เมนู

นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิกถาวณฺณนา

[83] ทิสํ คโตติ ตตฺถ ธุรนิกฺขิตฺตวาโส หุตฺวา ติโรคามํ คโตฯ ยตฺถ นิสฺสโย ลพฺภติ, ตตฺถ คนฺตพฺพนฺติ เอตฺถาปิ อุปชฺฌาเย วุตฺตนเยเนว ‘‘กติปาเหน คมิสฺสามี’’ติ คมเน เจส อุสฺสาโห รกฺขติฯ มา อิธ ปฏิกฺกมีติ มา อิธ คจฺฉฯ สภาคา นาม อุปชฺฌายสฺส สิสฺสาฯ ตตฺถ นิสฺสยํ คเหตฺวาฯ ยทิ เอวํ โก วิเสโสติ เจ? เตน อิทํ วุจฺจติ ‘‘อปฺเปว นาม ขเมยฺยา’’ติฯ วสิตุํ วฏฺฏตีติ อุปชฺฌาเยน ปริจฺจตฺตตฺตา อุปชฺฌายสโมธานํ นิรตฺถกนฺติ อตฺโถฯ สเจ อุปชฺฌาโย จิเรน อนุคฺคเหตุกาโม โหติ, ตโต ปฏฺฐาย อุปชฺฌาโยว นิสฺสโยฯ อุปชฺฌาโย เจ อลชฺชี โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อเนกกฺขตฺตุํ วาเรตฺวา อวิรมนฺตํ อุปชฺฌายํ ปหาย วินาปิ นิสฺสยปณามเนน อญฺญสฺส สนฺติเก นิสฺสยํ คเหตฺวา วสิตพฺพํฯ อุปชฺฌายสฺส เจ ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, เอกทิวสมฺปิ น รกฺขติฯ ปกฺขปณฺฑโก เจ โหติ, นิสฺสยชาติโก เจ ‘‘อุปชฺฌายสฺส สุกฺกปกฺขํ อาคเมหี’’ติ วทติ, สยเมว วา อาคเมติ, วฏฺฏติฯ อุปชฺฌาโย เจ อุกฺเขปนิยกมฺมกโต โหติ, นานาสํวาสกภูมิยํ ฐิตตฺตา นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติฯ สมฺมาวตฺตนฺตํ ปน ปสฺสิตฺวา กมฺมปฏิปฺปสฺสทฺธิํ อาคเมตุํ ลภติฯ มานตฺตาจารี เจ โหติ, อพฺภานํ อาคเมตพฺพํฯ ทีฆํ เจ ปริวาสํ จรติ, อญฺญสฺส สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ, อุปชฺฌายสโมธานํ อปฺปมาณํฯ ปริวาสมานตฺตจารินา หิ น นิสฺสโย ทาตพฺโพฯ ยํ ปน ปาริวาสิกกฺขนฺธกฏฺฐกถายํ วุตฺตํ ‘‘สทฺธิวิหาริกานมฺปิ สาทิยนฺตสฺส ทุกฺกฏเมวา’’ติอาทิ (จูฬว. อฏฺฐ. 75), ตํ ยถาวุตฺตมตฺถํ สาเธติ เอวฯ ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สเจ สทฺธาปพฺพชิตา กุลปุตฺตา ‘ตุมฺเห, ภนฺเต, วินยกมฺมมตฺตํ กโรถา’’ติ วตฺวา วตฺตํ กโรนฺติเยว, คามปฺปเวสนํ อาปุจฺฉนฺติเยว, ตํ วาริตกาลโต ปฏฺฐาย อนาปตฺตี’’ติฯ ตํ วตฺตสาทิยนปจฺจยา ทุกฺกฏาภาวมตฺตทีปนตฺถํ, สทฺธิวิหาริกานํ สาเปกฺขตํ วา สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ตสฺมา เต เจ อุปชฺฌาเยน วาริตานุรูปเมว ปฏิปชฺชนฺติ, นิสฺสโย เตสํ ปฏิปฺปสฺสทฺโธติ สิทฺธํ โหติฯ

ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวา นิวตฺตตีติ ‘‘เอตฺตาวตา ทิสาปกฺกนฺโต นาม โหติ, ตสฺมา อนฺเตวาสิเก อนิกฺขิตฺตธุเรปิ นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติฯ อาจริยุปชฺฌายา ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อนติกฺกมฺม เลฑฺฑุปาตทฺวยพฺภนฺตเร ติโรวิหาเรปิ ปริกฺขิตฺเต, อปริกฺขิตฺเต วา วสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ลิขิตํฯ อปริกฺขิตฺเตเยวาติ โน ตกฺโกติ อาจริโย, เอตฺถ ปน อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺฐานโต วิมุตฺเต อญฺญสฺมิํ วิหาเร วสนฺตีติ อธิปฺปาโยฯ วิหาโรติ เจตฺถ ‘‘ตาทิสสฺส วิหารสฺส อนฺเต ฐิตา เอกา กุฏิกา อธิปฺเปตาติ อุปติสฺสตฺเถโร’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺถ ‘‘สเจ อุโภปิ อาจริยนฺเตวาสิกา เกนจิ…เป.… นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ อิมินา สามญฺญโต วุตฺเตน อฏฺฐกถาวจเนน ธมฺมสิริตฺเถรวาโท สเมติฯ อปริกฺขิตฺเต วาติ ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโต ปริกฺขิตฺโต วา โหติ อปริกฺขิตฺโต วาฯ ‘‘พหิสีม’’นฺติ จ วุตฺตตฺตา อนฺโตวิหารสีมายํ ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวาปิ วสิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธตฺตา ปน อุปติสฺสตฺเถรวาโท น สเมติฯ เอกาวาเส หิ ปริกฺขิตฺเต วา อปริกฺขิตฺเต วา อนฺตมโส อนฺโตติโยชเนปิ วสโต นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติฯ โส จ อุปจารสีมาย ปริจฺฉินฺโน, สา จ อุปจารสีมา ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขเปน อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺฐาเนน ปริจฺฉินฺโน เอกาวาโสฯ

อุโปสถกฺขนฺธเก เอกาวาสวิมติยํ สีมาย อนุญฺญาตตฺตาติ เจ? น, จีวรกฺขนฺธกฏฺฐกถาย วิจาริตตฺตาฯ ยถาห ‘‘สีมฏฺฐกสงฺโฆ ภาเชตฺวา คณฺหาตู’’ติ (มหาว. อฏฺฐ. 379)ฯ กตรสีมาย ภาเชตพฺพํ? มหาสิวตฺเถโร กิราห ‘‘อวิปฺปวาสสีมายา’’ติฯ

