เมนู

2. อุทยสุตฺตํ

[198] สาวตฺถินิทานํฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อุทยสฺส พฺราหฺมณสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิฯ อถ โข อุทโย พฺราหฺมโณ ภควโต ปตฺตํ โอทเนน ปูเรสิฯ ทุติยมฺปิ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อุทยสฺส พฺราหฺมณสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ…เป.… ตติยมฺปิ โข อุทโย พฺราหฺมโณ ภควโต ปตฺตํ โอทเนน ปูเรตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปกฏฺฐโกยํ สมโณ โคตโม ปุนปฺปุนํ อาคจฺฉตี’’ติฯ

‘‘ปุนปฺปุนญฺเจว วปนฺติ พีชํ, ปุนปฺปุนํ วสฺสติ เทวราชา;

ปุนปฺปุนํ เขตฺตํ กสนฺติ กสฺสกา, ปุนปฺปุนํ ธญฺญมุเปติ รฏฺฐํฯ

‘‘ปุนปฺปุนํ ยาจกา ยาจยนฺติ, ปุนปฺปุนํ ทานปตี ททนฺติ;

ปุนปฺปุนํ ทานปตี ททิตฺวา, ปุนปฺปุนํ สคฺคมุเปนฺติ ฐานํฯ

‘‘ปุนปฺปุนํ ขีรนิกา ทุหนฺติ, ปุนปฺปุนํ วจฺโฉ อุเปติ มาตรํ;

ปุนปฺปุนํ กิลมติ ผนฺทติ จ, ปุนปฺปุนํ คพฺภมุเปติ มนฺโทฯ

‘‘ปุนปฺปุนํ ชายติ มียติ จ, ปุนปฺปุนํ สิวถิกํ [สีวถิกํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] หรนฺติ;

มคฺคญฺจ ลทฺธา อปุนพฺภวาย, น ปุนปฺปุนํ ชายติ ภูริปญฺโญ’’ติ [ปุนปฺปุนํ ชายติ ภูริปญฺโญติ (สฺยา. กํ. ก.)]

เอวํ วุตฺเต, อุทโย พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม…เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ

3. เทวหิตสุตฺตํ

[199] สาวตฺถินิทานํ ฯ เตน โข ปน สมเยน ภควา วาเตหาพาธิโก โหติ; อายสฺมา จ อุปวาโณ ภควโต อุปฏฺฐาโก โหติฯ อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ อามนฺเตสิ – ‘‘อิงฺฆ เม ตฺวํ, อุปวาณ, อุณฺโหทกํ ชานาหี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อุปวาโณ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน เทวหิตสฺส พฺราหฺมณสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตุณฺหีภูโต เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ อทฺทสา โข เทวหิโต พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ ตุณฺหีภูตํ เอกมนฺตํ ฐิตํฯ ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อุปวาณํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘ตุณฺหีภูโต ภวํ ติฏฺฐํ, มุณฺโฑ สงฺฆาฏิปารุโต;

กิํ ปตฺถยาโน กิํ เอสํ, กิํ นุ ยาจิตุมาคโต’’ติฯ

‘‘อรหํ สุคโต โลเก, วาเตหาพาธิโก มุนิ;

สเจ อุณฺโหทกํ อตฺถิ, มุนิโน เทหิ พฺราหฺมณฯ

‘‘ปูชิโต ปูชเนยฺยานํ, สกฺกเรยฺยาน สกฺกโต;

อปจิโต อปเจยฺยานํ [อปจิเนยฺยานํ (สี. สฺยา. กํ.) ฏีกา โอโลเกตพฺพา], ตสฺส อิจฺฉามิ หาตเว’’ติฯ

