เมนู

วชฺชิปุตฺตกวตฺถุวณฺณนา

[43-4] วชฺชีสุ ชนปเทสุ วสนฺตา วชฺชิโน นาม, เตสํ ปุตฺตาฯ ยาวทตฺถนฺติ ยาวตา อตฺโถ อธิปฺปาโยติ วุตฺตํ โหติ, ตตฺถ ยํ วุตฺตํ ‘‘สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํอนาวิกตฺวา’’ติ, ตํ กามํ สิกฺขาปจฺจกฺขาเน, ตเทกฏฺเฐ จ ทุพฺพลฺยาวิกรเณ ปญฺญตฺเต สติ ยุชฺชติ, น อญฺญถาฯ ตถาปิ อิทานิ ปญฺญเปตพฺพํ อุปาทาย วุตฺตํ, กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อติเรกจีวรํ ธาเรสฺสนฺติ (ปารา. 459), อาฬวกา ภิกฺขู กุฏิโย การาเปนฺติ อปฺปมาณิกาโย (ปารา. 342), ภิกฺขุนิโย ทฺเว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ อสิกฺขิตสิกฺขํ สิกฺขมานํ วุฏฺฐาเปนฺติ (ปาจิ. 1077), สงฺเฆน อสมฺมตํ วุฏฺฐาเปนฺตีติอาทิ (ปาจิ. 1084) วิย ทฏฺฐพฺพํฯ น หิ ตโต ปุพฺเพ อธิฏฺฐานํ วิกปฺปนํ วา อนุญฺญาตํฯ ยทภาวา อติเรกจีวรนฺติ วเทยฺย, ปมาณํ วา น ปญฺญตฺตํ, ยทภาวา อปฺปมาณิกาโยติ วเทยฺย, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺฐพฺพํฯ ‘‘อุลฺลุมฺปตุ มํ, ภนฺเต, สงฺโฆ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติ (มหาว. 71, 126) อุปสมฺปทํ ยาจิตฺวา อุปสมฺปนฺเนน อุปสมฺปนฺนสมนนฺตรเมว ‘‘อุปสมฺปนฺเนน ภิกฺขุนา เมถุโน ธมฺโม น ปฏิเสวิตพฺโพ, อสกฺยปุตฺติโย’’ติ (มหาว. 129) จ ปญฺญตฺเตน อสฺสมณาทิภาวํ อุปคนฺตุกาเมน นนุ ปฐมํ อชฺฌุปคตา สิกฺขา ปจฺจกฺขาตพฺพา, ตตฺถ ทุพฺพลฺยํ วา อาวิกาตพฺพํ สิยา, เต ปน ‘‘สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิํสู’’ติ อนุปญฺญตฺติยา โอกาสกรณตฺถํ วา ตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ‘‘โส อาคโต น อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติ กิญฺจาปิ เอตฺเถว วุตฺตํ, ตถาปิ อิตเรสุปิ ปาราชิเกสุ ยถาสมฺภวํ เวทิตพฺพํฯ น หิ สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา โย ปาราชิกวตฺถุํ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิยติ, มนุสฺสวิคฺคหํ วา ชีวิตา โวโรเปติ, ปฏิวิชานนฺตสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ วา อุลฺลปติ, โส อาคโต น อุปสมฺปาเทตพฺโพฯ อนุปญฺญตฺติ หิ ทฬฺหีกมฺมสิถิลกมฺมกรณปฺปโยชนาฯ สา หิ ยสฺส ปาราชิกํ โหติ อญฺญา วา อาปตฺติ, ตสฺส นิยมทสฺสนปฺปโยชนาติลกฺขณานุปญฺญตฺติกตฺตาฯ เอวญฺหิ อนฺเต อวตฺวา อาทิมฺหิ วุตฺตา ‘‘คามา วา อรญฺญา วา’’ติ (ปารา. 91) อนุปญฺญตฺติ วิยฯ ปริปุณฺเณ ปเนตสฺมิํ สิกฺขาปเท –

‘‘นิทานา มาติกาเภโท, วิภงฺโค ตํนิยามโก;

