เมนู

โพธิกถาวณฺณนา

ยํ ขนฺธเก ลีนปทาทิเภท-ปกาสนํ ทานิ สุปตฺตกาลํ;

ตสฺมา อปุพฺพํ วินยตฺถเมว, วกฺขามิ สงฺเขปคหณตฺถํฯ

ตตฺถ เกนฏฺเฐนายํ ขนฺธโกติ? ขนฺธานํ สมูหตฺตา วิภงฺโค วิยฯ เต ปน กถนฺติ? ขนฺธานํ ปกาสนโต ทีปนโตฯ ขนฺธาติ เจตฺถ ปพฺพชฺชาทิวินยกมฺมสงฺขาตา, จาริตฺตวาริตฺตสิกฺขาปทสงฺขาตา จ ปญฺญตฺติโย อธิปฺเปตาฯ ปพฺพชฺชาทีนิ หิ ภควตา ปญฺญตฺตตฺตา ‘‘ปญฺญตฺติโย’’ติ วุจฺจนฺติฯ ปญฺญตฺติยญฺจ ขนฺธ-สทฺโท ทิสฺสติ ‘‘ทารุกฺขนฺโธ อคฺคิกฺขนฺโธ อุทกกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ วิยฯ เตสํ ปญฺญตฺติสงฺขาตานํ ขนฺธานํ ปกาสนโต วณฺณนโต ปพฺพชฺชกฺขนฺธกาทโย วีสติ ‘‘ขนฺธกา’’ติ วุตฺตา, อวสาเน ทฺเว ตํสทิสตฺตา เวลาย สทิสตฺตา สีลสฺส เวลาติ วจนํ วิยฯ อปิจ ภาคราสตฺถตาเปตฺถ ยุชฺชเต เตสํ ปญฺญตฺตีนํ ภาคโต จ ราสิโต จ วิภตฺตตฺตาฯ กิํ ปเนเตสํ ขนฺธกานํ อนุปุพฺพการณนฺติ? นายํ ปุจฺฉา สมฺภวติ, อญฺญถา วุตฺเตสุปิ ตปฺปสงฺคานติกฺกมนโตฯ อถ วา ปพฺพชฺชุปสมฺปทาปุพฺพงฺคมตฺตา สาสนปฺปเวสนสฺส ตทตฺถสงฺคหโก มหาขนฺธโก ปฐมํ วุตฺโตฯ เกนาติ เจ? ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิฯ ภควตา ปน ตตฺถ ตตฺถ อุปฺปนฺนวตฺถุํ ปฏิจฺจ ตถา ตถา วุตฺตานิ, น อิมินา อนุกฺกเมนฯ เถรา ปน ตํ ตํ ปโยชนํ ปฏิจฺจ สมานชาติเก เอกชฺฌํ กตฺวา อนุกฺกเมน สชฺฌายิํสุฯ เสสานํ ปโยชนํ ตตฺถ ตตฺเถว อาวิ ภวิสฺสติฯ

ขนฺธโกวิทาติ ปญฺญตฺติภาคราสฏฺเฐน เนสํ ขนฺธตฺถโกวิทา, นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาปารปฺปตฺตาติ อตฺโถฯ เตสํ อนุตฺตานตฺถานํ ปทานํ สํวณฺณนาฯ กสฺมา ปเนวํ วิเสสิตนฺติ? ตโต เสสภาคา ยุตฺตาฯ

