปสมฺปตฺติํ, รูปกายปาริปูรินฺติ อตฺโถฯ รูปปฺปมาเณ สตฺเต สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ, ‘‘ธมฺมเทสนํ วา สุตฺวา’’ติ อิทนฺตุ โฆสปฺปมาเณ, ธมฺมปฺปมาเณ จ, ‘‘ภิกฺขูนํ ปนาจารโคจร’’นฺติอาทิํ ปน ธมฺมปฺปมาเณ, ลูขปฺปมาเณ จฯ

อาจารโคจราทีหิ ธมฺโม, สมฺมาปฏิปตฺติยา ลูโข จ โหติ ฯ ตสฺมา ‘‘ภวนฺติ วตฺตาโร’’ติ ปฐมปเท รูปปฺปมาณา, โฆสปฺปมาณา, ธมฺมปฺปมาณา จ, ทุติยปเท ธมฺมปฺปมาณาว โยเชตพฺพาฯ กีวรูโปติ กิตฺตกชาติโกฯ ยา สงฺฆสฺส ปสํสาติ อาเนตฺวา สมฺพนฺโธ, อยเมว วา ปาโฐฯ

ตตฺถ ยา พุทฺธานํ, พุทฺธสาวกานเมว จ ปาสํสตา, อญฺเญสญฺจ ตทภาโว โชติโต, ตํ วิรติปฺปหานสํวรุทฺเทสวเสน นีหริตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อยมธิปฺปาโย’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ เสตุฆาตวิรติยา อริยมคฺคสมฺปยุตฺตตฺตา ‘‘สพฺเพน สพฺพํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํฯ อฏฺฐสมาปตฺติวเสน วิกฺขมฺภนปฺปหานมตฺตํ, วิปสฺสนามตฺตวเสน ตทงฺคปฺปหานมตฺตนฺติ ยถาลาภํ โยเชตพฺพํฯ วิปสฺสนามตฺตวเสนาติ จ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ วา ‘‘ทุกฺข’’นฺติ วา วิวิธํ ทสฺสนมตฺตวเสน, น ปน นามรูปววตฺถานปจฺจยปริคฺคณฺหนปุพฺพกํ ลกฺขณตฺตยํ อาโรเปตฺวา สงฺขารานํ สมฺมสนวเสนฯ นามรูปปริจฺเฉโท, หิ อนตฺตานุปสฺสนา จ พาหิรกานํ นตฺถิฯ อิตรานิ สมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณปฺปหานานิ ตีณิ สพฺเพน สพฺพํ นตฺถิ มคฺคผลนิพฺพานตฺตาฯ โลกิยปญฺจสีลโต อญฺโญ สพฺโพปิ สีลสํวโร, ‘‘ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺสา’’ติอาทินา (ม. นิ. 1.24; 3.159; อ. นิ. 4.114) วุตฺโต สุปริสุทฺโธ ขนฺติสํวโร, ‘‘ปญฺญาเยเต ปิธิยฺยเร’’ติอาทินา (สุ. นิ. 1041; จูฬนิ. 60) วุตฺโต กิเลสานํ สมุจฺเฉทโก มคฺคญาณสงฺขาโต ญาณสํวโร, มนจฺฉฏฺฐานํ อินฺทฺริยานํ ปิทหนวเสน ปวตฺโต สุปริสุทฺโธ อินฺทฺริยสํวโร, ‘‘อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทายา’’ติอาทินา (ที. นิ. 2.403; ม. นิ. 1.135; สํ. นิ. 5.8; วิภ. 205) วุตฺโต สมฺมปฺปธานสงฺขาโต วีริยสํวโรติ อิมํ สํวรปญฺจกํ สนฺธาย ‘‘เสสํ สพฺเพน สพฺพํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํฯ

‘‘ปญฺจ โข ปนิเม ปาติโมกฺขุทฺเทสา’’ติอาทินา ยถาวุตฺตสีลสฺเสว ปุน คหณํ สาสเน สีลสฺส พหุภาวํ ทสฺเสตฺวา ตเทกเทเส เอว ปเรสํ อวฏฺฐานทสฺสนตฺถํฯ ‘‘อุโปสถุทฺเทสา’’ติ อธุนา ปาโฐฯ ปญฺญายตีติ ปติฏฺฐิตภาเวน ปากโฏ โหติ, ตสฺมา มยา หิ…เป.… นตฺถีติ โยเชตพฺพํฯ สีหนาทนฺติ เสฏฺฐนาทํ, อภีตนาทํ เกนจิ อปฺปฏิวตฺติยวาทํฯ ยํ ปน วทนฺติ –

‘‘อุตฺตรสฺมิํ ปเท พฺยคฺฆ-ปุงฺคโวสภกุญฺชร;

สีหสทฺทูลนาคาทฺยา, ปุเม เสฏฺฐตฺถโคจรา’’ติฯ

ตํ เยภุยฺยวเสนาติ ทฏฺฐพฺพํฯ

อริยอฏฺฐงฺคิกมคฺควณฺณนา

[393] ‘‘อยํ ปน ยถาวุตฺโต มม วาโท อวิปรีโตว, ตสฺเสวํ อวิปรีตภาโว อิมํ มคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา อปรปฺปจฺจยโต ชานิตพฺโพ’’ติ เอวํ อวิปรีตภาวาวโพธนตฺถํฯ ปาฬิยํ ‘‘อตฺถิ กสฺสปา’’ติอาทีสุ อยํ โยชนา – ยํ มคฺคํ ปฏิปนฺโน สามํเยว อตฺตปจฺจกฺขโต เอวํ ญสฺสติ ทกฺขติ ‘‘สมโณ โคตโม วทนฺโต ยุตฺตปตฺตกาเล ตถภาวโต ภูตํ, เอกํเสน หิตาวหภาวโต อตฺถํ, ธมฺมโต อนเปตตฺตา ธมฺมํ, วินยโยคโต, ปเรสญฺจ วินยนโต วินยํ วทตี’’ติ, โส มยา สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวทิโต สกลวฏฺฏทุกฺขนิสฺสรณภูโต อตฺถิ กสฺสป มคฺโค, ตสฺส จ อธิคมูปายภูตา ปุพฺพภาคปฏิปทาติ, เตน ‘‘สมโณ โคตโม อิเม ธมฺเม อนวเสสํ ปหาย วตฺตตี’’ติอาทิ นยปฺปวตฺโต วาโท เกนจิ อสมฺปกมฺปิโต ยถาภูต สีหนาโทติ ทสฺเสติฯ ทกฺขตีติ เจตฺถ สฺสติ-สทฺเทน ปทสิทฺธิ ‘‘ยตฺร หิ นาม สาวโก เอวรูปํ ญสฺสติ วา ทกฺขติ วา สกฺขิํ กริสฺสตี’’ติอาทีสุ วิยฯ

‘‘เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย ปสฺสตี’’ติอาทิ สุตฺตปเทสุ (อ. นิ. 3.134) วิย มคฺคญฺจ ปฏิปทญฺจ เอกโต กตฺวา ทสฺเสนฺโตฯ ‘‘อยเมวา’’ติ สาวธารณวจนํ มคฺคสฺส ปุถุภาวปฏิกฺเขปตฺถํ, สพฺพอริยสาธารณภาวทสฺสนตฺถํ, สาสเน ปากฏภาวทสฺสนตฺถญฺจฯ เตนาห ‘‘เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา’’ติ (ที. นิ. 2.373; ม. นิ. 1.106; สํ. นิ. 5.367, 384)ฯ

‘‘เอเสว มคฺโค นตฺถญฺโญ, ทสฺสนสฺส วิสุทฺธิยา’’ติ, (ธ. ป. 274) –