เมนู

50. วิปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา

[471-2] นามรูปํ ปริคฺคยฺหาติ เอตฺถ (วิสุทฺธิ. 2.662 อาทโย) นามรูปปริคฺคหํ กาตุกาเมน ตาว ฐเปตฺวา เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อวเสเสสุ ยํ กิญฺจิ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺฐาย วิตกฺกาทีนิ ฌานงฺคานิ จ ตํสมฺปยุตฺเต จ ผสฺสาทโย ธมฺเม ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺฐานปทฏฺฐานวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘สพฺพเมตํ อารมฺมณาภิมุขํ นมนโต นมนฏฺเฐน นาม’’นฺติ ววตฺถเปตพฺพํฯ ตโต ตสฺส ปจฺจยํ ปริเยสนฺโต ‘‘หทยวตฺถุํ นิสฺสาย วตฺตตี’’ติ ปสฺสติ, ปุน วตฺถุสฺส ปจฺจยภูตานิ จ อุปาทารูปานิ จ ปสฺสิตฺวา ‘‘อิทํ สพฺพํ รุปฺปนโต วิการาปตฺติโต รูป’’นฺติ ปริคฺคณฺหาติฯ ปุน ตทุภยํ ‘‘นมนลกฺขณํ นามํ, รุปฺปนลกฺขณํ รูป’’นฺติ เอวํ สงฺเขปโต นามรูปํ ววตฺถเปติฯ อิทํ สพฺพํ สมถยานิกวเสน วุตฺตํฯ วิปสฺสนายานิโก ปน จตุธาตุววตฺถานมุเขน ภูตุปาทายรูปานิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘สพฺพเมตํ รุปฺปนโต รูป’’นฺติ ปสฺสติฯ ตโต เอวํ ปริจฺฉินฺนรูปสฺส จกฺขาทีนิ นิสฺสาย ปวตฺตมานา อรูปธมฺมาปิ อาปาถมาคจฺฉนฺติฯ ตโต สพฺเพปิ เต อรูปธมฺเม นมนลกฺขเณน เอกโต กตฺวา ‘‘เอตํ นาม’’นฺติ ปสฺสติฯ โส ‘‘อิทํ นามํ, อิทํ รูป’’นฺติ ทฺเวธา ววตฺถเปติฯ เอวํ ววตฺถเปตฺวา ‘‘นามรูปโต อุทฺธํ อญฺโญ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา โปโส วา เทโว วา พฺรหฺมา วา นตฺถี’’ติ ปสฺสติฯ

ยถาหิ องฺคสมฺภารา, โหติ สทฺโท รโถ อิติ;

เอวํ ขนฺเธสุ สนฺเตสุ, โหติ สตฺโตติ สมฺมุติฯ (สํ. นิ. 1.171);

เอวเมว ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ สติ สตฺโต, ปุคฺคโลติ วา โวหารมตฺโต โหตีติ เอวมาทินา นเยน นามรูปานํ ยาถาวทสฺสนสงฺขาเตน ทิฏฺฐิวิสุทฺธิภูเตน ญาเณน นามรูปํ ปริคฺคยฺหาติ อตฺโถฯ

ตโต ตสฺส จ ปจฺจยนฺติ ปุน ตสฺส นามรูปสฺส ปจฺจยํ ปริคฺคยฺหาติ อตฺโถฯ วุตฺตนเยน นามรูปํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ‘‘โก นุ โข อิมสฺส เหตู’’ติ ปริเยสนฺโต อเหตุวาทวิสมเหตุวาเทสุ โทสํ ทิสฺวา โรคํ ทิสฺวา ตสฺส นิทานสมุฏฺฐานํ ปริเยสนฺโต เวชฺโช วิย ตสฺส เหตุญฺจ ปจฺจยญฺจ ปริเยสนฺโต อวิชฺชา ตณฺหา อุปาทานํ กมฺมนฺติ อิเม จตฺตาโร ธมฺเม นามรูปสฺส อุปฺปาทปจฺจยตฺตา ‘‘เหตู’’ติ จ อาหารํ อุปตฺถมฺภนสฺส ปจฺจยตฺตา ‘‘ปจฺจโย’’ติ จ ปสฺสติฯ ‘‘อิมสฺส กายสฺส อวิชฺชาทโย ตโย ธมฺมา มาตา วิย ทารกสฺส อุปนิสฺสยา โหนฺติ, กมฺมํ ปิตา วิย ปุตฺตสฺส ชนกํ, อาหาโร ธาติ วิย ทารกสฺส สนฺธารโก’’ติ เอวํ รูปกายสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กตฺวา ปุน ‘‘จกฺขุญฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณ’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. 2.43) นเยน นามกายสฺสปิ เหตุปจฺจยํ ปริคฺคณฺหาติฯ