มาติกาฏฺฐุปฺปตฺติคฺคหณมฺเปตฺถ ปทภาชนิยคฺคหเณเนว เวทิตพฺพํฯ เยหิ อตฺถา เยสํ ปทวิเสสานํ อฏฺฐกถายํ ปกาสิตา, เตสํ เต ปทวิเสเส ปุน อิธ วเทยฺยาม, วณฺณนาย ปริโยสานํ กทา ภเว เต เต อตฺเถติ วุตฺตํ, ตํ ตสฺส นิทฺเทเสน ยุชฺชติฯ อุตฺตานา เจว ยา ปาฬิ, ตสฺสา สํวณฺณนาย กินฺติ วตฺตพฺพํ? น หิ อตฺถา อุตฺตานาติ สมฺภวติฯ อธิปฺปายานุสนฺธีหีติอาทิวจเนหิปิ ตํ วจนํ สมฺภวตีติ เจ? น, อตฺถคฺคหเณน เจตฺถ ปทวิเสสานํ คหิตตฺตาฯ เต หิ อตฺถโต อนเปตตฺเถน, อภิธานตฺเถน วา อตฺโถปจาเรน วา อตฺถาติ เวทิตพฺพาฯ สํวณฺณนานโยติ สํวณฺณนา นาม อวุตฺเตสุ อุหาโปหกฺกมนิทสฺสนโต ‘‘นโย’’ติ วุตฺโตฯ

[1] อุรุเวลาติ ยถาวุตฺตวาลิกราสิวเสน ลทฺธนามโก คาโม, ตสฺมา สมีปตฺเถ เอตํ ภุมฺมํฯ ตถาภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘นชฺชา เนรญฺชราย ตีเร’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อญฺญถา ตสฺมิํ วาลิกราสิมฺหิ วิหรตีติ อาปชฺชติ, ‘‘อุรุเวลํ ปิณฺฑาย ปาวิสีติ เยน อุรุเวลเสนานิคโม’’ติอาทิวจนวิโรโธ จฯ อฏฺฐกถายํ ปน มูลการณเมว ทสฺสิตํฯ ตตฺถ ตํ สนฺธาย วุตฺตํ…เป.… ทฏฺฐพฺโพติ นิคมนวจนํฯ ตํ กิมตฺถนฺติ เจ? คามํ สนฺธาย ยถาวุตฺตปทตฺถสมฺภวทสฺสนตฺถํฯ ‘‘โส ปน คาโม ตทุปจาเรน เอวํ นามํ ลภตี’’ติ วจนํ ปน อวุตฺตสิทฺธนฺติ กตฺวา น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ, อถ วา ยสฺส ‘‘อุรุเวลา’’ติ ยถาวุตฺตวาลิกราสิสฺส, ตสฺส สมีปคามสฺสปิ นามํฯ ตตฺถ อายสฺมา อุปาลิตฺเถโร น อิธ คามํ สนฺธาย ‘‘อุรุเวลายํ วิหรตี’’ติ อาห โคจรคามปโยชนาภาวโตฯ น หิ ภควา ตํ คามํ โคจรํ กตฺวา ตทา ตตฺถ วิหาสิ, ตสฺมา เอตฺถ วาลิกราสิสฺส สมีเป โพธิรุกฺขมูเล วิหารํ สนฺธาย โส เอวมาหาติ ทสฺเสตุกาโม อฏฺฐกถาจริโย เอวมาหาติ เวทิตพฺพํ, ตสฺมา ภควโต คามโต ทูรตเร อรญฺเญ อภิสมฺโพธิทีปเนน ทุติยุปฺปตฺติฏฺฐานนิยมํ ตีหิ ปเทหิ อกาสิ เถโรติ เวทิตพฺพํ, อญฺญถา ปทตฺตยวจนปโยชนาภาวโตฯ ตตฺถ นทนฺตา คจฺฉตีติ นทีฯ เนลญฺชลายาติ วตฺตพฺเพ -การสฺส -การํ กตฺวา ‘‘เนรญฺชรายา’’ติ วุตฺตํ, กทฺทมเสวาลวิรหิตตฺตา นิทฺโทสชลายาติ อตฺโถ, นีลชลายาติ ตสฺสา นามเมว วา เอตํฯ

