สตํ หตฺถีติ คาถาย หตฺถิโน สตสหสฺสานีติ เอวํ ปจฺเจกํ สหสฺส-สทฺเทน โยเชตฺวา อตฺโถ ญาตพฺโพฯ ปทวีติหารสฺสาติ ‘‘พุทฺธํ วนฺทิสฺสามี’’ติ รตนตฺตยํ อุทฺทิสฺส คจฺฉโต เอกปทวีติหารสฺส , ตปฺปจฺจยกุสลผลสฺสาติ อตฺโถฯ ตสฺส โสฬสโม ภาโค กลํ นาม, ตํ โสฬสิํ กลํ ยถาวุตฺตา หตฺถิอาทโย สพฺเพ นาคฺฆนฺติ นารหนฺติ, นิทสฺสนมตฺตญฺเจตํฯ อเนกสตสหสฺสภาคมฺปิ นาคฺฆนฺติฯ
อนฺธกาโร อนฺตรธายีติ ปุน พลวปีติยา อาโลเก สมุปฺปนฺเน อนฺตรธายิฯ อาสตฺติโยติ ตณฺหาโยฯ วยกรณนฺติ เทยฺยธมฺมมูลํ นวกมฺมํฯ
[309] ทเทยฺยาติ นวกมฺมํ อธิฏฺฐาตุํ วิหาเร อิสฺสริยํ ทเทยฺยาติ อตฺโถฯ ทินฺโนติ นวกมฺมํ กาตุํ วิหาโร ทินฺโน, วิหาเร นวกมฺมํ ทินฺนนฺติ วา อตฺโถฯ
[313-4] สนฺถาคาเรติ สนฺนิปาตมณฺฑเปฯ โอกาเสติ นิวาโสกาเสฯ อุทฺทิสฺส กตนฺติ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส กตํฯ คิหิวิกฏนฺติ คิหีหิ กตํ ปญฺญตฺตํ, คิหิสนฺตกนฺติ อตฺโถฯ
วิหารานุชานนกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ
เสนาสนคฺคาหกถาวณฺณนา
[318] ‘‘ฉมาสจฺจเยน ฉมาสจฺจเยนา’’ติ อิทํ ทฺวิกฺขตฺตุํ ปจฺจยทานกาลปริจฺเฉททสฺสนํ, เอวํ อุปริปิฯ ‘‘ตํ น คาเหตพฺพ’’นฺติ วจนสฺส การณมาห ‘‘ปจฺจเยเนว หิ ต’’นฺติอาทินา, ปจฺจยญฺเญว นิสฺสาย ตตฺถ วสิตฺวา ปฏิชคฺคนา ภวิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโยฯ
อุพฺภณฺฑิกาติ อุกฺขิตฺตภณฺฑา ภวิสฺสนฺติฯ ทีฆสาลาติ จงฺกมนสาลาฯ มณฺฑลมาโฬติ อุปฏฺฐานสาลาฯ อนุทหตีติ ปีเฬติฯ ‘‘อทาตุํ น ลพฺภตี’’ติ อิมินา สญฺจิจฺจ อททนฺตสฺส ปฏิพาหเน ปวิสนโต ทุกฺกฏนฺติ ทีเปติฯ