เมนู

8. รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา

[583-4] สพฺพมฺปีติ ติวิธมฺปิฯ ‘‘มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข’ติอาทิ ปน กิญฺจาปิ ราชสิกฺขาปเท ‘น วฏฺฏตี’ติ ปสงฺคโต วุตฺตํ, สรูปโต ปน อาปตฺติทสฺสนวเสน สกฏฺฐาเนปิ วตฺตุมารทฺธ’’นฺติ วุตฺตํฯ กถเมตํ? มุตฺตาทีนํ สกฏฺฐานํ ชาตํ, น หิ ตานิ อิธ ปาฬิยํ ทิสฺสนฺตีติ อิมสฺส อฏฺฐกถายํ วุตฺตานิ, ราชสิกฺขาปทสฺสปิ อฏฺฐกถายํ วุตฺตานีติฯ น เกวลํ หิรญฺญสุวณฺณเมว, อญฺญมฺปิ เขตฺตวตฺถาทิกํ ‘‘อกปฺปิยํ น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ สามญฺเญน, น สรูปโตฯ ปาฬิยํ ปน สรูปโต ‘‘จีวรเจตาปนฺนํ นาม หิรญฺญํ วา สุวณฺณํ วา มุตฺตา วา มณิ วา’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, ตสฺมา ราชสิกฺขาปทเมวสฺส สกฏฺฐานํฯ มุตฺตามณิคฺคหเณน เจตฺถ ตชฺชาติยคฺคหณํ สิทฺธเมวาติ นาคโต อิมสฺส ปฐมเมว ปญฺญตฺตตฺตาฯ ยทิ เอวํ อิธ อนาคตตฺตา กตรํ เนสํ สกฏฺฐานนฺติ? อิทเมว อตฺถโต, โน สรูปโตฯ

กถํ? เอตานิ หิ รตนสิกฺขาปเท นิสฺสคฺคิยวตฺถูนิ, ทุกฺกฏวตฺถูนิ จ เอกโต ‘‘รตน’’นฺติ อาคตานิ, ‘‘รตนสมฺมต’’นฺติ กปฺปิยวตฺถุ อาคตํฯ เตสุ จ ทสสุ รตเนสุ รชตชาตรูปทฺวยํ อิธ นิสฺสคฺคิยวตฺถุ, อวเสสํ ทุกฺกฏวตฺถูติ สิทฺธํฯ อิธ จ สิทฺธตฺตา เอว รตนสิกฺขาปทสฺส อนาปตฺติวาเร ‘‘รตนสมฺมตํ วิสฺสาสํ คณฺหาติ, ตาวกาลิกํ คณฺหาติ, ปํสุกูลสญฺญิสฺสา’’ติ วุตฺตํ, น รตนํ วุตฺตํฯ สตฺตวิธธญฺญทาสิทาสเขตฺตาทิ ปน พฺรหฺมชาลาทิสุตฺตวเสน (ที. นิ. 1.1 อาทโย) อกปฺปิยนฺติ สิทฺธํ, ตสฺมา อิธ ทุกฺกฏวตฺถูติ สิทฺธํ, เตเนว อนุโยควตฺเต ‘‘ธมฺมํ ชานาติ, ธมฺมานุโลมํ, วินยํ, วินยานุโลมํ ชานาตี’’ติ (ปริ. 442) วุตฺตํฯ ตถา อามกมํสมฺปิ ทุกฺกฏวตฺถุํ อาปชฺชตีติ? น, อิธ วินเย อนุญฺญาตตฺตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อมนุสฺสิกาพาเธ อามกมํส’’นฺติอาทินา (มหาว. 264), ตสฺมา น อามกมํสํ สุตฺเต อาคตมฺปิ ทุกฺกฏวตฺถุ โหติ, ตถาปิ อตฺตโน ปริโภคตฺถาย ปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏเมวาติ โน ตกฺโกติ อาจริโยฯ ‘‘อิธ นิกฺขิปาหี’ติ วุตฺเต อุปนิกฺขิตฺตสาทิยนเมว โหตี’’ติ วทนฺติฯ ‘‘อกปฺปิยวิจารณา เอว น วฏฺฏตีติ เจ? กปฺปิยญฺจ อกปฺปิยญฺจ นิสฺสาย ฐิตนฺติ เอตฺถ ตํ สยํ อปริโภคารหํ หุตฺวา ตทคฺฆนกํ กปฺปิยภณฺฑํ ปริโภคารหํ หุตฺวา ฐิตนฺติ อตฺโถ’’ติ ลิขิตํ, ‘‘ปํสุกูลภาเวน ฐิตตฺตา, คุตฺตฏฺฐานาจิกฺขนสฺส กปฺปิยตฺตา จ กปฺปิยํ นิสฺสาย ฐิตํฯ ‘อิทํ คณฺหา’ติอาทินา วทนฺตสฺส อกปฺปิยตฺตา อกปฺปิยํ นิสฺสาย ฐิต’’นฺติ จฯ เอวมฺปิ กปฺปิยญฺจ อกปฺปิยญฺจาติ ‘‘อิมสฺมิํ โอกาเส ฐปิตํ, กิํ น ปสฺสสีติ เฉกตเร อิเมว กหาปเณ’’ติอาทิวจนสฺส กปฺปิยตฺตา กปฺปิยํ นิสฺสาย ฐิตํฯ ‘‘อิทํ คณฺหา’’ติ วุตฺเต ทุพฺพิจาริตตฺตา อตฺตโน อกปฺปิยตฺตา ตโต อาคตํ อกปฺปิยํ นิสฺสาย ฐิตเมว โหติฯ

