10. ยกฺขสํยุตฺตํ
1. อินฺทกสุตฺตํ
[235] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ อินฺทกูเฏ ปพฺพเต, อินฺทกสฺส ยกฺขสฺส ภวเนฯ อถ โข อินฺทโก ยกฺโข เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘รูปํ น ชีวนฺติ วทนฺติ พุทฺธา, กถํ นฺวยํ วินฺทติมํ สรีรํ;
กุตสฺส อฏฺฐียกปิณฺฑเมติ, กถํ นฺวยํ สชฺชติ คพฺภรสฺมิ’’นฺติฯ
‘‘ปฐมํ กลลํ โหติ, กลลา โหติ อพฺพุทํ;
อพฺพุทา ชายเต เปสิ, เปสิ นิพฺพตฺตตี ฆโน;
ฆนา ปสาขา ชายนฺติ, เกสา โลมา นขาปิ จฯ
‘‘ยญฺจสฺส ภุญฺชตี มาตา, อนฺนํ ปานญฺจ โภชนํ;
เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, มาตุกุจฺฉิคโต นโร’’ติฯ
2. สกฺกนามสุตฺตํ
[236] เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตฯ อถ โข สกฺกนามโก ยกฺโข เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘สพฺพคนฺถปฺปหีนสฺส , วิปฺปมุตฺตสฺส เต สโต;
สมณสฺส น ตํ สาธุ, ยทญฺญมนุสาสสี’’ติ [ยทญฺญมนุสาสตีติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]ฯ
‘‘เยน เกนจิ วณฺเณน, สํวาโส สกฺก ชายติ;
น ตํ อรหติ สปฺปญฺโญ, มนสา อนุกมฺปิตุํฯ
‘‘มนสา เจ ปสนฺเนน, ยทญฺญมนุสาสติ;
น เตน โหติ สํยุตฺโต, ยานุกมฺปา [สานุกมฺปา (สี. ปี.)] อนุทฺทยา’’ติฯ