4. มหาสาลสุตฺตํ
[200] สาวตฺถินิทานํ ฯ อถ โข อญฺญตโร พฺราหฺมณมหาสาโล ลูโข ลูขปาวุรโณ [ลูขปาปุรโณ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ พฺราหฺมณมหาสาลํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กินฺนุ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, ลูโข ลูขปาวุรโณ’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ โคตม, จตฺตาโร ปุตฺตาฯ เต มํ ทาเรหิ สํปุจฺฉ ฆรา นิกฺขาเมนฺตี’’ติฯ ‘‘เตน หิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, อิมา คาถาโย ปริยาปุณิตฺวา สภายํ มหาชนกาเย สนฺนิปติเต ปุตฺเตสุ จ สนฺนิสินฺเนสุ ภาสสฺสุ –
‘‘เยหิ ชาเตหิ นนฺทิสฺสํ, เยสญฺจ ภวมิจฺฉิสํ;
เต มํ ทาเรหิ สํปุจฺฉ, สาว วาเรนฺติ สูกรํฯ
‘‘อสนฺตา กิร มํ ชมฺมา, ตาต ตาตาติ ภาสเร;
รกฺขสา ปุตฺตรูเปน, เต ชหนฺติ วโยคตํฯ
‘‘อสฺโสว ชิณฺโณ นิพฺโภโค, ขาทนา อปนียติ;
พาลกานํ ปิตา เถโร, ปราคาเรสุ ภิกฺขติฯ
‘‘ทณฺโฑว กิร เม เสยฺโย, ยญฺเจ ปุตฺตา อนสฺสวา;
จณฺฑมฺปิ โคณํ วาเรติ, อโถ จณฺฑมฺปิ กุกฺกุรํฯ
‘‘อนฺธกาเร ปุเร โหติ, คมฺภีเร คาธเมธติ;
ทณฺฑสฺส อานุภาเวน, ขลิตฺวา ปติติฏฺฐตี’’ติฯ
อถ โข โส พฺราหฺมณมหาสาโล ภควโต สนฺติเก อิมา คาถาโย ปริยาปุณิตฺวา สภายํ มหาชนกาเย สนฺนิปติเต ปุตฺเตสุ จ สนฺนิสินฺเนสุ อภาสิ –
‘‘เยหิ ชาเตหิ นนฺทิสฺสํ, เยสญฺจ ภวมิจฺฉิสํ;
เต มํ ทาเรหิ สํปุจฺฉ, สาว วาเรนฺติ สูกรํฯ
‘‘อสนฺตา กิร มํ ชมฺมา, ตาต ตาตาติ ภาสเร;
รกฺขสา ปุตฺตรูเปน, เต ชหนฺติ วโยคตํฯ