ตโต อาปตฺติยา เภโท, อนาปตฺติ ตทญฺญถา’’ติฯ –

อยํ นโย เวทิตพฺโพฯ ตตฺถ สุทินฺนวตฺถุ มกฺกฏิวตฺถุ วชฺชิปุตฺตกวตฺถุ จาติ ติปฺปเภทํ วตฺถุ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส นิทานํ นาม, ตโต นิทานา ‘‘โย ปน, ภิกฺขุ, ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน…เป.… อสํวาโส’’ติ อิมิสฺสา มาติกาย เภโท ชาโตฯ ตตฺถ หิ ‘‘อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายา’’ติ อิตฺถิลิงฺควจเนน ‘‘สจฺจํ, อาวุโส, ภควตา สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ, ตญฺจ โข อิตฺถิยา โน ปุริเส โน ปณฺฑเก โน อุภโตพฺยญฺชนเก จา’’ติ มกฺกฏิปาราชิโก วิย อญฺโญปิ เลสํ โอฑฺเฑตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา ตาทิสสฺส อเลโสกาสสฺส ทสฺสนตฺถํ อิทํ วุจฺจติฯ มกฺกฏิวตฺถุสงฺขาตา นิทานา ‘‘อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปี’’ติ มาติกาวจนเภโท น อิตฺถิยา เอว เมถุนสิทฺธิทสฺสนโต กโต, ตสฺมา วิภงฺโค ตํนิยามโก ตสฺสา มาติกาย อธิปฺเปตตฺถนิยามโก วิภงฺโคฯ วิภงฺเค หิ ‘‘ติสฺโส อิตฺถิโยฯ ตโย อุภโตพฺยญฺชนกาฯ ตโย ปณฺฑกาฯ ตโย ปุริสาฯ มนุสฺสิตฺถิยา ตโย มคฺเค…เป.… ติรจฺฉานคตปุริสสฺส ทฺเว มคฺเค’’ติอาทินา (ปารา. 56) นเยน สพฺพเลโสกาสํ ปิทหิตฺวา นิยโม กโตฯ

เอตฺถาห – ยทิ เอวํ สาธารณสิกฺขาปทวเสน วา ลิงฺคปริวตฺตนวเสน วา น เกวลํ ภิกฺขูนํ, ภิกฺขุนีนมฺปิ ‘‘สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน’’ติ วิภงฺเค วตฺตพฺพํ สิยาฯ ตทวจเนน ภิกฺขุนี ปุริสลิงฺคปาตุภาเวน ภิกฺขุภาเว ฐิตา เอวํ วเทยฺย ‘‘นาหํ อุปสมฺปทกาเล ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺนา, ตสฺมา น อปฺปจฺจกฺขาตสิกฺขาปิ เมถุนธมฺเมน ปาราชิกา โหมี’’ติ? วุจฺจเต – ตถา น วตฺตพฺพํ อนิฏฺฐปฺปสงฺคโตฯ ภิกฺขุนีนมฺปิ ‘‘สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน’’ติ วุตฺเต ภิกฺขุนีนมฺปิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ อตฺถีติ อาปชฺชติ, ตญฺจานิฏฺฐํฯ อิทํ อปรํ อนิฏฺฐปฺปสงฺโคติ ‘‘สพฺพสิกฺขาปทานิ สาธารณาเนว, นาสาธารณานี’’ติฯ อปิจายํ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโนวาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตํเยว อุปชฺฌ’’นฺติอาทิ (ปารา. 69) วุตฺตํ, อปิจ โย ตถา เลสํ โอฑฺเฑตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต วชฺชิปุตฺตกา วิย ปาราชิโก โหติฯ เต หิ ‘‘ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน’’ติ วจนาภาเว สติ ‘‘อาปตฺติํ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อาปนฺนา ปาราชิก’’นฺติ วุตฺตา ภควตาฯ

เอตฺถ ปน ‘‘ภิกฺขเว’’ติ วุตฺตตฺตา เกจิ ภิกฺขุลิงฺเค ฐิตา, ‘‘อิทานิ เจปิ มยํ, ภนฺเต อานนฺท, ลเภยฺยาม ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ วุตฺตตฺตา เกจิ วิพฺภนฺตาติ เวทิตพฺพาฯ ตโต อาปตฺติยา เภโทติ ตโต วิภงฺคโต ‘‘อกฺขายิเต สรีเร ปาราชิกํ, เยภุยฺเยน ขายิเต ถุลฺลจฺจย’’นฺติอาทิ อาปตฺติยา เภโท โหติฯ อนาปตฺติ ตทญฺญถาติ ตโต เอว วิภงฺคโต เยนากาเรน อาปตฺติ วุตฺตา, ตโต อญฺเญนากาเรน อนาปตฺติเภโทว โหติฯ ‘‘สาทิยติ อาปตฺติ ปาราชิกสฺส, น สาทิยติ อนาปตฺตี’’ติ หิ วิภงฺเค อสติ น ปญฺญายติฯ เอตฺตาวตา สมาสโต คาถาตฺโถ วุตฺโต โหติฯ เอตฺถ จ ปน –

