เมนู

จตุปจฺจยสาธารณกถาวณฺณนา

[225] จตุปจฺจยสาธารณกถายํ สมฺมเตน อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชเกนาติ ญตฺติทุติยกมฺมวาจาย วา อปโลกนกมฺเมน วา สมฺมเตน อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺชกสมฺมุติลทฺเธนฯ อวิภตฺตํ สงฺฆิกภณฺฑนฺติ ปุจฺฉิตพฺพกิจฺจํ นตฺถีติ เอตฺถ อวิภตฺตํ สงฺฆิกภณฺฑนฺติ กุกฺกุจฺจุปฺปตฺติอาการทสฺสนํ, เอวํ กุกฺกุจฺจํ กตฺวา ปุจฺฉิตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ, อปุจฺฉิตฺวาว ทาตพฺพนฺติ อธิปฺปาโยฯ กสฺมาติ เจ? เอตฺตกสฺส สงฺฆิกภณฺฑสฺส วิสฺสชฺชนตฺถาเยว สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา กตสมฺมุติกมฺมตฺตาฯ คุฬปิณฺเฑ…เป.… ทาตพฺโพติ เอตฺถ คุฬปิณฺฑํ ตาลปกฺกปฺปมาณนฺติ เวทิตพฺพํฯ ปิณฺฑาย ปวิฏฺฐสฺสปีติ อิทํ อุปลกฺขณมตฺตํฯ อญฺเญน การเณน พหิสีมคตสฺสปิ เอเสว นโยฯ โอทนปฏิวีโสติ สงฺฆภตฺตาทิสงฺฆิกโอทนปฏิวีโสฯ อนฺโตอุปจารสีมายํ ฐิตสฺสาติ อนาทเร สามิวจนํ, อนฺโตอุปจารสีมายํ ฐิตสฺเสว คาเหตุํ วฏฺฏติ, น พหิอุปจารสีมํ ปตฺตสฺสาติ อตฺโถฯ วุตฺตญฺเหตํ อฏฺฐกถายํ (จูฬว. อฏฺฐ. 325) ‘‘พหิอุปจารสีมาย ฐิตานํ คาเหถาติ วทนฺติ, น คาเหตพฺพ’’นฺติฯ อนฺโตคามฏฺฐานมฺปีติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท อวุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺโถ, อนฺโตคามฏฺฐานมฺปิ พหิคามฏฺฐานมฺปิ คาเหตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถฯ สมฺภาวนตฺโถ วา, เตน อนฺโตคามฏฺฐานมฺปิ คาเหตุํ วฏฺฏติ, ปเคว พหิคามฏฺฐานนฺติฯ

จตุปจฺจยสาธารณกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

อิติ วินยสงฺคหสํวณฺณนาภูเต วินยาลงฺกาเร

จตุปจฺจยภาชนียวินิจฺฉยกถาลงฺกาโร นาม

อฏฺฐวีสติโม ปริจฺเฉโทฯ

วิหารวินิจฺฉยกถาวณฺณนา

อิทานิ จตุปจฺจยนฺโตคธตฺตา วิหารสฺส จตุปจฺจยภาชนกถานนฺตรํ วิหารวินิจฺฉยกถา อารภียเตฯ ตตฺริทํ วุจฺจติ –

‘‘โก วิหาโร เกนฏฺเฐน;

วิหาโร โส กติวิโธ;

เกน โส กสฺส ทาตพฺโพ;

กถํ โก ตสฺส อิสฺสโรฯ

‘‘เกน โส คาหิโต กสฺส;

อนุฏฺฐาปนิยา กติ;

กติหงฺเคหิ ยุตฺตสฺส;

ธุววาสาย ทียเต’’ติฯ

ตตฺถ โก วิหาโรติ จตูสุ ปจฺจเยสุ เสนาสนสงฺขาโต จตูสุ เสนาสเนสุ วิหารเสนาสนสงฺขาโต ภิกฺขูนํ นิวาสภูโต ปติสฺสยวิเสโสฯ เกนฏฺเฐน วิหาโรติ วิหรนฺติ เอตฺถาติ วิหาโร, อิริยาปถทิพฺพพฺรหฺมอริยสงฺขาเตหิ จตูหิ วิหาเรหิ อริยา เอตฺถ วิหรนฺตีตฺยตฺโถฯ โส กติวิโธติ สงฺฆิกวิหารคณสนฺตกวิหารปุคฺคลิกวิหารวเสน ติพฺพิโธฯ วุตฺตญฺเหตํ สมนฺตปาสาทิกายํ ‘‘จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ภิกฺขูนํ ทินฺนํ วิหารํ วา ปริเวณํ วา อาวาสํ วา มหนฺตมฺปิ ขุทฺทกมฺปิ อภิยุญฺชโต อภิโยโค น รุหติ, อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหิตุมฺปิ น สกฺโกติฯ กสฺมา? สพฺเพสํ ธุรนิกฺเขปาภาวโตฯ น เหตฺถ สพฺเพ จาตุทฺทิสา ภิกฺขู ธุรนิกฺเขปํ กโรนฺตีติฯ ทีฆภาณกาทิเภทสฺส ปน คณสฺส, เอกปุคฺคลสฺส วา สนฺตกํ อภิยุญฺชิตฺวา คณฺหนฺโต สกฺโกติ เต ธุรํ นิกฺขิปาเปตุํ, ตสฺมา ตตฺถ อาราเม วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ’’ติฯ อิมินา ทายกสนฺตโก วิหาโร นาม นตฺถีติ ทีเปติฯ

เกน โส ทาตพฺโพติ ขตฺติเยน วา พฺราหฺมเณน วา เยน เกนจิ โส วิหาโร ทาตพฺโพฯ กสฺส ทาตพฺโพติ สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ทาตพฺโพฯ กถํ ทาตพฺโพติ ยทิ สงฺฆสฺส เทติ, ‘‘อิมํ วิหารํ อาคตานาคตสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ, ยทิ คณสฺส, ‘‘อิมํ วิหารํ อายสฺมนฺตานํ ทมฺมี’’ติ, ยทิ ปุคฺคลสฺส, ‘‘อิมํ วิหารํ อายสฺมโต ทมฺมี’’ติ ทาตพฺโพฯ โก ตสฺส อิสฺสโรติ ยทิ สงฺฆสฺส เทติ, สงฺโฆ ตสฺส วิหารสฺส อิสฺสโรฯ ยทิ คณสฺส เทติ, คโณ ตสฺส อิสฺสโรฯ ยทิ ปุคฺคลสฺส เทติ, ปุคฺคโล ตสฺส อิสฺสโรติฯ

ตถา หิ วุตฺตํ อฏฺฐกถายํ ‘‘ทีฆภาณกาทิกสฺส ปน คณสฺส เอกปุคฺคลสฺส วา สนฺตก’’นฺติฯ

เกน โส คาหิโตติ เสนาสนคฺคาหาปเกน โส วิหาโร คาหิโตฯ วุตฺตญฺเหตํ ภควตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ เสนาสนคฺคาหาปกํ สมฺมนฺนิตุํ, โย น ฉนฺทาคติํ คจฺเฉยฺย, น โทสาคติํ คจฺเฉยฺย, น โมหาคติํ คจฺเฉยฺย, เอวญฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺโพ, ปฐมํ ภิกฺขุ ยาจิตพฺโพ, ยาจิตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ ญาเปตพฺโพ –

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ เสนาสนคฺคาหาปกํ สมฺมนฺเนยฺย, เอสา ญตฺติฯ

‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ, สงฺโฆ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ เสนาสนคฺคาหาปกํ สมฺมนฺนติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน เสนาสนคฺคาหาปกสฺส สมฺมุติ, โส ตุณฺหสฺสฯ ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ

‘‘สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ เสนาสนคฺคาหาปโก, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (จูฬว. 317)ฯ

กสฺส โส คาหิโตติ ภิกฺขูนํ โส วิหาโร คาหิโตฯ วุตฺตญฺเหตํ ภควตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฐมํ ภิกฺขู คเณตุํ, ภิกฺขู คเณตฺวา เสยฺยา คเณตุํ, เสยฺยา คเณตฺวา เสยฺยคฺเคน คาเหตุ’’นฺติ (จูฬว. 318)ฯ อนุฏฺฐาปนิยา กตีติ จตฺตาโร อนุฏฺฐาปนียา วุฑฺฒตโร คิลาโน ภณฺฑาคาริโก สงฺฆโต ลทฺธเสนาสโนติฯ

วุตฺตญฺเหตํ กงฺขาวิตรณิยํ (กงขา. อฏฺฐ. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘วุฑฺโฒ หิ อตฺตโน วุฑฺฒตาย อนุฏฺฐาปนีโย , คิลาโน คิลานตาย, สงฺโฆ ปน ภณฺฑาคาริกสฺส วา ธมฺมกถิกวินยธรคณวาจกาจริยานํ วา พหูปการตํ คุณวิสิฏฺฐตญฺจ สลฺลกฺเขตฺวา ธุววาสตฺถาย วิหารํ สลฺลกฺเขตฺวา สมฺมนฺนิตฺวา เทติ, ตสฺมา ยสฺส สงฺเฆน ทินฺโน, โสปิ อนุฏฺฐาปนีโย’’ติฯ

กติหงฺเคหิ ยุตฺตสฺส ธุววาสาย ทียเตติ อุกฺกฏฺฐปริจฺเฉเทน ทฺวีหิ องฺเคหิ ยุตฺตสฺส ธุววาสตฺถาย วิหาโร ทียเตฯ กตเมหิ ทฺวีหิ? พหูปการตาย คุณวิสิฏฺฐตาย เจติฯ กถํ วิญฺญายตีติ เจ? ‘‘พหูปการตนฺติ ภณฺฑาคาริกตาทิพหุอุปการภาวํ, น เกวลํ อิทเมวาติ อาห ‘คุณวิสิฏฺฐตญฺจา’ติฯ เตน พหูปการตฺเตปิ คุณวิสิฏฺฐตฺตาภาเว คุณวิสิฏฺฐตฺเตปิ พหูปการตฺตาภาเว ทาตุํ วฏฺฏตีติ ทสฺเสตี’’ติ วินยตฺถมญฺชูสายํ (กงขา. อภิ. ฏี. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา) วจนโตฯ โอมกปริจฺเฉเทน เอเกน องฺเคน ยุตฺตสฺสปิฯ กตเมน เอเกน องฺเคน? พหูปการตาย วา คุณวิสิฏฺฐตาย วาฯ กถํ วิญฺญายตีติ เจ? ‘‘พหูปการตํ คุณวิสิฏฺฐตญฺจ สลฺลกฺเขนฺโตติ ภณฺฑาคาริกสฺส พหูปการตํ, ธมฺมกถิกาทีนํ คุณวิสิฏฺฐตญฺจ สลฺลกฺเขนฺโต’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย 3.119-121) วจนโตฯ

เสนาสนคฺคาโห ปน ทุวิโธ อุตุกาเล จ วสฺสาวาเส จาติ กาลวเสนฯ อถ วา ตโย เสนาสนคฺคาหา ปุริมโก ปจฺฉิมโก อนฺตรามุตฺตโกติฯ เตสํ วิเสโส เหฏฺฐา วุตฺโตวฯ ‘‘อุตุกาเล เสนาสนคฺคาโห อนฺตรามุตฺตโก จ ตงฺขณปฏิสลฺลาโน จาติ ทุพฺพิโธฯ

วสฺสาวาเส เสนาสนคฺคาโห ปุริมโก จ ปจฺฉิมโก จาติ ทุพฺพิโธติ จตฺตาโร เสนาสนคฺคาหา’’ติ อาจริยา วทนฺติ, ตํ วจนํ ปาฬิยมฺปิ อฏฺฐกถายมฺปิ น อาคตํ ฯ ปาฬิยํ (จูฬว. 318) ปน ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, เสนาสนคฺคาหา ปุริมโก ปจฺฉิมโก อนฺตรามุตฺตโก’’อิจฺเจว อาคโต, อฏฺฐกถายมฺปิ (จูฬว. อฏฺฐ. 318) ‘‘ตีสุ เสนาสนคฺคาเหสุ ปุริมโก จ ปจฺฉิมโก จาติ อิเม ทฺเว คาหา ถาวรา, อนฺตรามุตฺตเก อยํ วินิจฺฉโย’’ติ อาคโตฯ

อิทานิ ปน เอกจฺเจ อาจริยา ‘‘อิมสฺมิํ กาเล สพฺเพ วิหารา สงฺฆิกาว, ปุคฺคลิกวิหาโร นาม นตฺถิฯ กสฺมา? วิหารทายกานํ วิหารทานกาเล กุลูปกา ‘อิมํ วิหารํ อาคตานาคตสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺส เทมา’ติ วจีเภทํ การาเปนฺติ, ตสฺมา นววิหาราปิ สงฺฆิกา เอวฯ เอกจฺเจสุ วิหาเรสุ เอวํ อวตฺวา เทนฺเตสุปิ ‘ตสฺมิํ ชีวนฺเต ปุคฺคลิโก โหติ, มเต สงฺฆิโกเยวา’ติ วุตฺตตฺตา โปราณกวิหาราปิ สงฺฆิกาว โหนฺตี’’ติ วทนฺติฯ ตตฺเรวํ วิจาเรตพฺโพ – วจีเภทํ การาเปตฺวา ทินฺนวิหาเรสุปิ ทายกา สงฺฆํ อุทฺทิสฺส กโรนฺตา นาม อปฺปกา, ‘‘อิมํ นาม ภิกฺขุํ อิมํ นาม เถรํ วสาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุตฺตทารมิตฺตามจฺจาทีหิ สมฺมนฺเตตฺวา ปติฏฺฐาเปนฺติ, ปติฏฺฐานกาเล อวทนฺตาปิ ทานกาเล เยภุยฺเยน วทนฺติฯ อถ ปน กุลูปกา ทานกาเล สิกฺขาเปตฺวา วทาเปนฺติ, เอวํ วทนฺตาปิ ทายกา อปฺปกา สงฺฆํ อุทฺทิสฺส เทนฺติ, พหุตรา อตฺตโน กุลูปกเมว อุทฺทิสฺส เทนฺติฯ เอวํ สนฺเต กุลูปกานํ วจนํ นวสุ อธมฺมิกทาเนสุ ‘‘ปุคฺคลสฺส ปริณตํ สงฺฆสฺส ปริณาเมตี’’ติ (ปารา. 660; ปาจิ. 492) วุตฺตํ เอกํ อธมฺมิกทานํ อาปชฺชติฯ ‘‘ตสฺมิํ ชีวนฺเต ปุคฺคลิโก, มเต สงฺฆิโก’’ติ อยํ ปาโฐ มูลปุคฺคลิกวิสเย น อาคโต, มูลสงฺฆิกวิหารํ ชคฺคาเปตุํ ปุคฺคลิกการาปนฏฺฐาเน อาคโต, ตสฺมา นววิหาราปิ ปุคฺคลํ อุทฺทิสฺส ทินฺนา สนฺติเยวฯ