อถ โข เทวหิโต พฺราหฺมโณ อุณฺโหทกสฺส กาชํ ปุริเสน คาหาเปตฺวา ผาณิตสฺส จ ปุฏํ อายสฺมโต อุปวาณสฺส ปาทาสิฯ อถ โข อายสฺมา อุปวาโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อุณฺโหทเกน นฺหาเปตฺวา [นหาเปตฺวา (สี. ปี.)] อุณฺโหทเกน ผาณิตํ อาโลเลตฺวา ภควโต ปาทาสิฯ อถ โข ภควโต อาพาโธ ปฏิปฺปสฺสมฺภิฯ

อถ โข เทวหิโต พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข เทวหิโต พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

‘‘กตฺถ ทชฺชา เทยฺยธมฺมํ, กตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ;

กถญฺหิ ยชมานสฺส, กถํ อิชฺฌติ ทกฺขิณา’’ติฯ

‘‘ปุพฺเพนิวาสํ โย เวที, สคฺคาปายญฺจ ปสฺสติ;

อโถ ชาติกฺขยํ ปตฺโต, อภิญฺญาโวสิโต มุนิฯ

‘‘เอตฺถ ทชฺชา เทยฺยธมฺมํ, เอตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ;

เอวญฺหิ ยชมานสฺส, เอวํ อิชฺฌติ ทกฺขิณา’’ติฯ

เอวํ วุตฺเต, เทวหิโต พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ โภ โคตม…เป.… อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ

4. มหาสาลสุตฺตํ

[200] สาวตฺถินิทานํ ฯ อถ โข อญฺญตโร พฺราหฺมณมหาสาโล ลูโข ลูขปาวุรโณ [ลูขปาปุรโณ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ พฺราหฺมณมหาสาลํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กินฺนุ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, ลูโข ลูขปาวุรโณ’’ติ? ‘‘อิธ เม, โภ โคตม, จตฺตาโร ปุตฺตาฯ เต มํ ทาเรหิ สํปุจฺฉ ฆรา นิกฺขาเมนฺตี’’ติฯ ‘‘เตน หิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, อิมา คาถาโย ปริยาปุณิตฺวา สภายํ มหาชนกาเย สนฺนิปติเต ปุตฺเตสุ จ สนฺนิสินฺเนสุ ภาสสฺสุ –

‘‘เยหิ ชาเตหิ นนฺทิสฺสํ, เยสญฺจ ภวมิจฺฉิสํ;

เต มํ ทาเรหิ สํปุจฺฉ, สาว วาเรนฺติ สูกรํฯ

‘‘อสนฺตา กิร มํ ชมฺมา, ตาต ตาตาติ ภาสเร;

รกฺขสา ปุตฺตรูเปน, เต ชหนฺติ วโยคตํฯ

‘‘อสฺโสว ชิณฺโณ นิพฺโภโค, ขาทนา อปนียติ;

พาลกานํ ปิตา เถโร, ปราคาเรสุ ภิกฺขติฯ

‘‘ทณฺโฑว กิร เม เสยฺโย, ยญฺเจ ปุตฺตา อนสฺสวา;

จณฺฑมฺปิ โคณํ วาเรติ, อโถ จณฺฑมฺปิ กุกฺกุรํฯ

‘‘อนฺธกาเร ปุเร โหติ, คมฺภีเร คาธเมธติ;

ทณฺฑสฺส อานุภาเวน, ขลิตฺวา ปติติฏฺฐตี’’ติฯ

อถ โข โส พฺราหฺมณมหาสาโล ภควโต สนฺติเก อิมา คาถาโย ปริยาปุณิตฺวา สภายํ มหาชนกาเย สนฺนิปติเต ปุตฺเตสุ จ สนฺนิสินฺเนสุ อภาสิ –

‘‘เยหิ ชาเตหิ นนฺทิสฺสํ, เยสญฺจ ภวมิจฺฉิสํ;

เต มํ ทาเรหิ สํปุจฺฉ, สาว วาเรนฺติ สูกรํฯ

‘‘อสนฺตา กิร มํ ชมฺมา, ตาต ตาตาติ ภาสเร;

รกฺขสา ปุตฺตรูเปน, เต ชหนฺติ วโยคตํฯ