เมนู

จตุปริกฺขาราทิวณฺณนา

[341] ‘‘สุชํ ปคฺคณฺหนฺตาน’’นฺติ เอตฺถ โสณทณฺฑสุตฺตวณฺณนายํ (ที. นิ. อฏฺฐ. 1.311-313) วุตฺเตสุ ทฺวีสุ วิกปฺเปสุ ทุติยวิกปฺปํ นิเสเธนฺโต ‘‘มหายาค’’นฺติอาทิมาห, เตน จ ปุโรหิตสฺส สยเมว กฏจฺฉุคฺคหณโชตเนน เอวํ สหตฺถา สกฺกจฺจํ ทาเน ยุตฺตปยุตฺตตา อิจฺฉิตพฺพาติ ทสฺเสติฯ เอวํ ทุชฺชาตสฺสาติ เอตฺถาปิ ‘‘สุชาตตาย อเนกํสโต องฺคภาวทสฺสนเมวิท’’นฺติ อคฺคเหตฺวา เหฏฺฐา วุตฺตนเยน สพฺพสาธารณวเสเนว อตฺโถ คเหตพฺโพฯ อาทิสทฺเทน หิ ‘‘เอวํ อนชฺฌายกสฺส…เป.… ทุสฺสีลสฺส…เป.… ทุปฺปญฺญสฺส สํวิธาเนน ปวตฺตทานํ กิตฺตกํ กาลํ ปวตฺติสฺสตี’’ติ เอเตสํ สงฺคโห ทฏฺฐพฺโพฯ ตสฺมาติ ตทุภยการณโตฯ

ติสฺโสวิธาวณฺณนา

[342] ติณฺณํ ฐานานนฺติ ทานสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานสงฺขาตานํ ติสฺสนฺนํ ภูมีนํ, อวตฺถานานนฺติ อตฺโถฯ จลนฺตีติ กมฺปนฺติ ปุริมากาเรน น ติฏฺฐนฺติฯ กรณตฺเถติ ตติยาวิภตฺติอตฺเถฯ กรณียสทฺทาเปกฺขาย หิ กตฺตริ เอว เอตํ สามิวจนํ, น กรเณฯ เยภุยฺเยน หิ กรณโชตกวจนสฺส อตฺถภาวโต อนุตฺตกตฺตาว กรณตฺโถติ อิธาธิปฺเปโตฯ ปจฺฉานุตาปสฺส อกรณูปายํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุพฺพ…เป.… ปติฏฺฐเปตพฺพา’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺถ อจลาติ ทฬฺหา เกนจิ อสํหีราฯ ปติฏฺฐเปตพฺพาติ สุปฺปติฏฺฐิตา กาตพฺพาฯ ตถา ปติฏฺฐาปนูปายมฺปิ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวญฺหี’’ติอาทิมาหฯ ตถา ปติฏฺฐาปเนน หิ ยถา ตํ ทานํ สมฺปติ ยถาธิปฺปายํ นิปฺปชฺชติ, เอวํ อายติมฺปิ วิปุลผลตาย มหปฺผลํ โหติ วิปฺปฏิสาเรน อนุปกฺกิลิฏฺฐภาวโตฯ ทฺวีสุ ฐาเนสูติ ยชมานยิฏฺฐฏฺฐาเนสุฯ วิปฺปฏิสาโร…เป.… น กตฺตพฺโพติ อตฺถํ สนฺธาย ‘‘เอเสว นโย’’ติ วุตฺตํฯ มุญฺจเจตนาติ ปริจฺจาคเจตนา, ตสฺสา นิจฺจลภาโว นาม มุตฺตจาคตา ปุพฺพาภิสงฺขารวเสน อุฬารภาโวฯ ปจฺฉาสมนุสฺสรณเจตนาติ ปรเจตนา, ตสฺสา ปน นิจฺจลภาโว ‘‘อโห มยา ทานํ ทินฺนํ สาธุ สุฏฺฐู’’ติ ทานสฺส สกฺกจฺจํ ปจฺจเวกฺขณวเสน เวทิตพฺโพฯ ตทุภยเจตนานํ นิจฺจลกรณูปายํ พฺยติเรกโต ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา…เป.… โหตี’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺถ ตถา อกโรนฺตสฺสาติ มุญฺจเจตนํ, ปจฺฉาสมนุสฺสรณเจตนญฺจ นิจฺจลมกโรนฺตสฺส, วิปฺปฏิสารํ, อุปฺปาเทนฺตสฺสาติ วุตฺตํ โหติฯ ‘‘นาปิ อุฬาเรสุ โภเคสุ จิตฺตํ นมตี’’ติ อิทํ ปน ปจฺฉาสมนุสฺสรณเจตนาย เอว พฺยติเรกโต นิจฺจลกรณูปายทสฺสนํฯ เอวญฺหิ ยถานิทฺทิฏฺฐนิทสฺสนํ อุปปนฺนํ โหติฯ ตตฺถ อุฬาเรสุ โภเคสูติ เขตฺตวิเสเส ปริจฺจาคสฺส กตตฺตา ลทฺเธสุปิ อุฬาเรสุ โภเคสุฯ นาปิ จิตฺตํ นมติ ปจฺฉา วิปฺปฏิสาเรน อุปกฺกิลิฏฺฐภาวโตฯ ยถา กถนฺติ อาห ‘‘มหาโรรุว’’นฺติอาทิฯ ตสฺส หิ เสฏฺฐิสฺส คหปติโน วตฺถุ โกสลสํยุตฺเต, (สํ. นิ. 1.131) มยฺหกชาตเก (ชา. อฏฺฐ. 3.6.มยฺหกชาตกวณฺณนา) จ อาคตํฯ ตถา หิ วุตฺตํ –

