เมนู

หรณกกถาวณฺณนา

[111] หรณกกถายํ หรณกนฺติ วตฺถุสามินา หริยมานํฯ โส จ ปาทํ อคฺฆติ, ปาราชิกเมวาติ ‘‘อนฺตํ น คณฺหิสฺสามี’’ติ อสลฺลกฺขิตตฺตา สามญฺญโต ‘‘คณฺหิสฺสามิ เอต’’นฺติ สลฺลกฺขิตสฺเสว ปฏสฺส เอกเทสตาย ตมฺปิ คณฺหิตุกาโมวาติ ปาราชิกํ วุตฺตํฯ สภณฺฑหารกนฺติ สหภณฺฑหารกํ, สการาเทสสฺส วิกปฺปตฺตา สห สทฺโทว ฐิโต, ภณฺฑหารเกน สห ตํ ภณฺฑนฺติ อตฺโถฯ สาสงฺโกติ ‘‘ยทิ อุปสงฺกมิตฺวา ภณฺฑํ คณฺหิสฺสามิ, อาวุเธน มํ ปหเรยฺยา’’ติ ภเยน สญฺชาตาสงฺโกฯ เอกมนฺตํ ปฏิกฺกมฺมาติ ภเยเนว อนุปคนฺตฺวา มคฺคโต สยํ ปฏิกฺกมฺมฯ สนฺตชฺเชตฺวาติ ผรุสวาจาย เจว อาวุธปริวตฺตนาทิกายวิกาเรน จ สนฺตชฺเชตฺวาฯ อนชฺฌาวุตฺถกนฺติ อปริคฺคหิตกํฯ อาลเยน อนธิมุตฺตมฺปิ ภณฺฑํ อนชฺฌาวุตฺถกํ นาม โหตีติ อาห ‘‘อาหราเปนฺเต ทาตพฺพ’’นฺติ, อิมินา ปฐมํ ปริจฺจตฺตาลยานมฺปิ ยทิ ปจฺฉาปิ สกสญฺญา อุปฺปชฺชติ, เตสญฺเญว ตํ ภณฺฑํ โหติ, พลกฺกาเรนาปิ สกสญฺญาย ตสฺส คหเณ โทโส นตฺถิ, อททนฺตสฺเสว อวหาโรติ ทสฺเสติฯ ยทิ ปน สามิโน ‘‘ปริจฺจตฺตํ มยา ปฐมํ, อิทานิ มม สนฺตกํ วา เอตํ, โน’’ติ อาสงฺกา โหติ, พลกฺกาเรน คเหตุํ น วฏฺฏติ สกสญฺญาพเลเนว ปุน คเหตพฺพภาวสฺส อาปนฺนตฺตาฯ ‘‘อเทนฺตสฺส ปาราชิก’’นฺติ วจนโต โจรสฺส สกสญฺญาย วิชฺชมานายปิ สามิเกสุ สาลเยสุ อทาตุํ น วฏฺฏตีติ ทีปิตํ โหติฯ อญฺเญสูติ มหาปจฺจริยาทีสุฯ วิจารณาเยว นตฺถีติ อิมินา ตตฺถาปิ ปฏิกฺเขปาภาวโต อยเมว อตฺโถติ ทสฺเสติฯ