‘‘อิทํ คณฺหา’ติ วุตฺเต เตน คหิเต ‘อุคฺคณฺหาเปยฺย วา’ติ วุตฺตวิธิํ น ปาปุณาติ, เกวลํ ทุพฺพิจาริตตฺตา ตสฺเสว ตํ อกปฺปิยํ โหติ, มูลปฏิคฺคหณสฺส สุทฺธตฺตา ปรโต ปตฺตจตุกฺเก ตติยปตฺโต วิยาติ จ เอวํ อุปติสฺสตฺเถโร วทตี’’ติ อนุคณฺฐิปเท วุตฺตํฯ กิํ พหุนา, วิสุทฺธาคมตฺตา กปฺปิยํฯ ทุพฺพิจารณาย สติ อกปฺปิยํ นิสฺสาย ฐิตํ โหตีติ โน ตกฺโกติ อาจริโยฯ ‘‘เอวํ สงฺฆคณาทีนมฺปิ อตฺถาย ปริจฺจตฺเตปิ เตน สมานคติกตฺตา ฐเปตฺวา อาปตฺติวิเสส’’นฺติ วุตฺตํฯ

น กิญฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ เจตาปิตนฺติ เจตาปิตญฺเจ, อุปายาภาวํ ทสฺเสติฯ ‘‘อุปนิกฺเขปํ ฐเปตฺวาติ สเจ โส อุปาสโก ‘อติพหุํ เอตํ หิรญฺญํ, อิทํ ภนฺเต อชฺเชว น วินาเสตพฺพ’นฺติ วตฺวา สยํ อุปนิกฺเขปเทเส ฐเปติ, อญฺเญน วา ฐปาเปติ, เอตํ อุปนิกฺเขปํ ฐเปตฺวา ตโต ลทฺธํ อุทยํ ปริภุญฺชนฺโต สงฺโฆ ปจฺจเย ปริภุญฺชติ นามา’’ติ วุตฺตํฯ

[585] อยํ กิร อิตฺถํลกฺขณสมฺปนฺโน อุกฺกํสโตฯ เอวํ องฺคสมฺปนฺโนปิ อปรภาเค โลภวเสน วา อญฺเญน วา การเณน สเจ นิมิตฺตํ กตฺวา ปาเตติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสฯ เสนาสนมฺปิ ปริโภเค ปริโภเคติ ปเวเส ปเวเสฯ โส หิ การณนฺตเรน รุกฺขมูลิกสฺส, อพฺโภกาสิกสฺสปิ วฏฺฏติ เอว, ฐานนิสชฺชาทิวเสน นิวาสาธิปฺปาเย สติ ปริโภเค ปริโภเค ปจฺจเวกฺขิตพฺพํฯ เภสชฺชสฺส สติปจฺจยตา สพฺพกาลมฺปีติ เอเกฯ อสนฺนิหิตสฺส ปจฺฉาภตฺตเมว, สนฺนิหิตสฺส ปุเรภตฺตมฺปีติ โน ตกฺโกติ อาจริโยฯ ‘‘ยามกาลิกํ สตฺตาหกาลิกํ ยาวชีวิกํ อาหารตฺถาย…เป.… ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสฯ อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. 244) หิ วุตฺตํฯ ทุกฺกฏญฺหิ วิกาลโภชนสิกฺขาปเท อาคตํ วิกาเล อาปชฺชติ, โน กาเล อาหารกาลตฺตา, สนฺนิธิสิกฺขาปเท อาคตํ ปน กาเลปิ สนฺนิธิชาตตฺตา, เตเนว ตตฺถ สตฺตาหกาลิกยาวชีวิกทฺวยเมว วุตฺตนฺติฯ ‘‘สติ ปจฺจเย’’ติ วจนโต นายํ วิเสโส ลพฺภตีติ เจ? น, อนิฏฺฐปฺปสงฺคโต, วจนานิยมโต จฯ สนฺนิธิสิกฺขาปเท หิ ‘‘อนาปตฺติ ยาวกาลิกํ ยาวกาลํ นิทหิตฺวา ภุญฺชติฯ