โพธิรุกฺขมูเลติ เอตฺถ จ โพธิ วุจฺจติ อภิสมฺโพโธฯ โส จ อตฺถโต ภควโต จตุตฺถมคฺคญาณํ โหติ ‘‘วิโมกฺขนฺติกเมตํ นาม’’นฺติ (ปฏิ. ม. 1.162) ปฏิสมฺภิทาวจนโตฯ กิญฺจาปิ ตํ นามกรณภูตํ จตุตฺถผลญาณมฺปิ วตฺตุํ สมฺภวติ, กตฺตพฺพกิจฺจานํ ปน กรณโต ตํ จตุตฺถมคฺคญาณเมว เอตฺถ โพธีติ เวทิตพฺพํฯ เตเนว ปาฬิยํ ‘‘ตติยวิชฺชาย อาสวานํ ขยญาณายา’’ติ ตเทว ทสฺสิตํฯ อฏฺฐกถายํ ปน ‘‘โพชฺฌงฺคา’’ติ, ‘‘โพธิปกฺขิยา ธมฺมา’’ติ จฯ ตตฺถ ยสฺมา จตูสุ มคฺเคสุ ญาณํ ‘‘โพธี’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา สามญฺญโต วตฺตุกามตาธิปฺปายวเสน ‘‘โพธิ วุจฺจติ จตูสุ มคฺเคสุ ญาณ’’นฺติ (จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส 121) วุตฺตํ อิธาธิปฺเปตญาณสฺสปิ ตทนฺโตคธตฺตาฯ อถ วา ปาฬิยํ ภควโต อาทิมคฺคตฺตยวจนสฺส วุตฺตฏฺฐานาภาวา จตุตฺถมคฺคญาณเมว ภควโต อุปฺปนฺนํ, น ภควา โสตาปนฺนาทิภาวํ ปตฺวา พุทฺโธ ชาโตติ สมยนฺตรปฺปสงฺคนิวารณตฺถํ ‘‘จตูสู’’ติ วุตฺตํ อาทิตฺตยสฺส จตุตฺถอุปนิสฺสยสมฺภเวน โพธิปริยายสิทฺธิโตฯ ‘‘ปุคฺคโลปิ เสนาสนมฺปิ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺฐา. 1.1.9 ปจฺจยนิทฺเทส) วจนโต ผลเหตุโก ผลชนโก รุกฺโข ผลรุกฺโขติ วิย โพธิเหตุรุกฺโข โพธิรุกฺโขติ เวทิตพฺโพฯ เอตฺถ ‘‘ยสฺมา เกวลํ โพธีติ รุกฺขสฺสปิ นามํ, ตสฺมา โพธี’’ติ ปรโต วุตฺตํฯ นิคฺโรธาทิรุกฺขโต อสฺส วิเสสนวจนํ ปน ตทญฺญโพธิมูลปฺปสงฺคนิวารณตฺถํฯ มคฺคญาณญฺหิ กุสลมูลตฺตา โพธิ จ ตํ มูลญฺจาติ สงฺขฺยํ ลเภยฺยฯ ปฐมาภิสมฺพุทฺโธ นิสีทตีติ สมฺพนฺโธฯ เตน อภิสมฺพุทฺธทิวเสน สทฺธิํ อฏฺฐาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺนภาวํ ทสฺเสติฯ เอตฺถ เอก-สทฺโท ตสฺส นิสชฺชาสงฺขาตสฺส ปพฺพชฺชานุโยคานุรูปสฺส ปลฺลงฺกสฺส อญฺเญน อิริยาปเถน อนนฺตริยภาวํ อถสฺส อโกปิตภาวํ ทสฺเสติฯ วิมุตฺติสุขนฺติ เอตฺถ วิมุตฺติยํ วา สุขนฺติ น สมฺภวติฯ ปญฺจมชฺฌานิกตฺตา ภควโต ผลสมาปตฺติสงฺขาตา วิมุตฺติ เอว อนุชงฺฆนฏฺเฐน นิพฺพานสุขนฺติ วิมุตฺติสุขํ, ตํ สมาปชฺชเนน ปฏิสํเวที อนุภวนฺโต นิสีทิฯ เวเนยฺยกาลานติกฺกมนโต ตํ อเปกฺขมาโน นิสีทิ, น วิมุตฺติสุขสงฺเคนฯ