เอวํ ปริคฺคณฺหนฺโต ‘‘อตีตานาคตาปิ ธมฺมา เอวเมว ปวตฺตนฺตี’’ติ สนฺนิฏฺฐานํ กโรติฯ ตสฺส ยา สา ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ ‘‘อโหสิํ นุ โข อหํ อตีตมทฺธานํ, น นุ โข อโหสิํ, กิํ นุ โข, กถํ นุ โข, กิํ หุตฺวา กิํ อโหสิํ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติ ปญฺจวิธา วิจิกิจฺฉา วุตฺตา, ยาปิ อปรนฺตํ อารพฺภ ‘‘ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธานํ, น นุ โข, กิํ นุ โข, กถํ นุ โข, กิํ หุตฺวา กิํ ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธาน’’นฺติ ปญฺจวิธา วุตฺตา, ยาปิ เอตรหิ วา ปน ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ อารพฺภ ‘‘อชฺฌตฺตํ กถํกถี โหติ, อหํ นุ โขสฺมิ, โน นุ โขสฺมิ, กิํ นุ โขสฺมิ, กถํ นุ โขสฺมิ, อยํ นุ โข สตฺโต กุโต อาคโต, โส กุหิํ คามี ภวิสฺสตี’’ติ ฉพฺพิธา วิจิกิจฺฉา วุตฺตา, ตา สพฺพาปิ ปหียนฺติฯ

เอวํ ปจฺจยปริคฺคหเณน ตีสุ อทฺธาสุ กงฺขํ วิตริตฺวา ฐิตํ ญาณํ ‘‘กงฺขาวิตรณวิสุทฺธี’’ติปิ ‘‘ธมฺมฏฺฐิติญาณ’’นฺติปิ ‘‘สมฺมาทสฺสน’’นฺติปิ วุจฺจติฯ

เอตฺถ ปน ติสฺโส โลกิยปริญฺญา ญาตปริญฺญา ตีรณปริญฺญา ปหานปริญฺญาติฯ ตตฺถ ‘‘รุปฺปนลกฺขณํ รูปํ, เวทยิตลกฺขณา เวทนา’’ติ เอวํ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ปจฺจตฺตลกฺขณสลฺลกฺขณวเสน ปวตฺตา ปญฺญา ญาตปริญฺญานามฯ ‘‘รูปํ อนิจฺจํ, เวทนา อนิจฺจา’’ติอาทินา เตสํเยว ธมฺมานํ สามญฺญลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาปญฺญา ตีรณปริญฺญา นามฯ เตสุ เอวํ ปน ธมฺเมสุ นิจฺจสญฺญาทิปชหนวเสน ปวตฺตา ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนา ปหานปริญฺญา นามฯ ตตฺถ สงฺขารปริคฺคหโต ปฏฺฐาย ยาว ปจฺจยปริคฺคหา ญาตปริญฺญาย ภูมิฯ กลาปสมฺมสนโต ปฏฺฐาย ยาว อุทยพฺพยานุปสฺสนา ตีรณปริญฺญาย ภูมิฯ ภงฺคานุปสฺสนโต ปฏฺฐาย ปหานปริญฺญาย ภูมิฯ ตโต ปฏฺฐาย หิ ‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสญฺญํ ปชหติ, ทุกฺขโต อนุปสฺสนฺโต สุขสญฺญํ, อนตฺตโต อนุปสฺสนฺโต อตฺตสญฺญํ, นิพฺพินฺทนฺโต นนฺทิํ, วิรชฺชนฺโต ราคํ, นิโรเธนฺโต สมุทยํ, ปฏินิสฺสชฺชนฺโต อาทานํ ปชหตี’’ติ (ปฏิ. ม. 1.52) เอวํ ปชหนฺโต นิจฺจสญฺญาทิปหานสาธิกานํ สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ อาธิปจฺจํ โหติฯ อิติ อิมาสุ ปริญฺญาสุ สงฺขารปริจฺเฉทสฺส เจว ปจฺจยปริคฺคหสฺส จ สาธิตตฺตา อิมินา โยคินา ญาตปริญฺญา อธิคตา โหติฯ

