เมนู

3. ทุฏฺฐุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา

ทุฏฺฐุลฺลวาจสฺสาทราควเสนาติ ทุฏฺฐุลฺลา วาจา ทุฏฺฐุลฺลวาจา, ตาย อสฺสาทเจตนา ทุฏฺฐุลฺลวาจสฺสาโท, เตน สมฺปยุตฺตราควเสนฯ เอตฺถาธิปฺเปตํ มาตุคามํ ทสฺเสตุํ ‘‘มาตุคาม’’นฺติอาทิมาหฯ ทุฏฺฐุลฺลาทุฏฺฐุลฺลสํลกฺขณสมตฺถนฺติ อสทฺธมฺมสทฺธมฺมปฺปฏิสํยุตฺตํ กถํ ชานิตุํ สมตฺถํฯ ยา ปน มหลฺลิกาปิ พาลา เอฬมูคา, อยํ อิธานธิปฺเปตาฯ วณฺโณ นาม ทฺเว มคฺเค อุทฺทิสฺส ‘‘อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺฐ. 2.285) โถมนาฯ อวณฺโณ นาม ทฺเว มคฺเค อุทฺทิสฺส วุตฺตวิปริยาเยน ครหนา, ‘‘อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน อสมนฺนาคตาสี’’ติอาทีหิ ขุํสนาติ วุตฺตํ โหติฯ ยาจนา นาม ‘‘เทหิ เม, อรหสิ เม ทาตุ’’นฺติ (ปารา. 285) วจนํฯ อายาจนา นาม ‘‘กทา เต มาตา ปสีทิสฺสติ, กทา เต ปิตา ปสีทิสฺสติ, กทา เต เทวตาโย ปสีทิสฺสนฺติ, กทา เต สุขโณ สุลโย สุมุหุตฺโต ภวิสฺสติ, กทา เต เมถุนํ ธมฺมํ ลภิสฺสามี’’ติ (ปารา. 285) วจนํ ปุจฺฉนํ นาม ‘‘กถํ ตฺวํ สามิกสฺส เทสิ, กถํ ชารสฺส เทสี’’ติ (ปารา. 285) วจนํฯ ปฏิปุจฺฉนํ นาม ‘‘เอวํ กิร ตฺวํ สามิกสฺส เทติ, เอวํ ชารสฺส เทสี’’ติ (ปารา. 285) วจนํฯ อาจิกฺขนํ นาม ปุฏฺฐสฺส ‘‘เอวํ เทหิ, เอวํ เทนฺตา สามิกสฺส ปิยา ภวิสฺสสิ, มนาปา จา’’ติ (ปารา. 285) ภณนํฯ อนุสาสนํ นาม อปุฏฺฐสฺส ‘‘เอวํ เทหิ, เอวํ เทนฺตา สามิกสฺส ปิยา ภวิสฺสสิ, มนาปา จา’’ติ (ปารา. 285) ภวนํฯ อกฺโกสนํ (ปารา. 285) นาม ‘‘อนิมิตฺตาสิ, นิมิตฺตมตฺตาสิ, อโลหิตาสิ, ธุวโลหิตาสิ, ธุวโจฬาสิ, ปคฺฆรนฺตีสิ, สิขรณีสิ, อิตฺถิปณฺฑกาสิ, เวปุริสิกาสิ, สมฺภินฺนาสิ, อุภโตพฺยญฺชนกาสี’’ติ (ปารา. 285) วจนํฯ ยสฺมา เมถุนุปสํหิตาย วาจาย อธิกํ ทุฏฺฐุลฺลํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘เมถุนุปสํหิตาหี’’ติ อิทํ ทุฏฺฐุลฺลวาจาย สิขาปตฺตลกฺขณทสฺสนนฺติ วุตฺตํ, น ปน เมถุนุปสํหิตาเยว ทุฏฺฐุลฺลวาจตฺตาฯ สิขรณีสีติ (ปารา. อฏฺฐ. 2.285) พหินิกฺขนฺตอาณิมํสาฯ สมฺภินฺนาสีติ สมฺภินฺนวจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคาฯ อุภโตพฺยญฺชนกาสีติ ปุริสนิมิตฺเตน, อิตฺถินิมิตฺเตน จาติ อุภโตพฺยญฺชเนหิ สมนฺนาคตาฯ