ตโต นํ อาหํสุ ‘‘อวิปฺปวาสสีมา นาม ติโยชนาปิ โหติ, เอวํ สนฺเต ติโยชเน ฐิตา ลาภํ คณฺหิสฺสนฺติ, ติโยชเน ฐตฺวา อาคนฺตุกวตฺตํ ปูเรตฺวา อารามํ ปวิสิตพฺพํ ภวิสฺสติ, คมิโก ติโยชนํ คนฺตฺวา เสนาสนํ อาปุจฺฉิสฺสติ, นิสฺสยปฏิปฺปนฺนสฺส ติโยชนาติกฺกเม นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภิสฺสติ, ปาริวาสิเกน ติโยชนํ อติกฺกมิตฺวา อรุณํ อุฏฺฐาเปตพฺพํ ภวิสฺสติ, ภิกฺขุนิยา ติโยชเน ฐตฺวา อารามปฺปเวสนา อาปุจฺฉิตพฺพา ภวิสฺสติ, สพฺพเมตํ อุปจารสีมาปริจฺเฉทวเสน กาตุํ วฏฺฏตีติฯ ตสฺมา อนฺโตอุปจารสีมาย เลฑฺฑุปาตทฺวยํ อติกฺกมิตฺวาปิ วสโต นิสฺสโย ติโยชนาติกฺกเม นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ สิทฺธํฯ กามญฺเจตฺถ อุปจารสีมาย ติโยชนปฺปมาณาย, อติเรกาย วา ยถาวุตฺตโทสปฺปสงฺโค สิยาติฯ สา หิ อาวาเสสุ วฑฺฒนฺเตสุ วฑฺฒติ, ปริหายนฺเตสุ ปริหายตีติ วุตฺตตฺตา, ตสฺมา ตาทิสสฺส วิหารสฺส อนฺเต ฐิตา เอกา กุฏิ วิหาโรติ อิธาธิปฺเปตาฯ สาปิ ตสฺเสว วิหารสฺส กุฏิกาว โหตีติ กตฺวา โส อาวาโส โหติฯ นานาวาโส เอว เจ อธิปฺเปโต, ‘‘อนฺเต ฐิตา กุฏิกา’’ติ น วตฺตพฺพํฯ ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อพฺภนฺตเร ปน อปริกฺขิตฺเต นานาวาเส นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภตีติ ยฺวายํ ‘‘โน ตกฺโก’’ติ วุตฺโต, โส ตาทิเส นานาวาเส เสนาสนคฺคาหสฺส อปฺปฏิปฺปสฺสทฺธินเยน วุตฺโตฯ เสนาสนคฺคาโห หิ ‘‘คหเณน คหณํ อาลโย ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ ลกฺขณตฺตา อิตรตฺถ ปฏิปฺปสฺสมฺภติฯ ตตฺรายํ ปาฬิ ‘‘เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต เอโก ทฺวีสุ อาวาเสสุ วสฺสํ วสิ…เป.… เทถ, ภิกฺขเว, โมฆปุริสสฺส เอกาธิปฺปาย’’นฺติ (มหาว. 364)ฯ อฏฺฐกถายญฺจสฺส เอวํ วุตฺตํ ‘‘อิทญฺจ นานาลาเภหิ นานูปจาเรหิ เอกสีมวิหาเรหิ กถิตํ, นานาสีมวิหาเร ปน เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ (มหาว. อฏฺฐ. 364)ฯ อปริกฺขิตฺตา นานาวาสา เอกูปจารสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติฯ ปริกฺขิตฺตญฺจ เอกูปจารํ อปริกฺขิตฺตสงฺขฺยํ คจฺฉติฯ เอตฺตาวตา เลฑฺฑุปาตทฺวยพฺภนฺตเร อปริกฺขิตฺเต อญฺญสฺมิํ วิหาเร วสโต นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ปริกฺขิตฺเต ปฏิปฺปสฺสมฺภติ เอวาติ อยมตฺโถ สาธิโตติฯ เอตฺถาห – ทฺเว เลฑฺฑุปาเต อติกฺกมิตฺวาว สโตปิ นิสฺสโย น ปฏิปฺปสฺสมฺภติฯ วุตฺตญฺหิ นิสฺสคฺคิยฏฺฐกถายํ ‘‘สเจ คจฺฉนฺตานํเยว อสมฺปตฺเตสุ ทหเรสุ อรุณํ อุคฺคจฺฉติ, จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภตี’’ติ (ปารา. อฏฺฐ. 2.495)? วุจฺจเต – ตํ อุปชฺฌาเยน สมาคเม สอุสฺสาหตาย วุตฺตํฯ

อิธ ธุววาสํ สนฺธาย, ตสฺมา อญฺญมญฺญํ น วิโลเมนฺติ ฯ เกจิ ปน ‘‘ทฺเว เลฑฺฑุปาตํ อติกฺกมฺมาติ อิทํ เทวสิกํ อาโรเจตฺวา วสนวเสน วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตเมวาติ มม ตกฺโกฯ เทวสิกํ อาโรเจตฺวา วตฺถพฺพนฺติ หิ เนว ปาฬิยํ น อฏฺฐกถายํ ทิสฺสติ, ตญฺจ ปน อปกตญฺญูหิ อาจิณฺณนฺติ เวทิตพฺพํฯ

นิสฺสยปฏิปฺปสฺสทฺธิกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

อุปสมฺปาเทตพฺพปญฺจกกถาวณฺณนา

[84] อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธนาติอาทิ ‘‘อตฺตานเมว ปฐมํ, ปติรูเป นิเวสเย’’ติ (ธ. ป. 158) วจนวเสน วุตฺตํ, น อาปตฺติองฺควเสนฯ นีลสมาโยคโต นีลํ วิย วุตฺตํ ‘‘อเสกฺเขน วิมุตฺติญาณทสฺสนกฺขนฺเธนา’’ติฯ อธิสีเล สีลวิปนฺโน นาม อาปชฺชิตฺวา อวุฏฺฐิโตฯ

อุปสมฺปาเทตพฺพปญฺจกกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