ปุน ‘‘ยํ กิญฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ รูปํ หุตฺวา อภาวโต อนิจฺจํ, อุทยพฺพยปฺปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขํ, อวสวตฺติตฺตา อนตฺตาฯ

ยา กาจิ เวทนา, ยา กาจิ สญฺญา, เย เกจิ สงฺขารา, ยํ กิญฺจิ วิญฺญาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ วิญฺญาณํ หุตฺวา อภาวโต อนิจฺจํ, อุทยพฺพยปฺปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขํ, อวสวตฺติตฺตา อนตฺตา’’ติ เอวมาทินา นเยน กลาปสมฺมสนํ กโรติฯ อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวาน สงฺขาเร สมฺมสนฺโต’’ติฯ

เอวํ สงฺขาเรสุ อนิจฺจทุกฺขอนตฺตวเสน กลาปสมฺมสนํ กตฺวา ปุน สงฺขารานํ อุทยพฺพยเมว ปสฺสติฯ กถํ? ‘‘อวิชฺชาสมุทยา (ปฏิ. ม. 1.50) รูปสมุทโย, ตณฺหากมฺมอาหารสมุทยา รูปสมุทโย’ติ เอวํ รูปกฺขนฺธสฺส ปจฺจยสมุทยทสฺสนฏฺเฐน รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ, นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสตี’’ติ เอวํ ปญฺจหากาเรหิ รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติฯ ‘‘อวิชฺชานิโรธา รูปนิโรโธ, ตณฺหากมฺมอาหารนิโรธา รูปนิโรโธ’ติ เอวํ รูปกฺขนฺธสฺส ปจฺจยนิโรธทสฺสนฏฺเฐน รูปกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ, วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ รูปกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสตี’’ติ เอวํ ปญฺจหากาเรหิ วยํ ปสฺสติฯ ตถา ‘‘อวิชฺชาสมุทยา เวทนาสมุทโย, ตณฺหากมฺมผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโย’’ติ เวทนากฺขนฺธสฺส, นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติฯ ‘‘อวิชฺชานิโรธา เวทนานิโรโธ, ตณฺหากมฺมผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ’’ติ เวทนากฺขนฺธสฺส, วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติฯ เอวํ สญฺญากฺขนฺธาทีสุปิฯ อยํ ปน วิเสโส – วิญฺญาณกฺขนฺธสฺส ผสฺสฏฺฐาเน นามรูปสมุทยา, นามรูปนิโรธาติ โยเชตพฺพํฯ

เอวํ เอเกกสฺมิํ ขนฺเธ ปจฺจยสมุทยวเสน จ นิพฺพตฺติลกฺขณวเสน จ ปจฺจยนิโรธวเสน จ วิปริณามลกฺขณวเสน จ อุทยพฺพยทสฺสเนน ทส ทส กตฺวา ปญฺญาส ลกฺขณานิ วุตฺตานิฯ เตสํ วเสน เอวํ รูปสฺส อุทโย รูปสฺส วโยติ ปจฺจยโต เจว ลกฺขณโต จ วิตฺถาเรน มนสิการํ กโรติฯ

ตสฺเสวํ กโรโต ‘‘อิติ กิร อิเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’’ติ ญาณํ วิสทํ โหติฯ ‘‘เอวํ กิร อิเม ธมฺมา อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ นิจฺจํ นวาว หุตฺวา สงฺขารา อุปฏฺฐหนฺติฯ น เกวลญฺจ นิจฺจํ นวา, สูริยุคฺคมเน อุสฺสาวพินฺทุ วิย, อุทกพุพฺพุโฬ วิย, อุทเก ทณฺฑราชิ วิย, อารคฺเค สาสโป วิย, วิชฺชุปฺปาโท วิย จ ปริตฺตฏฺฐายิโนฯ มายามรีจิสุปินอลาตจกฺกคนฺธพฺพนครเผณปิณฺฑกทลิอาทโย วิย นิสฺสารา หุตฺวา อุปฏฺฐหนฺติฯ เอตฺตาวตา จาเนน วยธมฺมเมว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนญฺจ วยํ อุเปตีติ อิมินา อากาเรน สมปญฺญาส ลกฺขณานิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ฐิตํ อุทยพฺพยานุปสฺสนํ นาม ปฐมํ ตรุณวิปสฺสนาญาณํ อธิคตํ โหติ, ยสฺสาธิคมา อารทฺธวิปสฺสโกติ สงฺขฺยํ คจฺฉติฯ

อถสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส กุลปุตฺตสฺส โอภาโส ญาณํ ปีติ ปสฺสทฺธิ สุขํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุปฏฺฐานํ อุเปกฺขา นิกนฺตีติ ทส วิปสฺสนุปกฺกิเลสา อุปฺปชฺชนฺติฯ เอตฺถ โอภาโส นาม วิปสฺสนากฺขเณ ญาณสฺส พลวตฺตา โลหิตํ ปสีทติ, เตน ฉวิโต โอภาโส นิพฺพตฺตติ, ตํ ทิสฺวา อยํ โยคี ‘‘มคฺโค มยา ปตฺโต’’ติ ตเมว โอภาสํ อสฺสาเทติฯ ญาณนฺติ วิปสฺสนาญาณเมเวตํ, สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส สูรํ ปสนฺนํ หุตฺวา ปวตฺตมานํ ทิสฺวา ปุพฺเพ วิย ‘‘มคฺโค’’ติ อสฺสาเทติฯ ปีตีติ วิปสฺสนาปีติ เอวฯ ตสฺส หิ ตสฺมิํ ขเณ ปญฺจวิธา ปีติ อุปฺปชฺชติฯ ปสฺสทฺธีติ วิปสฺสนาปสฺสทฺธิฯ ตสฺมิํ สมเย เนว กายจิตฺตานํ ทรโถ คารวตา กกฺขฬตา อกมฺมญฺญตา เคลญฺญตา วงฺกตา โหติฯ สุขํ วิปสฺสนาสุขเมวฯ

ตสฺส กิร ตสฺมิํ สมเย สกลสรีรํ ฐปิตวฏฺฏิ วิย อภิสนฺทยมานํ อติปณีตํ สุขํ อุปฺปชฺชติฯ

อธิโมกฺโข นาม วิปสฺสนากฺขเณ ปวตฺตา สทฺธาฯ ตสฺมิํ ขเณ จิตฺตเจตสิกานํ อติวิย ปสาทภูตา พลวตี สทฺธา อุปฺปชฺชติฯ ปคฺคโห นาม วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตํ วีริยํฯ ตสฺมิญฺหิ ขเณ อสิถิลมนจฺจารทฺธํ สุปคฺคหิตํ วีริยํ อุปฺปชฺชติฯ อุปฏฺฐานนฺติ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติฯ ตสฺมิญฺหิ ขเณ สุปฏฺฐิตา สติ อุปฺปชฺชติฯ อุเปกฺขาติ ทุวิธา วิปสฺสนาวชฺชนวเสน ฯ ตสฺมิํ ขเณ สพฺพสงฺขารคฺคหเณ มชฺฌตฺตภูตวิปสฺสนุเปกฺขาสงฺขาตํ ญาณํ พลวนฺตํ หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, มโนทฺวาเร อาวชฺชนุเปกฺขา จ, สาว ตํ ตํ ฐานํ อาวชฺเชนฺตสฺส สูรา ติขิณา หุตฺวา วหติฯ นิกนฺติ วิปสฺสนานิกนฺติฯ โอภาสาทีสุ อาลยํ กุรุมานา สุขุมา สนฺตาการา นิกนฺติ อุปฺปชฺชติฯ เอตฺถ โอภาสาทโย กิเลสวตฺถุภูตตาย ‘‘อุปกฺกิเลสา’’ติ วุตฺตา, น อกุสลตฺตาฯ นิกนฺติ ปน อุปกฺกิเลโส เจว กิเลสวตฺถุ จฯ ปณฺฑิโต ปน ภิกฺขุ โอภาสาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ วิกฺเขปํ อคจฺฉนฺโต ‘‘โอภาสาทโย ธมฺมา น มคฺโค, อุปกฺกิเลสวินิมุตฺตํ ปน วีถิปฺปฏิปนฺนํ วิปสฺสนาญาณํ มคฺโค’’ติ มคฺคญฺจ อมคฺคญฺจ ววตฺถเปติฯ ตสฺเสวํ ‘‘อยํ มคฺโค, อยํ น มคฺโค’’ติ ญตฺวา ฐิตํ ญาณํ ‘‘มคฺคามคฺคญาณทสฺสนวิสุทฺธี’’ติ วุจฺจติฯ