โปราณกวิหาราปิ มูเล ปุคฺคลิกวเสน ทินฺนา สทฺธิวิหาริกาทีนํ ปุคฺคลิกวเสเนว ทียมานาปิ ตสฺมิํ ชีวนฺเตเยว วิสฺสาสวเสน คยฺหมานาปิ ปุคฺคลิกา โหนฺติเยว, ตสฺมา สพฺพโส ปุคฺคลิกวิหารสฺส อภาววาโท วิจาเรตพฺโพวฯ

อญฺเญ ปน อาจริยา ‘‘อิมสฺมิํ กาเล สงฺฆิกวิหารา นาม น สนฺติ, สพฺเพ ปุคฺคลิกาวฯ กสฺมา? นววิหาราปิ ปติฏฺฐาปนกาเล ทานกาเล จ กุลูปกภิกฺขุํเยว อุทฺทิสฺส กตตฺตา ปุคฺคลิกาว, โปราณกวิหาราปิ สิสฺสานุสิสฺเสหิ วา อญฺเญหิ วา ปุคฺคเลหิ เอว ปริคฺคหิตตฺตา, น กทาจิ สงฺเฆน ปริคฺคหิตตฺตา ปุคฺคลิกาว โหนฺติ, น สงฺฆิกา’’ติ วทนฺติฯ ตตฺราปฺเยวํ วิจาเรตพฺพํ – นววิหาเรปิ ปติฏฺฐานกาเลปิ ทานกาเลปิ เอกจฺเจ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส กโรนฺติ, เอกจฺเจ ปุคฺคลํฯ ปุพฺเพว ปุคฺคลํ อุทฺทิสฺส กเตปิ อตฺถกามานํ ปณฺฑิตานํ วจนํ สุตฺวา ปุคฺคลิกทานโต สงฺฆิกทานเมว มหปฺผลตรนฺติ สทฺทหิตฺวา สงฺฆิเก กโรนฺตาปิ ทายกา สนฺติ, ปุคฺคลิกวเสน ปฏิคฺคหิเต โปราณกวิหาเรปิ เกจิ ภิกฺขู มรณกาเล สงฺฆสฺส นิยฺยาเตนฺติฯ เกจิ กสฺสจิ อทตฺวา มรนฺติ, ตทา โส วิหาโร สงฺฆิโก โหติฯ สวตฺถุกมหาวิหาเร ปน กโรนฺตา ราชราชมหามตฺตาทโย ‘‘ปญฺจวสฺสสหสฺสปริมาณํ สาสนํ ยาว ติฏฺฐติ, ตาว มม วิหาเร วสิตฺวา สงฺโฆ จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุญฺชตู’’ติ ปณิธาย จิรกาลํ สงฺฆสฺส ปจฺจยุปฺปาทกรํ คามเขตฺตาทิกํ ‘‘อมฺหากํ วิหารสฺส เทมา’’ติ เทนฺติ, วิหารสฺสาติ จ วิหาเร วสนกสงฺฆสฺส อุทฺทิสฺส เทนฺติ, น กุลูปกภูตสฺส เอกปุคฺคลสฺส เอว, ตสฺมา เยภุยฺเยน สงฺฆิกา ทิสฺสนฺติ, ปาสาเณสุ อกฺขรํ ลิขิตฺวาปิ ฐเปนฺติ, ตสฺมา สพฺพโส สงฺฆิกวิหาราภาววาโทปิ วิจาเรตพฺโพวฯ

อปเร ปน อาจริยา ‘‘อิมสฺมิํ กาเล วิหารทายกสนฺตกาว, ตสฺมา ทายกาเยว วิจาเรตุํ อิสฺสรา, น สงฺโฆ, น ปุคฺคโลฯ วิหารทายเก อสนฺเตปิ ตสฺส ปุตฺตธีตุนตฺตปนตฺตาทโย ยาว กุลปรมฺปรา ตสฺส วิหารสฺส อิสฺสราว โหนฺติฯ กสฺมาติ เจ? ‘เยน วิหาโร การิโต, โส วิหารสามิโก’ติ (ปาจิ. อฏฺฐ. 116) อาคตตฺตา จ ‘ตสฺส วา กุเล โย โกจิ อาปุจฺฉิตพฺโพ’ติ (ปาจิ. อฏฺฐ. 116) จ วจนโต วิหารสฺสามิภูโต ทายโก วา ตสฺส วํเส อุปฺปนฺโน วา วิจาเรตุํ อิสฺสโรฯ ‘ปจฺฉินฺเน กุลวํเส โย ตสฺส ชนปทสฺส สามิโก, โส อจฺฉินฺทิตฺวา ปุน เทติ จิตฺตลปพฺพเต ภิกฺขุนา นีหฏํ อุทกวาหกํ อฬนาคราชมเหสี วิย, เอวมฺปิ วฏฺฏตี’ติ อฏฺฐกถายํ (ปารา. อฏฺฐ. 2.538-539) วจนโต วิหารทายกสฺส กุลวํเส ปจฺฉินฺเนปิ ตสฺส ชนปทสฺส อิสฺสโร ราชา วา ราชมหามตฺโต วา โย โกจิ อิสฺสโร วา วิหารํ วิจาเรตุํ ยถาชฺฌาสยํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตมฺปิ อญฺเญ ปณฺฑิตา นานุชานนฺติฯ

กถํ? ‘‘เยน วิหาโร การิโต, โส วิหารสามิโก’’ติ วจนํ ปุพฺพโวหารวเสน วุตฺตํ, น อิทานิ อิสฺสรวเสน ยถา เชตวนํ, ปตฺตสฺสามิโกตฺยาทิฯ ยถา หิ เชตสฺส ราชกุมารสฺส วนํ อุยฺยานํ เชตวนนฺติ วิคฺคเห กเต ยทิปิ อนาถปิณฺฑิเกน กิณิตฺวา วิหารปติฏฺฐาปนกาลโต ปฏฺฐาย ราชกุมาโร ตสฺส อุยฺยานสฺส อิสฺสโร น โหติ, ตถาปิ อนาถปิณฺฑิเกน กิณิตกาลโต ปุพฺเพ อิสฺสรภูตปุพฺพตฺตา ปุพฺพโวหารวเสน สพฺพทาปิ เชตวนนฺเตฺวว โวหรียติฯ

ยถา จ ปตฺตสฺส สามิโก ปตฺตสฺสามิโกติ วิคฺคเห กเต ยทิปิ ทายเกหิ กิณิตฺวา ภิกฺขุสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺฐาย กมฺมาโร ปตฺตสฺส อิสฺสโร น โหติ, ตถาปิ ทายเกน กิณิตกาลโต ปุพฺเพ อิสฺสรภูตปุพฺพตฺตา ปุพฺพโวหารวเสน ปตฺตสฺสามิโกตฺเวว โวหรียติ, เอวํ ยทิปิ ภิกฺขุสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺฐาย ทายโก วิหารสฺส อิสฺสโร น โหติ วตฺถุปริจฺจาคลกฺขณตฺตา ทานสฺส, ตถาปิ ทานกาลโต ปุพฺเพ อิสฺสรภูตปุพฺพตฺตา ปุพฺพโวหารวเสน วิหารสฺสามิโกตฺเวว โวหรียติ, น มุขฺยโต อิสฺสรภาวโตติ วิญฺญายติ, ตสฺมา สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ทินฺนกาลโต ปฏฺฐาย สงฺฆาทโย ปฏิคฺคาหกา เอว วิจาเรตุํ อิสฺสรา, น ทายโกฯ

กถํ วิญฺญายตีติ เจ? สนฺเตสุปิ อนาถปิณฺฑิกาทีสุ วิหารทายเกสุ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ เสนาสนคฺคาหาปกํ สมฺมนฺนิตุ’’นฺติอาทินา (จูฬว. 317) สงฺเฆน สมฺมตํ เสนาสนคฺคาหาปกํ อนุชานิตฺวา, ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว…เป.… เสยฺยคฺเคน คาเหตุ’’นฺติอาทินา (จูฬว. 318) เสนาสนคฺคาหาปกสฺเสว วิจาเรตุํ อิสฺสรภาวสฺส วจนโต จ ‘‘ทฺเว ภิกฺขู สงฺฆิกํ ภูมิํ คเหตฺวา โสเธตฺวา สงฺฆิกํ เสนาสนํ กโรนฺติ, เยน สา ภูมิ ปฐมํ คหิตา, โส สามี’’ติ จ ‘‘อุโภปิ ปุคฺคลิกํ กโรนฺติ, โสเยว สามี’’ติ จ ‘‘โย ปน สงฺฆิกํ วลฺลิมตฺตมฺปิ อคฺคเหตฺวา อาหริเมน อุปกรเณน สงฺฆิกาย ภูมิยา ปุคฺคลิกวิหารํ กาเรติ, อุปฑฺฒํ สงฺฆิกํ อุปฑฺฒํ ปุคฺคลิก’’นฺติ จ สงฺฆปุคฺคลานํเยว สามิภาวสฺส อฏฺฐกถายํ วุตฺตตฺตา จ วิญฺญายติฯ

‘‘ตสฺส วา กุเล โย โกจิ อาปุจฺฉิตพฺโพ’’ติ อฏฺฐกถาวจนมฺปิ เตสํ วิหารสฺส อิสฺสรภาวทีปกํ น โหติ, อถ โข คมิโก ภิกฺขุ ทิสํ คนฺตุกาโม วิหาเร อาปุจฺฉิตพฺพภิกฺขุสามเณรอารามิเกสุ อสนฺเตสุ เต อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตพฺพภาวเมว ทีเปติฯ วุตฺตญฺเหตํ อฏฺฐกถายํ ‘‘อิมํ ปน ทสวิธมฺปิ เสยฺยํ สงฺฆิเก วิหาเร สนฺถริตฺวา วา สนฺถราเปตฺวา วา ปกฺกมนฺเตน อาปุจฺฉิตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ, อาปุจฺฉนฺเตน จ ภิกฺขุมฺหิ สติ ภิกฺขุ อาปุจฺฉิตพฺโพ…เป.… ตสฺมิํ อสติ อารามิโก, ตสฺมิมฺปิ อสติ เยน วิหาโร การิโต, โส วิหารสฺสามิโก, ตสฺส วา กุเล โย โกจิ อาปุจฺฉิตพฺโพ’’ติฯ เอวํ อารามิกสฺสปิ อาปุจฺฉิตพฺพโต โอโลกนตฺถาย วตฺตสีเสเนว อาปุจฺฉิตพฺโพ, น เตสํ สงฺฆิกเสนาสนสฺส อิสฺสรภาวโตติ ทฏฺฐพฺพํฯ

‘‘ปจฺฉินฺเน กุลวํเส’’ตฺยาทิวจนญฺจ อกปฺปิยวเสน กตานํ อกปฺปิยโวหาเรน ปฏิคฺคหิตานํ เขตฺตวตฺถุตฬากาทีนํ อกปฺปิยตฺตา ภิกฺขูหิ ปริจฺจตฺตานํ กปฺปิยกรณตฺถาย ราชาทีหิ คเหตฺวา ปุน เตสํเยว ภิกฺขูนํ ทานเมว ทีเปติ, น เตสํ ราชาทีนํ เตหิ ภิกฺขูหิ อญฺเญสํ สงฺฆคณปุคฺคลเจติยานํ ทานํฯ ยทิ ทเทยฺยุํ, อธมฺมิกทานอธมฺมิกปอคฺคหอธมฺมิกปริโภคา สิยุํฯ วุตฺตญฺเหตํ ปริวาเร (ปริ. อฏฺฐ. 329) ‘‘นว อธมฺมิกานิ ทานานิ สงฺฆสฺส ปริณตํ อญฺญสงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ปริณาเมติ, เจติยสฺส ปริณตํ อญฺญเจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ปริณาเมติ, ปุคฺคลสฺส ปริณตํ อญฺญปุคฺคลสฺส วา สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา ปริณาเมตี’’ติฯ อฏฺฐกถายญฺจ (ปริ. อฏฺฐ. 329) ‘‘นว อธมฺมิกานิ ทานานีติ…เป.… เอวํ วุตฺตานิฯ นว ปฏิคฺคหปริโภคาติ เอเตสํเยว ทานานํ ปฏิคฺคหา จ ปริโภคา จา’’ติ วุตฺตํฯ

ตสฺมา ยทิ ราชาทโย อิสฺสราติ คเหตฺวา อญฺญสฺส เทยฺยุํ, ตมฺปิ ทานํ อธมฺมิกทานํ โหติ, ตํ ทานํ ปฏิคฺคหา จ อธมฺมิกปฏิคฺคหา โหนฺติ, ตํ ทานํ ปริภุญฺชนฺตา จ อธมฺมิกปริโภคา โหนฺตีติ ทฏฺฐพฺพํฯ

อถาปิ เอวํ วเทยฺยุํ ‘‘วิหารทานํ สงฺฆสฺส, อคฺคํ พุทฺเธน วณฺณิตนฺติอาทีสุ (จูฬว. 295, 315) ‘สงฺฆสฺสา’ติ อยํ สทฺโท ‘ทาน’นฺติ เอตฺถ สามิสมฺพนฺโธ น โหติ, อถ โข สมฺปทานเมว, ‘ทายกสฺสา’ติ ปน สามิสมฺพนฺโธ อชฺฌาหริตพฺโพ, ตสฺมา สามิภูโต ทายโกว อิสฺสโร, น สมฺปทานภูโต สงฺโฆ’’ติฯ เต เอวํ วตฺตพฺพา – ‘‘วิหารทานํ สงฺฆสฺสา’’ติ อิทํ ทานสมเย ปวตฺตวเสน วุตฺตํ, น ทินฺนสมเย ปวตฺตวเสนฯ ทานกาเล หิ ทายโก อตฺตโน วตฺถุภูตํ วิหารํ สงฺฆสฺส ปริจฺจชิตฺวา เทติ, ตสฺมา ตสฺมิํ สมเย ทายโก สามี โหติ, สงฺโฆ สมฺปทานํ, ทินฺนกาเล ปน สงฺโฆว สามี โหติ วิหารสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา, น ทายโก ปริจฺจตฺตตฺตา, ตสฺมา สงฺโฆ วิจาเรตุํ อิสฺสโรฯ เตนาห ภควา ‘‘ปริจฺจตฺตํ ตํ, ภิกฺขเว, ทายเกหี’’ติ (จูฬว. 273)ฯ อิทํ ปน สทฺทลกฺขณครุกา สทฺทหิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ, อตฺถโต ปน จีวราทีนํ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ทานกาเลเยว ทายกสนฺตกภาโว ทินฺนกาลโต ปฏฺฐาย ปฏิคฺคาหกสนฺตกภาโว สพฺเพสํ ปากโฏ, ตสฺมา อิทมฺปิ วจนํ ทายกสนฺตกภาวสาธกํ น โหตีติ ทฏฺฐพฺพํฯ

เอวํ โหตุ, ตถาปิ ‘‘สเจ ภิกฺขูหิ ปริจฺจตฺตภาวํ ญตฺวา สามิโก วา ตสฺส ปุตฺตธีตโร วา อญฺโญ วา โกจิ วํเส อุปฺปนฺโน ปุน กปฺปิยโวหาเรน เทติ, วฏฺฏตี’’ติ อฏฺฐกถายํ (ปารา. อฏฺฐ. 2.538-539) วุตฺตตฺตา วิหารสฺสามิกภูตทายกสฺส วา ตสฺส ปุตฺตธีตาทีนํ วํเส อุปฺปนฺนานํ วา ทาตุํ อิสฺสรภาโว สิทฺโธเยวาติฯ น สิทฺโธฯ