‘‘นิทานมาติกาเภโท, วิภงฺคสฺส ปโยชนํ;

อนาปตฺติปกาโร จ, ปฐโม นิปฺปโยชโน’’ติฯ –

อิมํ นยํ ทสฺเสตฺวาว สพฺพสิกฺขาปทานํ อตฺโถ ปกาสิตพฺโพฯ กถํ? ภควตา ปน เยนากาเรน ยํ สิกฺขาปทํ ปญฺญาปิตํ, ตสฺส อาการสฺส สมตฺถํ วา อสมตฺถํ วาติ ทุวิธํ นิทานํ, อยํ นิทานเภโทฯ มาติกาปิ นิทานาเปกฺขา นิทานานเปกฺขาติ ทุวิธาฯ ตตฺถ จตุตฺถปาราชิกาทิสิกฺขาปทานิ นิทานาเปกฺขานิฯ น หิ วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู สยเมว อตฺตโน อตฺตโน อสนฺตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ มุสาวาทลกฺขณํ ปาเปตฺวา ภาสิํสุฯ อญฺญมญฺญสฺส หิ เต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส คิหีนํ วณฺณํ ภาสิํสุ, น จ ตาวตา ปาราชิกวตฺถุ โหติฯ ตตฺถ เตน เลเสน ภควา ตํ วตฺถุํ นิทานํ กตฺวา ปาราชิกํ ปญฺญเปสิ, เตน วุตฺตํ ‘‘นิทานาเปกฺข’’นฺติฯ อิมินา นเยน นิทานาเปกฺขานิ ญตฺวา ตพฺพิปรีตานิ สิกฺขาปทานิ นิทานานเปกฺขานีติ เวทิตพฺพานิ, อยํ มาติกาเภโท

นานปฺปการโต มูลาปตฺติปฺปโหนกวตฺถุปโยคจิตฺตนิยามทสฺสนวเสน มาติกาย วิภชนภาวทีปนตฺถํ เตสํ อปฺปโหนกตาย วา ตทญฺญตรเวกลฺลตาย วา วีติกฺกเม สติ อาปตฺติเภททสฺสนตฺถํ, อสติ อนาปตฺติทสฺสนตฺถญฺจาติ สพฺพตฺถ ตโย อตฺถวเส ปฏิจฺจ มาติกาย วิภชนํ วิภงฺโค อารภียตีติ เวทิตพฺโพฯ

เอตฺถ ปน ‘‘ภิกฺขโกติ ภิกฺขุ, ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขุ, ภินฺนปฏธโรติ ภิกฺขู’’ติ เกวลํ พฺยญฺชนตฺถทีปนวเสน ปวตฺโต วา, ‘‘สมญฺญาย ภิกฺขู’’ติ ภิกฺขุภาวสมฺภวํ อนเปกฺขิตฺวาปิ เกวลํ ภิกฺขุ นาม ปวตฺติฏฺฐานทีปนวเสน ปวตฺโต วา, ‘‘เอหิ ภิกฺขูติ ภิกฺขุ, สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺโนติ ภิกฺขุ, ญตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อุปสมฺปนฺโนติ ภิกฺขู’’ติ อุปสมฺปทานนฺตเรนาปิ ภิกฺขุภาวสิทฺธิทีปนวเสน ปวตฺโต วา, ‘‘ภทฺโร ภิกฺขุ, สาโร ภิกฺขุ, เสกฺโข ภิกฺขุ, อเสกฺโข ภิกฺขู’’ติ ภิกฺขุกรเณหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคตภิกฺขุทีปนวเสน ปวตฺโต วา วิภงฺโค อชฺฌุเปกฺขิโต สพฺพสามญฺญปทตฺตา, ตถา อญฺญภาคิยสิกฺขาปทาทีสุ สทฺวารวเสน, อธิกรณทสฺสนาทิวเสน ปวตฺโต จ อชฺฌุเปกฺขิโต อิตรตฺถ ตทภาวโตติ เวทิตพฺโพฯ

