อถ โข เสลาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ ขฺวายํ มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา คาถํ ภาสตี’’ติ? อถ โข เสลาย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘มาโร โข อยํ ปาปิมา มม ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม คาถํ ภาสตี’’ติฯ อถ โข เสลา ภิกฺขุนี ‘‘มาโร อยํ ปาปิมา’’ อิติ วิทิตฺวา มารํ ปาปิมนฺตํ คาถาหิ ปจฺจภาสิ –
‘‘นยิทํ อตฺตกตํ [นยิทํ ปกตํ (สฺยา. กํ.)] พิมฺพํ, นยิทํ ปรกตํ [นยิทํ ปกตํ (สฺยา. กํ.)] อฆํ;
เหตุํ ปฏิจฺจ สมฺภูตํ, เหตุภงฺคา นิรุชฺฌติฯ
‘‘ยถา อญฺญตรํ พีชํ, เขตฺเต วุตฺตํ วิรูหติ;
ปถวีรสญฺจาคมฺม, สิเนหญฺจ ตทูภยํฯ
‘‘เอวํ ขนฺธา จ ธาตุโย, ฉ จ อายตนา อิเม;
เหตุํ ปฏิจฺจ สมฺภูตา, เหตุภงฺคา นิรุชฺฌเร’’ติฯ
อถ โข มาโร ปาปิมา ‘‘ชานาติ มํ เสลา ภิกฺขุนี’’ติ ทุกฺขี ทุมฺมโน ตตฺเถวนฺตรธายีติฯ
10. วชิราสุตฺตํ
[171] สาวตฺถินิทานํ ฯ อถ โข วชิรา ภิกฺขุนี ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สาวตฺถิํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตา เยน อนฺธวนํ เตนุปสงฺกมิ ทิวาวิหารายฯ อนฺธวนํ อชฺโฌคาเหตฺวา อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิฯ อถ โข มาโร ปาปิมา วชิราย ภิกฺขุนิยา ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม เยน วชิรา ภิกฺขุนี เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา วชิรํ ภิกฺขุนิํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘เกนายํ ปกโต สตฺโต, กุวํ สตฺตสฺส การโก;
กุวํ สตฺโต สมุปฺปนฺโน, กุวํ สตฺโต นิรุชฺฌตี’’ติฯ
อถ โข วชิราย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘โก นุ ขฺวายํ มนุสฺโส วา อมนุสฺโส วา คาถํ ภาสตี’’ติ? อถ โข วชิราย ภิกฺขุนิยา เอตทโหสิ – ‘‘มาโร โข อยํ ปาปิมา มม ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ อุปฺปาเทตุกาโม สมาธิมฺหา จาเวตุกาโม คาถํ ภาสตี’’ติฯ