อถ โขติ อธิการนฺตรารมฺเภ นิปาตทฺวยํฯ

เตน วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวทยมาโน น ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ มนสากาสิ, กินฺตุ ตโต วุฏฺฐายาติ ทสฺเสติ ฯ ปฏิเวธวเสเนว สุมนสิกตสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส ปุนปฺปุนํ มนสิกรณํ คมฺภีรตฺตา อสฺสาทชนนโต, น อปุพฺพนยทสฺสนาธิปฺปายโตฯ ปจฺจกฺขภูตสพฺพธมฺมตฺตา ภควโต อสมฺโมหโต, ปฏิวิทฺธสฺส วิสยโต วา มนสิกรณํ ปน วิชิตเทสปจฺจเวกฺขณํ วิย รญฺโญ อปุพฺพํ ปีติํ ชเนติฯ วุตฺตญฺหิ ‘‘อมานุสี รตี โหติ, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต’’ติ (ธ. ป. 373)ฯ รตฺติยา ปฐมํ ยามนฺติ อจฺจนฺตสํโยควเสน อุปโยควจนํ, เตน ตสฺส วิกปฺปนานตฺตตํ ทสฺเสติฯ กิญฺจาปิ ‘‘อนุโลมปฏิโลมํ มนสากาสี’’ติ เอกโตว วุตฺตํ, ตถาปิ อิมินา อนุกฺกเมนาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา’’ติอาทิฯ ตตฺถ จ กิญฺจาปิ ปวตฺติมตฺตปจฺจเวกฺขณา อธิปฺเปตา กถํ ปญฺญายตีติ? ปฐมภาวาย, ปฏิโลมมนสิกรณํ ปน อนุโลเม ปจฺจยานํ, ปจฺจยุปฺปนฺนานญฺจ ตถาภาวสาธนตฺถํฯ ยสฺมา อวิชฺชาย เอว นิโรธา สงฺขารนิโรโธ, น อญฺญถา, ตสฺมา สงฺขารานํ อวิชฺชา ปจฺจโย, ตสฺสา จ สงฺขารา ผลนฺติ ทีปนโตฯ ตถา นิพฺพานปจฺจเวกฺขณาย อนุโลมมนสิกรณํ การณนิโรธา ผลนิโรธสาธนตฺถํฯ เอตฺถ จ อนุภาวโต นิพฺพานํ ทสฺสิตํฯ น หิ ตํ อวิชฺชาทินิโรธมตฺตนฺติฯ ตตฺถ ‘‘ยโต ขยํ ปจฺจยานํ อเวที’’ติ วจเนน อนุโลโม นาธิปฺเปโตติ สิทฺธํฯ มคฺคปจฺจเวกฺขณาย วตฺตพฺพํ นตฺถิ, อุภยตฺถปิ กิจฺจโต, อารมฺมณโต จ ตสฺส มคฺคสฺส วิสยโต จ ตตฺถ มคฺโค ทสฺสิโตฯ

ตตฺถาห – ‘‘ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปฏิโลมํ มนสากาสี’’ติ น ยุชฺชติ, น หิ ปฏิโลมาปเทเสน นิทฺทิฏฺฐํ นิพฺพานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ภวิตุมรหตีติ? วุจฺจเต – น, ตทตฺถชานนโตฯ อนุโลมปฏิโลมนฺติ หิ ภาวนปุํสกํฯ อนุโลมโต, ปฏิโลมโต จ ตํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ มนสากาสีติ หิ ตตฺถ อตฺโถฯ อญฺญถา นิโรธสฺส ปฏิโลมปฺปสงฺคาปตฺติเยวาปชฺชติฯ ปฏิโลเม จ ปเนตสฺมิํ อนุกฺกมนิยโม อนุโลเม อนุกฺกมนิยมโต สิทฺโธติ เวทิตพฺพํฯ เอวํ สติ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส ปฏิโลโม นาม อปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ สิทฺธํ โหติฯ เตน วุตฺตํ อฏฺฐกถายํ ‘‘นิโรโธ โหตีติ อนุปฺปาโท โหตี’’ติอาทิฯ เอวํ สนฺเต ปุพฺพาปรวิโรโธ โหติฯ

