เมนู

8. สุทตฺตสุตฺตํ

[242] เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ สีตวเนฯ เตน โข ปน สมเยน อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ราชคหํ อนุปฺปตฺโต โหติ เกนจิเทว กรณีเยนฯ อสฺโสสิ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ – ‘‘พุทฺโธ กิร โลเก อุปฺปนฺโน’’ติฯ ตาวเทว จ ปน ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุกาโม โหติฯ อถสฺส อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อกาโล โข อชฺช ภควนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ สฺเว ทานาหํ กาเลน ภควนฺตํ ทสฺสนาย คมิสฺสามี’’ติ พุทฺธคตาย สติยา นิปชฺชิฯ รตฺติยา สุทํ ติกฺขตฺตุํ วุฏฺฐาสิ ปภาตนฺติ มญฺญมาโนฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน สิวถิกทฺวารํ [สีวถิกทฺวารํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เตนุปสงฺกมิฯ อมนุสฺสา ทฺวารํ วิวริํสุฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส นครมฺหา นิกฺขมนฺตสฺส อาโลโก อนฺตรธายิ, อนฺธกาโร ปาตุรโหสิ, ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส อุทปาทิ, ตโตว ปุน นิวตฺติตุกาโม อโหสิฯ อถ โข สิวโก [สีวโก (สี. ปี.)] ยกฺโข อนฺตรหิโต สทฺทมนุสฺสาเวสิ –

‘‘สตํ หตฺถี สตํ อสฺสา, สตํ อสฺสตรีรถา;

สตํ กญฺญาสหสฺสานิ, อามุกฺกมณิกุณฺฑลา;

เอกสฺส ปทวีติหารสฺส, กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสิํฯ

‘‘อภิกฺกม คหปติ, อภิกฺกม คหปติ;

อภิกฺกมนํ เต เสยฺโย, โน ปฏิกฺกมน’’นฺติฯ

อถ โข อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส อนฺธกาโร อนฺตรธายิ, อาโลโก ปาตุรโหสิ, ยํ อโหสิ ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส, โส ปฏิปฺปสฺสมฺภิฯ ทุติยมฺปิ โข อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส อาโลโก อนฺตรธายิ, อนฺธกาโร ปาตุรโหสิ, ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส อุทปาทิ, ตโตว ปุน นิวตฺติตุกาโม อโหสิฯ ทุติยมฺปิ โข สิวโก ยกฺโข อนฺตรหิโต สทฺทมนุสฺสาเวสิ –

‘‘สตํ หตฺถี สตํ อสฺสา…เป.…

กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสิํฯ

‘‘อภิกฺกม คหปติ, อภิกฺกม คหปติ;

อภิกฺกมนํ เต เสยฺโย, โน ปฏิกฺกมน’’นฺติฯ

อถ โข อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส อนฺธกาโร อนฺตรธายิ , อาโลโก ปาตุรโหสิ, ยํ อโหสิ ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส, โส ปฏิปฺปสฺสมฺภิฯ ตติยมฺปิ โข อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส อาโลโก อนฺตรธายิ, อนฺธกาโร ปาตุรโหสิ, ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส อุทปาทิ, ตโตว ปุน นิวตฺติตุกาโม อโหสิฯ ตติยมฺปิ โข สิวโก ยกฺโข อนฺตรหิโต สทฺทมนุสฺสาเวสิ –

‘‘สตํ หตฺถี สตํ อสฺสา…เป.…

กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสิํฯ

‘‘อภิกฺกม คหปติ, อภิกฺกม คหปติ;

อภิกฺกมนํ เต เสยฺโย, โน ปฏิกฺกมน’’นฺติฯ

อถ โข อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส อนฺธกาโร อนฺตรธายิ, อาโลโก ปาตุรโหสิ, ยํ อโหสิ ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํโส, โส ปฏิปฺปสฺสมฺภิฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน สีตวนํ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิฯ

เตน โข ปน สมเยน ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย อพฺโภกาเส จงฺกมติฯ อทฺทสา โข ภควา อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน จงฺกมา โอโรหิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ นิสชฺช โข ภควา อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘เอหิ สุทตฺตา’’ติฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ, นาเมน มํ ภควา อาลปตีติ, หฏฺโฐ อุทคฺโค ตตฺเถว ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ, ภนฺเต, ภควา สุขมสยิตฺถา’’ติ?

‘‘สพฺพทา เว สุขํ เสติ, พฺราหฺมโณ ปรินิพฺพุโต;

โย น ลิมฺปติ กาเมสุ, สีติภูโต นิรูปธิฯ

‘‘สพฺพา อาสตฺติโย เฉตฺวา, วิเนยฺย หทเย ทรํ;

อุปสนฺโต สุขํ เสติ, สนฺติํ ปปฺปุยฺย เจตสา’’ติ [เจตโสติ (สี.)]

9. ปฐมสุกฺกาสุตฺตํ

[243] เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน สุกฺกา ภิกฺขุนี มหติยา ปริสาย ปริวุตา ธมฺมํ เทเสติฯ อถ โข สุกฺกาย ภิกฺขุนิยา อภิปฺปสนฺโน ยกฺโข ราชคเห รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ อุปสงฺกมิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –

‘‘กิํ เม กตา ราชคเห มนุสฺสา, มธุปีตาว เสยเร;

เย สุกฺกํ น ปยิรุปาสนฺติ, เทเสนฺติํ อมตํ ปทํฯ

‘‘ตญฺจ ปน อปฺปฏิวานียํ, อเสจนกโมชวํ;

ปิวนฺติ มญฺเญ สปฺปญฺญา, วลาหกมิว ปนฺถคู’’ติ [วลาหกมิวทฺธคูติ (สี.)]

10. ทุติยสุกฺกาสุตฺตํ

[244] เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร อุปาสโก สุกฺกาย ภิกฺขุนิยา โภชนํ อทาสิฯ อถ โข สุกฺกาย ภิกฺขุนิยา อภิปฺปสนฺโน ยกฺโข ราชคเห รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ อุปสงฺกมิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ คาถํ อภาสิ –

‘‘ปุญฺญํ วต ปสวิ พหุํ, สปฺปญฺโญ วตายํ อุปาสโก;

โย สุกฺกาย อทาสิ โภชนํ, สพฺพคนฺเถหิ วิปฺปมุตฺติยา’’ติ [วิปฺปมุตฺตายาติ (สฺยา. กํ.)]

11. จีราสุตฺตํ

[245] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร อุปาสโก จีราย [จิราย (ก.)] ภิกฺขุนิยา จีวรํ อทาสิฯ อถ โข จีราย ภิกฺขุนิยา อภิปฺปสนฺโน ยกฺโข ราชคเห รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ อุปสงฺกมิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ คาถํ อภาสิ –