ตตฺถ ติสฺโส อิตฺถิโยติอาทิ วตฺถุนิยมทสฺสนวเสน ปวตฺโต, มนุสฺสิตฺถิยา ตโย มคฺเค เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติอาทิ ปโยคนิยมทสฺสนวเสน ปวตฺโต, ภิกฺขุสฺส เสวนจิตฺตํ อุปฏฺฐิเตติอาทิ จิตฺตนิยมทสฺสนวเสน ปวตฺโต, สาทิยติ อาปตฺติ ปาราชิกสฺส, น สาทิยติ อนาปตฺตีติอาทิ วตฺถุปโยคนิยเม สติ จิตฺตนิยมภาวาภาววเสน อาปตฺตานาปตฺติทสฺสนตฺถํ ปวตฺโต, มตํ เยภุยฺเยน ขายิตํ อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสาติอาทิ วตฺถุสฺส อปฺปโหนกตาย วีติกฺกเม อาปตฺติเภททสฺสนตฺถํ ปวตฺโต, น สาทิยติ อนาปตฺตีติ จิตฺตนิยมเวกลฺเยน วีติกฺกมาภาวา อนาปตฺติทสฺสนตฺถํ ปวตฺโตติฯ เอวํ อิตเรสุปิ สิกฺขาปเทสุ ยถาสมฺภวนโย อยนฺติ ปโยชโน วิภงฺโคฯ

อนาปตฺติวาโร ปน มูลาปตฺติโต, ตทญฺเญกเทสโต, สพฺพาปตฺติโต จ อนาปตฺติทีปนวเสน ติวิโธฯ ตตฺถ โย ปฐโม, โส วิภงฺโค วิย ตโย อตฺถวเส ปฏิจฺจ ปวตฺโตฯ กตเม ตโย? มาติกาปทานํ สาตฺถกนิรตฺถกานํ ตทญฺญถา อุทฺธรณานุทฺธรณวเสน สปฺปโยชนนิปฺปโยชนภาวทีปนตฺถํ, ตทญฺญถา ปฏิปตฺติกฺกมทสฺสนตฺถํ, อาปตฺติปฺปโหนกฏฺฐาเนปิ วิสฺสชฺชนตฺถญฺจาติฯ กถํ? เอฬกโลมสิกฺขาปเท ‘‘ภิกฺขุโน ปเนว อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนสฺส เอฬกโลมานิ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, อากงฺขมาเนน ภิกฺขุนา ปฏิคฺคเหตพฺพานี’’ติ (ปารา. 572) เอตานิ เกวลํ วตฺถุมตฺตทีปนปทานีติ นิรตฺถกานิ นาม, เตสํ อนาปตฺติฯ ‘‘อทฺธานมคฺคํ อปฺปฏิปนฺนสฺส อุปฺปนฺเน เอฬกโลเม อนาปตฺติ, อากงฺขมาเนน ปฏิคฺคหิเต’’ติอาทินา นเยน ตทญฺญถา อนุทฺธรเณน นิปฺปโยชนภาโว ทีปิโต โหติ, ยทิทํ มาติกายํ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติ, อิทํ สาตฺถกํฯ

ตสฺส สปฺปโยชนภาวทีปนตฺถํ ‘‘อนาปตฺติ อชานนฺตสฺส อสาทิยนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํฯ ยสฺมา ชานนสาทิยนภาเวน อาปตฺติ, อเสวนฺตสฺส อนาปตฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ มาติกายํ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺย, ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติ อธิปฺปาโยฯ ‘‘ปรปริคฺคหิตํ ปรปริคฺคหิตสญฺญิตา ครุปริกฺขาโร เถยฺยจิตฺตํ อวหรณ’’นฺติ วุตฺตานํ ปญฺจนฺนมฺปิ องฺคานํ ปาริปูริยา เปตติรจฺฉานคตปริคฺคหิเต อาปตฺติปฺปโหนกฏฺฐาเนปิ วิสฺสชฺชนตฺถํ ‘‘อนาปตฺติ เปตปริคฺคหิเต’’ติอาทิ (กงฺขา. อฏฺฐ. ทุติยปาราชิกวณฺณนา) วุตฺตํฯ อนาปตฺติ อิมํ ชาน, อิมํ เทหิ, อิมํ อาหร, อิมินา อตฺโถ, อิมํ กปฺปิยํ กโรหีติ ภณตีติอาทิ ปน ตทญฺญถา ปฏิปตฺติกฺกมทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ เอตฺตาวตา ‘‘นิทานมาติกาเภโท’’ติอาทินา วุตฺตคาถาย อตฺโถ ปกาสิโต โหติฯ

