อถ โข อปรา เทวตา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘เกเนส ยญฺโญ วิปุโล มหคฺคโต,
สเมน ทินฺนสฺส น อคฺฆเมติ;
กถํ [อิทํ ปทํ กตฺถจิ สีหฬโปตฺถเก นตฺถิ] สตํ สหสฺสานํ สหสฺสยาคินํ,
กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ ตถาวิธสฺส เต’’ติฯ
‘‘ททนฺติ เหเก วิสเม นิวิฏฺฐา,
เฉตฺวา วธิตฺวา อถ โสจยิตฺวา;
สา ทกฺขิณา อสฺสุมุขา สทณฺฑา,
สเมน ทินฺนสฺส น อคฺฆเมติฯ
‘‘เอวํ สตํ สหสฺสานํ สหสฺสยาคินํ;
กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ ตถาวิธสฺส เต’’ติฯ
3. สาธุสุตฺตํ
[33] สาวตฺถินิทานํ ฯ อถ โข สมฺพหุลา สตุลฺลปกายิกา เทวตาโย อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐํสุฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข เอกา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สาธุ โข, มาริส, ทานํ;
มจฺเฉรา จ ปมาทา จ, เอวํ ทานํ น ทียติ;
ปุญฺญํ อากงฺขมาเนน, เทยฺยํ โหติ วิชานตา’’ติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สาธุ โข, มาริส, ทานํ;
อปิ จ อปฺปกสฺมิมฺปิ สาหุ ทานํ’’ฯ
‘‘อปฺปสฺเมเก ปเวจฺฉนฺติ, พหุเนเก น ทิจฺฉเร;
อปฺปสฺมา ทกฺขิณา ทินฺนา, สหสฺเสน สมํ มิตา’’ติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สาธุ โข, มาริส, ทานํ; อปฺปกสฺมิมฺปิ สาหุ ทานํ;
อปิ จ สทฺธายปิ สาหุ ทานํ’’ฯ
‘‘ทานญฺจ ยุทฺธญฺจ สมานมาหุ,
อปฺปาปิ สนฺตา พหุเก ชินนฺติ;
อปฺปมฺปิ เจ สทฺทหาโน ททาติ,
เตเนว โส โหติ สุขี ปรตฺถา’’ติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สาธุ โข, มาริส, ทานํ; อปฺปกสฺมิมฺปิ สาหุ ทานํ;
สทฺธายปิ สาหุ ทานํ; อปิ จ ธมฺมลทฺธสฺสาปิ สาหุ ทานํ’’ฯ
‘‘โย ธมฺมลทฺธสฺส ททาติ ทานํ,
อุฏฺฐานวีริยาธิคตสฺส ชนฺตุ;
อติกฺกมฺม โส เวตรณิํ ยมสฺส,
ทิพฺพานิ ฐานานิ อุเปติ มจฺโจ’’ติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สาธุ โข, มาริส, ทานํ; อปฺปกสฺมิมฺปิ สาหุ ทานํ;
สทฺธายปิ สาหุ ทานํ; ธมฺมลทฺธสฺสาปิ สาหุ ทานํ;
อปิ จ วิเจยฺย ทานมฺปิ สาหุ ทานํ’’ฯ
‘‘วิเจยฺย ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ,
เย ทกฺขิเณยฺยา อิธ ชีวโลเก;
เอเตสุ ทินฺนานิ มหปฺผลานิ,
พีชานิ วุตฺตานิ ยถา สุเขตฺเต’’ติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สาธุ โข, มาริส, ทานํ; อปฺปกสฺมิมฺปิ สาหุ ทานํ;
สทฺธายปิ สาหุ ทานํ; ธมฺมลทฺธสฺสาปิ สาหุ ทานํ;
วิเจยฺย ทานมฺปิ สาหุ ทานํ; อปิ จ ปาเณสุปิ สาธุ สํยโม’’ฯ
‘‘โย ปาณภูตานิ [ปาณภูเตสุ (สี. ปี.)] อเหฐยํ จรํ,
ปรูปวาทา น กโรนฺติ ปาปํ;
ภีรุํ ปสํสนฺติ น หิ ตตฺถ สูรํ,
ภยา หิ สนฺโต น กโรนฺติ ปาป’’นฺติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กสฺส นุ โข, ภควา, สุภาสิต’’นฺติ?
‘‘สพฺพาสํ โว สุภาสิตํ ปริยาเยน, อปิ จ มมปิ สุณาถ –
‘‘สทฺธา หิ ทานํ พหุธา ปสตฺถํ,
ทานา จ โข ธมฺมปทํว เสยฺโย;
ปุพฺเพ จ หิ ปุพฺพตเร จ สนฺโต,
นิพฺพานเมวชฺฌคมุํ สปญฺญา’’ติฯ
4. นสนฺติสุตฺตํ
[34] เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข สมฺพหุลา สตุลฺลปกายิกา เทวตาโย อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐํสุฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข เอกา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘น สนฺติ กามา มนุเชสุ นิจฺจา,
สนฺตีธ กมนียานิ เยสุ [กาเมสุ (ก.)] พทฺโธ;
เยสุ ปมตฺโต อปุนาคมนํ,
อนาคนฺตา ปุริโส มจฺจุเธยฺยา’’ติฯ
‘‘ฉนฺทชํ อฆํ ฉนฺทชํ ทุกฺขํ;
ฉนฺทวินยา อฆวินโย;
อฆวินยา ทุกฺขวินโย’’ติฯ
‘‘น เต กามา ยานิ จิตฺรานิ โลเก,
สงฺกปฺปราโค ปุริสสฺส กาโม;
ติฏฺฐนฺติ จิตฺรานิ ตเถว โลเก,
อเถตฺถ ธีรา วินยนฺติ ฉนฺทํฯ