เมนู

เตสุ วตฺตํ สาทิยนฺเตสุ อาปตฺติ, อสาทิยนฺเตสุ อนาปตฺติ, เตสุ อชานนฺเตสุ , เอกสฺส ภารกรเณปิ อนาปตฺตีติ อยเมตฺถ ปิณฺฑตฺโถฯ อิทานิ อนฺเตวาสิกวิเสสวเสน ลพฺภมานวิเสสํ ทสฺเสตุมาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิฯ

อาจริยวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

สทฺธิวิหาริกวตฺตกถาวณฺณนา

สทฺธิวิหาริกวตฺเต โก สทฺธิวิหาริโก, เกนฏฺเฐน สทฺธิวิหาริโก, เกน วตฺติตพฺพํ สทฺธิวิหาริกวตฺตํ, กตมํ ตํ วตฺตนฺติ? ตตฺถ โก สทฺธิวิหาริโกติ อุปสมฺปนฺโน วา โหตุ สามเณโร วา, โย อุปชฺฌํ คณฺหาติ, โส สทฺธิวิหาริโก นามฯ เกนฏฺเฐน สทฺธิวิหาริโกติ อุปชฺฌาเยน สทฺธิํ วิหาโร เอตสฺส อตฺถีติ สทฺธิวิหาริโกติ อตฺเถนฯ เกน วตฺติตพฺพํ สทฺธิวิหาริกวตฺตนฺติ อุปชฺฌาเยน วตฺติตพฺพํฯ เตน วุตฺตํ วตฺตกฺขนฺธเก (มหาว. 378) ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, อุปชฺฌายานํ สทฺธิวิหาริเกสุ วตฺตํ ปญฺญเปสฺสามิ, ยถา อุปชฺฌาเยหิ สทฺธิวิหาริเกสุ วตฺติตพฺพ’’นฺติฯ กตมํ ตํ วตฺตนฺติ อิทานิ ปกรณาคตํฯ อิมสฺมิํ ปน ปกรเณ สงฺเขปรุจิตฺตา, อาจริยสทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกวตฺตานญฺจ สมานตฺตา ทฺเวปิ เอกโต วุตฺตา, ตถาปิ วตฺตกฺขนฺธเก วิสุํ วิสุํ อาคตตฺตา วิสุํ วิสุํเยว กถยามฯ

สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพติ อุทฺเทสาทีหิสฺส สงฺคโห จ อนุคฺคโห จ กาตพฺโพฯ ตตฺถ อุทฺเทโสติ ปาฬิวจนํฯ ปริปุจฺฉาติ ปาฬิยา อตฺถวณฺณนาฯ โอวาโทติ อโนติณฺเณ วตฺถุสฺมิํ ‘‘อิทํ กโรหิ, อิทํ มา กริตฺถา’’ติ วจนํฯ อนุสาสนีติ โอติณฺเณ วตฺถุสฺมิํฯ

อปิจ โอติณฺเณ วา อโนติณฺเณ วา ปฐมํ วจนํ โอวาโท, ปุนปฺปุนํ วจนํ อนุสาสนีติ ทฏฺฐพฺพํฯ สเจ อุปชฺฌายสฺส ปตฺโต โหตีติ สเจ อติเรกปตฺโต โหติฯ เอส นโย สพฺพตฺถฯ ปริกฺขาโรติ อญฺโญปิ สมณปริกฺขาโรฯ อิธ อุสฺสุกฺกํ นาม ธมฺมิเยน นเยน อุปฺปชฺชมานอุปายปริเยสนํฯ อิโต ปรํ ทนฺตกฏฺฐทานํ อาทิํ กตฺวา อาจมนกุมฺภิยา อุทกสิญฺจนปริโยสานํ วตฺตํ คิลานสฺเสว สทฺธิวิหาริกสฺส กาตพฺพํฯ อนภิรติวูปกาสนาทิ ปน อคิลานสฺสปิ กตฺตพฺพเมวฯ จีวรํ รชนฺเตนาติ ‘‘เอวํ รเชยฺยาสี’’ติ อุปชฺฌายโต อุปายํ สุตฺวา รชนฺเตนฯ เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพติอาทีสุ อนาทริยํ ปฏิจฺจ ธมฺมามิเสหิ อสงฺคณฺหนฺตานํ อาจริยุปชฺฌายานํ ทุกฺกฏํ วตฺตเภทตฺตาฯ เตเนว ปริวาเรปิ (ปริ. 322) ‘‘น เทนฺโต อาปชฺชตี’’ติ วุตฺตํฯ เสสํ สุวิญฺเญยฺยเมวฯ

สทฺธิวิหาริกวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

อนฺเตวาสิกวตฺตกถาวณฺณนา

อนฺเตวาสิกวตฺเต โก อนฺเตวาสิโก, เกนฏฺเฐน อนฺเตวาสิโก, กติวิธา อนฺเตวาสิกา, เกน วตฺติตพฺพํ อนฺเตวาสิกวตฺตํ, กตมํ ตํ วตฺตนฺติ? ตตฺถ โก อนฺเตวาสิโกติ อุปสมฺปนฺโน วา โหตุ สามเณโร วา, โย อาจริยสฺส สนฺติเก นิสฺสยํ คณฺหาติ, โย วา อาจริยสฺส โอวาทํ คเหตฺวา ปพฺพชติ, โย วา เตนานุสฺสาวิโต หุตฺวา อุปสมฺปชฺชติ, โย วา ตสฺส สนฺติเก ธมฺมํ ปริยาปุณาติ, โส สพฺโพ อนฺเตวาสิโกติ เวทิตพฺโพฯ ตตฺถ ปฐโม นิสฺสยนฺเตวาสิโก นาม, ทุติโย ปพฺพชฺชนฺเตวาสิโก นาม, ตติโย อุปสมฺปทนฺเตวาสิโก นาม, จตุตฺโถ ธมฺมนฺเตวาสิโก นามฯ อญฺญตฺถ ปน สิปฺปนฺเตวาสิโกปิ อาคโต, โส อิธ นาธิปฺเปโต เกนฏฺเฐน อนฺเตวาสิโกติ อนฺเต วสตีติ อนฺเตวาสิโก อลุตฺตสมาสวเสนฯ กติวิธา อนฺเตวาสิกาติ ยถาวุตฺตนเยน จตุพฺพิธา อนฺเตวาสิกาฯ

เกน วตฺติตพฺพํ อนฺเตวาสิกวตฺตนฺติ จตุพฺพิเธหิ อาจริเยหิ อนฺเตวาสิเกสุ วตฺติตพฺพํฯ ยถาห วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. 382) ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, อาจริยานํ อนฺเตวาสิเกสุ วตฺตํ ปญฺญเปสฺสามิ, ยถา อาจริเยหิ อนฺเตวาสิเกสุ วตฺติตพฺพ’’นฺติฯ กตมํ ตํ วตฺตนฺติ ยํ ภควตา วตฺตกฺขนฺธเก วุตฺตํ, อิธ จ สงฺเขเปน ทสฺสิตํ, ตํ วตฺตนฺติฯ อิธ ปน อตฺโถ สทฺธิวิหาริกวตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพฯ อยํ ปน วิเสโส – เอเตสุ ปพฺพชฺชนฺเตวาสิโก จ อุปสมฺปทนฺเตวาสิโก จ อาจริยสฺส ยาวชีวํ ภาโร, นิสฺสยนฺเตวาสิโก จ ธมฺมนฺเตวาสิโก จ ยาว สมีเป วสนฺติ, ตาวเทว, ตสฺมา อาจริเยหิปิ เตสุ สมฺมา วตฺติตพฺพํฯ อาจริยนฺเตวาสิเกสุ หิ โย โย น สมฺมา วตฺตติ, ตสฺส ตสฺส อาปตฺติ เวทิตพฺพาฯ

อนฺเตวาสิกวตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