เอตฺถ ปฐมปญฺญตฺติ ตาว ปฐมโพธิํ อติกฺกมิตฺวา ปญฺญตฺตตฺตา, อายสฺมโต สุทินฺนสฺส อฏฺฐวสฺสิกกาเล ปญฺญตฺตตฺตา จ รตฺตญฺญุมหตฺตํ ปตฺตกาเล ปญฺญตฺตาฯ ทุติยอนุปญฺญตฺติ พาหุสจฺจมหตฺตํ ปตฺตกาเล อุปฺปนฺนาฯ โส หายสฺมา มกฺกฏิปาราชิโก ยถา มาตุคามปฏิสํยุตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ ติรจฺฉานคติตฺถี อนธิปฺเปตา, ตถา อิธาปีติ สญฺญาย ‘‘สจฺจํ, อาวุโส, ภควตา สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ, ตญฺจ โข มนุสฺสิตฺถิยา, โน ติรจฺฉานคติตฺถิยา’’ติ อาหฯ ตติยานุปญฺญตฺติ ลาภคฺคมหตฺตํ ปตฺตกาเล อุปฺปนฺนาฯ เต หิ วชฺชิปุตฺตกา ลาภคฺคมหตฺตํ ปตฺตา หุตฺวา ยาวทตฺถํ ภุญฺชิตฺวา นฺหายิตฺวา วรสยเนสุ สยิตฺวา ตติยานุปญฺญตฺติยา วตฺถุํ อุปฺปาเทสุํ, เต จ เวปุลฺลมหตฺตํ ปตฺเต สงฺเฆ อุปฺปนฺนา, สยญฺจ เวปุลฺลมหตฺตํ ปตฺตาติ ‘‘เวปุลฺลมหตฺตมฺเปตฺถ ลพฺภตี’’ติ วุตฺตํฯ อิทํ ปฐมปาราชิกสิกฺขาปทํ ติวิธมฺปิ วตฺถุํ อุปาทาย จตุพฺพิธมฺปิ ตํ กาลํ ปตฺวา ปญฺญตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ

ตตฺถ โย ปนาติ อนวเสสปริยาทานปทํฯ ภิกฺขูติ ตสฺส อติปฺปสงฺคนิยมปทํฯ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโนติ ตสฺส วิเสสนวจนํฯ น หิ สพฺโพปิ ภิกฺขุนามโก ยา ภควตา ยาย กายจิ อุปสมฺปทาย อุปสมฺปนฺนภิกฺขูนํ เหฏฺฐิมปริจฺเฉเทน สิกฺขิตพฺพสิกฺขา วิหิตา, ‘‘เอตฺถ สห ชีวนฺตี’’ติ โย จ อาชีโว วุตฺโต, ตํ อุภยํ สมาปนฺโนว โหติฯ

กทา ปน สมาปนฺโน อโหสิ? ยาย กายจิ อุปสมฺปทาย อุปสมฺปนฺนสมนนฺตรเมว ตทุภยํ ชานนฺโตปิ อชานนฺโตปิ ตทชฺฌุปคตตฺตา สมาปนฺโน นาม โหติฯ สห ชีวนฺตีติ ยาว สิกฺขํ น ปจฺจกฺขาติ, ปาราชิกภาวญฺจ น ปาปุณาติ, ยํ ปน วุตฺตํ อนฺธกฏฺฐกถายํ ‘‘สิกฺขํ ปริปูเรนฺโต สิกฺขาสมาปนฺโน สาชีวํ อวีติกฺกมนฺโต สาชีวสมาปนฺโน โหตี’’ติ, ตํ อุกฺกฏฺฐปริจฺเฉทวเสน วุตฺตํฯ น หิ สิกฺขํ อปริปูเรนฺโต กามวิตกฺกาทิพหุโล วา เอกจฺจํ สาวเสสํ สาชีวํ วีติกฺกมนฺโต วา สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน นาม น โหติฯ อุกฺกฏฺฐปริจฺเฉเทน ปน จตุกฺกํ ลพฺภติ อตฺถิ ภิกฺขุ สิกฺขาสมาปนฺโน สีลานิ ปจฺจเวกฺขนฺโต น สาชีวสมาปนฺโน อจิตฺตกํ สิกฺขาปทํ วีติกฺกมนฺโต, อตฺถิ น สิกฺขาสมาปนฺโน กามวิตกฺกาทิพหุโล สาชีวสมาปนฺโน นิราปตฺติโก, อตฺถิ น สิกฺขาสมาปนฺโน น จ สาชีวสมาปนฺโน อนวเสสํ อาปตฺติํ อาปนฺโน, อตฺถิ สิกฺขาสมาปนฺโน จ สาชีวสมาปนฺโน จ สิกฺขํ ปริปูเรนฺโต สาชีวญฺจ อวีติกฺกมนฺโต, อยเมว จตุตฺโถ ภิกฺขุ อุกฺกฏฺโฐ อิธ อธิปฺเปโต สิยาฯ น หิ ภควา อนุกฺกฏฺฐํ วตฺตุํ ยุตฺโตติ เจ? น, ‘‘ตตฺร ยายํ อธิสีลสิกฺขา, อยํ อิมสฺมิํ อตฺเถ อธิปฺเปตา สิกฺขา’’ติวจนวิโรธโตฯ อุกฺกฏฺฐคฺคหณาธิปฺปาเย สติ ‘‘สิกฺขาติ ติสฺโส สิกฺขา’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโยฯ สิกฺขตฺตยสมาปนฺโน หิ สพฺพุกฺกฏฺโฐติฯ

‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติ ปรโต วจนํ อเปกฺขิตฺวา อธิสีลสิกฺขาว วุตฺตาติ เจ? น, ตสฺสาปิ อภพฺพตฺตาฯ น หิ อธิสีลสิกฺขํ ปริปูเรนฺโต สาชีวญฺจ อวีติกฺกมนฺโต เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตุํ ภพฺโพ, ตํ สิกฺขํ อปริปูเรนฺโต สาชีวญฺจ วีติกฺกมนฺโต เอว หิ ปฏิเสเวยฺยาติ อธิปฺปาโย, ตสฺมา เอวเมตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพฯ ยสฺมา สิกฺขาปทสงฺขาโต สาชีโว อธิสีลสิกฺขเมว สงฺคณฺหาติ, เนตรํ อธิจิตฺตสิกฺขํ อธิปญฺญาสิกฺขํ วา, ตสฺมา ‘‘ตตฺร ยายํ อธิสีลสิกฺขา, อยํ อิมสฺมิํ อตฺเถ อธิปฺเปตา สิกฺขา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา อธิสีลสิกฺขาย สงฺคาหโก สาชีโว สิกฺขาสาชีโวติ วุตฺโตฯ อิติ สาชีววิเสสนตฺถํ สิกฺขาคฺคหณํ กตํฯ

ตทตฺถทีปนตฺถเมว วิภงฺเค สิกฺขํ อปรามสิตฺวา ‘‘ตสฺมิํ สิกฺขติ, เตน วุจฺจติ สาชีวสมาปนฺโน’’ติ วุตฺตํ , เตน เอกเมวิทํ อตฺถปทนฺติ ทีปิตํ โหติฯ ตญฺจ อุปสมฺปทูปคมนนฺตรโต ปฏฺฐาย สิกฺขนาธิการตฺตา ‘‘สิกฺขตี’’ติ จ ‘‘สมาปนฺโน’’ติ จ วุจฺจติฯ โย เอวํ ‘‘สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน’’ติ สงฺขฺยํ คโต, ตาทิสํ ปจฺจยํ ปฏิจฺจ อปรภาเค สาชีวสงฺขาตเมว สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย, ตสฺมิํเยว จ ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยาติ อยมตฺโถ ยุชฺชติฯ กินฺตุ อฏฺฐกถานโย ปฏิกฺขิตฺโต โหติฯ โส จ น ปฏิกฺเขปารโหติ เตน ตทนุสาเรน ภวิตพฺพํฯ