‘‘ภูตปุพฺพํ โส มหาราช เสฏฺฐิ คหปติ ตครสิขิํ นาม ปจฺเจกสมฺพุทฺธํ ปิณฺฑปาเตน ปฏิปาเทสิ, ‘เทถ สมณสฺส ปิณฺฑปาต’นฺติ วตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกามิ, ทตฺวา จ ปน ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อโหสิ ‘‘วรเมตํ ปิณฺฑปาตํ ทาสา วา กมฺมกรา วา ภุญฺเชยฺยุ’’’นฺติอาทิฯ

โส กิร อญฺเญสุปิ ทิวเสสุ ตํ ปจฺเจกพุทฺธํ ปสฺสติ, ทาตุํ ปนสฺส จิตฺตํ น อุปฺปชฺชติ, ตสฺมิํ ปน ทิวเส อยํ ปทุมวติยา เทวิยา ตติยปุตฺโต ตครสิขี ปจฺเจกพุทฺโธ คนฺธมาทนปพฺพเต ผลสมาปตฺติสุเขน วีตินาเมตฺวา ปุพฺพณฺหสมเย วุฏฺฐาย อโนตตฺตทเห มุขํ โธวิตฺวา มโนสิลาตเล นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อภิญฺญาปาทกํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา อิทฺธิยา เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา นครทฺวาเร โอรุยฺห จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตมาทาย นครวาสีนํ ฆรทฺวาเรสุ สหสฺสภณฺฑิกํ ฐเปนฺโต วิย ปาสาทิเกหิ อภิกฺกมนาทีหิ อนุปุพฺเพน เสฏฺฐิโน ฆรทฺวารํ สมฺปตฺโต, ตํ ทิวสญฺจ เสฏฺฐิ ปาโตว อุฏฺฐาย ปณีตํ โภชนํ ภุญฺชิตฺวา ฆรทฺวารโกฏฺฐเก อาสนํ ปญฺญเปตฺวา ทนฺตนฺตรานิ โสเธนฺโต นิสินฺโน โหติฯ โส ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา ตํ ทิวสํ ปาโตว ภุตฺวา นิสินฺนตฺตา ทานจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา ภริยํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิมสฺส สมณสฺส ปิณฺฑปาตํ เทหี’’ติ วตฺวา ราชุปฏฺฐานตฺถํ ปกฺกามิฯ เสฏฺฐิภริยา สมฺปชญฺญชาติกา จินฺเตสิ ‘‘มยา เอตฺตเกน กาเลน อิมสฺส ‘เทถา’ติ วจนํ น สุตปุพฺพํ, ทาเปนฺโตปิ จ อชฺช น ยสฺส วา ตสฺส วา ทาเปติ, วีตราคโทสโมหสฺส วนฺตกิเลสสฺส โอหิตภารสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทาเปติ, ยํ วา ตํ วา อทตฺวา ปณีตํ ปิณฺฑปาตํ ทสฺสามี’’ติ ฆรา นิกฺขมฺม ปจฺเจกพุทฺธํ ปญฺจปติฏฺฐิเตน วนฺทิตฺวา ปตฺตํ อาทาย อนฺโตนิเวสเน ปญฺญตฺตาสเน นิสีทาเปตฺวา สุปริสุทฺเธหิ สาลิตณฺฑุเลหิ ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา ตทนุรูปํ ขาทนียํ, พฺยญฺชนํ, สูเปยฺยญฺจ อภิสงฺขริตฺวา ปตฺตํ ปูเรตฺวา พหิ คนฺเธหิ อลงฺกริตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส หตฺเถสุ ปติฏฺฐเปตฺวา วนฺทิฯ ปจฺเจกพุทฺโธ ‘‘อญฺเญสมฺปิ ปจฺเจกพุทฺธานํ สงฺคหํ กริสฺสามี’’ติ อปริภุญฺชิตฺวาว อนุโมทนํ วตฺวา ปกฺกามิฯ โสปิ โข เสฏฺฐิ ราชุปฏฺฐานํ กตฺวา อาคจฺฉนฺโต ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา อาห ‘‘มยํ ตุมฺหากํ ปิณฺฑปาตํ เทถา’’ติ วตฺวา ปกฺกนฺตา, อปิ โว ลทฺโธ ปิณฺฑปาโต’’ติ? อาม, เสฏฺฐิ ลทฺโธติฯ