ยามกาลิกํ ยาเม นิทหิตฺวา ภุญฺชตี’’ติ (ปาจิ. 256) เอตฺถ วจนปฺปมาณโต ยามกาลิกํ น ปุเรภตฺเต, น ปจฺฉาภตฺเต, น ทิวเส, น รตฺติยํ ยามเมว นิทหิตฺวา ภุญฺชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อนิฏฺฐปฺปสงฺโคฯ ตถา ตตฺเถว ‘‘ยามกาลิกํ ยามํ นิทหิตฺวา ภุญฺชติ, สตฺตาหกาลิกํ สตฺตาหํ นิทหิตฺวา ภุญฺชตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘สติ ปจฺจเย’’ติ, ตสฺมา สติปจฺจย-วจนํ กตฺถจิ โหติ, กตฺถจิ น โหตีติ วจนานิยมโต อาปตฺติยาปิ อนิยโม สิยาฯ เอวํ สนฺเตปิ ยถาวุตฺตทุกฺกฏํ อาปชฺชติ เอวฯ น อนาหารปฺปโยชนตฺตา ยามกาลิกาทีนนฺติ เจ? น, สปฺปิอาทิมิสฺสโภชนสฺส ปณีตโภชนภาวปฺปตฺติโตฯ อปิจ สพฺพกาลิเกสุ ยาวกาลิกํ โอฬาริกํ, ตํ อาหารตฺถาย ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส กาเล อนาปตฺติ, ปเคว อโนฬาริกํ ยามกาลิกาทิํ, อาหารตฺถาย เอว อนุญฺญาตตฺตาฯ ยาวกาลิเก เอว อนาปตฺตีติ เจ? น, อนาหารตฺถาย คณฺหนฺตสฺส อาปตฺติสมฺภวโต อิตรํ อาหารตฺถาย คณฺหนฺตสฺส วิย, ตสฺมา ยถาวุตฺตเมเวตฺถ สนฺนิฏฺฐานํ ปาฬิํ, ยุตฺติญฺจ อนุโลเมตีติฯ

เทสนาสุทฺธีติ เอตฺถ เทสนา นาม วินยกมฺมํ, เตน วุฏฺฐานมฺปิ เทสนา เอว นาม โหตีติฯ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ อวตฺวา ‘‘ปฏิเสวตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปฏิคฺคหเณ ปน สติํ อกตฺวา ปริโภเค กโรนฺตสฺส อนาปตฺติฯ ขีณาสวา กตกิจฺจตฺตา วิภตฺตทายาทา วิย โหนฺติ, เตน เตสํ สามิปริโภคา โหนฺติฯ อญฺญถา ยาวกาลิกภาวํ อนติกฺกนฺตตฺตา วิรุชฺฌติฯ อิณปริโภโค น วฏฺฏติ, เภสชฺเช อาปตฺติโต, อิตรสฺมิํ อยุตฺตปริโภคโต, อิณํ วิย อนนุญฺญาตภุตฺตตฺตา จฯ ‘‘อาทิโต ปฏฺฐาย หิ อลชฺชี นาม นตฺถิ, ตสฺมา น โกจิ สงฺกิตพฺโพ’’ติ ลิขิตํฯ ภารภูตา สทฺธิวิหาริกาทโยฯ ยถาทานเมว คหิตตฺตาติ เอตฺถ ‘‘อตฺตโน หตฺเถน เจ เทติ, น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘อติเรกภาคํ คเหตฺวา ปุนทิวเส อตฺตโน อตฺถาย อุทฺธฏภาคํ ตตฺเถว ทาเปติ, วฏฺฏตี’’ติ จฯ ปริวตฺตกํ เทติ, ธมฺมิยญฺเจ, วฏฺฏติฯ โน อธมฺมิยํฯ ‘‘ตํ ธมฺมานุคฺคเหน อุคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํฯ เกน เลเสนาติ เจ? ‘‘อลพฺภมานาย สามคฺคิยา อนาปตฺติ สมฺโภเค สํวาเส’’ติ (มหาว. 130) อิมินา อุปสมฺปทกฺขนฺธกวจนเลเสนฯ