อิโต ปฏฺฐาย อฏฺฐวิธสฺส ญาณสฺส วเสน สิขาปฺปตฺตํ วิปสฺสนาญาณํ ปฏิปทาญาณทสฺสนวิสุทฺธิ นาม โหติฯ อุทยพฺพยานุปสฺสนาญาณํ ภงฺคานุปสฺสนาญาณํ ภยตุปฏฺฐานญาณํ อาทีนวานุปสฺสนาญาณํ นิพฺพิทานุปสฺสนาญาณํ มุญฺจิตุกมฺยตาญาณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาญาณํ สงฺขารุเปกฺขาญาณนฺติ อิมานิ อฏฺฐ ญาณานิ นามฯ

เอตานิ นิพฺพตฺเตตุกาเมน ยสฺมา อุปกฺกิเลเสหิ อภิภูตํ หุตฺวา ลกฺขณปฺปฏิเวธํ กาตุํ อสมตฺถํ โหติ จิตฺตํ, ตสฺมา ปุนปิ อุทยพฺพยเมว ปสฺสิตพฺพํฯ อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺตสฺส อนิจฺจลกฺขณํ ยถาภูตํ อุปฏฺฐาติ, อุทยพฺพยปฺปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขลกฺขณญฺจ ‘‘ทุกฺขเมว จ สมฺโภติ, ทุกฺขํ ติฏฺฐติ เวติ จา’’ติ (สํ. นิ. 1.171) ปสฺสโต อนตฺตลกฺขณญฺจฯ

เอตฺถ จ อนิจฺจํ อนิจฺจลกฺขณํ, ทุกฺขํ ทุกฺขลกฺขณํ, อนตฺตา อนตฺตลกฺขณนฺติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพฯ เอตฺถ อนิจฺจนฺติ ขนฺธปญฺจกํฯ กสฺมา? อุปฺปาทวยญฺญถตฺตภาวา หุตฺวา อภาวโต วาฯ อญฺญถตฺตํ นาม ชรา, อุปฺปาทวยญฺญถตฺตํ อนิจฺจลกฺขณํ, หุตฺวา อภาวสงฺขาโต วา เอโก อาการวิกาโรฯ ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. 3.15) วจนโต ตเทว ขนฺธปญฺจกํ ทุกฺขํฯ กสฺมา? อภิณฺหํ ปฏิปีฬิตตฺตาฯ อภิณฺหปฺปฏิปีฬนากาโร ทุกฺขลกฺขณํฯ ‘‘ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ วจนโต ตเทว ขนฺธปญฺจกํ อนตฺตาฯ กสฺมา? อวสวตฺตนโตฯ อวสวตฺตนากาโร อนตฺตลกฺขณํฯ อิมานิปิ ตีณิ ลกฺขณานิ อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺตสฺเสว อารมฺมณานิ โหนฺติฯ

ปุนปิ โส รูปารูปธมฺเมสุ เอว ‘‘อนิจฺจา’’ติอาทินา วิปสฺสติ, ตสฺส สงฺขารา ลหุํ ลหุํ อาปาถํ คจฺฉนฺติฯ ตโต อุปฺปาทํ วา ฐิติํ วา อารมฺมณํ อกตฺวา เตสํ ขยวยนิโรเธ เอว ปสฺสโต สติ สนฺติฏฺฐตีติ อิทํ ภงฺคานุปสฺสนาญาณํ นามฯ อิมสฺส อุปฺปาทโต ปฏฺฐาย อสฺส โยคิโน ‘‘ยถา อิเม สงฺขารา ปญฺจกฺขนฺธา ภิชฺชนฺติ, เอวํ อตีเตปิ สงฺขารา ภิชฺชิํสุ, อนาคเตปิ ภิชฺชิสฺสนฺตี’’ติ นิโรธเมว ปสฺสโต สติ สนฺติฏฺฐติ, ตสฺส ภงฺคานุปสฺสนาญาณํ อาเสวนฺตสฺส พหุลีกโรนฺตสฺส สพฺพภวโยนิคติฏฺฐิติสตฺตาวาเสสุ สพฺเพ สงฺขารา ชลิตองฺคารกาสุอาทโย วิย มหาภยํ หุตฺวา อุปฏฺฐหนฺติฯ เอตํ ภยตุปฏฺฐานญาณํ นามฯ