‘‘ปสฺสามา’’ติ คีวํ อุกฺขิปิตฺวา โอโลเกสิ , อถสฺส ปิณฺฑปาตคนฺโธ อุฏฺฐหิตฺวา นาสปุฏํ ปหริฯ โส จิตฺตํ สํยเมตุํ อสกฺโกนฺโต ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อโหสิ, ตสฺส ปน วิปฺปฏิสารสฺส อุปฺปนฺนากาโร ‘‘วรเมต’’นฺติอาทินา ปาฬิยํ วุตฺโตเยวฯ ปิณฺฑปาตทาเนน ปเนส สตฺตกฺขตฺตุํ สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺโน, สตฺตกฺขตฺตุเมว จ สาวตฺถิยํ เสฏฺฐิกุเล นิพฺพตฺโต, อยญฺจสฺส สตฺตโม ภโว, ปจฺฉา วิปฺปฏิสาเรน ปน นาปิ อุฬาเรสุ โภเคสุ จิตฺตํ นมติฯ วุตฺตญฺเหตํ สํยุตฺตวรลญฺฉเก –

‘‘ยํ โข โส มหาราช เสฏฺฐิ คหปติ ทตฺวา ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี อโหสิ ‘วรเมตํ ปิณฺฑปาตํ ทาสา วา กมฺมกรา วา ภุญฺเชยฺยุ’นฺติ, ตสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน นาสฺสุฬาราย ภตฺตโภคาย จิตฺตํ นมติ, นาสฺสุฬาราย วตฺถโภคาย, ยานโภคาย, นาสฺสุฬารานํ ปญฺจนฺนํ กามคุณานํ โภคาย จิตฺตํ นมตี’’ติ (สํ. นิ. 1.131)ฯ

มยฺหกชาตเกปิ วุตฺตํ –

‘‘อิติ มหาราช อาคนฺตุกเสฏฺฐิ ตครสิขิปจฺเจกพุทฺธสฺส ทินฺนปจฺจเยน พหุํ ธนํ ลภิ , ทตฺวา อปรเจตนํ ปณีตํ กาตุํ อสมตฺถตาย ปณีเต โภเค ภุญฺชิตุํ นาสกฺขี’’ติ (ชา. อฏฺฐ. 3.6.มยฺหกชาตกวณฺณนา)ฯ

ภาตุ ปเนส เอกํ ปุตฺตํ (ธ. ป. อฏฺฐ. 2.354) สาปเตยฺยสฺส การณา ชีวิตํ โวโรเปสิ, เตน กมฺเมน พหูนิ วสฺสานิ นิรเย ปจฺจิตฺถ, สตฺตกฺขตฺตุญฺจ อปุตฺตโก ชาโต, อิทานิปิ เตเนว กมฺเมน มหาโรรุวํ อุปปนฺโนฯ เตน วุตฺตํ ‘‘มหาโรรุวํ อุปปนฺนสฺส เสฏฺฐิคหปติโน วิยา’’ติ, ปุริมปจฺฉิมเจตนาวเสน เจตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ เอกา หิ เจตนา ทฺเว ปฏิสนฺธิโย น เทตีติฯ

