‘‘ตถาคตํ อรหนฺตํ, สูริโย สรณํ คโต;
ราหุ สูริยํ [สุริยํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปมุญฺจสฺสุ, พุทฺธา โลกานุกมฺปกาฯ
‘‘โย อนฺธกาเร ตมสิ ปภงฺกโร,
เวโรจโน มณฺฑลี อุคฺคเตโช;
มา ราหุ คิลี จรมนฺตลิกฺเข,
ปชํ มมํ ราหุ ปมุญฺจ สูริย’’นฺติฯ
อถ โข ราหุ อสุรินฺโท สูริยํ เทวปุตฺตํ มุญฺจิตฺวา ตรมานรูโป เยน เวปจิตฺติ อสุรินฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา สํวิคฺโค โลมหฏฺฐชาโต เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิตํ โข ราหุํ อสุรินฺทํ เวปจิตฺติ อสุรินฺโท คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘กิํ นุ สนฺตรมาโนว, ราหุ สูริยํ ปมุญฺจสิ;
สํวิคฺครูโป อาคมฺม, กิํ นุ ภีโตว ติฏฺฐสี’’ติฯ
‘‘สตฺตธา เม ผเล มุทฺธา, ชีวนฺโต น สุขํ ลเภ;
พุทฺธคาถาภิคีโตมฺหิ, โน เจ มุญฺเจยฺย สูริย’’นฺติฯ
ปฐโม วคฺโคฯ
ตสฺสุทฺทานํ –
ทฺเว กสฺสปา จ มาโฆ จ, มาคโธ ทามลิ กามโท;
ปญฺจาลจณฺโฑ ตายโน, จนฺทิมสูริเยน เต ทสาติฯ
2. อนาถปิณฺฑิกวคฺโค