กสฺมาติ เจ? นนุ วุตฺตํ ‘‘ภิกฺขูหิ ปริจฺจตฺตภาวํ ญตฺวา’’ติ, ตสฺมา อกปฺปิยตฺตา ภิกฺขูหิ ปริจฺจตฺตเมว กปฺปิยกรณตฺถาย ทายกาทีหิ ปุน กปฺปิยโวหาเรน เทติ, วฏฺฏติฯ ยถา อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา ภิกฺขูหิ อปริภุตฺตเมว ขาทนียโภชนียํ ภิกฺขุสนฺตกํเยว อาปตฺติโมจนตฺถํ ทายกาทโย ปฏิคฺคหาเปติ, น ปริภุตฺตํ, ยถา จ พีชคามปริยาปนฺนํเยว ภิกฺขุสนฺตกํ พีชคามภูตคามภาวโต ปริโมจนตฺถํ กปฺปิยการกาทโย กปฺปิยํ กโรนฺติ, น อปริยาปนฺนํ, เอวํ อกปฺปิยํ ภิกฺขูหิ ปริจฺจตฺตํเยว ตฬากาทิกํ กปฺปิยกรณตฺถํ ทายกาทโย ปุน เทนฺติ, น อปริจฺจตฺตํ, ตสฺมา อิทมฺปิ วจนํ กปฺปิยกรณตฺตํเยว สาเธติ, น อิสฺสรตฺตนฺติ วิญฺญายติฯ

ตถาปิ เอวํ วเทยฺยุํ ‘‘ชาติภูมิยํ ชาติภูมิกา อุปาสกา อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกตฺเถรํ สตฺตหิ ชาติภูมิกวิหาเรหิ ปพฺพาชยิํสูติ วจนโต ทายโก วิหารสฺส อิสฺสโรติ วิญฺญายติฯ อิสฺสรตฺตาเยว หิ เต เถรํ ปพฺพาเชตุํ สกฺกา, โน อนิสฺสรา’’ติ, น โข ปเนวํ ทฏฺฐพฺพํฯ กสฺมา? ‘‘ชาติภูมิกา อุปาสกา’’อิจฺเจว หิ วุตฺตํ, น ‘‘วิหารทายกา’’ติ, ตสฺมา ตสฺมิํ เทเส วสนฺตา พหโว อุปาสกา อายสฺมนฺตํ ธมฺมิกตฺเถรํ อยุตฺตจาริตฺตา สกลสตฺตวิหารโต ปพฺพาชยิํสุ, น อตฺตโน วิหารทายกภาเวน อิสฺสรตฺตา, ตสฺมา อิทมฺปิ อุทาหรณํ น อิสฺสรภาวทีปกํ, อถ โข อปราธานุรูปกรณภาวทีปกนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ เอวํ ยทา ทายโก วิหารํ ปติฏฺฐาเปตฺวา เทติ, ตสฺส มุญฺจเจตนํ ปตฺวา ทินฺนกาลโต ปฏฺฐาย โส วา ตสฺส วํเส อุปฺปนฺโน วา ชนปทสฺสามิกราชาทโย วา อิสฺสรา ภวิตุํ วา วิจาเรตุํ วา น ลภนฺติ, ปฏิคฺคาหกภูโต สงฺโฆ วา คโณ วา ปุคฺคโล วา โสเยว อิสฺสโร ภวิตุํ วา วิจาเรตุํ วา ลภตีติ ทฏฺฐพฺพํฯ

ตตฺถ ทายกาทีนํ อิสฺสโร ภวิตุํ อลภนภาโว กถํ วิญฺญายตีติ เจ? ‘‘วตฺถุปริจฺจาคลกฺขณตฺตา ทานสฺส, ปถวาทิวตฺถุปริจฺจาเคน จ ปุน คหณสฺส อยุตฺตตฺตา’’ติ วิมติวิโนทนิยํ วจนโต ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ทียมานํ ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ, ปริจฺจตฺตํ ตํ, ภิกฺขเว, ทายเกหี’’ติ (จูฬว. 273) ภควตา วุตฺตตฺตา จ ‘‘ปริจฺจตฺตํ ตํ, ภิกฺขเว, ทายเกหีติ วจเนน ปเนตฺถ ปรสนฺตกาภาโว ทีปิโต’’ติ อฏฺฐกถายํ วุตฺตตฺตา จ วิญฺญายติฯ สงฺฆาทีนํ อิสฺสโร ภวิตุํ ลภนภาโว กถํ ญาตพฺโพติ เจ? สงฺฆิโก นาม วิหาโร สงฺฆสฺส ทินฺโน โหติ ปริจฺจตฺโต, ‘‘ปุคฺคลิเก ปุคฺคลิกสญฺญี อญฺญสฺส ปุคฺคลิเก อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส, อตฺตโน ปุคฺคลิเก อนาปตฺตี’’ติ ปาจิตฺติยปาฬิยํ (ปาจิ. 117, 127) อาคมนโต จ ‘‘อนฺตมโส จตุรงฺคุลปาทกํ คามทารเกหิ ปํสฺวาคารเกสุ กีฬนฺเตหิ กตมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนโต ปฏฺฐาย ครุภณฺฑํ โหตี’’ติ (จูฬว. อฏฺฐ. 321) สมนฺตปาสาทิกายํ วจนโต จ ‘‘อภิโยเคปิ เจตฺถ จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ภิกฺขูนํ ทินฺนํ วิหารํ วา ปริเวณํ วา อาวาสํ วา มหนฺตมฺปิ ขุทฺทกมฺปิ อภิยุญฺชโต อภิโยโค น รุหติ, อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหิตุมฺปิ น สกฺโกติฯ กสฺมา? สพฺเพสํ ธุรนิกฺเขปาภาวโตฯ น เหตฺถ สพฺเพ จาตุทฺทิสา ภิกฺขู ธุรนิกฺเขปํ กโรนฺตีติฯ ทีฆภาณกาทิเภทสฺส ปน คณสฺส เอกปุคฺคลสฺส วา สนฺตกํ อภิยุญฺชิตฺวา คณฺหนฺโต สกฺโกติ เต ธุรํ นิกฺขิปาเปตุ’’นฺติ ทุติยปาราชิกวณฺณนายํ (ปารา. อฏฺฐ. 1.102) วจนโต จ วิญฺญายติฯ

กถํ ทายกาทีนํ วิจาเรตุํ อลภนภาโว วิญฺญายตีติ เจ? สนฺเตสุปิ เวฬุวนวิหาราทิทายเกสุ เตสํ วิจารณํ อนนุชานิตฺวา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ เสนาสนคฺคาหาปกํ สมฺมนฺนิตุ’’นฺติ ภิกฺขุสฺเสว เสนาสนคฺคาหาปกสมฺมุติอนุชานโต จ ภณฺฑนการเกสุ โกสมฺพกภิกฺขูสุ สาวตฺถิํ อาคเตสุ อนาถปิณฺฑิเกน จ วิสาขาย มหาอุปาสิกาย จ ‘‘กถาหํ, ภนฺเต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฏิปชฺชามี’’ติ (มหาว. 468) เอวํ เชตวนวิหารทายกปุพฺพารามวิหารทายกภูเตสุ อาโรจิเตสุปิ เตสํ เสนาสนวิจารณํ อวตฺวา อายสฺมตา สาริปุตฺตตฺเถเรน ‘‘กถํ นุ โข, ภนฺเต, เตสุ ภิกฺขูสุ เสนาสเน ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ อาโรจิเต ‘‘เตน หิ, สาริปุตฺต, วิวิตฺตํ เสนาสนํ ทาตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ‘‘สเจ ปน, ภนฺเต, วิวิตฺตํ น โหติ, กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ วิวิตฺตํ กตฺวาปิ ทาตพฺพํ, น ตฺเววาหํ, สาริปุตฺต, เกนจิ ปริยาเยน วุฑฺฒตรสฺส ภิกฺขุโน เสนาสนํ ปฏิพาหิตพฺพนฺติ วทามิ, โย ปฏิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. 473) เถรสฺเสว เสนาสนสฺส วิจารณสฺส อนุญฺญาตตฺตา จ วิญฺญายติฯ

กถํ ปน สงฺฆาทีนํ เสนาสนํ วิจาเรตุํ ลภนภาโว วิญฺญายตีติ? ‘‘เอวญฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมนฺนิตพฺโพ – ปฐมํ ภิกฺขุ ยาจิตพฺโพ, ยาจิตฺวา พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ ญาเปตพฺโพ –

สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ…เป.… สมฺมโต สงฺเฆน อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ เสนาสนคฺคาหาปโก, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามีติ (จูฬว. 317)ฯ

เอวํ สงฺเฆน เสนาสนคฺคาหาปกํ สมฺมนฺนาเปตฺวา ปุน เตน สงฺฆสมฺมเตน เสนาสนคฺคาหาปเกน เสนาสนคฺคาหกวิธานํ อนุชานิตุํ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฐมํ ภิกฺขู คเณตุํ, ภิกฺขู คเณตฺวา เสยฺยา คเณตุํ, เสยฺยา คเณตฺวา เสยฺยคฺเคน คาเหตุ’’นฺติ วจนโต สงฺฆิกเสนาสนสฺส สงฺเฆน วิจาเรตุํ ลภนภาโว วิญฺญายติฯ

‘‘ทีฆภาณกาทิเภทสฺส ปน คณสฺส เอกปุคฺคลสฺส วา ทินฺนวิหาราทิํ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺเต ธุรนิกฺเขปสมฺภวา ปาราชิก’’นฺติ อฏฺฐกถายํ (ปารา. อฏฺฐ. 1.102) อาคมนโต จ ‘‘อตฺตโน ปุคฺคลิเก อนาปตฺตี’’ติ ปาฬิยํ (ปาจิ. 117) อาคมนโต จ ‘‘ยสฺมิํ ปน วิสฺสาโส รุหติ, ตสฺส สนฺตกํ อตฺตโน ปุคฺคลิกมิว โหตีติ มหาปจฺจริอาทีสุ วุตฺต’’นฺติ อฏฺฐกถายํ (ปาจิ. อฏฺฐ. 112) วจนโต จ คณสฺส ทินฺโน คณสนฺตกวิหาโร คเณเนว วิจารียเต, โน ทายกาทีหิฯ ปุคฺคลสฺส ทินฺโน ปุคฺคลิกวิหาโรปิ ปฏิคฺคาหกปุคฺคเลเนว วิจารียเต, โน ทายกาทีหีติ วิญฺญายติฯ เอวํ วินยปาฬิยํ อฏฺฐกถาฏีกาสุ จ วิหารสฺส สงฺฆิกคณสนฺตกปุคฺคลิกวเสน ติวิธสฺเสว วจนโต จ เตสํเยว สงฺฆคณปุคฺคลานํ วิหารวิจารณสฺส อนุญฺญาตตฺตา จ ทายกสนฺตกสฺส วิหารสฺส วิสุํ อวุตฺตตฺตา จ ทายกานํ วิหารวิจารณสฺส อนนุญฺญาตตฺตา จ สงฺฆาทโย เอว วิหารสฺส อิสฺสรา โหนฺติ, เตเยว จ วิจาเรตุํ ลภนฺตีติ ทฏฺฐพฺพํฯ

เอวํ โหตุ, เตสุ ปฏิคฺคาหกภูเตสุ สงฺฆคณปุคฺคเลสุ โส วิหาโร กสฺส สนฺตโก โหติ, เกน จ วิจาเรตพฺโพติ? วุจฺจเต – สงฺฆิกวิหาเร ตาว ‘‘อาคตานาคตสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนตฺตา ปฏิคฺคาหเกสุ กาลกเตสุปิ ตทญฺโญ จาตุทฺทิสสงฺโฆ จ อนาคตสงฺโฆ จ อิสฺสโร, ตสฺส สนฺตโก, เตน วิจาเรตพฺโพฯ คณสนฺตเก ปน ตสฺมิํ คเณ ยาว เอโกปิ อตฺถิ, ตาว คณสนฺตโกว, เตน อวสิฏฺเฐน ภิกฺขุนา วิจาเรตพฺโพฯ

สพฺเพสุ กาลกเตสุ ยทิ สกลคโณ วา ตํคณปริยาปนฺนอวสิฏฺฐปุคฺคโล วา ชีวมานกาเลเยว ยสฺส กสฺสจิ ทินฺโน, เยน จ วิสฺสาสคฺคาหวเสน คหิโต, โส อิสฺสโรฯ สเจปิ สกลคโณ ชีวมานกาเลเยว อญฺญคณสฺส วา สงฺฆสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา เทติ, เต อญฺญคณสงฺฆปุคฺคลา อิสฺสรา โหนฺติฯ ปุคฺคลิกวิหาเร ปน โส วิหารสฺสามิโก อตฺตโน ชีวมานกาเลเยว สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา เทติ, เต อิสฺสรา โหนฺติฯ โย วา ปน ตสฺส ชีวมานสฺเสว วิสฺสาสคฺคาหวเสน คณฺหาติ, โสว อิสฺสโร โหตีติ ทฏฺฐพฺโพฯ

กถํ วิญฺญายตีติ เจ? สงฺฆิเก วิหารสฺส ครุภณฺฑตฺตา อวิสฺสชฺชิยํ อเวภงฺคิกํ โหติ, น กสฺสจิ ทาตพฺพํฯ คณสนฺตกปุคฺคลิเกสุ ปน เตสํ สามิกตฺตา ทานวิสฺสาสคฺคาหา รุหนฺติ, ‘‘ตสฺมา โส ชีวมาโนเยว สพฺพํ อตฺตโน ปริกฺขารํ นิสฺสชฺชิตฺวา กสฺสจิ อทาสิ, โกจิ วา วิสฺสาสํ อคฺคเหสิฯ ยสฺส ทินฺนํ, เยน จ คหิตํ, ตสฺเสว โหตี’’ติ จ ‘‘ทฺวินฺนํ สนฺตกํ โหติ อวิภตฺตํ, เอกสฺมิํ กาลกเต อิตโร สามี, พหูนมฺปิ สนฺตเก เอเสว นโย’’ติ (มหาว. อฏฺฐ. 369) จ อฏฺฐกถายํ วุตฺตตฺตา วิญฺญายติฯ

เอวํ ปน วิสฺสชฺเชตฺวา อทินฺนํ ‘‘มมจฺจเยน อสุกสฺส โหตู’’ติ ทานํ อจฺจยทานตฺตา น รุหติฯ วุตฺตญฺเหตํ อฏฺฐกถายํ (จูฬว. อฏฺฐ. 419) ‘‘สเจ หิ ปญฺจสุ สหธมฺมิเกสุ โย โกจิ กาลํ กโรนฺโต ‘มมจฺจเยน มยฺหํ ปริกฺขาโร อุปชฺฌายสฺส โหตุ, อาจริยสฺส โหตุ, สทฺธิวิหาริกสฺส โหตุ, อนฺเตวาสิกสฺส โหตุ, มาตุ โหตุ, ปิตุ โหตุ, อญฺญสฺส วา กสฺสจิ โหตู’ติ วทติ, เตสํ น โหติ, สงฺฆสฺเสว โหติฯ น หิ ปญฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ อจฺจยทานํ รุหติ, คิหีนํ ปน รุหตี’’ติฯ

