เมนู

พฺราหฺมณปญฺญตฺติวณฺณนา

[309] อโนนตกายวเสน ถทฺธคตฺโต, น มานวเสนฯ เตน ปาฬิยํ วกฺขติ ‘‘อพฺภุนฺนาเมตฺวา’’ติฯ เจโตวิตกฺกํ สนฺธาย จิตฺตสีเสน ‘‘จิตฺตํ อญฺญาสี’’ติ วุตฺตํฯ วิฆาตนฺติ จิตฺตทุกฺขํฯ

[311] สกสมเยติ พฺราหฺมณลทฺธิยํฯ มียมาโนติ มริยมาโนฯ ทิฏฺฐิสญฺชานเนเนวาติ อตฺตโน ลทฺธิสญฺชานเนเนวฯ สุชนฺติ โหมทพฺพิํ, นิพฺพจนํ วุตฺตเมวฯ คณฺหนฺเตสูติ ชุหนตฺถํ คณฺหนเกสุ, อิรุวิชฺเชสูติ อตฺโถฯ อิรุเวทวเสน โหมกรณโต หิ ยญฺญยชกา ‘‘อิรุวิชฺชา’’ติ วุจฺจนฺติฯ ปฐโม วาติ ตตฺถ สนฺนิปติเตสุ สุชากิริยายํ สพฺพปธาโน วาฯ ทุติโย วาติ ตทนนฺตริโก วาฯ ‘‘สุช’’นฺติ อิทํ กรณตฺเถ อุปโยควจนนฺติ อาห ‘‘สุชายา’’ติฯ อคฺคิหุตฺตมุขตาย ยญฺญสฺส ยญฺเญ ทิยฺยมานํ สุชามุเขน ทิยฺยติฯ วุตฺตญฺจ ‘‘อคฺคิหุตฺตมุขา ยญฺญา, สาวิตฺตี ฉนฺทโส มุข’’นฺติ (ม. นิ. 2.400)ฯ ตสฺมา ‘‘ทิยฺยมาน’’นฺติ อยํ ปาฐเสโส วิญฺญายตีติ อาจริเยน (ที. นิ. ฏี. 1.311) วุตฺตํฯ อปิจ สุชาย ทิยฺยมานํ สุชนฺติ ตทฺธิตวเสน อตฺถํ ทสฺเสตุํ เอวมาหฯ โปราณาติ อฏฺฐกถาจริยาฯ ปุริมวาเท เจตฺถ ทานวเสน ปฐโม วา ทุติโย วา, ปจฺฉิมวาเท อาทานวเสนาติ อยเมเตสํ วิเสโสฯ วิเสสโตติ วิชฺชาจรณวิเสสโต, น พฺราหฺมเณหิ อิจฺฉิตวิชฺชาจรณมตฺตโตฯ อุตฺตมพฺราหฺมณสฺสาติ อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยตาย อุกฺกฏฺฐพฺราหฺมณสฺสฯ ยถาธิปฺเปตสฺส หิ วิชฺชาจรณวิเสสทีปกสฺส ‘‘กตมํ ปน ตํ พฺราหฺมณสีลํ, กตมา สา ปญฺญา’’ติอาทิวจนสฺส โอกาสกรณตฺถเมว ‘‘อิเมสํ ปน พฺราหฺมณ ปญฺจนฺนํ องฺคาน’’นฺติอาทิวจนํ ภควา อโวจ, ตสฺมา ปธานวจนานุรูปมนุสนฺธิํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภควา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ

[313] อปวทตีติ วณฺณาทีนิ อปเนตฺวา วทติ, อตฺถมตฺตํ ปน ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิกฺขิปตี’’ติ วุตฺตํฯ อิทนฺติ ‘‘มา ภวํ โสณทณฺโฑ เอวํ อวจา’’ติอาทิวจนํฯ พฺราหฺมณสมยนฺติ พฺราหฺมณสิทฺธนฺตํฯ มา ภินฺทีติ มา วินาเสสิฯ

[316] สโมเยว หุตฺวา สโมติ สมสโม, สพฺพถา สโมติ อตฺโถฯ ปริยายทฺวยญฺหิ อติสยตฺถทีปกํ ยถา ‘‘ทุกฺขทุกฺขํ, รูปรูป’’นฺติฯ