อุปนิธิกถาวณฺณนา

[112] อุปนิธิกถายํ สงฺโคปนตฺถาย อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตสฺส ภณฺฑสฺส คุตฺตฏฺฐาเน ปฏิสามนปฺปโยคํ วินา นาหํ คณฺหามีติอาทินา อญฺญสฺมิํ ปโยเค อกเต รชฺชสงฺโขภาทิกาเล ‘‘น ทานิ ตสฺส ทสฺสามิ, น มยฺหํ ทานิ ทสฺสตี’’ติ อุโภหิปิ สกสกฏฺฐาเน นิสีทิตฺวา ธุรนิกฺเขเป กเตปิ อวหาโร นตฺถิฯ เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ปาราชิกเมว ปฏิสามนปฺปโยคสฺส กตตฺตา’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, น สารโต ปจฺเจตพฺพํฯ ปฏิสามนกาเล หิสฺส เถยฺยจิตฺตํ นตฺถิ, ‘‘น ทานิ ตสฺส ทสฺสามี’’ติ เถยฺยจิตฺตุปฺปตฺติกฺขเณ ปน สามิโน ธุรนิกฺเขปจิตฺตุปฺปตฺติยา เหตุภูโต กายวจีปโยโค นตฺถิ, เยน โส อาปตฺติํ อาปชฺเชยฺยฯ น หิ อกิริยสมุฏฺฐานายํ อาปตฺตีติฯ ทาเน สอุสฺสาโห, รกฺขติ ตาวาติ อวหารํ สนฺธาย อวุตฺตตฺตา นาหํ คณฺหามีติอาทินา มุสาวาทกรเณ ปาจิตฺติยเมว โหติ, น ทุกฺกฏํ เถยฺยจิตฺตาภาเวน สหปโยคสฺสาปิ อภาวโตติ คเหตพฺพํฯ ยทิปิ มุเขน ทสฺสามีติ วทติ…เป.… ปาราชิกนฺติ เอตฺถ กตรปโยเคน อาปตฺติ, น ตาว ปฐเมน ภณฺฑปฏิสามนปฺปโยเคน ตทา เถยฺยจิตฺตาภาวา, นาปิ ‘‘ทสฺสามี’’ติ กถนปฺปโยเคน ตทา เถยฺยจิตฺเต วิชฺชมาเนปิ ปโยคสฺส กปฺปิยตฺตาติ? วุจฺจเต – สามินา ‘‘เทหี’’ติ พหุโส ยาจิยมาโนปิ อทตฺวา เยน ปโยเคน อตฺตโน อทาตุกามตํ สามิกสฺส ญาเปติ, เยน จ โส ‘‘อทาตุกาโม อยํ วิกฺขิปตี’’ติ ญตฺวา ธุรํ นิกฺขิปติ, เตเนว ปโยเคนสฺส อาปตฺติฯ น เหตฺถ อุปนิกฺขิตฺตภณฺเฑ ปริยาเยน มุตฺติ อตฺถิฯ อทาตุกามตาย หิ กทา เต ทินฺนํ, กตฺถ เต ทินฺนนฺติอาทิปริยายวจเนนาปิ สามิกสฺส ธุเร นิกฺขิปาปิเต อาปตฺติเยวฯ เตเนว อฏฺฐกถายํ วุตฺตํ – ‘‘กิํ ตุมฺเห ภณถ…เป.… เอวํ อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ภิกฺขุโน ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. อฏฺฐ. 1.111)ฯ ปรสนฺตกสฺส ปเรหิ คณฺหาปเน เอว ปริยายโต มุตฺติ, น สพฺพตฺถาติ คเหตพฺพํฯ อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตตฺตาติ เอตฺถ อตฺตโน หตฺเถ สามินา ทินฺนตาย ภณฺฑาคาริกฏฺฐาเน ฐิตตฺตา จ ฐานาจาวเนปิ นตฺถิ อวหาโร, เถยฺยจิตฺเตน ปน คหเณ ทุกฺกฏโต น มุจฺจตีติ เวทิตพฺพํฯ

เอเสว นโยติ อุทฺธาเรเยว โจรสฺส ปาราชิกํ, กสฺมา? อญฺเญหิ สาธารณสฺส อภิญฺญาณสฺส วุตฺตตฺตาฯ อญฺญํ ตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชตีติ สญฺญาณโต โอกาสโต จ เตน สทิสเมว อญฺญํ คณฺหนฺเต ยุชฺชติ, โจเรน สลฺลกฺขิตปฺปเทสโต ตํ อปเนตฺวา เกหิจิ ตตฺถ ตาทิเส อญฺญสฺมิํ ปตฺเต ฐปิเต ตํ คณฺหนฺเตเยว ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย, เตน โจเรน ทิวา สลฺลกฺขิตปตฺตํ อญฺญตฺถ อปเนตฺวา ตทญฺเญ ตาทิเส ปตฺเต ตตฺถ ฐปิเตปิ โจรสฺส ปจฺฉา รตฺติภาเค อุปฺปชฺชมานํ เถยฺยจิตฺตํ ทิวา สลฺลกฺขิตปฺปเทเส ฐปิตํ อญฺญํ ตาทิสํ ปตฺตเมว อาลมฺพิตฺวา อุปฺปชฺชตีติ ทสฺสิตํ โหติฯ ปทวาเรนาติ เถเรน นีหริตฺวา ทินฺนํ ปตฺตํ คเหตฺวา คจฺฉโต โจรสฺส ปทวาเรนฯ อตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชตีติ อตาทิสสฺส เถเรน คหณกฺขเณ อวหาราภาวโต ปจฺฉา หตฺถปตฺตํ ‘‘ต’’นฺติ วา ‘‘อญฺญ’’นฺติ วา สญฺญาย ‘‘อิทํ คเหตฺวา คจฺฉามี’’ติ คมเน ปทวาเรเนว อวหาโร ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโยฯ

ปาราชิกํ นตฺถีติ ปทวาเรปิ ปาราชิกํ นตฺถิ อุปนิธิภณฺเฑ วิยาติ คเหตพฺพํฯ คามทฺวารนฺติ พหิคาเม วิหารสฺส ปติฏฺฐิตตฺตา คามปฺปเวสสฺส อารมฺภปฺปเทสทสฺสนวเสน วุตฺตํ, อนฺโตคามนฺติ อตฺโถฯ