เอตฺถ จ เอกจฺเจ ปน วินยธรา ‘‘คิหีนนฺติ ปทํ สมฺปทานนฺติ คเหตฺวา ภิกฺขูนํ สนฺตกํ อจฺจยทานวเสน คิหีนํ ททนฺเต รุหติ, ปญฺจนฺนํ ปน สหธมฺมิกานํ เทนฺโต น รุหตี’’ติ วทนฺติฯ เอวํ สนฺเต มาตาปิตูนํ ททนฺโตปิ รุเหยฺย เตสํ คิหิภูตตฺตาฯ ‘‘อถ จ ปน ‘มาตุ โหตุ, ปิตุ โหตุ, อญฺญสฺส วา กสฺสจิ โหตู’ติ วทติ, เตสํ น โหตี’’ติ วจนโต น รุหตีติ วิญฺญายติ, ตสฺมา ‘‘คิหีนํ ปนา’’ติ อิทํ น สมฺปทานวจนํ, อถ โข สามิวจนเมวาติ ทฏฺฐพฺพํฯ เตน คิหีนํ ปน สนฺตกํ อจฺจยทานํ รุหตีติ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพฯ

กิญฺจ ภิยฺโย – ‘‘สเจ หิ ปญฺจสุ สหธมฺมิเกสุ โย โกจิ กาลํ กโรนฺโต มมจฺจเยน มยฺหํ ปริกฺขาโร’’ติ อารภิตฺวา ‘‘น หิ ปญฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ อจฺจยทานํ รุหติ, คิหีนํ ปน รุหตี’’ติ วุตฺตตฺตา สามฺยตฺเถ ฉฏฺฐีพหุวจนํ สมตฺถิตํ ภวติฯ ยทิ เอวํ ‘‘คิหีน’’นฺติ ปทสฺส อสมฺปทานตฺเต สติ กตมํ สมฺปทานํ โหตีติ? ‘‘ยสฺส กสฺสจี’’ติ ปทํฯ วุตฺตญฺหิ อฏฺฐกถายํ (จูฬว. อฏฺฐ. 419) ‘‘มาตุ โหตุ, ปิตุ โหตุ, อญฺญสฺส วา กสฺสจิ โหตู’’ติฯ อยมตฺโถ อชฺชุกวตฺถุนา (ปารา. 158) ทีเปตพฺโพฯ เอวํ ชีวมานกาเลเยว ทตฺวา มเตสุ วินิจฺฉโย อมฺเหหิ ญาโต, กสฺสจิ อทตฺวา มเตสุ วินิจฺฉโย กถํ ญาตพฺโพติ? ตตฺถาปิ สงฺฆิเก ตาว เหฏฺฐา วุตฺตนเยน สงฺโฆว อิสฺสโร, คณสนฺตเก ปน เอกจฺเจสุ อวเสสา อิสฺสรา, สพฺเพสุ มเตสุ สงฺโฆว อิสฺสโรฯ วุตฺตญฺหิ อฏฺฐกถายํ (มหาว. อฏฺฐ. 369) ‘‘สพฺเพสุ มเตสุ สงฺฆิกํ โหตี’’ติฯ ปุคฺคลิเก ปน วิหารสฺส ครุภณฺฑตฺตา อวิสฺสชฺชิยํ อเวภงฺคิกํ สงฺฆิกเมว โหติฯ

กถํ วิญฺญายตีติ เจ? ‘‘ภิกฺขุสฺส, ภิกฺขเว, กาลกเต สงฺโฆ สามี ปตฺตจีวเร, อปิจ คิลานุปฏฺฐากา พหูปการา, อนุชานามิ , ภิกฺขเว, สงฺเฆน ติจีวรญฺจ ปตฺตญฺจ คิลานุปฏฺฐากานํ ทาตุํฯ ยํ ตตฺถ ลหุภณฺฑํ ลหุปริกฺขารํ, ตํ สมฺมุขีภูเตน สงฺเฆน ภาเชตุํฯ ยํ ตตฺถ ครุภณฺฑํ ครุปริกฺขารํ, ตํ อาคตานาคตสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺส อวิสฺสชฺชิยํ อเวภงฺคิก’’นฺติ (มหาว. 369) เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน วุตฺตตฺตา วิญฺญายติฯ เอวมฺปิ ‘‘ครุภณฺฑํ ครุปริกฺขารํ’’อิจฺเจว ภควตา วุตฺตํ, น ‘‘วิหาร’’นฺติ, ตสฺมา กถํ วิหารสฺส ครุภณฺฑภาโวติ วิญฺญายตีติ? ‘‘วิหาโร วิหารวตฺถุ, อิทํ ทุติยํ อเวภงฺคิก’’นฺติ ปาฬิยํ,

‘‘ทฺวิสงฺคหานิ ทฺเว โหนฺติ, ตติยํ จตุสงฺคหํ;

จตุตฺถํ นวโกฏฺฐาสํ, ปญฺจมํ อฏฺฐเภทนํฯ

‘‘อิติ ปญฺจหิ ราสีหิ, ปญฺจนิมฺมลโลจโน;

ปญฺจวีสวิธํ นาโถ, ครุภณฺฑํ ปกาสยี’’ติฯ (จูฬว. อฏฺฐ. 321) –

อฏฺฐกถายญฺจ วุตฺตตฺตา วิญฺญายติฯ

อิติ ทายโก วิหารํ กตฺวา กุลูปกภิกฺขุสฺส เทติ, ตสฺส มุญฺจเจตนุปฺปตฺติโต ปุพฺพกาเล ทายโก วิหารสฺสามิโก โหติ, ทาตุํ วา วิจาเรตุํ วา อิสฺสโร, มุญฺจเจตนุปฺปตฺติโต ปฏฺฐาย ปฏิคฺคาหกภิกฺขุ สามิโก โหติ, ปริภุญฺชิตุํ วา อญฺเญสํ ทาตุํ วา อิสฺสโรฯ โส ปุคฺคโล อตฺตโน ชีวมานกฺขเณเยว สทฺธิวิหาริกาทีนํ นิสฺสชฺชิตฺวา เทติ, ตทา เต สทฺธิวิหาริกาทโย สามิกา โหนฺติ, ปริภุญฺชิตุํ วา อญฺญสฺส วา ทาตุํ อิสฺสราฯ ยทิ ปน กสฺสจิ อทตฺวาว กาลํ กโรติ, ตทา สงฺโฆว ตสฺส วิหารสฺส สามิโก โหติ, น ทายโก วา ปุคฺคโล วา, สงฺฆานุมติยา เอว ปุคฺคโล ปริภุญฺชิตุํ ลภติ, น อตฺตโน อิสฺสรวตายาติ ทฏฺฐพฺโพฯ

เอวํ มูลโตเยว สงฺฆสฺส ทินฺนตฺตา สงฺฆิกภูตวิหาโร วา มูเล คณปุคฺคลานํ ทินฺนตฺตา คณสนฺตกปุคฺคลิกภูโตปิ เตสํ คณปุคฺคลานํ อญฺญสฺส นิสฺสชฺชนวเสน อทตฺวา กาลกตตฺตา ปจฺฉา สงฺฆิกภาวํ ปตฺตวิหาโร วา สงฺเฆน วิจาเรตพฺโพ โหติฯ สงฺเฆนปิ ภควโต อนุมติยา เสนาสนคฺคาหาปกํ สมฺมนฺนิตฺวา คาหาเปตพฺโพฯ วุตฺตญฺเหตํ เสนาสนกฺขนฺธเก (จูฬว. 317) ‘‘อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ ‘เกน นุ โข เสนาสนํ คาเหตพฺพ’นฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – ‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ เสนาสนคฺคาหาปกํ สมฺมนฺนิตุ’นฺติ’’อาทิฯ

อิมสฺมิํ ฐาเน ‘‘เสนาสนคฺคาโห นาม วสฺสกาลวเสน เสนาสนคฺคาโห, อุตุกาลวเสน เสนาสนคฺคาโห, ธุววาสวเสน เสนาสนคฺคาโหติ ติวิโธ โหติฯ เตสุ วสฺสกาลวเสน เสนาสนคฺคาโห ปุริมวสฺสวเสน เสนาสนคฺคาโห, ปจฺฉิมวสฺสวเสน เสนาสนคฺคาโหติ ทุวิโธฯ อุตุกาลวเสน เสนาสนคฺคาโหปิ อนฺตรามุตฺตกวเสน เสนาสนคฺคาโห, ตงฺขณปฏิสลฺลานวเสน เสนาสนคฺคาโหติ ทุวิโธ’’ติ อาจริยา วทนฺติ, เอตํ ปาฬิยา จ อฏฺฐกถาย จ อสเมนฺตํ วิย ทิสฺสติฯ ปาฬิยญฺหิ (จูฬว. 318) ‘‘อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ ‘กติ นุ โข เสนาสนคฺคาโห’ติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – ตโยเม, ภิกฺขเว, เสนาสนคฺคาหา ปุริมโก ปจฺฉิมโก อนฺตรามุตฺตโกฯ อปรชฺชุคตาย อาสาฬฺหิยา ปุริมโก คาเหตพฺโพ, มาสคตาย อาสาฬฺหิยา ปจฺฉิมโก คาเหตพฺโพ, อปรชฺชุคตาย ปวารณาย อายติํ วสฺสาวาสตฺถาย อนฺตรามุตฺตโก คาเหตพฺโพฯ

อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย เสนาสนคฺคาหา’’ติ เอวํ อาคโต, อฏฺฐกถายมฺปิ (จูฬว. อฏฺฐ. 318) ‘‘ตีสุ เสนาสนคฺคาเหสุ ปุริมโก จ ปจฺฉิมโก จาติ อิเม ทฺเว คาหา ถาวราฯ อนฺตรามุตฺตเก อยํ วินิจฺฉโย…เป.… อยํ ตาว อนฺโตวสฺเส วสฺสูปนายิกาทิวเสน ปาฬิยํ อาคตเสนาสนคฺคาหกถา, อยํ ปน เสนาสนคฺคาโห นาม ทุวิโธ โหติ อุตุกาเล จ วสฺสาวาเส จา’’ติ เอวํ อาคโต, ตสฺมา สงฺเฆน สมฺมตเสนาสนคฺคาหาปเกน วิจาเรตพฺพาฯ

เสนาสนคฺคาโห นาม อุตุกาเล เสนาสนคฺคาโห, วสฺสาวาเส เสนาสนคฺคาโหติ ทุวิโธฯ ตตฺถ อุตุกาโล นาม เหมนฺตอุตุคิมฺหอุตุวเสน อฏฺฐ มาสา, ตสฺมิํ กาเล ภิกฺขู อนิยตาวาสา โหนฺติ, ตสฺมา เย ยทา อาคจฺฉนฺติ, เตสํ ตทา ภิกฺขู อุฏฺฐาเปตฺวา เสนาสนํ ทาตพฺพํ, อกาโล นาม นตฺถิฯ อยํ อุตุกาเล เสนาสนคฺคาโห นามฯ วสฺสาวาเส เสนาสนคฺคาโห ปน ‘‘ปุริมโก ปจฺฉิมโก อนฺตรามุตฺตโก’’ติ ปาฬิยํ อาคตนเยน ติวิโธ โหติฯ อนฺตรามุตฺตโกปิ หิ อายติํ วสฺสาวาสตฺถาย คาหิตตฺตา วสฺสาวาเส เสนาสนคฺคาหเมว ปวิสติ, น อุตุกาเล เสนาสนคฺคาโหฯ วุตฺตญฺหิ ภควตา ‘‘อปรชฺชุคตาย ปวารณาย อายติํ วสฺสาวาสตฺถาย อนฺตรามุตฺตโก คาเหตพฺโพ’’ติฯ ตงฺขณปฏิสลฺลานวเสน เสนาสนคฺคาโหติ จ เนว ปาฬิยํ น อฏฺฐกถายํ วิสุํ อาคโต, อุตุกาเล เสนาสนคฺคาโหเยว ตทงฺคเสนาสนคฺคาโหติปิ ตงฺขณปฏิสลฺลานวเสน เสนาสนคฺคาโหติปิ วทนฺติ, ตสฺมา อุตุกาลวเสน เสนาสนคฺคาโหปิ ‘‘อนฺตรามุตฺตกวเสน เสนาสนคฺคาโห ตงฺขณปฏิสลฺลานวเสน เสนาสนคฺคาโหติ ทุพฺพิโธ’’ติ น วตฺตพฺโพฯ

อถาปิ วทนฺติ ‘‘ยถาวุตฺเตสุ ปญฺจสุ เสนาสนคฺคาเหสุ จตฺตาโร เสนาสนคฺคาหา ปญฺจงฺคสมนฺนาคเตน เสนาสนคฺคาหาปกสมฺมุติลทฺเธน ภิกฺขุนา อนฺโตอุปจารสีมฏฺเฐน หุตฺวา อนฺโตสีมฏฺฐานํ ภิกฺขูนํ ยถาวินยํ วิจาเรตพฺพา โหนฺติ, เต ปน วิจารณา ยาวชฺชกาลา ถาวรา หุตฺวา น ติฏฺฐนฺติ, ธุววาสวเสน วิจารณเมว ยาวชฺชกาลา ถาวรํ หุตฺวา ติฏฺฐตี’’ติ, ตมฺปิ ตถา น สกฺกา วตฺตุํฯ กสฺมา? เสนาสนคฺคาหาปกเภเท ‘‘ธุววาสวเสน เสนาสนคฺคาโห’’ติ ปาฬิยํ อฏฺฐกถายญฺจ นตฺถิฯ ธุววาสวเสน วิจารณญฺจ สมฺมุติลทฺเธน เสนาสนคฺคาหาปเกน วิจาเรตพฺพํ น โหติ, อถ โข สมคฺเคน สงฺเฆน อปโลกนกมฺมวเสน ทุวงฺคสมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุสฺส อนุฏฺฐาปนียํ กตฺวา ทานเมว, ตสฺมา สมคฺโค สงฺโฆ พหูปการตาคุณวิสิฏฺฐตาสงฺขาเตหิ ทฺวีหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ อปโลกนกมฺมวเสน สมฺมนฺนิตฺวา ตสฺส ผาสุกํ อาวาสํ ธุววาสวเสน อนุฏฺฐาปนียํ กตฺวา เทติ, ตํ ยาวชฺชกาลา ถาวรํ หุตฺวา ติฏฺฐตีติ วตฺตพฺพํฯ