ตสฺส ตํ ภยตุปฏฺฐานญาณํ อาเสวนฺตสฺส สพฺเพ ภวาทโย อาทิตฺตองฺคารา วิย, สมุสฺสิตขคฺคา วิย ปจฺจตฺถิกา อปฺปฏิสรณา สาทีนวา หุตฺวา อุปฏฺฐหนฺติฯ อิทํ อาทีนวานุปสฺสนาญาณํ นามฯ ตสฺส เอวํ สงฺขาเร อาทีนวโต ปสฺสนฺตสฺส ภวาทีสุ สงฺขารานํ อาทีนวตฺตา สพฺพสงฺขาเรสุ อุกฺกณฺฐนา อนภิรติ อุปฺปชฺชติฯ อิทํ นิพฺพิทานุปสฺสนาญาณํ นามฯ สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนฺตสฺส อุกฺกณฺฐนฺตสฺส สพฺพสฺมา สงฺขารคตา มุญฺจิตุกามตา นิสฺสริตุกามตาว โหติฯ อิทํ มุญฺจิตุกมฺยตาญาณํ นามฯ ปุน ตสฺมา สงฺขารคตา มุญฺจิตุํ ปุน เต เอว สงฺขาเร ปฏิสงฺขานุปสฺสนาญาเณน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ตีรณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาญาณํ นาม, โย เอวํ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺโต เตสุ อนตฺตลกฺขณสฺส สุทิฏฺฐตฺตา ‘‘อตฺตา’’ติ วา ‘‘อตฺตนิย’’นฺติ วา อคฺคณฺหนฺโต สงฺขาเรสุ ภยญฺจ นนฺทิญฺจ ปหาย สงฺขาเรสุ อุทาสิโน โหติ มชฺฌตฺโต, ‘‘อห’’นฺติ วา ‘‘มม’’นฺติ วา น คณฺหาติ, สพฺพสงฺขาเรสุ อุทาสิโน มชฺฌตฺโต ตีสุ ภเวสุ อุเปกฺขโก, ตสฺส ตํ ญาณํ สงฺขารุเปกฺขาญาณํ นามฯ ตํ ปเนตํ สพฺพสงฺขารปฺปวตฺตํ วิสฺสชฺเชตฺวา นิพฺพานนินฺนํ นิพฺพานปกฺขนฺทํ โหติ, โน เจ นิพฺพานํ สนฺตโต ปสฺสติ, ปุนปฺปุนํ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ วา ‘‘ทุกฺข’’นฺติ วา ‘‘อนตฺตา’’ติ วา ติวิธานุปสฺสนาวเสน สงฺขารารมฺมณเมว หุตฺวา ปวตฺตติฯ

เอวํ ติฏฺฐมานญฺจ เอตํ อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโต สุญฺญโตติ ติณฺณํ วิโมกฺขานํ วเสน วิโมกฺขมุขภาวํ อาปชฺชิตฺวา ติฏฺฐติฯ ติสฺโส หิ อนุปสฺสนา ตีณิ วิโมกฺขมุขานีติ วุจฺจนฺติฯ เอตฺถ จ อนิจฺจโต มนสิ กโรนฺโต (ปฏิ. ม. 1.223-224) อธิโมกฺขพหุโล อนิมิตฺตํ วิโมกฺขํ ปฏิลภติฯ ทุกฺขโต มนสิ กโรนฺโต ปสฺสทฺธิพหุโล อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขํ ปฏิลภติฯ อนตฺตโต มนสิ กโรนฺโต เวทพหุโล สุญฺญตวิโมกฺขํ ปฏิลภติฯ