อธิปฺปาโย ปเนตฺถ ปริเยสิตพฺโพ, โส ทานิ วุจฺจติ – สพฺเพสุปิ สิกฺขาปเทสุ อิทเมว ภิกฺขุลกฺขณํ สาธารณํ, ยทิทํ ‘‘ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน’’ติฯ ขีณาสโวปิ สาวโก อาปตฺติํ อาปชฺชติ อจิตฺตกํ, ตถา เสกฺโขฯ ปุถุชฺชโน ปน สจิตฺตกมฺปิ, ตสฺมา เสกฺขาเสกฺขปุถุชฺชนภิกฺขูนํ สามญฺญมิทํ ภิกฺขุลกฺขณนฺติ กตฺวา เกวลํ สิกฺขาสมาปนฺโน, เกวลํ สาชีวสมาปนฺโน จ อุภยสมาปนฺโน จาติ สรูเปกเทเสกเสสนเยน ‘‘สิกฺขาสาชีวสมอาปนฺโน’’ตฺเวว สมฺปิณฺเฑตฺวา อุกฺกฏฺฐคฺคหเณน อนุกฺกฏฺฐานํ คหณสิทฺธิโต อฏฺฐกถายํ อุกฺกฏฺโฐว วุตฺโตฯ ตเมว สมฺปาเทตุํ ‘‘ตสฺมิํ สิกฺขติ, เตน วุจฺจติ สาชีวสมาปนฺโน’’ติ เอตฺถ สิกฺขาปทสฺส อวจเน ปริหารํ วตฺวา ยสฺมา ปน โส อสิกฺขมฺปิ สมาปนฺโน, ตสฺมา สิกฺขาสมาปนฺโนติปิ อตฺถโต เวทิตพฺโพติ จ วตฺวา ‘‘ยํ สิกฺขํ สมาปนฺโน ตํ อปฺปจฺจกฺขาย ยญฺจ สาชีวํ สมาปนฺโน ตตฺถ ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา’’ติ วุตฺตนฺติ อยมฏฺฐกถายํ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพฯ เอตสฺมิํ ปน อธิปฺปาเย อธิสีลสิกฺขาย เอว คหณํ สพฺพตฺถิกตฺตา, สีลาธิการโต จ วินยสฺสาติ เวทิตพฺพํฯ ยถา จ สิกฺขาปทํ สมาทิยนฺโต สีลํ สมาทิยตีติ วุจฺจติ, เอวํ สิกฺขาปทํ ปจฺจกฺขนฺโต สีลสงฺขาตํ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาตีติ วตฺตุํ ยุชฺชติ, ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตํ ‘‘ยํ สิกฺขํ สมาปนฺโน, ตํ อปฺปจฺจกฺขายา’’ติฯ สิกฺขํ ปจฺจกฺขาย ปฏิเสวิตเมถุนสฺส อุปสมฺปทํ อนุชานนฺโต น สมูหนติ นามฯ น หิ โส ภิกฺขุ หุตฺวา ปฏิเสวิ, ‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติ จ ปญฺญตฺตํฯ เอตฺตาวตา สมาสโต ‘‘สิกฺขาสาชีวสมานฺโน’’ติ เอตฺถ วตฺตพฺพํ วุตฺตํฯ

กิํ อิมินา วิเสสวจเนน ปโยชนํ, นนุ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา…เป.… อสํวาโส’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพนฺติ เจ ? น วตฺตพฺพํ อนิฏฺฐปฺปสงฺคโตฯ โย ปน สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน เถยฺยสํวาสาทิโก เกวเลน สมญฺญามตฺเตน, ปฏิญฺญามตฺเตน วา ภิกฺขุ, ตสฺสาปิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ อตฺถิฯ สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย จ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส ปาราชิกาปตฺติฯ โย วา ปจฺฉา ปาราชิกํ อาปตฺติํ อาปชฺชิตฺวา น สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน ตสฺส จ, โย วา ปกฺขปณฺฑกตฺตา ปณฺฑกภาวูปคมเนน น สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน ตสฺส จ ตทุภยํ อตฺถีติ อาปชฺชติฯ ‘‘ปณฺฑกภาวปกฺเข จ ปกฺขปณฺฑโก อุปสมฺปทาย น วตฺถู’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา อิตรสฺมิํ ปกฺเข วตฺถูติ สิทฺธํ, ตสฺมิํ ปกฺเข อุปสมฺปนฺโน ปณฺฑกภาวปกฺเข ปณฺฑกตฺตา น สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน, โส ปริจฺจชิตพฺพสิกฺขาย อภาเวน สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย มุเขน ปรสฺส องฺคชาตคฺคหณาทโย เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺย, ตสฺส กุโต ปาราชิกาปตฺตีติ อธิปฺปาโยฯ อยํ นโย อปณฺฑกปกฺขํ อลภมานสฺเสว ปรโต ยุชฺชติ, ลภนฺตสฺส ปน อรูปสตฺตานํ กุสลานํ สมาปตฺติกฺขเณ ภวงฺควิจฺเฉเท สติปิ อมรณํ วิย ปณฺฑกภาวปกฺเขปิ ภิกฺขุภาโว อตฺถิฯ สํวาสํ วา สาทิยนฺตสฺส น เถยฺยสํวาสกภาโว อตฺถิ อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนสฺส วิยฯ น จ สหเสยฺยาทิกํ ชเนติฯ คณปูรโก ปน น โหติ อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺโน วิย, น โส สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน, อิตรสฺมิํ ปน ปกฺเข โหติ, อยํ อิมสฺส ตโต วิเสโสฯ กิมยํ สเหตุโก, อุทาหุ อเหตุโกติ? น อเหตุโกฯ ยโต อุปสมฺปทา ตสฺส อปณฺฑกปกฺเข อนุญฺญาตา สเหตุกปฏิสนฺธิกตฺตาฯ ปณฺฑกภาวปกฺเขปิ กิสฺส นานุญฺญาตาติ เจ? ปณฺฑกภูตตฺตา โอปกฺกมิกปณฺฑกสฺส วิยฯ