เอกเทสมตฺตโต ปน องฺคเกน มาณเวน เตสํ สมภาวโต ตํ นิวตฺเตนฺโต ‘‘ฐเปตฺวา เอกเทสมตฺต’’นฺติอาทิมาหฯ กุลโกฏิปริทีปนนฺติ กุลสฺส อาทิปริทีปนํฯ ยสฺมา อตฺตโน ภคินิยา…เป.… น ชานิสฺสติ, ตสฺมา น ตสฺส มาตาปิตุมตฺตํ สนฺธาย วทติ, กุลโกฏิปริทีปนํ ปน สนฺธาย วทตีติ อธิปฺปาโยฯ ‘‘อตฺถภญฺชนก’’นฺติ อิมินา กมฺมปถปตฺตํ วทติฯ คุเณติ ยถาวุตฺเต ปญฺจสีเลฯ อถาปิ สิยาติ ยทิปิ ตุมฺหากํ เอวํ ปริวิตกฺโก สิยา, ภินฺนสีลสฺสาปิ ปุน ปกติสีเล ฐิตสฺส พฺราหฺมณภาวํ วณฺณาทโย สาเธนฺตีติ เอวํ สิยาติ อตฺโถฯ ‘‘สาเธตี’’ติ ปาเฐ ‘‘วณฺโณ’’ติ กตฺตา อาจริเยน (ที. นิ. ฏี. 1.316) อชฺฌาหโฏ, นิทสฺสนญฺเจตํฯ มนฺตชาตีสุปิ หิ เอเสว นโยฯ สีลเมวาติ ปุน ปกติภูตํ สีลเมว พฺราหฺมณภาวํ สาเธสฺสติ, กสฺมาติ เจ ‘‘ตสฺมิํ หิ…เป.… วณฺณาทโย’’ติฯ ตตฺถ สมฺโมหมตฺตํ วณฺณาทโยติ วณฺณมนฺตชาติโย พฺราหฺมณภาวสฺส องฺคนฺติ สมฺโมหมตฺตเมตํ, อสมเวกฺขิตฺวา กถิตมิทํฯ

สีลปญฺญากถาวณฺณนา

[317] กถิโต พฺราหฺมเณน ปญฺโหติ ‘‘สีลวา จ โหตี’’ติอาทินา ทฺวินฺนเมว องฺคานํ วเสน ยถาปุจฺฉิโต ปญฺโห ยาถาวโต วิสฺสชฺชิโตฯ เอตฺถาติ ยถาวิสฺสชฺชิเต อตฺเถ, องฺคทฺวเย วาฯ ตสฺสาติ โสณทณฺฑสฺสฯ ยทิ เอกมงฺคํ ฐเปยฺย, อถ ปติฏฺฐาตุํ น สกฺกุเณยฺยฯ ยทิ ปน น ฐเปยฺย, อถ สกฺกุเณยฺย, กิํ ปเนส ตถา สกฺขิสฺสติ นุ โข, โนติ วีมํสนตฺถเมว เอวมาห, น ตุ เอกสฺส องฺคสฺส ฐปนียตฺตาติ วุตฺตํ โหติฯ ตถา จาห ‘‘เอวเมตํ พฺราหฺมณา’’ติอาทิฯ โธวิตตฺตาว ปริสุชฺฌนนฺติ อาห ‘‘สีลปริสุทฺธา’’ติ, สีลสมฺปตฺติยา สพฺพโส สุทฺธา อนุปกฺกิลิฏฺฐาติ อตฺโถฯ กุโต ทุสฺสีเล ปญฺญา อสมาหิตตฺตา ตสฺสฯ กุโต วา ปญฺญารหิเต ชเฬ เอฬมูเค สีลํ สีลวิภาคสฺส, สีลปริโสธนูปายสฺส จ อชานนโตฯ เอฬา มุเข คฬติ ยสฺสาติ เอฬมูโค ข-การสฺส ค-การํ กตฺวา, เอลมุโข, เอลมูโก วาฯ อิติ พหุธา ปาโฐติ ภยเภรวสุตฺตฏฺฐกถายํ (ม. นิ. อฏฺฐ. 1.48) วุตฺโตฯ ปกฏฺฐํ อุกฺกฏฺฐํ ญาณํ ปญฺญาณนฺติ กตฺวา ปากติกํ ญาณํ นิวตฺเตตุํ ‘‘ปญฺญาณ’’นฺติ วุตฺตํฯ วิปสฺสนาทิญาณญฺหิ อิธาธิปฺเปตํ, ตเทตํ ปกาเรหิ ชานนโต ปญฺญาวาติ อาห ‘‘ปญฺญาเยวา’’ติฯ