เมนู

11. สงฺคารวสุตฺตํ

[207] สาวตฺถินิทานํฯ เตน โข ปน สมเยน สงฺคารโว นาม พฺราหฺมโณ สาวตฺถิยํ ปฏิวสติ อุทกสุทฺธิโก, อุทเกน ปริสุทฺธิํ ปจฺเจติ, สายํ ปาตํ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติฯ อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, สงฺคารโว นาม พฺราหฺมโณ สาวตฺถิยํ ปฏิวสติ อุทกสุทฺธิโก , อุทเกน สุทฺธิํ ปจฺเจติ, สายํ ปาตํ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติฯ สาธุ, ภนฺเต, ภควา เยน สงฺคารวสฺส พฺราหฺมณสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ

อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สงฺคารวสฺส พฺราหฺมณสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข สงฺคารโว พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข สงฺคารวํ พฺราหฺมณํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, พฺราหฺมณ, อุทกสุทฺธิโก, อุทเกน สุทฺธิํ ปจฺเจสิ, สายํ ปาตํ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรสี’’ติ? ‘‘เอวํ, โภ โคตม’’ฯ ‘‘กิํ ปน ตฺวํ, พฺราหฺมณ, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน อุทกสุทฺธิโก, อุทกสุทฺธิํ ปจฺเจสิ, สายํ ปาตํ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรสี’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ โคตม [อิธ เม โภ โคตม อหํ (ปี. ก.)], ยํ ทิวา ปาปกมฺมํ กตํ โหติ, ตํ สายํ นฺหาเนน [นหาเนน (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปวาเหมิ, ยํ รตฺติํ ปาปกมฺมํ กตํ โหติ ตํ ปาตํ นฺหาเนน ปวาเหมิฯ อิมํ ขฺวาหํ, โภ โคตม, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน อุทกสุทฺธิโก, อุทเกน สุทฺธิํ ปจฺเจมิ, สายํ ปาตํ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรามี’’ติฯ

‘‘ธมฺโม รหโท พฺราหฺมณ สีลติตฺโถ,

อนาวิโล สพฺภิ สตํ ปสตฺโถ;

ยตฺถ หเว เวทคุโน สินาตา,

อนลฺลคตฺตาว [อนลฺลีนคตฺตาว (ก.)] ตรนฺติ ปาร’’นฺติฯ

เอวํ วุตฺเต, สงฺคารโว พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ

12. โขมทุสฺสสุตฺตํ

[208] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สกฺเกสุ วิหรติ โขมทุสฺสํ นามํ สกฺยานํ นิคโมฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย โขมทุสฺสํ นิคมํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ เตน โข ปน สมเยน โขมทุสฺสกา พฺราหฺมณคหปติกา สภายํ สนฺนิปติตา โหนฺติ เกนจิเทว กรณีเยน, เทโว จ เอกเมกํ ผุสายติฯ อถ โข ภควา เยน สา สภา เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสํสุ โขมทุสฺสกา พฺราหฺมณคหปติกา ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน เอตทโวจุํ – ‘‘เก จ มุณฺฑกา สมณกา, เก จ สภาธมฺมํ ชานิสฺสนฺตี’’ติ? อถ โข ภควา โขมทุสฺสเก พฺราหฺมณคหปติเก คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘เนสา สภา ยตฺถ น สนฺติ สนฺโต,

สนฺโต น เต เย น วทนฺติ ธมฺมํ;

ราคญฺจ โทสญฺจ ปหาย โมหํ,

ธมฺมํ วทนฺตา จ ภวนฺติ สนฺโต’’ติฯ

เอวํ วุตฺเต, โขมทุสฺสกา พฺราหฺมณคหปติกา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม; เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตีติ, เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตฯ เอเต มยํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสเก โน ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปเต สรณํ คเต’’ติฯ

อุปาสกวคฺโค ทุติโยฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

กสิ อุทโย เทวหิโต, อญฺญตรมหาสาลํ;

มานถทฺธํ ปจฺจนีกํ, นวกมฺมิกกฏฺฐหารํ;

มาตุโปสกํ ภิกฺขโก, สงฺคารโว จ โขมทุสฺเสน ทฺวาทสาติฯ

พฺราหฺมณสํยุตฺตํ สมตฺตํฯ