กถํ? ปฏิจฺจาติ หิ อิมินา ผลสฺส ปจฺจยปริคฺคเหน, ปจฺจยานญฺจ ปจฺจยายตฺตุปคมเนน ตสฺส อุปฺปาทาภิมุขภาวทีปนโต อสมุปฺปาโท น สมฺภวติ, ตสฺมา อปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ เอวํ อุภยปฏิกฺเขเปน ปนสฺส ปฏิโลมตา เวทิตพฺพาติ เอเกฯ ตํ อยุตฺตํ ตสฺส อนุโลมภาวนิยมนโต, อตฺถาติสยาภาวโต, ตสฺมา อปฺปฏิจฺจสมุปฺปาโท ตสฺส ปฏิโลโมติ เวทิตพฺพํฯ เตเนว ภควตา ปาฬิยํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนนิโรโธ วุตฺโตฯ ตตฺถ หิ ‘‘อวิชฺชาย ตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา’’ติ เอวํ ปจฺจยสฺส สมุจฺฉินฺนปจฺจยภาววเสน ปจฺจยนิโรธํ, ผลสฺส ปจฺจยปฏิคฺคหาภาววเสน ปจฺจยุปฺปนฺนนิโรธญฺจ ทีเปติฯ ทุวิโธ ปาฬิยํ นิโรโธ อตฺถโต อนุปฺปาโท นาม โหตีติ กตฺวา อฏฺฐกถายํ ‘‘นิโรโธ โหตีติ อนุปฺปาโท โหตี’’ติ วุตฺตํฯ เอวํ สนฺเต นิพฺพานํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนานํ นิโรธมตฺตนฺติ อาปชฺชตีติ เจ? น, ตสฺสานุภาวทีปนาธิปฺปายโตฯ วิทิตเวลายนฺติ มนสิกตเวลายนฺติ อตฺโถ, อญฺญถา ตโต ปุพฺเพ อวิทิตปฺปสงฺคโตฯ

ฌายโตติ เอตฺถ กามํ ลกฺขณูปนิชฺฌาเนน ฌายโต โพธิปกฺขิยธมฺมา ปาตุภวนฺติ, จตุอริยสจฺจธมฺมา วา ปกาสนฺติ, ตถาปิ ปุพฺพภาเค สมถาทิยานิกวิภาคทสฺสนตฺถํ อารมฺมณูปนิชฺฌานคฺคหณํฯ จตุสจฺจธมฺมคฺคหณํ กามํ อนุโลมปฏิจฺจสมุปฺปาททสฺสนาธิกาเรน วิรุชฺฌติ, ตถาปิ ‘‘โย ทุกฺขํ ปริชานาติ, โส สมุทยํ ปชหตี’’ติ ลทฺธิวเสน กตนฺติ เวทิตพฺพํฯ

[2] ‘‘ปจฺจยกฺขยสฺสา’’ติ กิจฺจปริยายวเสน วุตฺตํฯ เตน ปจฺจยนิพฺพานํ, ตทุปนิสฺสยนิพฺพานญฺจาติ ทุวิธํ นิพฺพานํ ทสฺสิตํ โหตีติฯ กามญฺจ ตํ น เกวลํ ปจฺจยกฺขยมตฺตํ กโรติ, อถ โข ปจฺจยุปฺปนฺนกฺขยมฺปิ กโรติฯ ยโต อุภินฺนมฺปิ นิโรโธ ทสฺสิโต, ตถาปิ เหตุนิโรธา ผลนิโรโธติ กตฺวา ‘‘ปจฺจยกฺขยสฺสา’’ติ วุตฺตํฯ วุตฺตปฺปการา ธมฺมาติ เอตฺถ จตุสจฺจคฺคหณํ ปฐมคาถายํ วุตฺตนยวิปลฺลาเสน กตนฺติ เวทิตพฺพํฯ

