เมนู

วสฺสูปนายิกานุชานนกถาวณฺณนา

[184] มหาอฏฺฐกถายมฺปิ ‘‘สงฺกาสยิสฺสนฺตี’’ติ ปาโฐ, ทีปวาสิโน ‘‘สงฺกาปยิสฺสนฺตี’’ติ ปฐนฺติ กิรฯ ‘‘กติ นุ โข วสฺสูปนายิกา’’ติ จินฺตายํ ‘‘กิํ นิมิตฺต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสํ อุปคนฺตุ’’นฺติ ยํ วสฺสูปคมนํ วุตฺตํ, ตํ ‘‘อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมี’’ติ วตฺวา อุปคนฺตพฺพํฯ วสฺสานมาสา จ จตฺตาโรฯ ตตฺถ ปฐมํ เตมาสํ, ปจฺฉิมํ เตมาสนฺติ ทุวิธํ เตมาสํฯ เตนายํ เตสํ ภิกฺขูนํ จินฺตา อโหสิฯ

วสฺสาเนจาริกาปฏิกฺเขปาทิกถาวณฺณนา

[185] อนเปกฺขคมเนน วา อญฺญตฺถ อรุณํ อุฏฺฐาปเนน วา อาปตฺติ เวทิตพฺพาติ เอตฺถ ปฐมํ ตาว โส สตฺตาหํ อนาคตาย ปวารณาย สกรณีโย ปกฺกมติฯ ‘‘อาคจฺเฉยฺย วา โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ตํ อาวาสํ น วา อาคจฺเฉยฺย, ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปุริมิกา จ ปญฺญายติ, ปฏิสฺสเว จ อนาปตฺตี’’ติ วจนโต โอรํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ตถา หิ ‘‘โส ตทเหว อกรณีโย ปกฺกมติ, สกรณีโย ปกฺกมติ, ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปุริมิกา จ น ปญฺญายติ, ปฏิสฺสเว จ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. 207) วุตฺตํฯ

สตฺตาหกรณียานุชานนกถาวณฺณนา

[187-8] ทุติยํ ปน ‘‘โส ตํ สตฺตาหํ พหิทฺธา วีตินาเมติ, ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปุริมิกา จ น ปญฺญายติ, ปฏิสฺสเว จ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วจนโต สตฺตาหโต ปรํ เวทิตพฺพํฯ ตถา หิ ‘‘โส ตํ สตฺตาหํ อนฺโต สนฺนิวตฺตํ กโรติ, ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปุริมิกา จ ปญฺญายติ, ปฏิสฺสเว จ อนาปตฺตี’’ติ (มหาว. 207) วุตฺตํฯ สติปิ การณทฺวเย วสฺสจฺเฉทการณาภาเว อาปตฺติ เวทิตพฺพา, ตสฺมา ตีณิปิ เอตานิ วจนานิ ยถาสมฺภวํ โยชิตานิ วิคฺคหานิ โหนฺติฯ ตีณิ ปริหีนานีติ ตาสํ นตฺถิตายฯ

ปหิเตเยวอนุชานนกถาวณฺณนา

[199] ‘‘อนุชานามิ ภิกฺขเว, สงฺฆกรณีเยน คนฺตุํ, สตฺตาหํ สนฺนิวตฺโต กาตพฺโพ’’ติ วจนโต อนฺโตวสฺเส สํหาริกภาเวน คนฺตุํ วฏฺฏติฯ ตตฺถ ธมฺมฉนฺทวเสนปิ อาคเต สงฺฆสฺส อายมุขํ วินสฺสติฯ ตโต ‘‘เสนาสนานิ กตฺวา’’ติ จ วุตฺตํฯ อาคตนฺติ อาคมนํฯ ภาเวตฺถ ตปจฺจโยยํฯ สงฺฆกรณีเยน คนฺตุนฺติ เอตฺถ ‘‘เสนาสนปฏิสํยุตฺเตสุ เอว สงฺฆกรณีเยสุ, น อญฺเญสู’’ติ ธมฺมสิริตฺเถโร วทติ กิรฯ อฏฺฐกถายมฺปิ ตํ ปทํ อุทฺธริตฺวา ‘‘ยํ กิญฺจิ อุโปสถาคาราทีสุ เสนาสเนสู’’ติอาทินา เสนาสนเมว ทสฺสิตํ, ตสฺมา อุปปริกฺขิตพฺพํฯ

อนิมนฺติเตน คนฺตุํ น วฏฺฏตีติ ตสฺส รตฺติจฺเฉโท จ ทุกฺกฏาปตฺติ จ โหติ, ตํ ‘‘วสฺสจฺเฉโท’’ติ จ วทนฺติฯ นิมนฺติโตเยว นาม โหตีติ เอตฺถ อุปาสเกหิ ‘‘อิมสฺมิํ นาม ทิวเส ทานาทีนิ กโรม, สพฺเพ สนฺนิปตนฺตู’’ติ กตายปิ กติกาย คนฺตุํ วฏฺฏติฯ ปวารณาย นวมิโต ปฏฺฐาย ปํสุกูลิกจีวรํ ปริเยสิตุํ กาวีรปฏฺฏเน วิย สพฺเพสํ คนฺตุํ วฏฺฏติ อนุสํวจฺฉรํ นิยมโต อุปาสเกหิ สชฺชิตฺวา ฐปนโตฯ วุตฺตมฺปิ เจตํ อนฺธกฏฺฐกถายํ ‘‘ภิกฺขุสงฺเฆน วา กติกา กตา ‘สมนฺตา ภิกฺขู คจฺฉนฺตู’ติ, โฆสนํ วา กตํ อุปาสเกหิ, ตตฺถ คจฺฉนฺตสฺส รตฺติจฺเฉโท นตฺถีติ ตถา ‘อนุสํวจฺฉรํ อาคจฺฉนฺตู’ติ สกิํ นิมนฺติเตปิ วฏฺฏตี’’ติ จ ‘‘จีวรกาลโต ปฏฺฐาย นิยมํ กตฺวา สมนฺตโต อาคตานํ สชฺเชตฺวา ทานโต กาวีรปฏฺฏเน โฆเสตฺวา กรณากาโร ปญฺญายตีติ อปเร’’ติ จฯ อาจริยา ปน เอวํ น วทนฺติฯ