10. สมุทฺทกสุตฺตํ
[256] สาวตฺถิยํฯ ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, สมฺพหุลา อิสโย สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา สมุทฺทตีเร ปณฺณกุฏีสุ สมฺมนฺติฯ เตน โข ปน สมเยน เทวาสุรสงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห อโหสิฯ อถ โข, ภิกฺขเว, เตสํ อิสีนํ สีลวนฺตานํ กลฺยาณธมฺมานํ เอตทโหสิ – ‘ธมฺมิกา โข เทวา, อธมฺมิกา อสุราฯ สิยาปิ โน อสุรโต ภยํฯ ยํนูน มยํ สมฺพรํ อสุรินฺทํ อุปสงฺกมิตฺวา อภยทกฺขิณํ ยาเจยฺยามา’’’ติฯ ‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, เต อิสโย สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิญฺเชยฺย เอวเมว – สมุทฺทตีเร ปณฺณกุฏีสุ อนฺตรหิตา สมฺพรสฺส อสุรินฺทสฺส สมฺมุเข ปาตุรเหสุํฯ อถ โข, ภิกฺขเว, เต อิสโย สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา สมฺพรํ อสุรินฺทํ คาถาย อชฺฌภาสิํสุ –
‘‘อิสโย สมฺพรํ ปตฺตา, ยาจนฺติ อภยทกฺขิณํ;
กามํกโร หิ เต ทาตุํ, ภยสฺส อภยสฺส วา’’ติฯ
‘‘อิสีนํ อภยํ นตฺถิ, ทุฏฺฐานํ สกฺกเสวินํ;
อภยํ ยาจมานานํ, ภยเมว ททามิ โว’’ติฯ
‘‘อภยํ ยาจมานานํ, ภยเมว ททาสิ โน;
ปฏิคฺคณฺหาม เต เอตํ, อกฺขยํ โหตุ เต ภยํฯ
‘‘ยาทิสํ วปเต พีชํ, ตาทิสํ หรเต ผลํ;
กลฺยาณการี กลฺยาณํ, ปาปการี จ ปาปกํ;
ปวุตฺตํ ตาต เต พีชํ, ผลํ ปจฺจนุโภสฺสสี’’ติฯ
‘‘อถ โข, ภิกฺขเว, เต อิสโย สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา สมฺพรํ อสุรินฺทํ อภิสปิตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิญฺเชยฺย เอวเมว – สมฺพรสฺส อสุรินฺทสฺส สมฺมุเข อนฺตรหิตา สมุทฺทตีเร ปณฺณกุฏีสุ ปาตุรเหสุํฯ อถ โข, ภิกฺขเว, สมฺพโร อสุรินฺโท เตหิ อิสีหิ สีลวนฺเตหิ กลฺยาณธมฺเมหิ อภิสปิโต รตฺติยา สุทํ ติกฺขตฺตุํ อุพฺพิชฺชี’’ติฯ
ปฐโม วคฺโคฯ
ตสฺสุทฺทานํ –
สุวีรํ สุสีมญฺเจว, ธชคฺคํ เวปจิตฺติโน;
สุภาสิตํ ชยญฺเจว, กุลาวกํ นทุพฺภิยํ;
เวโรจน อสุรินฺโท, อิสโย อรญฺญกญฺเจว;
อิสโย จ สมุทฺทกาติฯ
2. ทุติยวคฺโค