เอตฺถ จ อนิมิตฺโต วิโมกฺโขติ อนิมิตฺตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อริยมคฺโคฯ โส หิ อนิมิตฺตาย ธาตุยา อุปฺปนฺนตฺตา อนิมิตฺโต, กิเลเสหิ จ วิมุตฺตตฺตา วิโมกฺโขฯ เอเตเนว นเยน อปฺปณิหิตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อปฺปณิหิโต, สุญฺญตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต สุญฺญโตติ เวทิตพฺโพฯ อธิคตสงฺขารุเปกฺขสฺส กุลปุตฺตสฺส วิปสฺสนา สิขาปฺปตฺตา โหติฯ วุฏฺฐานคามินิวิปสฺสนาติ เอตเทวฯ เอตํ สงฺขารุเปกฺขาญาณํ อาเสวนฺตสฺส ภาเวนฺตสฺส ติกฺขตรา สงฺขารุเปกฺขา อุปฺปชฺชติฯ

ตสฺส อิทานิ มคฺโค อุปฺปชฺชิสฺสตีติ สงฺขารุเปกฺขา สงฺขาเร ‘‘อนิจฺจา’’ติ วา ‘‘ทุกฺขา’’ติ วา ‘‘อนตฺตา’’ติ วา สมฺมสิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติฯ ภวงฺคา วุฏฺฐาย สงฺขารุเปกฺขาย อาคตนเยเนว อนิจฺจาทิอากาเรน มนสิ กริตฺวา อุปฺปชฺชติ มโนทฺวาราวชฺชนํ, ตเทว มนสิ กโรโต ปฐมํ ชวนจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ยํ ‘‘ปริกมฺม’’นฺติ วุจฺจติฯ ตทนนฺตรํ ตเถว ทุติยํ ชวนจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ยํ ‘‘อุปจาร’’นฺติ วุจฺจติฯ ตทนนฺตรมฺปิ ตเถว อุปฺปชฺชติ ชวนจิตฺตํ, ยํ ‘‘อนุโลม’’นฺติ วุจฺจติฯ อิทํ เตสํ ปาฏิเยกฺกํ นามํฯ อวิเสเสน ปน ติวิธเมตํ อาเสวนนฺติปิ ปริกมฺมนฺติปิ อุปจารนฺติปิ อนุโลมนฺติปิ วุจฺจติฯ อิทํ ปน อนุโลมญาณํ สงฺขารารมฺมณาย วุฏฺฐานคามินิยา วิปสฺสนาย ปริโยสานํ โหติฯ นิปฺปริยาเยน ปน โคตฺรภุญาณเมว วิปสฺสนาปริโยสานนฺติ วุจฺจติฯ ตโต ปรํ นิโรธํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กุรุมานํ ปุถุชฺชนโคตฺตํ อติกฺกมมานํ นิพฺพานารมฺมเณ ปฐมสมนฺนาหารภูตํ อปุนราวฏฺฏกํ โคตฺรภุญาณํ อุปฺปชฺชติฯ

อิทํ ปน ญาณํ ปฏิปทาญาณทสฺสนวิสุทฺธิญฺจ ญาณทสฺสนวิสุทฺธิญฺจ น ภชติ, อนฺตรา อพฺโพหาริกเมว โหติ, วิปสฺสนาโสเต ปติตตฺตา ปน วิปสฺสนาติ วา สงฺขฺยํ คจฺฉติฯ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา โคตฺรภุญาเณ นิรุทฺเธ เตน ทินฺนสญฺญาย นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ทิฏฺฐิสํโยชนํ สีลพฺพตปรามาสสํโยชนํ วิจิกิจฺฉาสํโยชนนฺติ ตีณิ สํโยชนานิ สมุจฺเฉทวเสน วิทฺธํเสนฺโต โสตาปตฺติมคฺโค อุปฺปชฺชติฯ ตทนนฺตรํ ตสฺเสว วิปากภูตานิ ทฺเว ตีณิ วา ผลจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ อนนฺตรวิปากตฺตา โลกุตฺตรานํฯ ผลปริโยสาเน ปนสฺส จิตฺตํ ภวงฺคํ โอตรติฯ

