เมนู

5. มานตฺถทฺธสุตฺตํ

[201] สาวตฺถินิทานํ ฯ เตน โข ปน สมเยน มานตฺถทฺโธ นาม พฺราหฺมโณ สาวตฺถิยํ ปฏิวสติฯ โส เนว มาตรํ อภิวาเทติ, น ปิตรํ อภิวาเทติ, น อาจริยํ อภิวาเทติ, น เชฏฺฐภาตรํ อภิวาเทติฯ เตน โข ปน สมเยน ภควา มหติยา ปริสาย ปริวุโต ธมฺมํ เทเสติฯ อถ โข มานตฺถทฺธสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข สมโณ โคตโม มหติยา ปริสาย ปริวุโต ธมฺมํ เทเสติฯ ยํนูนาหํ เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกเมยฺยํฯ สเจ มํ สมโณ โคตโม อาลปิสฺสติ, อหมฺปิ ตํ อาลปิสฺสามิฯ โน เจ มํ สมโณ โคตโม อาลปิสฺสติ, อหมฺปิ นาลปิสฺสามี’’ติฯ อถ โข มานตฺถทฺโธ พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตุณฺหีภูโต เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ อถ โข ภควา ตํ นาลปิฯ อถ โข มานตฺถทฺโธ พฺราหฺมโณ – ‘นายํ สมโณ โคตโม กิญฺจิ ชานาตี’ติ ตโตว ปุน นิวตฺติตุกาโม อโหสิฯ อถ โข ภควา มานตฺถทฺธสฺส พฺราหฺมณสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย มานตฺถทฺธํ พฺราหฺมณํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘น มานํ พฺราหฺมณ สาธุ, อตฺถิกสฺสีธ พฺราหฺมณ;

เยน อตฺเถน อาคจฺฉิ, ตเมวมนุพฺรูหเย’’ติฯ

อถ โข มานตฺถทฺโธ พฺราหฺมโณ – ‘‘จิตฺตํ เม สมโณ โคตโม ชานาตี’’ติ ตตฺเถว ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควโต ปาทานิ มุเขน จ ปริจุมฺพติ ปาณีหิ จ ปริสมฺพาหติ, นามญฺจ สาเวติ – ‘‘มานตฺถทฺธาหํ, โภ โคตม, มานตฺถทฺธาหํ, โภ โคตมา’’ติฯ อถ โข สา ปริสา อพฺภุตจิตฺตชาตา [อพฺภุตจิตฺตชาตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.), อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาตา (ก.)] อโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ! อยญฺหิ มานตฺถทฺโธ พฺราหฺมโณ เนว มาตรํ อภิวาเทติ, น ปิตรํ อภิวาเทติ, น อาจริยํ อภิวาเทติ, น เชฏฺฐภาตรํ อภิวาเทติ; อถ จ ปน สมเณ โคตเม เอวรูปํ ปรมนิปจฺจการํ กโรตี’ติฯ อถ โข ภควา มานตฺถทฺธํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ – ‘‘อลํ, พฺราหฺมณ , อุฏฺเฐหิ, สเก อาสเน นิสีทฯ ยโต เต มยิ จิตฺตํ ปสนฺน’’นฺติฯ อถ โข มานตฺถทฺโธ พฺราหฺมโณ สเก อาสเน นิสีทิตฺวา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘เกสุ น มานํ กยิราถ, เกสุ จสฺส สคารโว;

กฺยสฺส อปจิตา อสฺสุ, กฺยสฺสุ สาธุ สุปูชิตา’’ติฯ

‘‘มาตริ ปิตริ จาปิ, อโถ เชฏฺฐมฺหิ ภาตริ;

อาจริเย จตุตฺถมฺหิ,

เตสุ น มานํ กยิราถ;

เตสุ อสฺส สคารโว,

ตฺยสฺส อปจิตา อสฺสุ;

ตฺยสฺสุ สาธุ สุปูชิตาฯ

‘‘อรหนฺเต สีตีภูเต, กตกิจฺเจ อนาสเว;

นิหจฺจ มานํ อถทฺโธ, เต นมสฺเส อนุตฺตเร’’ติฯ

เอวํ วุตฺเต, มานตฺถทฺโธ พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ

6. ปจฺจนีกสุตฺตํ

[202] สาวตฺถินิทานํ ฯ เตน โข ปน สมเยน ปจฺจนีกสาโต นาม พฺราหฺมโณ สาวตฺถิยํ ปฏิวสติฯ อถ โข ปจฺจนีกสาตสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ เยน สมโณ โคตโม เตนุปสงฺกเมยฺยํฯ ยํ ยเทว สมโณ โคตโม ภาสิสฺสติ ตํ ตเทวสฺสาหํ [ตเทว สาหํ (ก.)] ปจฺจนีกาสฺส’’นฺติ [ปจฺจนีกสฺสนฺติ (ปี.), ปจฺจนีกสาตนฺติ (ก.)]ฯ เตน โข ปน สมเยน ภควา อพฺโภกาเส จงฺกมติฯ อถ โข ปจฺจนีกสาโต พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ จงฺกมนฺตํ เอตทโวจ – ‘ภณ สมณธมฺม’นฺติฯ

‘‘น ปจฺจนีกสาเตน, สุวิชานํ สุภาสิตํ;

อุปกฺกิลิฏฺฐจิตฺเตน, สารมฺภพหุเลน จฯ

‘‘โย จ วิเนยฺย สารมฺภํ, อปฺปสาทญฺจ เจตโส;

อาฆาตํ ปฏินิสฺสชฺช, ส เว [สเจ (สฺยา. กํ. ก.)] ชญฺญา สุภาสิต’’นฺติฯ

เอวํ วุตฺเต, ปจฺจนีกสาโต พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