[586] อสฺสติยา ทินฺนนฺติ เอตฺถ ‘‘อสฺสติยา ทินฺนํ นาม อปริจฺจตฺตํ โหติ, ตสฺมา ทุสฺสนฺเต พทฺธกหาปณาทีนิ สติํ ปฏิลภิตฺวา ทายกา เจ ปุน คณฺหนฺติ, นิสฺสคฺคิยเมว เทเสตพฺพํฯ เตน อกปฺปิยภณฺเฑน เต เจ ทายกา สปฺปิอาทีนิ กิณิตฺวา สงฺฆสฺส เทนฺติ, ตสฺสปิ ภิกฺขุโน กปฺปติ ทายกานํเยว สนฺตกตฺตาฯ ภิกฺขุนา หิ ‘วตฺถํ คณฺหามี’ติ วตฺถสญฺญาย เอว คหิตํ, น รูปิยสญฺญายฯ อิทญฺจ สิกฺขาปทํ อตฺตโน อตฺถาย อุคฺคหณํ สนฺธาย วุตฺตํ, น จ เตน ตํ อตฺตโน อตฺถาย ปเรสํ วา อตฺถาย คหิตํฯ อถ เต ทายกา โน เจ อาคนฺตฺวา คณฺหนฺติ, ทายเก ปุจฺฉิตฺวา อตฺตโน อตฺถาย เจ ปริจฺจตฺตํ, สงฺเฆ นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺติ เทเสตพฺพาฯ โน เจ, อาปตฺติ เอว เทเสตพฺพา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปุพฺพาปรวิรุทฺธํฯ อาปตฺติเทสนาย หิ สติ รูปิยํ ปฏิคฺคหิตนฺติ สิทฺธํ, ตสฺมิํ สิทฺเธ ‘‘ตโต อุปฺปนฺนํ ตสฺสปิ กปฺปตี’’ติ อิทํ น ยุชฺชตีติฯ กปฺปติ เอวาติ เจ? น, วตฺถุํ อนิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺติ เทเสตพฺพาติ น ยุชฺชติฯ อจิตฺตกตฺตา สิกฺขาปทสฺส ยุชฺชตีติ เจ? น, สพฺพตฺถ ‘‘รูปิยํ ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ วจนโตฯ ‘‘รูปิยํ ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ หิ วุตฺตํ, อญฺญถา สพฺพตฺถ ‘‘รูปิย’’นฺติ ปทํ นิรตฺถกํ โหติ วินาปิ เตน ตทตฺถสิทฺธิโตฯ อเนน จ วตฺถํ ปฏิคฺคหิตํ, ทายเกน จ วตฺถเมว ทินฺนํ, วตฺถคตมฺปิ รูปิยํ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโต ปทวาเรน กาเรตพฺโพฯ อฏฺฐกถายญฺจ ‘‘รูปิเย อรูปิยสญฺญีติ สุวณฺณาทีสุ ขรปตฺตาทิสญฺญี’’ติ วุตฺตํ ‘‘รูปิยํ ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ วจนวเสนฯ

‘‘อปิจ ปุญฺญกามา’’ติอาทิ ปน วิธานนฺตรทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, เตเนว หิ ‘‘อิมสฺมิํ เคเห อิทํ ลทฺธนฺติ สลฺลกฺเขตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํฯ อญฺญถา สลฺลกฺขเณ วิมติวเสน, วิมติยา จ สติ นิสฺสคฺคิยเมว ‘‘รูปิเย เวมติโก’’ติอาทิ วจนโตติฯ อิทํ วิธานํ นิรตฺถกเมว อาปชฺชติ, น จ นิรตฺถกํฯ กสฺมา? ทุสฺสนฺเต พทฺธกหาปณาทิ อสฺสติยา ทินฺนํ วตฺถสญฺญาย ปฏิคฺคหิตญฺจ, ตโต น รูปิยํ ทินฺนญฺจ โหติ ปฏิคฺคหิตญฺจาติฯ เอตฺถ อาปตฺติเทสนากิจฺจํ นตฺถิ, ตํ ปน ทายกานเมว ปฏิทาตพฺพํฯ ตโต อุปฺปนฺนํ กปฺปิยภณฺฑญฺจ สพฺเพสํ กปฺปตีติ อิมสฺส วิธานนฺตรทสฺสนตฺถํ ‘‘อปิจ ปุญฺญกามา’’ติอาทีติ โน ตกฺโกติ อาจริโยฯ

รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

9. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา

[587] ‘‘ชาตรูปรชตปริวตฺตน’’นฺติ อุกฺกฏฺฐปริจฺเฉเทน วุตฺตํ, ตถา ‘‘รูปิยํ นาม สตฺถุวณฺโณ กหาปโณ’’ติอาทิ ปาฬิวจนญฺจฯ ‘‘อรูปิเย รูปิยสญฺญี รูปิยํ เจตาเปตี’’ติอาทิ ติกวจนโต, ‘‘ทุกฺกฏวตฺถุนา ปน นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ เจตาเปนฺตสฺส…เป.… นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ ครุกสฺส เจตาปิตตฺตา’’ติ อฏฺฐกถาวจนโต จ ปน อนุกฺกฏฺฐปริจฺเฉโทเปตฺถ ลพฺภตีติ สิทฺธํฯ สตฺถุวณฺโณ จ กหาปโณ จ ตโต เย จญฺเญ โวหารํ คจฺฉนฺตีติ เอวเมตฺถ สมุจฺจโย เวทิตพฺโพฯ อิมสฺมิํ ปน สิกฺขาปเท ‘‘นานปฺปการกํ นาม กตมฺปิ อกตมฺปิ กตากตมฺปี’’ติ เอตฺถ วิภตฺตานํ ติณฺณํ รูปิยารูปิยานญฺจ ทฺวินฺนํ วเสน ปญฺจ ติกา วุตฺตา, อฏฺฐกถาจริเยหิ ตทนุโลมโต เอโก ติโก ทสฺสิโตติ สพฺเพ ฉ โหนฺติฯ

เอตฺถาห – อญฺญสฺมิํ สิกฺขาปเท เอกสฺมิํ ติกจฺเฉเท ทสฺสิเต สติปิ สมฺภเว อิตเร น ทสฺสียนฺติ , อิเธว กสฺมา ทสฺสิโตติ? ‘‘นานปฺปการก’’นฺติ มาติกายํ วุตฺตตฺตา อิเธว นานปฺปการภาวทสฺสนตฺถนฺติฯ น กยวิกฺกยสิกฺขาปเทปิ วตฺตพฺพปฺปสงฺคโตติ เจ? น, อิธ ทสฺสิตนยตฺตาฯ อถ จ รูปิยสฺส วิภงฺเค ‘‘เย โวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ อนฺเต วุตฺตตฺตา สตฺถุวณฺณาทโย วฬญฺชนุปคา เอวาติ สิทฺธํฯ ตโต อวฬญฺชนุปเคหิ ชาตรูปรชเตหิ โวหาเรน น นิสฺสคฺคิยนฺติ อาปชฺชติ, ตสฺมา ตํ อาปชฺชนตฺถนฺติ ทสฺเสนฺเตน ‘‘กเตน กตํ เจตาเปตี’’ติอาทโย ติกา วุตฺตาติ, เอวํ สนฺเต รูปิยวิภงฺเค ‘‘เย จ โวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ น วตฺตพฺพํ, ตสฺมิํ ปเท อวุตฺเต อวฬญฺชนุปคาปิ สงฺคหํ คตาว โหนฺตีติ กตาทีหิ ติกตฺตยสฺส วตฺตพฺพปโยชนํ น ภวิสฺสตีติ เจ? น, กปฺปิยภณฺเฑน กปฺปิยภณฺฑปอวตฺตนสฺสาปิ รูปิยสํโวหารภาวปฺปสงฺคโตฯ ‘‘เย โวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ วจเนนปิ กมุก กถล กํสภาชน สาฏกาทิปริวตฺตนสฺสปิ รูปิยสํโวหารภาวปฺปสงฺโค เอวาติ เจ? น, กตาทิวจเนน ชาตรูปาทิอกปฺปิยวตฺถูนญฺเญว อธิปฺเปตภาวทีปนโต, ตสฺมา อุภเยนปิ ยเทตํ กตากตาทิเภทํ ปากติกรูปิยํ ยญฺจ กหาปณมาสกสงฺเขปํ, ยญฺจ กหาปณาทิโวหารูปคํ, อุภยมฺเปตํ อิธ จ อนนฺตราตีตสิกฺขาปเท จ รูปิยํ นามาติ อธิปฺเปตตฺถสิทฺธิ โหติ, น ตณฺฑุลาทีนิ, ตตฺถ กตาทิโวหาราสมฺภวโตฯ เอตฺตาวตา กตาทิติกตฺตยปฺปโยชนํ วุตฺตํฯ