ทสอาการวณฺณนา

[343] อากโรติ อตฺตโน อนุรูปตาย สมริยาทปริจฺเฉทํ ผลํ นิพฺพตฺเตตีติ อากาโร, การณนฺติ อาห ‘‘ทสหิ การเณหี’’ติฯ มริยาทตฺโถ เหตฺถ อา-สทฺโทฯ น ทุสฺสีเลสฺเวว, อถ โข สีลวนฺเตสุปิ วิปฺปฏิสารํ อุปฺปาเทสฺสติฯ ตทุภเยปิ น อุปฺปาเทตพฺโพติ หิ ทสฺเสตุํ อปิ-สทฺเทน, ปิ-สทฺเทน วา สมฺปิณฺฑนํ กโรติฯ ปฏิคฺคาหกโตว อุปฺปชฺชตีติ พลวตรํ วิปฺปฏิสารํ สนฺธาย วุตฺตํ, ทุพฺพโล ปน เทยฺยธมฺมโต, ปริวารชนโตปิ อุปฺปชฺชเตวฯ อุปฺปชฺชิตุํ ยุตฺตนฺติ อุปฺปชฺชนารหํฯ วิปฺปฏิสารมฺปิ วิโนเทสีติ สมฺพนฺโธฯ เตสํเยวาติ ปาณาติปาตีนเมวฯ ยชนํ นาเมตฺถ ทานเมวาธิปฺเปตํ, น อคฺคิชุหนนฺติ อาห ‘‘เทตุ ภว’’นฺติฯ วิสฺสชฺชตูติ มุตฺตจาควเสน จชตุฯ อพฺภนฺตรนฺติ อชฺฌตฺตํ สกสนฺตาเนฯ

โสฬสาการวณฺณนา

[344] อนุมติปกฺขาทโย เอว เหฏฺฐา ยญฺญสฺส วตฺถุํ กตฺวา ‘‘โสฬสปริกฺขารา’’ติ วุตฺตา, อิธ ปน สนฺทสฺสนาทิวเสน อนุโมทนาย อารทฺธตฺตา วุตฺตํ ‘‘โสฬสหิ อากาเรหี’’ติฯ ทสฺเสตฺวาติ อตฺตโน เทสนานุภาเวน ปจฺจกฺขมิว ผลํ ทสฺเสตฺวา, อเนกวารํ ปน ทสฺสนโต ‘‘ทสฺเสตฺวา ทสฺเสตฺวา’’ติ พฺยาปนวจนํ, ตเทว อาภุโส เมฑนฏฺเฐน อาเมฑิตวจนนฺติ อาจริเยน (ที. นิ. ฏี. 1.344) วุตฺตํฯ ‘‘สมาทเปตฺวา สมาทเปตฺวา’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโยฯ ตมตฺถนฺติ ทานผลวเสน กมฺมผลสมฺพนฺธมตฺถํฯ สมาทเปตฺวาติ สุตมตฺตํ อกตฺวา ยถา ราชา ตมตฺถํ สมฺมเทว อาทิยติ จิตฺเต กโรนฺโต สุคฺคหิตํ กตฺวา คณฺหาติ, ตถา สกฺกจฺจํ อาทาเปตฺวาฯ

‘‘วิปฺปฏิสารวิโนทเนนา’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํฯ โลภโทสโมหอิสฺสามจฺฉริยมานาทโยปิ หิ ทานจิตฺตสฺส อุปกฺกิเลสา, เตสํ วิโนทเนนปิ ตํ โวทาปิตํ สมุตฺเตชิตํ นาม โหติ ติกฺขวิสทภาวาปตฺติโต, อาสนฺนตรภาวโต ปน วิปฺปฏิสารวิโนทนเมว คหิตํฯ ปวตฺติเต หิ ทาเน ตสฺส สมฺภโวติฯ ยาถาวโต วิชฺชมาเนหิ คุเณหิ หฏฺฐปหฏฺฐภาวาปาทนํ สมฺปหํสนนฺติ อาห ‘‘สุนฺทร’’นฺติอาทิฯ ธมฺมโตติ สจฺจโตฯ ตทตฺถเมว ทสฺเสตุํ ‘‘ธมฺเมน สเมน การเณนา’’ติ วุตฺตํฯ สจฺจญฺหิ ธมฺมโต อนเปตตฺตา ธมฺมํ, อุปสมจริยภาวโต สมํ, ยุตฺตภาเวน การณนฺติ จ วุจฺจติฯ