เอตฺถ จ วณฺณภณเน ตาว ‘‘อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ วทติ, น ตาว สีสํ เอติฯ ‘‘ตว วจฺจมคฺโค จ ปสฺสาวมคฺโค จ สุโภ สุภสณฺฐาโน ทสฺสนีโย, อีทิเสน นาม อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ วทติ, สีสํ เอติ, สงฺฆาทิเสโส โหตีติ อตฺโถฯ

อวณฺณภณเน ปน ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีหิ เอกาทสหิ ปเทหิ อวณฺเณ อฆฏิเต สีสํ น เอติ, ฆฏิเตปิ เตสุ ‘‘สิขรณีสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยญฺชนกาสี’’ติ อิเมหิ ตีหิ ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโสฯ

ยาจนายปิ ‘‘เทหิ เม’’ติ เอตฺตเกเนว สีสํ น เอติ, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ เทหี’’ติ เอวํ เมถุนธมฺเมน ฆฏิเต เอว สงฺฆาทิเสโสฯ

‘‘กทา เต มาตา ปสีทิสฺสตี’’ติอาทีสุ อายาจนวจเนสุปิ เอตฺตเกเนว สีสํ น เอติ, ‘‘กทา เต มาตา ปสีทิสฺสติ, กทา เต เมถุนํ ธมฺมํ ลภิสฺสามี’’ติ วา ‘‘ตว มาตริ ปสนฺนาย วา เมถุนํ ธมฺมํ ลภิสฺสามี’’ติอาทินา ปน นเยน เมถุนธมฺเมน ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโสฯ

‘‘กถํ ตฺวํ สามิกสฺส เทสี’’ติอาทีสุ (ปารา. 285) ปุจฺฉาวจเนสุปิ ‘‘เมถุนํ ธมฺม’’นฺติ วุตฺเตเยว สงฺฆาทิเสโสฯ ‘‘เอวํ กิร ตฺวํ สามิกสฺส เทสี’’ติ (ปารา. 285) ปฏิปุจฺฉาวจเนสุปิ เอเสว นโยฯ

อาจิกฺขนาย จ ‘‘เอวํ เทหี’’ติ, ‘‘เอวํ ททมานา’’ติ วุตฺเตปิ สีสํ น เอติ, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ เอวํ เทหิ, เอวํ อุปเนหิ, เอวํ เมถุนํ ธมฺมํ ททมานา อุปนยมานา สามิกสฺส ปิยา โหตี’’ติอาทินา ปน นเยน เมถุนธมฺเมน ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโสฯ อนุสาสนิวจเนสุปิ เอเสว นโยฯ

อกฺโกสวจเนสุ ปน เอกาทสสุ ‘‘สิขรณีสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยญฺชนกาสี’’ติ อิมานิ ตีณิเยว ปทานิ สุทฺธานิ สีสํ เอนฺติ, อิติ อิมานิ จ ตีณิ, ปุริมานิ จ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคเมถุนธมฺมปทานิ ตีณีติ ฉ ปทานิ สุทฺธานิ อาปตฺติกรานิ, เสสานิ ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีนิ อนิมิตฺเต ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ เม เทหี’’ติ วา ‘‘อนิมิตฺตาสิ, เมถุนํ ธมฺมํ เม เทหี’’ติ วา อาทินา นเยน เมถุนธมฺเมน ฆฏิตาเนว อาปตฺติกรานิ โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิฯ

อธกฺขกนฺติ อกฺขกโต ปฏฺฐาย อโธฯ อุพฺภชาณุมณฺฑลนฺติ ชาณุมณฺฑลโต ปฏฺฐาย อุทฺธํฯ อุพฺภกฺขกนฺติ อกฺขกโต ปฏฺฐาย อุทฺธํฯ อโธชาณุมณฺฑลนฺติ ชาณุมณฺฑลโต ปฏฺฐาย อโธฯ

อกฺขกํ, ปน ชาณุมณฺฑลญฺจ เอตฺเถว ทุกฺกฏเขตฺเต สงฺคหํ คจฺฉติ ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺเค วิย ฯ น หิ พุทฺธา ครุกาปตฺติํ สาวเสสํ ปญฺญาเปนฺตีติฯ กายปฺปฏิพทฺธนฺติ วตฺถํ วา ปุปฺผํ วา อาภรณํ วาฯ

อตฺถธมฺมอนุสาสนิปุเรกฺขารานนฺติ (ปารา. อฏฺฐ. 2.287) เอตฺถ ‘‘อนิมิตฺตา’’ติอาทีนํ ปทานํ อตฺถํ กเถนฺโต, อฏฺฐกถํ วา สชฺฌายํ กโรนฺโต อตฺถปุเรกฺขาโร นาม, ปาฬิํ วาเจนฺโต, สชฺฌายํ วา กโรนฺโต ธมฺมปุเรกฺขาโร นาม, ‘‘อิทานิปิ อนิมิตฺตาสิ, อุภโตพฺยญฺชนกาสิ, อปฺปมาทํ ทานิ กเรยฺยาสิ, ยถา อายติมฺปิ เอวรูปา มา โหหิสี’’ติ ภณนฺโต อนุสาสนิปุเรกฺขาโร นามฯ อิติ อตฺถญฺจ ธมฺมญฺจ อนุสาสนิญฺจ ปุรกฺขิตฺวา ภณนฺตานํ อนาปตฺติฯ โย ปน ภิกฺขุนีนํ ปาฬิํ วาเจนฺโต ปกติวาจนามคฺคํ ปหาย หสนฺโต หสนฺโต ‘‘สิขรณีสิ, สมฺภินฺนาสิ, อุภโตพฺยญฺชนกาสี’’ติ ปุนปฺปุนํ ภณติ, ตสฺส อาปตฺติเยวฯ อิธ อาทิกมฺมิโก อุทายิตฺเถโร, ตสฺส อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสฯ นนุ ‘‘สิขรณี’’ติอาทีหิ อกฺโกสนฺตสฺส ปฏิฆจิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ทุกฺขเวทนายปิ ภวิตพฺพํ, อถ กสฺมา ทฺวิเวทนนฺติ? นายํ โทโสฯ ราควเสน หิ อยํ อาปตฺติ, น ปฏิฆวเสน, ตสฺมา ราควเสเนว ปวตฺโต อกฺโกโส อิธาธิปฺเปโต, น ปฏิฆวเสนาปีติฯ

ทุฏฺฐุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

4. อตฺตกามสิกฺขาปทวณฺณนา

อตฺตกามปาริจริยาวเสนาติ อตฺตกามปาริจริยาย ราควเสนฯ อิธาปิ ทุฏฺฐุลฺลาทุฏฺฐุลฺลชานนสมตฺถาว อิตฺถี อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘ทุฏฺฐุลฺโลภาเสน วุตฺตปฺปการาย อิตฺถิยา’’ติฯ สมีเปติ สวนูปจาเรฯ ‘‘ฐตฺวา’’ติ ปาฐเสโสฯ อตฺตกามปาริจริยาติ กามียตีติ กาโม, เมถุนธมฺโม, ปริจรณํ อุปฏฺฐานํ ปริจริยา, สาว ปาริจริยา, กาเมน ปาริจริยา กามปาริจริยา, อตฺตโน กามปาริจริยา อตฺตกามปาริจริยา, อตฺตโน อตฺถาย เมถุนธมฺเมน อุปฏฺฐานนฺติ อตฺโถฯ อถ วา กามิตาติ กามา, ปาริจริยา, อตฺตโน กามา อตฺตกามา, อตฺตกามา จ สา ปาริจริยา จาติ อตฺตกามปาริจริยา, สยํ เมถุนราควเสน ปตฺถิตอุปฏฺฐานนฺติ อตฺโถฯ เตนาห ‘‘เมถุนธมฺมสงฺขาเตนา’’ติอาทิฯ เอตฺถ จ ปฐเมน อตฺถวิกปฺเปน กามเหตุปาริจริยาสงฺขาตํ อตฺถตฺตยํ ทสฺเสติ, ทุติเยน อธิปฺปายปาริจริยาสงฺขาตํ อตฺถทฺวยํฯ พฺยญฺชเน (ปารา. อฏฺฐ. 2.291) ปน อาทรํ อกตฺวา อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน อธิปฺปายํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ (ปารา. 292) ปทภาชนํ วุตฺตํฯ ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ หิ วุตฺเต ชานิสฺสนฺติ ปณฺฑิตา ‘‘เอตฺตาวตา อตฺตโน อตฺถาย กามปาริจริยา วุตฺตา’’ติ, ‘‘อตฺตโน อธิปฺปายํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ (ปารา. 292) วุตฺเตปิ ชานิสฺสนฺติ ‘‘เอตฺตาวตา อตฺตนา อิจฺฉิตกามิตฏฺเฐน อตฺตกามปาริจริยา วุตฺตา’’ติฯ

กลฺยาเณน ภทฺทเกน คุเณน สมนฺนาคตตฺตา กลฺยาณธมฺมํฯ เตนาห ‘‘ตทุภเยนาปี’’ติอาทิฯ อภิรเมยฺยาติ โตเสยฺยฯ เอตทคฺคนฺติ เอสา อคฺคาฯ ปาริจริยานนฺติ ปาริจริยานํ มชฺเฌ, นิทฺธารเณ เจตํ สามิวจนํฯ นนุ ทุฏฺฐลฺลวาจาสิกฺขาปเท (ปารา. 285) เมถุนยาจนํ อาคตํ, อถ กสฺมา อิทํ วุตฺตํ? นายํ โทโสฯ ตตฺถ (สารตฺถ. ฏี. 2.291) หิ ทุฏฺฐุลฺลวาจสฺสาทราควเสน วุตฺตํ, อิธ ปน อตฺตโน เมถุนสฺสาทราควเสนาติฯ

ตสฺมิํเยว ขเณติ ภณิตกฺขเณฯ อุภโตพฺยญฺชนโก ปน ปณฺฑกคติกตฺตา วิสุํ น วุตฺโต ฯ ‘‘อิมสฺมิํ สิกฺขาปททฺวเย กายสํสคฺเค วิย ยกฺขิเปตีสุปิ ทุฏฺฐุลฺลตฺตกามวจเน ถุลฺลจฺจย’’นฺติ (วชิร. ฏี. ปาราชิก 295) วทนฺติฯ ตสฺมิํเยวาติ ปณฺฑเกเยว อิตฺถิสญฺญิโน อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณภณเนปิ ทุกฺกฏํฯ ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, ตสฺส อคฺคทานํ เมถุนํ ธมฺมํ เทหี’’ติ ปริยายวจเนปิ ทุกฺกฏํฯ ‘‘อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาเสยฺย ยา มาทิสํ ‘สีลวนฺต’นฺติ วุตฺตตฺตา’’ติ (วชิร. ฏี. ปาราชิก 295) เอเกฯ ‘‘ปญฺจสุ องฺเคสุ สพฺภาวา สงฺฆาทิเสโสวา’’ติ อปเรฯ ‘‘เมถุนุปสํหิเตนา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘จีวราทีหิ…เป.… ภาสนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํฯ

อตฺตกามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