อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘สพฺภิเรว สมาเสถ, สพฺภิ กุพฺเพถ สนฺถวํ;
สตํ สทฺธมฺมมญฺญาย, ญาติมชฺเฌ วิโรจตี’’ติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘สพฺภิเรว สมาเสถ, สพฺภิ กุพฺเพถ สนฺถวํ;
สตํ สทฺธมฺมมญฺญาย, สตฺตา คจฺฉนฺติ สุคฺคติ’’นฺติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘สพฺภิเรว สมาเสถ, สพฺภิ กุพฺเพถ สนฺถวํ;
สตํ สทฺธมฺมมญฺญาย, สตฺตา ติฏฺฐนฺติ สาตต’’นฺติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กสฺส นุ โข, ภควา, สุภาสิต’’นฺติ? สพฺพาสํ โว สุภาสิตํ ปริยาเยน, อปิ จ มมปิ สุณาถ –
‘‘สพฺภิเรว สมาเสถ, สพฺภิ กุพฺเพถ สนฺถวํ;
สตํ สทฺธมฺมมญฺญาย, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจตี’’ติฯ
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา ตา เทวตาโย ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิํสูติฯ
2. มจฺฉริสุตฺตํ
[32] เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข สมฺพหุลา สตุลฺลปกายิกา เทวตาโย อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐํสุฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข เอกา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘มจฺเฉรา จ ปมาทา จ, เอวํ ทานํ น ทียติ [ทิยฺยติ (ก.)];
ปุญฺญํ อากงฺขมาเนน, เทยฺยํ โหติ วิชานตา’’ติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘ยสฺเสว ภีโต น ททาติ มจฺฉรี, ตเทวาททโต ภยํ;
ชิฆจฺฉา จ ปิปาสา จ, ยสฺส ภายติ มจฺฉรี;
ตเมว พาลํ ผุสติ, อสฺมิํ โลเก ปรมฺหิ จฯ
‘‘ตสฺมา วิเนยฺย มจฺเฉรํ, ทชฺชา ทานํ มลาภิภู;
ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมิํ, ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณิน’’นฺติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘เต มเตสุ น มียนฺติ, ปนฺถานํว สหพฺพชํ;
อปฺปสฺมิํ เย ปเวจฺฉนฺติ, เอส ธมฺโม สนนฺตโนฯ
‘‘อปฺปสฺเมเก ปเวจฺฉนฺติ, พหุเนเก น ทิจฺฉเร;
อปฺปสฺมา ทกฺขิณา ทินฺนา, สหสฺเสน สมํ มิตา’’ติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมา คาถาโย อภาสิ –
‘‘ทุทฺททํ ททมานานํ, ทุกฺกรํ กมฺม กุพฺพตํ;
อสนฺโต นานุกุพฺพนฺติ, สตํ ธมฺโม ทุรนฺวโย [ทุรนฺนโย (สี.)]ฯ
‘‘ตสฺมา สตญฺจ อสตํ [อสตญฺจ (สี. สฺยา. กํ.)], นานา โหติ อิโต คติ;
อสนฺโต นิรยํ ยนฺติ, สนฺโต สคฺคปรายนา’’ติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก เอตทโวจ – ‘‘กสฺส นุ โข, ภควา, สุภาสิต’’นฺติ?
‘‘สพฺพาสํ โว สุภาสิตํ ปริยาเยน; อปิ จ มมปิ สุณาถ –
‘‘ธมฺมํ จเร โยปิ สมุญฺชกํ จเร,
ทารญฺจ โปสํ ททมปฺปกสฺมิํ;
สตํ สหสฺสานํ สหสฺสยาคินํ,
กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ ตถาวิธสฺส เต’’ติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘เกเนส ยญฺโญ วิปุโล มหคฺคโต,
สเมน ทินฺนสฺส น อคฺฆเมติ;
กถํ [อิทํ ปทํ กตฺถจิ สีหฬโปตฺถเก นตฺถิ] สตํ สหสฺสานํ สหสฺสยาคินํ,
กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ ตถาวิธสฺส เต’’ติฯ
‘‘ททนฺติ เหเก วิสเม นิวิฏฺฐา,
เฉตฺวา วธิตฺวา อถ โสจยิตฺวา;
สา ทกฺขิณา อสฺสุมุขา สทณฺฑา,
สเมน ทินฺนสฺส น อคฺฆเมติฯ
‘‘เอวํ สตํ สหสฺสานํ สหสฺสยาคินํ;
กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ ตถาวิธสฺส เต’’ติฯ
3. สาธุสุตฺตํ
[33] สาวตฺถินิทานํ ฯ อถ โข สมฺพหุลา สตุลฺลปกายิกา เทวตาโย อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐํสุฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข เอกา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สาธุ โข, มาริส, ทานํ;
มจฺเฉรา จ ปมาทา จ, เอวํ ทานํ น ทียติ;
ปุญฺญํ อากงฺขมาเนน, เทยฺยํ โหติ วิชานตา’’ติฯ
อถ โข อปรา เทวตา ภควโต สนฺติเก อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
‘‘สาธุ โข, มาริส, ทานํ;
อปิ จ อปฺปกสฺมิมฺปิ สาหุ ทานํ’’ฯ
‘‘อปฺปสฺเมเก ปเวจฺฉนฺติ, พหุเนเก น ทิจฺฉเร;
อปฺปสฺมา ทกฺขิณา ทินฺนา, สหสฺเสน สมํ มิตา’’ติฯ