สมคฺโค สงฺโฆว ธุววาสวเสน เทติ, น เสนาสนคฺคาหาปโกติ อยมตฺโถ กถํ ญาตพฺโพติ เจ? ‘‘สงฺโฆ ปน ภณฺฑาคาริกสฺส วา ธมฺมกถิกวินยธราทีนํ วา คณวาจกอาจริยสฺส วา พหูปการตํ คุณวิสิฏฺฐตญฺจ สลฺลกฺเขนฺโต ธุววาสตฺถาย วิหารํ สมฺมนฺนิตฺวา เทตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺฐ. 120; กงฺขา. อฏฺฐ. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘สงฺโฆ ปน พหุสฺสุตสฺส อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ พหูปการสฺส ภารนิตฺถารกสฺส ผาสุกํ อาวาสํ อนุฏฺฐาปนียํ กตฺวา เทตี’’ติ จ ‘‘สงฺโฆ ปน ภณฺฑาคาริกสฺส วา ธมฺมกถิกวินยธรคณวาจกาจริยานํ วา พหูปการตํ คุณวิสิฏฺฐตญฺจ สลฺลกฺเขตฺวา ธุววาสตฺถาย วิหารํ สลฺลกฺเขตฺวา สมฺมนฺนิตฺวา เทตี’’ติ จ ‘‘พหุสฺสุตสฺส สงฺฆภารนิตฺถารกสฺส ภิกฺขุโน อนุฏฺฐาปนียเสนาสนมฺปี’’ติ (ปริ. อฏฺฐ. 495-496) จ ‘‘อปโลกนกมฺมํ นาม สีมฏฺฐกํ สงฺฆํ โสเธตฺวา ฉนฺทารหานํ ฉนฺทํ อาหริตฺวา สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา กตฺตพฺพํ กมฺม’’นฺติ จ อฏฺฐกถาสุ (ปริ. อฏฺฐ. 482) วจนโต สาธุกํ นิสฺสํสเยน ญาตพฺโพติฯ

กถํ ปน อปโลกนกมฺเมน ทาตพฺพภาโว วิญฺญายตีติ? ‘‘พหุสฺสุตสฺส สงฺฆภารนิตฺถารกสฺส ภิกฺขุโน อนุฏฺฐาปนียเสนาสนมฺปิ สงฺฆกิจฺจํ กโรนฺตานํ กปฺปิยการกาทีนํ ภตฺตเวตนมฺปิ อปโลกนกมฺเมน ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปริวารฏฺฐกถายํ (ปริ. อฏฺฐ. 495-496) กมฺมวคฺเค อาคตตฺตา วิญฺญายติฯ กถํ ปน ทุวงฺคสมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโนเยว ทาตพฺพภาโว วิญฺญายตีติ? ‘‘พหูปการตนฺติ ภณฺฑาคาริกตาทิพหอุอุปการภาวํฯ น เกวลํ อิทเมวาติ อาห ‘คุณวิสิฏฺฐตญฺจา’ติอาทิฯ เตน พหูปการตฺเตปิ คุณวิสิฏฺฐตฺตาภาเว, คุณวิสิฏฺฐตฺเตปิ พหูปการตฺตาภาเว ทาตุํ น วฏฺฏตีติ ทสฺเสตี’’ติ วินยตฺถมญฺชูสายํ (กงฺขา. อฏฺฐ. ฏี. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตตฺตา วิญฺญายติฯ

กสฺมา ปน เสนาสนคฺคาหาปเกน วิจาเรตพฺโพ เสนาสนคฺคาโห ยาวชฺชกาลา น ติฏฺฐตีติ? ปญฺจงฺคสมนฺนาคตสฺส เสนาสนคฺคาหาปกสฺส ภิกฺขุโน ทุลฺลภตฺตา, นานาเทสวาสีนํ นานาจริยกุลสมฺภวานํ ภิกฺขูนํ เอกสมฺโภคปริโภคสฺส ทุกฺกรตฺตา จ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ น ติฏฺฐติฯ

วุตฺตญฺเหตํ ภควตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ เสนาสนคฺคาหาปกํ สมฺมนฺนิตุํ, โย น ฉนฺทาคติํ คจฺเฉยฺย, น โทสาคติํ คจฺเฉยฺย, น โมหาคติํ คจฺเฉยฺย, น ภยาคติํ คจฺเฉยฺย , คหิตาคหิตญฺจ ชาเนยฺยา’’ติ (จูฬว. 317)ฯ อฏฺฐกถายมฺปิ (ปาจิ. อฏฺฐ. 122) ‘‘เอวรูเปน หิ สภาคปุคฺคเลน เอกวิหาเร วา เอกปริเวเณ วา วสนฺเตน อตฺโถ นตฺถี’’ติ วุตฺตํฯ กสฺมา ปน ธุววาสตฺถาย ทานวิจาโร ยาวชฺชกาลา ติฏฺฐตีติ? ปญฺจงฺคสมนฺนาคตาภาเวปิ สีมฏฺฐกสฺส สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา กตฺตพฺพตฺตาฯ วุตฺตญฺหิ ‘‘อปโลกนกมฺมํ นาม สีมฏฺฐกํ สงฺฆํ โสเธตฺวา ฉนฺทารหานํ ฉนฺทํ อาหริตฺวา สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา กตฺตพฺพํ กมฺม’’นฺติ (ปริ. อฏฺฐ. 482)ฯ

อุตุกาเล สงฺฆิกเสนาสเน วสนฺเตน อาคโต ภิกฺขุ น ปฏิพาเหตพฺโพ อญฺญตฺร อนุฏฺฐาปนียาฯ วุตฺตญฺหิ ภควตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสานํ เตมาสํ ปฏิพาหิตุํ, อุตุกาลํ ปน น ปฏิพาหิตุ’’นฺติ (จูฬว. 318)ฯ ‘‘อญฺญตฺร อนุฏฺฐาปนียา’’ติ วุตฺตํ, กตเม อนุฏฺฐาปนียาติ? จตฺตาโร อนุฏฺฐาปนียา วุฑฺฒตโร, ภณฺฑาคาริโก, คิลาโน, สงฺฆโต ลทฺธเสนาสโน จฯ ตตฺถ วุฑฺฒตโร ภิกฺขุ ตสฺมิํ วิหาเร อนฺโตสีมฏฺฐกภิกฺขูสุ อตฺตนา วุฑฺฒตรสฺส อญฺญสฺส อภาวา ยถาวุฑฺฒํ เกนจิ อนุฏฺฐาปนีโยฯ ภณฺฑาคาริโก สงฺเฆน สมฺมนฺนิตฺวา ภณฺฑาคารสฺส ทินฺนตาย สงฺฆสฺส ภณฺฑํ รกฺขนฺโต โคเปนฺโต วสติ, ตสฺมา โส ภณฺฑาคาริโก เกนจิ อนุฏฺฐาปนีโยฯ คิลาโน เคลญฺญาภิภูโต อตฺตโน ลทฺธเสนาสเน วสนฺโต เกนจิ อนุฏฺฐาปนีโยฯ สงฺฆโต ลทฺธเสนาสโน สมคฺเคน สงฺเฆน ทินฺนเสนาสนตฺตา เกนจิ อนุฏฺฐาปนีโยฯ วุตฺตญฺหิ อฏฺฐกถายํ (มหาว. อฏฺฐ. 343) ‘‘จตฺตาโร หิ น วุฏฺฐาเปตพฺพา วุฑฺฒตโร, ภณฺฑาคาริโก, คิลาโน, สงฺฆโต ลทฺธเสนาสโนติฯ

ตตฺถ วุฑฺฒตโร อตฺตโน วุฑฺฒตาย นวกตเรน น วุฏฺฐาเปตพฺโพ, ภณฺฑาคาริโก สงฺเฆน สมฺมนฺนิตฺวา ภณฺฑาคารสฺส ทินฺนตาย, คิลาโน อตฺตโน คิลานตาย, สงฺโฆ ปน พหุสฺสุตสฺส อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ พหูปการสฺส ภารนิตฺถารกสฺส ผาสุกํ อาวาสํ อนุฏฺฐาปนียํ กตฺวา เทติ, ตสฺมา โส อุปการกตาย จ สงฺฆโต ลทฺธตาย จ น วุฏฺฐาเปตพฺโพ’’ติฯ ฐเปตฺวา อิเม จตฺตาโร อวเสสา วุฏฺฐาปนียาว โหนฺติฯ

อปรสฺมิํ ภิกฺขุมฺหิ อาคเต วุฏฺฐาเปตฺวา เสนาสนํ ทาเปตพฺพํฯ วุตฺตญฺหิ อฏฺฐกถายํ (จูฬว. อฏฺฐ. 318) ‘‘อุตุกาเล ตาว เกจิ อาคนฺตุกา ภิกฺขู ปุเรภตฺตํ อาคจฺฉนฺติ, เกจิ ปจฺฉาภตฺตํ ปฐมยามํ วา มชฺฌิมยามํ วา ปจฺฉิมยามํ วา, เย ยทา อาคจฺฉนฺติ, เตสํ ตทาว ภิกฺขู อุฏฺฐาเปตฺวา เสนาสนํ ทาตพฺพํ, อกาโล นาม นตฺถี’’ติฯ เอตรหิ ปน สทฺธา ปสนฺนา มนุสฺสา วิหารํ กตฺวา อปฺเปกจฺเจ ปณฺฑิตานํ วจนํ สุตฺวา ‘‘สงฺเฆ ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ ญตฺวา จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อารพฺภ ‘‘อิมํ วิหารํ อาคตานาคตสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺส เทมา’’ติ วตฺวา เทนฺติ, อปฺเปกจฺเจ อตฺตนา ปสนฺนํ ภิกฺขุํ อารพฺภ วิหารํ กตฺวาปิ ทานกาเล เตน อุยฺโยชิตา หุตฺวา จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อารพฺภ วุตฺตนเยน เทนฺติ, อปฺเปกจฺเจ กรณกาเลปิ ทานกาเลปิ อตฺตโน กุลูปกภิกฺขุเมว อารพฺภ ปริจฺจชนฺติ, ตถาปิ ทกฺขิโณทกปาตนกาเล เตน สิกฺขาปิตา ยถาวุตฺตปาฐํ วจีเภทํ กโรนฺติ, จิตฺเตน ปน กุลูปกสฺเสว เทนฺติ, น สพฺพสงฺฆสาธารณตฺถํ อิจฺฉนฺติฯ

อิเมสุ ตีสุ ทาเนสุ ปฐมํ ปุพฺพกาเลปิ ทานกาเลปิ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ปวตฺตตฺตา สพฺพสงฺฆิกํ โหติฯ ทุติยํ ปุพฺพกาเล ปุคฺคลํ อุทฺทิสฺส ปวตฺตมานมฺปิ ทานกาเล สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ปวตฺตตฺตา สงฺฆิกเมวฯ

ตติยํ ปน ปุพฺพกาเลปิ ทานกาเลปิ กุลูปกปุคฺคลเมว อุทฺทิสฺส ปวตฺตติ, น สงฺฆํ, เกวลํ ภิกฺขุนา วุตฺตานุสาเรเนว วจีเภทํ กโรนฺติฯ เอวํ สนฺเต ‘‘กิํ อยํ วิหาโร จิตฺตวเสน ปุคฺคลิโก โหติ, วจีเภทวเสน สงฺฆิโก’’ติ จินฺตายํ เอกจฺเจ เอวํ วเทยฺยุํ –

‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, มโนเสฏฺฐา มโนมยา;

มนสา เจ ปสนฺเนน, ภาสติ วา กโรติ วา;

ตโต นํ สุขมนฺเวติ, ฉายาว อนปายินีติฯ (ธ. ป. 2) –

วจนโต จิตฺตวเสน ปุคฺคลิโก โหตี’’ติฯ อญฺเญ ‘‘ยถา ทายกา วทนฺติ, ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ (จูฬว. อฏฺฐ. 325) วจนโต วจีเภทวเสน สงฺฆิโก โหตี’’ติฯ

ตตฺรายํ วิจารณา – อิทํ ทานํ ปุพฺเพ ปุคฺคลสฺส ปริณตํ ปจฺฉา สงฺฆสฺส ปริณามิตํ, ตสฺมา ‘‘สงฺฆิโก’’ติ วุตฺเต นวสุ อธมฺมิกทาเนสุ ‘‘ปุคฺคลสฺส ปริณตํ สงฺฆสฺส ปริณาเมตี’’ติ (ปารา. 660) วุตฺตํ อฏฺฐมํ อธมฺมิกทานํ โหติ, ตสฺส ทานสฺส ปฏิคฺคหาปิ ปริโภคาปิ อธมฺมิกปฏิคฺคหา อธมฺมิกปริโภคา โหนฺติฯ ‘‘ปุคฺคลิโก’’ติ วุตฺเต ตีสุ ธมฺมิกทาเนสุ ‘‘ปุคฺคลสฺส ทินฺนํ ปุคฺคลสฺเสว เทตี’’ติ วุตฺตํ ตติยธมฺมิกทานํ โหติ, ตสฺส ปฏิคฺคหาปิ ปริโภคาปิ ธมฺมิกปฏิคฺคหา ธมฺมิกปริโภคา โหนฺติ, ตสฺมา ปุคฺคลิกปกฺขํ ภชติฯ อปฺเปกจฺเจ สุตฺตนฺติกาทิคเณ ปสีทิตฺวา วิหารํ กาเรตฺวา คณสฺส เทนฺติ ‘‘อิมํ วิหารํ อายสฺมนฺตานํ ทมฺมี’’ติฯ อปฺเปกจฺเจ ปุคฺคเล ปสีทิตฺวา วิหารํ กตฺวา ปุคฺคลสฺส เทนฺติ ‘‘อิมํ วิหารํ อายสฺมโต ทมฺมี’’ติฯ เอเต ปน คณสนฺตกปุคฺคลิกา วิหารา ทานกาลโต ปฏฺฐาย ปฏิคฺคาหกสนฺตกาว โหนฺติ, น ทายกสนฺตกาฯ

เตสุ คณสนฺตโก ตาว เอกจฺเจสุ มเตสุ อวเสสานํ สนฺตโก, เตสุ ธรมาเนสุเยว กสฺสจิ เทนฺติ, ตสฺส สนฺตโกฯ กสฺสจิ อทตฺวา สพฺเพสุ มเตสุ สงฺฆิโก โหติฯ วุตฺตญฺหิ อฏฺฐกถายํ (มหาว. อฏฺฐ. 369) ‘‘ทฺวินฺนํ สนฺตกํ โหติ อวิภตฺตํ, เอกสฺมิํ กาลกเต อิตโร สามี, พหูนํ สนฺตเกปิ เอเสว นโยฯ สพฺเพสุ มเตสุ สงฺฆิกํว โหตี’’ติฯ

ปุคฺคลิกวิหาโรปิ ยทิ โส ปฏิคฺคาหกปุคฺคโล อตฺตโน ชีวมานกาเลเยว สทฺธิวิหาริกาทีนํ เทติ, โกจิ วา ตสฺส วิสฺสาเสน ตํ วิหารํ อคฺคเหสิ, ตสฺส สนฺตโก โหติฯ กสฺสจิ อทตฺวา กาลกเต สงฺฆิโก โหติฯ วุตฺตญฺหิ อฏฺฐกถายํ ‘‘โส ชีวมาโนเยว สพฺพํ อตฺตโน ปริกฺขารํ นิสฺสชฺชิตฺวา กสฺสจิ อทาสิ, โกจิ วา วิสฺสาสํ อคฺคเหสิฯ ยสฺส ทินฺโน, เยน จ คหิโต, ตสฺเสว โหตี’’ติฯ ปาฬิยญฺจ (มหาว. 369) ‘‘ภิกฺขุสฺส, ภิกฺขเว, กาลกเต สงฺโฆ สามี ปตฺตจีวเร, อปิจ คิลานุปฏฺฐากา พหูปการาฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สงฺเฆน ติจีวรญฺจ ปตฺตญฺจ คิลานุปฏฺฐากานํ ทาตุํ, ยํ ตตฺถ ลหุภณฺฑํ ลหุปริกฺขารํ, ตํ สมฺมุขีภูเตน สงฺเฆน ภาเชตุํ, ยํ ตตฺถ ครุภณฺฑํ ครุปริกฺขารํ, ตํ อาคตานาคตสฺส จาตุทฺทิสสฺส สงฺฆสฺส อวิสฺสชฺชิยํ อเวภงฺคิก’’นฺติ (มหาว. 369) วุตฺตํ, ตสฺมา อิมินา นเยน วินิจฺฉโย กาตพฺโพฯ