[3] สมุทยนิโรธสงฺขาโต อตฺโถติ เอตฺถ สมุทโย กิจฺจวเสน, นิโรโธ อารมฺมณกิริยายฯ เอเตน ทฺวิปฺปการา นิโรธา ทสฺสิตา โหนฺติ ตสฺส อนุภาวสฺส วเสนาติ อตฺโถฯ ยสฺมา ปลฺลงฺกาภุชิตฏฺฐานญฺจ ‘‘ปลฺลงฺโก’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา ผลาธิคมฏฺฐานํ ‘‘ปลฺลงฺก’’นฺติ วุตฺตํฯ

อชปาลกถาวณฺณนา

[4] สมฺโมทีติ หิตกามตาย ภควา เตน พฺราหฺมเณน สทฺธิํ สมฺโมทิฯ เวเทหิ อนฺตนฺติ เอตฺถ นิพฺพานํ อนฺโต นามฯ เวทานํ วา อนฺตํ คตตฺตาติ เอตฺถ อรหตฺตํฯ ตตฺถ ปฐเมน เวทนฺตคู ยสฺมา, ตสฺมา เอว วุสิตพฺรหฺมจริโยฯ ทุติเยน เวทนฺตคู ยสฺมา, ตสฺมา วุสิตพฺรหฺมจริโยติ เอวํ โยชนา กาตพฺพาฯ กิญฺจาปิ พฺราหฺมณสฺส จตุสจฺจยุตฺตํ อตฺถโต วุตฺตํ, อุทานคาถายํ วุตฺตปฏิเวธาภาวํ สนฺธาย ‘‘ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตน’’นฺติ วุจฺจตีติ ปริหาโรฯ

อชปาลกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

มุจลินฺทกถาวณฺณนา

[5] มุจลินฺทวตฺถุมฺหิ เอตมตฺถนฺติ อิทานิ วตฺตพฺพมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ตํ วิเวกนฺติ อุปธิวิเวกํ ฯ ‘‘อพฺยาปชฺชํ สุขํ โลเก’’ติ อิมินา ปฐมมคฺคํ ทสฺเสติ เตน สตฺเตสุ มารณวเสน อุปฺปชฺชนกพฺยาปาทปฺปหานสิทฺธิโตฯ ‘‘ปาณภูเตสุ สํยโม’’ติ อิมินา ทุติยมคฺคํ ทสฺเสติฯ มคฺคี หิ ปุคฺคโล อวสิฏฺฐพฺยาปาทตนุตฺตวเสน ปาณภูเตสุ สํยโต โหติ วิหิํสาธิปฺปายาภาวโตฯ เอวํ จตฺตาโร หิ มคฺคา อนุกฺกเมนาปิ คหิตา โหนฺติฯ

มุจลินฺทกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

ราชายตนกถาวณฺณนา

[6] ราชายตนํ ปาตลิฯ ‘‘จตุทฺทิสา อาคนฺตฺวา’’ติ ปาฐเสโสฯ มุขวฏฺฏิยํ กิรสฺส ทินฺนานํ จตุนฺนมฺปิ เลขาปริจฺเฉโท อตฺถิ, เต วาณิชา เทวตาย คารวทสฺสเนน ภควโต รูปกายทสฺสเนน ปสนฺนตฺตา สรณํ อคฺคเหสุํฯ เทวตาย ‘‘ภควา ราชายตนมูเล ปฐมาภิสมฺพุทฺโธ’’ติ วจนํ สุตฺวา สาวกสงฺฆาภาวํ, อภิสมฺพุทฺธธมฺมสพฺภาวญฺจ ชานิํสูติ เวทิตพฺพํฯ ชานนฺตีติ พุทฺธาติ สมฺพนฺโธฯ

ราชายตนกถาวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