อปิจ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโนติ อิมินา ตสฺส สิกฺขาสมาทานํ ทีเปตฺวา ตํ สมาทินฺนสิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ตตฺถ จ ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวาติ วตฺตุํ ยุชฺชติ, น อญฺญถาติ อิมินา การเณน ยถาวุตฺตานิฏฺฐปฺปสงฺคโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขายา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ

ยถา เจตฺถ, ตถา ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา คามา วา อรญฺญา วา อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิเยยฺย (ปารา. 89), สุคตจีวรปฺปมาณํ จีวรํ การาเปยฺย อติเรกํ วา, เฉทนกํ ปาจิตฺติย’’นฺติอาทินา (ปาจิ. 548) นเยน สพฺพตฺถ โยเชตพฺพํ อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปีติ มนุสฺสิตฺถิํ อุปาทาย วุตฺตํฯ น หิ ‘‘ปเคว ปณฺฑเก ปุริเส วา’’ติ วตฺตุํ ยุชฺชติฯ เสสํ ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยเมวฯ

อยํ ปฐมปาราชิกสฺส มาติกาย ตาว วินิจฺฉโยฯ

จตุพฺพิธวินยกถาวณฺณนา

[45] นีหริตฺวาติ เอตฺถ สาสนโต นีหริตฺวาติ อตฺโถฯ ‘‘ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา นานุยุญฺชิตพฺพํฯ กตเมหิ ปญฺจหิ? สุตฺตํ น ชานาติ, สุตฺตานุโลมํ น ชานาตี’’ติ (ปริ. 442) เอวมาทิโต หิ ปริยตฺติสาสนโต สุตฺตํ, สุตฺตานุโลมญฺจ นีหริตฺวา ปกาเสสุํฯ ‘‘อนาปตฺติ เอวํ อมฺหากํ อาจริยานํ อุคฺคโห ปริปุจฺฉาติ ภณตี’’ติ เอวมาทิโต ปริยตฺติสาสนโต อาจริยวาทํ นีหริตฺวา ปกาเสสุํฯ ภารุกจฺฉกวตฺถุสฺมิํ ‘‘อายสฺมา อุปาลิ เอวมาห – อนาปตฺติ, อาวุโส, สุปินนฺเตนา’’ติ (ปารา. 78) เอวมาทิโต ปริยตฺติสาสนโต เอว อตฺตโนมติํ นีหริตฺวา ปกาเสสุํฯ ตาย หิ อตฺตโนมติยา เถโร เอตทคฺคฏฺฐานํ ลภิฯ อปิ จ วุตฺตญฺเหตํ ภควตา ‘‘อนุปสมฺปนฺเนน ปญฺญตฺเตน วา อปญฺญตฺเตน วา วุจฺจมาโน…เป.… อนาทริยํ กโรติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. 343)ฯ ตตฺถ หิ ปญฺญตฺตํ นาม สุตฺตํฯ เสสตฺตยํ อปญฺญตฺตํ นามฯ เตนายํ ‘‘จตุพฺพิธญฺหิ วินยํ, มหาเถรา’’ติ คาถา สุวุตฺตาฯ ยํ สนฺธาย วุตฺตํ นาคเสนตฺเถเรนฯ อาหจฺจปเทนาติ อฏฺฐ วณฺณฏฺฐานานิ อาหจฺจ วุตฺเตน ปทนิกาเยนาติ อตฺโถ, อุทาหเฏน กณฺโฐกฺกนฺเตน ปทสมูเหนาติ อธิปฺปาโยฯ รเสนาติ ตสฺส อาหจฺจภาสิตสฺส รเสน, ตโต อุทฺธเฏน วินิจฺฉเยนาติ อตฺโถฯ สุตฺตจฺฉายา วิย หิ สุตฺตานุโลมํฯ อาจริยวาโท ‘‘อาจริยวํโส’’ติ วุตฺโต ปาฬิยํ วุตฺตานํ อาจริยานํ ปรมฺปราย อาภโตว ปมาณนฺติ ทสฺสนตฺถํฯ อธิปฺปาโยติ การโณปปตฺติสิทฺโธ อุหาโปหนยปฺปวตฺโต ปจฺจกฺขาทิปมาณปติรูปโกฯ อธิปฺปาโยติ เอตฺถ ‘‘อตฺตโนมตี’’ติ เกจิ อตฺถํ วทนฺติฯ