สงฺฆิเก ปน ปาฬิยํ อาคตานํ ‘‘ปุริมโก ปจฺฉิมโก อนฺตรามุตฺตโก จา’’ติ (จูฬว. 318) วุตฺตานํ ติณฺณํ เสนาสนคฺคาหานญฺจ อฏฺฐกถายํ (จูฬว. อฏฺฐ. 318) อาคตานํ ‘‘อุตุกาเล จ วสฺสาวาเส จา’’ติ วุตฺตานํ ทฺวินฺนํ เสนาสนคฺคาหานญฺจ เอตรหิ อสมฺปชฺชนโต อนุฏฺฐาปนียปาฬิยํ อาคตสฺส อตฺตโน สภาเวน อนุฏฺฐาปนียสฺส ธุววาสตฺถาย สงฺเฆน ทินฺนตาย อนุฏฺฐาปนียสฺส วเสเนว วินิจฺฉโย โหติฯ

วุฑฺฒตรคิลานา หิ อตฺตโน สภาเวน อนุฏฺฐาปนียา โหนฺติฯ วุตฺตญฺเหตํ อฏฺฐกถายํ (มหาว. อฏฺฐ. 343) ‘‘วุฑฺฒตโร อตฺตโน วุฑฺฒตาย นวกตเรน น วุฏฺฐาเปตพฺโพ, คิลาโน อตฺตโน คิลานตายา’’ติฯ ภณฺฑาคาริกธมฺมกถิกาทโย ธุววาสตฺถาย สงฺเฆน ทินฺนตาย อนุฏฺฐาปนียา โหนฺติฯ วุตฺตญฺหิ ‘‘สงฺโฆ ปน ภณฺฑาคาริกสฺส วา ธมฺมกถิกวินยธราทีนํ วา…เป.… ธุววาสตฺถาย วิหารํ สมฺมนฺนิตฺวา เทติ, ตสฺมา ยสฺส สงฺเฆน ทินฺโน, โสปิ อนุฏฺฐาปนีโย’’ติ (ปาจิ. อฏฺฐ. 120; กงฺขา. อฏฺฐ. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา)ฯ โส เอวํ เวทิตพฺโพ – เอตรหิ สงฺฆิกวิหาเรสุ สงฺฆตฺเถเรสุ ยถากมฺมงฺคเตสุ ตสฺมิํ วิหาเร โย ภิกฺขุ วุฑฺฒตโร, โสปิ ‘‘อยํ วิหาโร มยา วสิตพฺโพ’’ติ วทติฯ โย ตตฺถ พฺยตฺโต ปฏิพโล, โสปิ ตเถว วทติฯ เยน โส วิหาโร การิโต, โสปิ ‘‘มยา ปสีทิตปุคฺคโล อาโรเปตพฺโพ’’ติ วทติฯ สงฺโฆปิ ‘‘มยเมว อิสฺสรา, ตสฺมา อมฺเหหิ อิจฺฉิตปุคฺคโล อาโรเปตพฺโพ’’ติ วทติฯ เอวํทฺวิธา วา ติธา วา จตุธา วา ภินฺเนสุ มหนฺตํ อธิกรณํ โหติฯ

เตสุ วุฑฺฒตโร ‘‘น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, เกนจิ ปริยาเยน วุฑฺฒตรสฺส อาสนํ ปฏิพาหิตพฺพนฺติ วทามิ, โย ปฏิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ ปาฬิปาฐญฺจ (มหาว. 473; จูฬว. 316), ‘‘วุฑฺฒตโร อตฺตโน วุฑฺฒตาย นวกตเรน น วุฏฺฐาเปตพฺโพ’’ติ อฏฺฐกถาวจนญฺจ (ปาจิ. อฏฺฐ. 119 อาทโย; กงฺขา. อฏฺฐ. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา) คเหตฺวา ‘‘อหเมว เอตฺถ วุฑฺฒตโร, มยา วุฑฺฒตโร อญฺโญ นตฺถิ, ตสฺมา อหเมว อิมสฺมิํ วิหาเร วสิตุมนุจฺฉวิโก’’ติ สญฺญี โหติฯ

พฺยตฺโตปิ ‘‘พหุสฺสุตสฺส สงฺฆภารนิตฺถารกสฺส ภิกฺขุโน อนุฏฺฐาปนียเสนาสนมฺปี’’ติ ปริวารฏฺฐกถาวจนญฺจ (ปริ. อฏฺฐ. 495-496), ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน ทสวสฺเสน วา อติเรกทสวสฺเสน วา อุปสมฺปาเทตุํ, นิสฺสยํ ทาตุ’’นฺติอาทิปาฬิวจนญฺจ (มหาว. 76, 82) คเหตฺวา ‘‘อหเมว เอตฺถ พฺยตฺโต ปฏิพโล, น มยา อญฺโญ พฺยตฺตตโร อตฺถิ, ตสฺมา อหเมว อิมสฺส วิหารสฺส อนุจฺฉวิโก’’ติ สญฺญีฯ วิหารการโกปิ ‘‘เยน วิหาโร การิโต, โส วิหารสามิโกติ วินยปาโฐ (ปาจิ. อฏฺฐ. 116) อตฺถิ, มยา จ พหุํ ธนํ จชิตฺวา อยํ วิหาโร การิโต, ตสฺมา มยา ปสนฺนปุคฺคโล อาโรเปตพฺโพ, น อญฺโญ’’ติ สญฺญีฯ สงฺโฆปิ ‘‘สงฺฆิโก นาม วิหาโร สงฺฆสฺส ทินฺโน โหติ ปริจฺจตฺโต’’ติอาทิปาฬิวจนญฺจ (ปาจิ. 116, 121, 126, 131), อนฺตมโส จตุรงฺคุลปาทกํ คามทารเกหิ ปํสฺวาคารเกสุ กีฬนฺเตหิ กตมฺปิ สงฺฆสฺส ทินฺนกาลโต ปฏฺฐาย ครุภณฺฑํ โหตี’’ติอาทิอฏฺฐกถาวจนญฺจ (จูฬว. อฏฺฐ. 321) คเหตฺวา ‘‘อยํ วิหาโร สงฺฆิโก สงฺฆสนฺตโก, ตสฺมา อมฺเหหิ อภิรุจิตปุคฺคโลว อาโรเปตพฺโพ, น อญฺโญ’’ติ สญฺญีฯ

ตตฺถ วุฑฺฒตรสฺส วจเนปิ ‘‘น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว’’ตฺยาทิวจนํ (จูฬว. 316) เตสุ เตสุ อาสนสาลาทีสุ อคฺคาสนสฺส วุฑฺฒตรารหตฺตา ภตฺตํ ภุญฺชิตฺวา นิสินฺโนปิ ภิกฺขุ วุฑฺฒตเร อาคเต วุฏฺฐาย อาสนํ ทาตพฺพํ สนฺธาย ภควตา วุตฺตํ, น ธุววาสํ สนฺธายฯ ‘‘วุฑฺฒตโร อตฺตโน วุฑฺฒตาย’’ตฺยาทิวจนญฺจ (ปาจิ. อฏฺฐ. 120; กงฺขา. อฏฺฐ. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา) ยถาวุฑฺฒํ เสนาสเน ทียมาเน วุฑฺฒตเร อาคเต นวกตโร วุฏฺฐาเปตพฺโพ, วุฏฺฐาเปตฺวา วุฑฺฒตรสฺส เสนาสนํ ทาตพฺพํ, วุฑฺฒตโร ปน นวกตเรน น วุฏฺฐาเปตพฺโพฯ

กสฺมา? ‘‘อตฺตโน วุฑฺฒตรตายา’’ติ อุตุกาเล ยถาวุฑฺฒํ เสนาสนทานํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ธุววาสตฺถาย ทานํ สนฺธาย , ตสฺมา อิทมฺปิ วจนํ อุปปริกฺขิตพฺพํ, น สีฆํ อนุชานิตพฺพํฯ

พฺยตฺตวจเนปิ ‘‘พหุสฺสุตสฺส สงฺฆภารนิตฺถารกสฺส’’ตฺยาทิวจนญฺจ (ปริ. อฏฺฐ. 445-496) น พหุสฺสุตมตฺเตน สงฺฆิกวิหารสฺส อิสฺสรภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, อถ โข ตสฺส ภิกฺขุสฺส พหูปการตํ คุณวิสิฏฺฐตญฺจ สลฺลกฺเขตฺวา สงฺเฆน ผาสุกํ อาวาสํ อนุฏฺฐาปนียํ กตฺวา ทินฺเน โส ภิกฺขุ เกนจิ ตมฺหา วิหารา อนุฏฺฐาปนีโย โหติ, อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว’’ตฺยาทิวจนญฺจ (มหาว. 82) นิสฺสยาจริยานํ ลกฺขณํ ปกาเสตุํ ภควตา วุตฺตํ, น สงฺฆิกวิหารสฺส อิสฺสรตฺตํ, ตสฺมา อิทมฺปิ วจนํ อุปปริกฺขิตพฺพํ, น สีฆํ อนุชานิตพฺพํฯ

ทายกวจนํ ปน นานุชานิตพฺพํ ปฏิพาหิตพฺพํฯ กสฺมา? ‘‘เยน วิหาโร การิโต’’ตฺยาทิปาฐสฺส อมุขฺยโวหารตฺตาฯ ยถา หิ ปุถุชฺชนกาเล รูปาทีสุ สญฺชนสฺส ภูตปุพฺพตฺตา ภูตปุพฺพคติยา อรหาปิ ‘‘สตฺโต’’ติ, เอวํ ทานกาลโต ปุพฺเพ ตสฺส วิหารสฺส สามิภูตปุพฺพตฺตา ทายโก ‘‘วิหารสามิโก’’ติ วุจฺจติ, น อิสฺสรตฺตาฯ น หิ สกเล วินยปิฏเก อฏฺฐกถาฏีกาสุ จ ‘‘วิสฺสชฺเชตฺวา ทินฺนสฺส วิหารสฺส ทายโก อิสฺสโร’’ติ วา ‘‘ทายเกน วิจาเรตพฺโพ’’ติ วา ‘‘ทายกสนฺตกวิหาโร’’ติ วา ปาโฐ อตฺถิ, ‘‘สงฺฆิโก, คณสนฺตโก, ปุคฺคลิโก’’อิจฺเจว อตฺถิ, ตสฺมา ตสฺส วจนํ นานุชานิตพฺพํฯ

สงฺฆสฺส วจเนปิ ‘‘สงฺฆิโก นาม วิหาโร’’ตฺยาทิวจนํ (ปาจิ. 116, 121, 126, 131) สงฺฆสนฺตกภาวํ สงฺเฆน วิจาเรตพฺพภาวํ ทีเปติ, สงฺโฆ ปน วิจาเรนฺโต ปญฺจงฺคสมนฺนาคตํ ภิกฺขุํ เสนาสนคฺคาหาปกํ สมฺมนฺนิตฺวา เตน ยถาวุฑฺฒํ วิจาเรตพฺโพ วา โหติ, สมคฺเคน สงฺเฆน ทุวงฺคสมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน อปโลกนกมฺเมน ธุววาสตฺถาย ทาตพฺโพ วาฯ เตสุ ปญฺจงฺคสมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน ทุลฺลภตฺตา เสนาสนคฺคาหาปกสมฺมุติยา อภาเว สติ ทุวงฺคสมนฺนาคโต ภิกฺขุ ปริเยสิตพฺโพฯ เอวํ ปน อปริเยสิตฺวา ภณฺฑาคาริกตาทิพหอูปการตายุตฺตสฺส พหุสฺสุตตาทิคุณวิสิฏฺฐตาวิรหสฺส ภิกฺขุโน อามิสครุกตาทิวเสน สงฺเฆน วิหาโร ทาตพฺโพ น โหติ, ตสฺมา สงฺฆวจนมฺปิ อุปปริกฺขิตพฺพํ, น ตาว อนุชานิตพฺพํฯ

อถ ตีณิปิ วจนานิ สํสนฺเทตพฺพานิฯ ตตฺถ สงฺฆสฺส อิสฺสรตฺตา สงฺโฆ ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘โก ปุคฺคโล ตุมฺเหหิ อภิรุจิโต’’ติ, ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เอโส’’ติ วุตฺเต ‘‘กสฺมา อภิรุจิโต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เอโส ปุคฺคโล อมฺเห จีวราทิปจฺจเยหิ อนุคฺคเหตา, อมฺหากํ ญาติสาโลหิโต, อุปชฺฌาโย, อาจริโย, สทฺธิวิหาริโก, อนฺเตวาสิโก, สมานุปชฺฌายโก, สมานาจริยโก, ปิยสหาโย, ลาภี, ยสสฺสี, ตสฺมา อมฺเหหิ อภิรุจิโต’’ติ วุตฺเต ‘‘น เอตฺตาวตา ธุววาสตฺถาย วิหาโร ทาตพฺโพ’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺโพฯ อถ ‘‘เอโส ปุคฺคโล สพฺเพหิ อมฺเหหิ วุฑฺฒตโร อคฺคาสนํ อคฺโคทกํ อคฺคปิณฺฑํ อรหติ, ธุววาสตฺถาย วิหาโร ปน ตสฺส ทาตพฺโพติ อฏฺฐกถาจริเยหิ น วุตฺโต’’ติ วตฺวา ปฏิกฺขิปิตพฺโพฯ อถ ‘‘ธมฺมกถิโก, วินยธโร, คณวาจกอาจริโย’’ติ วุตฺเต ‘‘เอโส ธุววาสตฺถาย ทินฺนวิหารสฺส อนุจฺฉวิโก, เอตสฺส ทาตพฺโพ’’ติ อนุโมทิตพฺโพฯ กถํ วิญฺญายตีติ เจ? ‘‘สงฺโฆ ปน ภณฺฑาคาริกสฺส วา ธมฺมกถิกวินยธราทีนํ วา คณวาจกอาจริยสฺส วา พหูปการตํ คุณวิสิฏฺฐตญฺจ สลฺลกฺเขนฺโต ธุววาสตฺถาย วิหารํ สมฺมนฺนิตฺวา เทตี’’ติ วจนโต วิญฺญายติ (ปาจิ. อฏฺฐ. 129; กงฺขา. อฏฺฐ. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา)ฯ