ตโต ภวงฺคํ วิจฺฉินฺทิตฺวา ปจฺจเวกฺขณตฺถาย มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติฯ โส หิ ‘‘อิมินา วตาหํ มคฺเคน อาคโต’’ติ มคฺคํ ปจฺจเวกฺขติ, ตโต ‘‘อยํ เม อานิสํโส ลทฺโธ’’ติ ผลํ ปจฺจเวกฺขติ, ตโต ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา ปหีนา’’ติ ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขติ, ตโต ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา อวสิฏฺฐา’’ติ อุปริมคฺคตฺตยวชฺเฌ กิเลเส ปจฺจเวกฺขติ, อวสาเน ‘‘อยํ เม ธมฺโม อารมฺมณโต ปฏิวิทฺโธ’’ติ อมตํ นิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขติฯ อิติ โสตาปนฺนสฺส อริยสาวกสฺส ปญฺจ ปจฺจเวกฺขณานิ โหนฺติฯ ตถา สกทาคามิอนาคามีนํฯ อรหโต ปน อวสิฏฺฐกิเลสปจฺจเวกฺขณํ นาม นตฺถิฯ เอวํ สพฺพานิปิ เอกูนวีสติ โหนฺติฯ อุกฺกฏฺฐปริจฺเฉโทว เจโสฯ ปหีนาวสิฏฺฐกิเลสปจฺจเวกฺขณญฺหิ เสกฺขานํ โหติ วา, น วาฯ เอวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา โส โสตาปนฺโน อริยสาวโก ตสฺมิํเยว วา อาสเน นิสินฺโน อปเรน วา สมเยน กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวํ กโรนฺโต ทุติยมคฺคํ ปาปุณาติ, ตทนนฺตรํ วุตฺตนเยน ผลญฺจฯ ตโต วุตฺตนเยน กามราคพฺยาปาทานํ อนวเสสปฺปหานํ กโรนฺโต ตติยมคฺคํ ปาปุณาติ, วุตฺตนเยน ผลญฺจฯ

ตโต ตสฺมิํเยว วา อาสเน นิสินฺโน อปเรน วา สมเยน รูปราคอรูปราคมานอุทฺธจฺจอวิชฺชานํ อนวเสสปฺปหานํ กโรนฺโต จตุตฺถมคฺคํ ปาปุณาติ, วุตฺตนเยน ผลญฺจฯ เอตฺตาวตา เจส อรหา นาม อฏฺฐโม อริยปุคฺคโล โหติ มหาขีณาสโวฯ อิติ อิเมสุ จตูสุ มคฺเคสุ ญาณํ ญาณทสฺสนวิสุทฺธิ นามฯ

เอตฺตาวตา ปาติโมกฺขสํวรสีลาทีนํ วุตฺตตฺตา สีลวิสุทฺธิ จ เมตฺตาสุภาทีนํ วุตฺตตฺตา จิตฺตวิสุทฺธิ จ นามรูปปริคฺคหาทีนํ วเสน ทิฏฺฐิวิสุทฺธิกงฺขาวิตรณวิสุทฺธิมคฺคามคฺคญาณทสฺสนวิสุทฺธิ ปฏิปทาญาณทสฺสนวิสุทฺธิ ญาณทสฺสนวิสุทฺธิโย จาติ สตฺต วิสุทฺธิโย วุตฺตา โหนฺติฯ อิทํ วุตฺตปฺปการํ ปฏิปทากฺกมํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปาปุเณยฺยานุปุพฺเพน, สพฺพสํโยชนกฺขย’’นฺติฯ เอตฺถ สกฺกายทิฏฺฐิ วิจิกิจฺฉา สีลพฺพตปรามาโส กามราโค ปฏิโฆ รูปราโค อรุปราโค มาโน อุทฺธจฺจํ อวิชฺชาติ อิเม ทส ธมฺมา สพฺพสํโยชนา นามฯ เอเตสุ สกฺกายทิฏฺฐิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสา โสตาปตฺติมคฺควชฺฌา, กามราคปฏิฆา ทุติยมคฺเคน ตนุภูตา หุตฺวา ตติเยน สมุคฺฆาตํ คจฺฉนฺติ, เสสานิ ปญฺจ จตุตฺเถนาติฯ เอวํ อนุปุพฺเพน สพฺพสํโยชนกฺขยสงฺขาตํ อรหตฺตํ ปาปุณาตีติ เวทิตพฺพํฯ

วิปสฺสนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

นิคมนกถาวณฺณนา

[473-5] อธิสีลอธิจิตฺตานํ อธิปญฺญาย จ สิกฺขนา อุตฺตริ ภิกฺขุกิจฺจํ นาม นตฺถิ ยสฺมา, อโต อยํ ขุทฺทสิกฺขา สมุทาหฏาฯ