อิธ ปน สาธกปาเฐ ‘‘ภณฺฑาคาริกสฺส วา’’ติ วิชฺชมาเน กสฺมา สาธฺยวจเน ภณฺฑาคาริโก น วุตฺโตติ? เอตรหิ ภณฺฑาคารสฺส อภาวาฯ ยทิ เกสุจิ วิหาเรสุ ภณฺฑาคารํ สมฺมนฺเนยฺย, โส ภณฺฑาคารวิหาเร นิสินฺโน สงฺฆสฺส ปตฺตจีวรรกฺขณาทิกํ อุปการํ กเรยฺย, ตสฺส พหูปการตํ สลฺลกฺเขนฺโต สงฺโฆ ภณฺฑาคาริกสฺส ผาสุกํ อาวาสํ เอตรหิปิ ธุววาสตฺถาย ทเทยฺย, โส ตสฺส วิสุํ ธุววาสวิหาโรติฯ เอตฺถ สาธกปาเฐ ‘‘ธมฺมกถิกวินยธราทีนํ วา’’ติอาทิสทฺเทน พหุสฺสุโต อาคตาคโม ธมฺมธโร วินยธโร มาติกาธโร ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโมติ วุตฺตคุณวนฺเต สงฺคณฺหาติฯ อถาปิ ‘‘เอโส ปุคฺคโล พหุสฺสุโต อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ ภิกฺขูนํ พหูปกาโร สงฺฆภารนิตฺถารโก’’ติ วทติ, ‘‘สาธุ เอโสปิ ผาสุกาวาสสฺส อรโห, อนุฏฺฐาปนียํ กตฺวา ธุววาสตฺถาย วิหาโร เอตสฺสปิ ทาตพฺโพ’’ติ วตฺวา อนุโมทิตพฺโพฯ กถํ วิญฺญายตีติ เจ? ‘‘สงฺโฆ ปน พหุสฺสุตสฺส อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีหิ พหูปการสฺส ภารนิตฺถารกสฺส ผาสุกํ อาวาสํ อนุฏฺฐาปนียํ กตฺวา เทตี’’ติ (มหาว. อฏฺฐ. 343) วจนโต วิญฺญายติฯ

อถาปิ ‘‘อยํ ปุคฺคโล ธมฺมกถิโก วินยธโร คณวาจกาจริโย สงฺฆสฺส พหูปกาโร วิสิฏฺฐคุณยุตฺโต’’ติ วทติ, ‘‘สาธุ เอตสฺสปิ ปุคฺคลสฺส ธุววาสตฺถาย วิหารํ สลฺลกฺเขตฺวา สมฺมนฺนิตฺวาว ทาตพฺโพ’’ติ วตฺวา อนุโมทิตพฺโพฯ

กถํ วิญฺญายตีติ เจ? ‘‘สงฺโฆ ปน ภณฺฑาคาริกสฺส วา ธมฺมกถิกวินยธราทีนํ วา คณวาจกาจริยสฺส วา พหูปการตํ คุณวิสิฏฺฐตญฺจ สลฺลกฺเขตฺวา ธุววาสตฺถาย วิหารํ สมฺมนฺนิตฺวา เทตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺฐ. 120; กงฺขา. อฏฺฐ. อนุปขชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา) วจนโต วิญฺญายติฯ

อถาปิ ‘‘เอโส ปุคฺคโล พหุสฺสุโต สงฺฆภารนิตฺถารโก’’ติ วทติ, ‘‘สาธุ เอตสฺสปิ อนุฏฺฐาปนียํ กตฺวา ทาตพฺโพ’’ติ วตฺวา อนุโมทิตพฺโพฯ กถํ วิญฺญายตีติ เจ? ‘‘พหุสฺสุตสฺส สงฺฆภารนิตฺถารกสฺส ภิกฺขุโน อนุฏฺฐาปนียเสนาสนมฺปี’’ติ ปริวารฏฺฐกถายํ (ปริ. อฏฺฐ. 495-496) วุตฺตตฺตา วิญฺญายติฯ ตโต ‘‘เอวํ ทุวงฺคสมฺปนฺโน ปุคฺคโล อนฺโตสีมฏฺโฐ วา พหิสีมฏฺโฐ วา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อนฺโตสีมฏฺโฐ’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ สุฏฺฐุ ตสฺส ทาตพฺโพ’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํฯ ‘‘พหิสีมฏฺโฐ’’ติ วุตฺเต ‘‘น ทาตพฺโพ’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพํฯ กสฺมาติ เจ? ‘‘น, ภิกฺขเว, นิสฺสีเม ฐิตสฺส เสนาสนํ คาเหตพฺพํ, โย คาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. 318) วจนโตติฯ

อถ ‘‘ทุวงฺคสมนฺนาคเต อนฺโตสีมฏฺเฐ อสติ เอกงฺคสมนฺนาคโต อนฺโตสีมฏฺโฐ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อตฺถี’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ สุฏฺฐุ เอตสฺส ทาตพฺโพ’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํฯ กถํ วิญฺญายตีติ เจ? ‘‘พหูปการตํ คุณวิสิฏฺฐตญฺจ สลฺลกฺเขนฺโตติ ภณฺฑาคาริกสฺส พหูปการตํ ธมฺมกถิกาทีนํ คุณวิสิฏฺฐตญฺจ สลฺลกฺเขนฺโต’’ติ สารตฺถทีปนิยํ (สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย 3.119-121) เอเกกงฺควเสน อาคตตฺตา วิญฺญายติฯ ‘‘อนฺโตสีมฏฺโฐ เอกงฺคสมนฺนาคโตปิ นตฺถิ, พหิสีมฏฺโฐว อตฺถี’’ติ วุตฺเต ‘‘อาคนฺตฺวา อนฺโตสีเม ฐิตสฺส ทาตพฺโพ’’ติ วตฺตพฺโพฯ กสฺมาติ เจ? ‘‘อสมฺปตฺตานมฺปิ อุปจารสีมํ ปวิฏฺฐานํ อนฺเตวาสิกาทีสุ คณฺหนฺเตสุ ทาตพฺพเมวา’’ติ อฏฺฐกถายํ (มหาว. อฏฺฐ. 379) วจนโต วิญฺญายติฯ

สเจ ปน เอกงฺคยุตฺตภาเวน วา ทุวงฺคยุตฺตภาเวน วา สมานา ทฺเว ตโย ภิกฺขู อนฺโตสีมายํ วิชฺชมานา ภเวยฺยุํ, กสฺส ทาตพฺโพติ? วฑฺฒตรสฺสาติฯ กถํ วิญฺญายตีติ เจ? ‘‘น จ, ภิกฺขเว, สงฺฆิกํ ยถาวุฑฺฒํ ปฏิพาหิตพฺพํ, โย ปฏิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. 311) วจนโตติฯ สเจ ปน อนฺโตสีมายํ เอกงฺคยุตฺโต วา ทุวงฺคยุตฺโต วา ภิกฺขุ นตฺถิ, สพฺเพว อาวาสิกา พาลา อพฺยตฺตา, เอวํ สติ กสฺส ทาตพฺโพติ? โย ตํ วิหารํ อาคจฺฉติ อาคนฺตุโก ภิกฺขุ, โส เจ ลชฺชี โหติ เปสโล พหุสฺสุโต สิกฺขากาโม, โส เตหิ อาวาสิเกหิ ภิกฺขูหิ อญฺญตฺถ อคมนตฺถํ สงฺคหํ กตฺวา โส อาวาโส ทาตพฺโพฯ

อยมตฺโถ กถํ ชานิตพฺโพติ เจ? ‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส สมฺพหุลา ภิกฺขู วิหรนฺติ พาลา อพฺยตฺตา, เต น ชานนฺติ อุโปสถํ วา อุโปสถกมฺมํ วา ปาติโมกฺขํ วา ปาติโมกฺขุทฺเทสํ วาฯ ตตฺถ อญฺโญ ภิกฺขุ อาคจฺฉติ พหุสฺสุโต อาคตาคโม ธมฺมธโร วินยธโร มาติกาธโร ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี ลชฺชี กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม, เตหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ โส ภิกฺขุ สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพ อุปลาเปตพฺโพ อุปฏฺฐาเปตพฺโพ จุณฺเณน มตฺติกาย ทนฺตกฏฺเฐน มุโขทเกนฯ

โน เจ สงฺคณฺเหยฺยุํ อนุคฺคณฺเหยฺยุํ อุปลาเปยฺยุํ อุปฏฺฐาเปยฺยุํ จุณฺเณน มตฺติกาย ทนฺตกฏฺเฐน มุโขทเกน, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. 163) สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปญฺญตฺตตฺตา, อฏฺฐกถายญฺจ (มหาว. อฏฺฐ. 163) ‘‘สงฺคเหตพฺโพติ ‘สาธุ, ภนฺเต, อาคตตฺถ, อิธ ภิกฺขา สุลภา สูปพฺยญฺชนํ อตฺถิ, วสถ อนุกฺกณฺฐมานา’ติ เอวํ ปิยวจเนน สงฺคเหตพฺโพ, ปุนปฺปุนํ ตถากรณวเสน อนุคฺคเหตพฺโพ, ‘อาม วสิสฺสามี’ติ ปฏิวจนทาปเนน อุปลาเปตพฺโพฯ อถ วา จตูหิ ปจฺจเยหิ สงฺคเหตพฺโพ เจว อนุคฺคเหตพฺโพ จ, ปิยวจเนน อุปลาเปตพฺโพ, กณฺณสุขํ อาลปิตพฺโพติ อตฺโถ, จุณฺณาทีหิ อุปฏฺฐาเปตพฺโพฯ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สเจ สกโลปิ สงฺโฆ น กโรติ, สพฺเพสํ ทุกฺกฏํฯ อิธ เนว เถรา, น ทหรา มุจฺจนฺติ, สพฺเพหิ วาเรน อุปฏฺฐาตพฺโพ, อตฺตโน วาเร อนุปฏฺฐหนฺตสฺส อาปตฺติฯ เตน ปน มหาเถรานํ ปริเวณสมฺมชฺชนทนฺตกฏฺฐทานาทีนิ น สาทิตพฺพานิฯ เอวมฺปิ สติ มหาเถเรหิ สายํปาตํ อุปฏฺฐานํ อาคนฺตพฺพํฯ เตน ปน เตสํ อาคมนํ ญตฺวา ปฐมตรํ มหาเถรานํ อุปฏฺฐานํ คนฺตพฺพํฯ สจสฺส สทฺธิํจรา ภิกฺขู อุปฏฺฐากา อตฺถิ, ‘มยฺหํ อุปฏฺฐากา อตฺถิ, ตุมฺเห อปฺโปสฺสุกฺกา วิหรถา’ติ วตฺตพฺพํฯ อถาปิสฺส สทฺธิํ จรา นตฺถิ, ตสฺมิํเยว ปน วิหาเร เอโก วา ทฺเว วา วตฺตสมฺปนฺนา วทนฺติ ‘มยฺหํ เถรสฺส กตฺตพฺพํ กริสฺสาม, อวเสสา ผาสุ วิหรนฺตู’ติ, สพฺเพสํ อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตตฺตาฯ เอวํ ตาทิสํ พหิสีมโต อนฺโตสีมมาคตํ ลชฺชีเปสลพหุสฺสุตสิกฺขากามภูตํ ภิกฺขุํ อนฺโตสีมาย ธุวนิวาสตฺถาย ผาสุกํ อาวาสํ อนุฏฺฐาปนียํ กตฺวา ทาตพฺโพติ วิญฺญายติฯ

นนุ จ ‘‘น, ภิกฺขเว, นิสฺสีเม ฐิตสฺส เสนาสนํ คาเหตพฺพํ, โย คาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (จูฬว. 318) ภควตา วุตฺตํ, อถ กสฺมา นิสฺสีมโต อาคตสฺส ธุววาสตฺถาย วิหาโร ทาตพฺโพติ? วุจฺจเต – ‘‘นิสฺสีเม ฐิตสฺสา’’ติ อิทํ อนาทเร สามิวจนํ, ตสฺมา นิสฺสีเม ฐิตํเยว เสนาสนํ น คาเหตพฺพนฺติ อตฺโถ ทฏฺฐพฺโพ, น นิสฺสีเม ฐิตสฺส ตสฺส ภิกฺขุสฺส อนฺโตสีมํ ปวิฏฺฐสฺสปิ เสนาสนํ น คาเหตพฺพนฺติ อตฺโถ, ตสฺมา ปุพฺเพ พหิสีมายํ ฐิเตปิ อิทานิ อนฺโตสีมํ ปวิฏฺฐกาลโต ปฏฺฐาย จตุปจฺจยภาโค ลพฺภติฯ

วุตฺตญฺหิ อฏฺฐกถายํ (มหาว. อฏฺฐ. 379) ‘‘อสุกวิหาเร กิร พหุํ จีวรํ อุปฺปนฺนนฺติ สุตฺวา โยชนนฺตริกวิหารโตปิ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, สมฺปตฺตสมฺปตฺตานํ ฐิตฏฺฐานโต ปฏฺฐาย ทาตพฺพ’’นฺติฯ อนฺโตสีมฏฺเฐสุ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ อสกฺโกนฺเตสุ ยตฺถ ปาติโมกฺขุทฺเทสโก อตฺถิ, โส อาวาโส คนฺตพฺโพ โหติฯ อนฺโตวสฺเสปิ ปาติโมกฺขุทฺเทสเกน วินา วสฺสํ วสิตุํ น ลภติฯ ยตฺถ ปาติโมกฺขุทฺเทสโก อตฺถิ, ตตฺถ คนฺตฺวา วสฺสํ วสิตพฺพํ, ตสฺมา พหิสีมโต อาคโตปิ ลชฺชีเปสลพหุสฺสุตสิกฺขากามภิกฺขุ สงฺคเหตพฺโพ โหติฯ วุตฺตญฺเหตํ ภควตา –

‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุโปสเถ สมฺพหุลา ภิกฺขู วิหรนฺติ พาลา อพฺยตฺตา, เต น ชานนฺติ อุโปสถํ วา อุโปสถกมฺมํ วา ปาติโมกฺขํ วา ปาติโมกฺขุทฺเทสํ วาฯ เตหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ เอโก ภิกฺขุ สามนฺตา อาวาสา สชฺชุกํ ปาเหตพฺโพ ‘คจฺฉาวุโส สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา ปาติโมกฺขํ ปริยาปุณิตฺวา อาคจฺฉา’ติฯ เอวญฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํฯ โน เจ ลเภถ, เตหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ สพฺเพเหว ยตฺถ ชานนฺติ อุโปสถํ วา อุโปสถกมฺมํ วา ปาติโมกฺขํ วา ปาติโมกฺขุทฺเทสํ วา, โส อาวาโส คนฺตพฺโพฯ โน เจ คจฺเฉยฺยุํ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสฯ อิธ ปน, ภิกฺขเว, อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส สมฺพหุลา ภิกฺขู วสฺสํ วสนฺติ พาลา อพฺยตฺตา, เต น ชานนฺติ อุโปสถํ วา อุโปสถกมฺมํ วา ปาติโมกฺขํ วา ปาติโมกฺขุทฺเทสํ วาฯ เตหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ เอโก ภิกฺขุ สามนฺตา อาวาสา สชฺชุกํ ปาเหตพฺโพ ‘คจฺฉาวุโส สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา ปาติโมกฺขํ ปริยาปุณิตฺวา อาคจฺฉา’ติฯ เอวญฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํฯ

โน เจ ลเภถ, เอโก ภิกฺขุ สตฺตาหกาลิกํ ปาเหตพฺโพ ‘คจฺฉาวุโส สํขิตฺเตน วา วิตฺถาเรน วา ปาติโมกฺขํ ปริยาปุณิตฺวา อาคจฺฉา’ติฯ เอวญฺเจตํ ลเภถ, อิจฺเจตํ กุสลํฯ โน เจ ลเภถ, น, ภิกฺขเว, เตหิ ภิกฺขูหิ ตสฺมิํ อาวาเส วสฺสํ วสิตพฺพํ, วเสยฺยุํ เจ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ’’ (มหาว. 163)ฯ

เอวํ พหิสีมโต อาคตสฺสปิ สงฺฆสฺส อุปการํ กาตุํ สกฺโกนฺตสฺส วิสิฏฺฐคุณยุตฺตสฺส ทาตพฺพภาโว วิญฺญายติ, ตสฺมา ‘‘อมฺหากํ คโณ น โหติ, อมฺหากํ วํโส ปเวณี น โหติ, อมฺหากํ สนฺทิฏฺฐสมฺภตฺโต น โหตี’’ติอาทีนิ วตฺวา น ปฏิกฺขิปิตพฺโพฯ คณาทิภาโว หิ อปฺปมาณํ, ยถาวุตฺตพหูปการตาทิภาโวเยว ปมาณํฯ สามคฺคิกรณโต ปฏฺฐาย หิ สมานคโณ โหติฯ ตถา หิ อุกฺขิตฺตานุวตฺตกานํ ลทฺธินานาสํวาสกานมฺปิ ลทฺธิวิสฺสชฺชเนน ติวิธอุกฺเขปนียกมฺมกตานํ กมฺมนานาสํวาสกานมฺปิ โอสารณํ กตฺวา สามคฺคิกรเณน สํวาโส ภควตา อนุญฺญาโตฯ อลชฺชิํ ปน พหุสฺสุตมฺปิ สงฺคหํ กาตุํ น วฏฺฏติฯ โส หิ อลชฺชีปริสํ วฑฺฒาเปติ, ลชฺชีปริสํ หาเปติฯ ภณฺฑนการกํ ปน วิหารโตปิ นิกฺกฑฺฒิตพฺพํฯ ตถา หิ ‘‘ภณฺฑนการกกลหการกเมว สกลสงฺฆารามโต นิกฺกฑฺฒิตุํ ลภติฯ โส หิ ปกฺขํ ลภิตฺวา สงฺฆมฺปิ ภินฺเทยฺยฯ อลชฺชีอาทโย ปน อตฺตโน วสนฏฺฐานโตเยว นิกฺกฑฺฒิตพฺพา, สกลสงฺฆารามโต นิกฺกฑฺฒิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ อฏฺฐกถายํ (ปาจิ. อฏฺฐ. 128) วุตฺตํฯ

วุฑฺฒาปจายนาทิสามคฺคิรสรหิตํ วิสภาคปุคฺคลมฺปิ สงฺคหํ กาตุํ น ลภติฯ

วุตฺตญฺหิ ‘‘เอวรูเปน หิ วิสภาคปุคฺคเลน เอกวิหาเร วา เอกปริเวเณ วา วสนฺเตน อตฺโถ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพตฺเถวสฺส นิวาโส วาริโต’’ติ (ปาจิ. อฏฺฐ. 122), ตสฺมา อาวาสิโก วา โหตุ อาคนฺตุโก วา, สคโณ วา โหตุ อญฺญคโณ วา, พหุสฺสุตสีลวนฺตภูโต ภิกฺขุ สงฺคเหตพฺโพฯ วุตฺตญฺหิ ภควตา –

‘‘พหุสฺสุตํ ธมฺมธรํ, สปฺปญฺญํ พุทฺธสาวกํ;

เนกฺขํ ชมฺโพนทสฺเสว, โก ตํ นนฺทิตุมรหติ;

เทวาปิ นํ ปสํสนฺติ, พฺรหฺมุนาปิ ปสํสิโต’’ติฯ (อ. นิ. 4.6) –

อยํ อนฺโตสีมฏฺเฐน สงฺเฆน พหูปการตาคุณวิสิฏฺฐตาสงฺขาเตหิ คุเณหิ ยุตฺตสฺส สงฺฆภารนิตฺถารกสฺส ภิกฺขุโน ผาสุกํ อาวาสํ อนุฏฺฐาปนียํ กตฺวา ทาเน วินิจฺฉโยฯ

ยทา ปน สงฺฆตฺเถโร ชราทุพฺพลตาย วา โรคปีฬิตตาย วา วิเวกชฺฌาสยตาย วา คณํ อปริหริตุกาโม อญฺญสฺส ทาตุกาโม, อตฺตโน อจฺจเยน วา กลหวิวาทาภาวมิจฺฉนฺโต สทฺธิวิหาริกาทีนํ นิยฺยาเตตุกาโม โหติ, ตทา น อตฺตโน อิสฺสรวตาย ทาตพฺพํ, อยํ วิหาโร สงฺฆิโก, ตสฺมา สงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ตํ การณํ อาจิกฺขิตฺวา พหูปการตาคุณวิสิฏฺฐตายุตฺตปุคฺคโล วิจินาเปตพฺโพฯ ตโต สงฺโฆ จตฺตาริ อคติคมนานิ อนุปคนฺตฺวา ภควโต อชฺฌาสยานุรูปํ ลชฺชีเปสลพหุสฺสุตสิกฺขากามภูตํ ปุคฺคลํ วิจินิตฺวา ‘‘อยํ ภิกฺขุ อิมสฺส วิหารสฺส อนุจฺฉวิโก’’ติ อาโรเจติฯ มหาเถรสฺสปิ ตเมว รุจฺจติ, อิจฺเจตํ กุสลํฯ โน เจ รุจฺจติ, อตฺตโน ภารภูตํ วุตฺตปฺปการองฺควิยุตฺตํ ปุคฺคลํ ทาตุกาโม โหติฯ เอวํ สนฺเต สงฺโฆ ฉนฺทาทิอคติํ น คจฺฉติ, ปุคฺคโลว คจฺฉติ, ตสฺมา สงฺฆสฺเสว อนุมติยา วิหาโร ทาตพฺโพฯ

สเจ ปน สงฺโฆ ยํ กญฺจิ อามิสํ ลภิตฺวา ยถาวุตฺตคุณวิยุตฺตสฺส ภิกฺขุโน ทาตุกาโม โหติ, ปุคฺคโล ปน ภควโต อชฺฌาสยานุรูปํ วุตฺตปฺปการองฺคยุตฺตภูตสฺเสว ภิกฺขุสฺส ทาตุกาโม, ตทา ปุคฺคโลปิ สงฺฆปริยาปนฺโนเยวาติ กตฺวา ธมฺมกมฺมการกสฺส ปุคฺคลสฺเสว อนุมติยา วิหาโร ทาตพฺโพ, น สงฺฆานุมติยาฯ วุตฺตญฺเหตํ อฏฺฐกถายํ (ปารา. อฏฺฐ. 2.538-539) ‘‘สเจ สงฺโฆ กิญฺจิ ลภิตฺวา อามิสครุกตาย น นิวาเรติ, เอโก ภิกฺขุ นิวาเรติ, โสว ภิกฺขุ อิสฺสโรฯ สงฺฆิเกสุ หิ กมฺเมสุ โย ธมฺมกมฺมํ กโรติ, โสว อิสฺสโร’’ติฯ วุตฺตญฺหิ –

‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา;

โย ธมฺมํ อติวตฺตติ;

นิหียติ ตสฺส ยโส;

กาฬปกฺเขว จนฺทิมาฯ

‘‘ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา;

โย ธมฺมํ นาติวตฺตติ;

อาปูรติ ตสฺส ยโส;

สุกฺกปกฺเขว จนฺทิมา’’ติฯ (ที. นิ. 3.246; อ. นิ. 4.17-18; ปาริ. 382, 386);

ยทา ปน เถโรปิ กิญฺจิ อวตฺวา ยถากมฺมงฺคโต, สงฺโฆปิ น กสฺสจิ วิจาเรติ, เอวํ สงฺฆิกวิหาเร อภิกฺขุเก สุญฺเญ วตฺตมาเน ตสฺมิํ เทเส เยน เกนจิ สาสนสฺส วุทฺธิมิจฺฉนฺเตน อาจริเยน อนฺโตสีมฏฺฐกา ภิกฺขู เอวํ สมุสฺสาเหตพฺพา ‘‘มา ตุมฺเห อายสฺมนฺโต เอวํ อกตฺถ, อนฺโตสีมฏฺฐเกสุ ภิกฺขูสุ พหูปการตาทิยุตฺตํ ปุคฺคลํ วิจินถ, วิจินิตฺวา ลภนฺตา ตสฺส ปุคฺคลสฺส สมคฺเคน สงฺเฆน ธุววาสตฺถาย วิหารํ อนุฏฺฐาปนียํ กตฺวา เทถ, โน เจ อนฺโตสีมฏฺฐเกสุ ภิกฺขูสุ อลตฺถ, อถ พหิสีมฏฺฐเกสุ ภิกฺขูสุ วิจินถฯ

พหิสีมฏฺฐเกสุ ภิกฺขูสุ วิจินิตฺวา ยถาวุตฺตองฺคยุตฺตปุคฺคเล ลพฺภมาเน ตํ ปุคฺคลํ อนฺโตสีมํ ปเวเสตฺวา อนฺโตสีมฏฺฐกสฺส สงฺฆสฺส อนุมติยา ธุววาสตฺถาย วิหารํ สมฺมนฺนิตฺวา อนุฏฺฐาปนียํ กตฺวา เทถฯ เอวํ กโรนฺตา หิ ตุมฺเห อายสฺมนฺโต อปฺปิจฺฉกถา-สนฺโตสกถา-สลฺเลขกถา-ปวิวิตฺตกถาวีริยารมฺภกถา-สีลกถา-สมาธิกถา-ปญฺญากถา-วิมุตฺติกถา-วิมุตฺติญาณทสฺสนกถาสงฺขาตทสกถาวตฺถุสมฺปนฺนํ ปุคฺคลํ อุปนิสฺสาย อสฺสุตปุพฺพํ ธมฺมํ สุณิสฺสถ, สุตปุพฺพํ ธมฺมํ ปริโยทาปิสฺสถ, กงฺขํ วิโนทิสฺสถ, ทิฏฺฐิํ อุชุํ กริสฺสถ, จิตฺตํ ปสาเทสฺสถฯ ยสฺส ลชฺชิโน เปสลสฺส พหุสฺสุตสฺส สิกฺขากามสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขํ อนุสิกฺขมานา สทฺธาย วฑฺฒิสฺสนฺติ, สีเลน วฑฺฒิสฺสนฺติ, สุเตน วฑฺฒิสฺสนฺติ, จาเคน วฑฺฒิสฺสนฺติ, ปญฺญาย วฑฺฒิสฺสนฺตี’’ติฯ วุตฺตญฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. 1.14) ‘‘กตโม อุปนิสฺสยโคจโร ทสกถาวตฺถุคุณสมนฺนาคโต กลฺยาณมิตฺโต, ยํ นิสฺสาย อสฺสุตํ สุณาติ, สุตํ ปริโยทเปติ, กงฺขํ วิตรติ, ทิฏฺฐิํ อุชุํ กโรติ, จิตฺตํ ปสาเทติฯ ยสฺส วา อนุสิกฺขมาโน สทฺธาย วฑฺฒติ, สีเลน วฑฺฒติ, สุเตน วฑฺฒติ , จาเคน วฑฺฒติ, ปญฺญาย วฑฺฒติ, อยํ วุจฺจติ อุปนิสฺสยโคจโร’’ติฯ เอวํ สมุสฺสาเหตฺวา ธมฺมกถํ กตฺวา อนฺโตสีมฏฺฐกสงฺเฆเนว ธุววาสวิหาโร ทาเปตพฺโพติฯ

เอวํ ชินสาสนสฺส, วฑฺฒิกาโม สุเปสโล;

อกาสิ ปญฺญวา ภิกฺขุ, สุฏฺฐุ อาวาสนิจฺฉยนฺติฯ

อิติ วินยสงฺคหสํวณฺณนาภูเต วินยาลงฺกาเร

วิหารวินิจฺฉยกถาลงฺกาโรฯ

29. กถินตฺถารวินิจฺฉยกถา

[226] เอวํ จตุปจฺจยภาชนวินิจฺฉยํ กเถตฺวา อิทานิ กถินวินิจฺฉยํ กเถตุมาห ‘‘กถินนฺติ เอตฺถ ปนา’’ติอาทิฯ ตตฺถ กถินนฺติ กตมํ กถินํ? สมูหปญฺญตฺติฯ น หิ ปรมตฺถโต กถินํ นาม เอโก ธมฺโม อตฺถิ, ปุริมวสฺสํวุตฺถา ภิกฺขู, อนูนปญฺจวคฺคสงฺโฆ, จีวรมาโส, ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนจีวรนฺติอาทีสุ เยสุ นามรูเปสุ สมุปฺปชฺชมาเนสุ เตสํ นามรูปธมฺมานํ สมูหสมวายสงฺขาตํ สมูหปญฺญตฺติมตฺตเมว กถินํฯ อยมตฺโถ กถํ ชานิตพฺโพติ? ‘‘เตสญฺเญว ธมฺมานํ สงฺคโห สมวาโย นามํ นามกมฺมํ นามเธยฺยํ นิรุตฺติ พฺยญฺชนํ อภิลาโป, ยทิทํ กถิน’’นฺติ ปริวารปาฬิยํ (ปริ. 412) อาคตตฺตา จ, ‘‘เตสญฺเญว ธมฺมานนฺติ เยสุ รูปาทิธมฺเมสุ สติ กถินํ นาม โหติ, เตสํ สโมธานํ มิสฺสีภาโวฯ นามํ นามกมฺมนฺติอาทินา ปน ‘กถิน’นฺติ อิทํ พหูสุ ธมฺเมสุ นามมตฺตํ, น ปรมตฺถโต เอโก ธมฺโม อตฺถีติ ทสฺเสตี’’ติ อฏฺฐกถายํ (ปริ. อฏฺฐ. 412) อาคตตฺตา จ, ‘‘เยสุ รูปาทิธมฺเมสูติ ปุริมวสฺสํวุตฺถา ภิกฺขู, ปญฺจหิ อนูโน สงฺโฆ, จีวรมาโส, ธมฺเมน สเมน สมุปฺปนฺนํ จีวรนฺติ เอวมาทีสุ เยสุ รูปารูปธมฺเมสุฯ สตีติ สนฺเตสุฯ มิสฺสีภาโวติ สํสคฺคตา สมูหปญฺญตฺติมตฺตํฯ เตนาห น ปรมตฺถโต เอโก ธมฺโม อตฺถีติ ทสฺเสตี’’ติ วิมติวิโนทนิยํ (วิ. วิ. ฏี. ปริวาร 2.412) อาคตตฺตา จ ชานิตพฺโพติฯ

เกนฏฺเฐน กถินนฺติ? ถิรฏฺเฐนฯ กสฺมา ถิรนฺติ? อนามนฺตจารอสมาทานจารคณโภชนยาวทตฺถจีวรโยจตตฺถจีวรุปฺปาทสงฺขาเต ปญฺจานิสํเส อนฺโตกรณสมตฺถตายฯ