เมนู

ตโต ปฏิลทฺธทิวสโต ปฏฺฐาย ฉพฺพสฺสปรมตา ธาเรตพฺพํฯ โอเรน เจ ฉนฺนํ วสฺสานํ…เป.… การาเปยฺย, นิสฺสคฺคิยนฺติ อาปชฺชติ, ตสฺมา นวํ นาม กรณเมว อุปาทาย วุจฺจติ, น ปฏิลาภํฯ โอเรน ฉนฺนํ วสฺสานํ อตฺตโน อนุปฺปนฺนตฺตา ‘‘นว’’นฺติ สงฺขฺยํ คตํ, อปฺปฏิลทฺธํ เจ การาเปยฺย, ยถา ลาโภ, ตถา กเรยฺย วา การาเปยฺย วาติ จ น โหติฯ กสฺมา? ยสฺมา อญฺเญน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภุญฺชติ, อนาปตฺตีติ วิเสโสติฯ

ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

5. นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา

[565] นาสฺสุธ โกจีติ เอตฺถ อสฺสุธ-อิติ อวธารณตฺเถ นิปาโตฯ ตตฺถ กิญฺจาปิ ‘‘เอวํ ภนฺเตติ โข เต ภิกฺขู’’ติ พหุวจนํ วุตฺตํ, ตถาปิ เต ภิกฺขู ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา อิธ เตสุ ภิกฺขูสุ โกจิ ภควนฺตํ นาสฺสุธ อุปสงฺกมติ อญฺญตฺร เอเกนาติ อตฺโถ คเหตพฺโพฯ ตํ สุคฺคาหํ เอกาหํ ภนฺเต ภควนฺตํ วรนฺติอาทีสุ (มหาว. 337) วิย, อนุชานามิ…เป.… ยถาสุขํ มํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมนฺตูติ ทสฺสนตฺถาย อุปสงฺกมนฺตุฯ

[566-7] ‘‘มยํ อายสฺมนฺตํ อุปเสน’’นฺติ ตสฺส คณปาโมกฺขตฺตา วุตฺตํฯ อารญฺญิกปิณฺฑปาติกปํสุกูลิกวเสน สพฺพานิ วุตฺตานิฯ เตเนวาห อฏฺฐกถายํ ‘‘สนฺถเต จตุตฺถจีวรสญฺญิตายา’’ติฯ กิํ สพฺเพปิ เต จีวรํ น พุชฺฌนฺตีติ เจ? ยถา โหตุฯ กตมํ จีวรํ นามาติ? ฉนฺนํ อญฺญตรํ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมนฺติฯ กิญฺจ วายิมํ อวายิมนฺติ? วายิมเมวาติฯ กตรสุตฺเตนาติ? อทฺธา โส สุตฺตเมว น ปสฺสติ, สิเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ, อิทฺธิมยิกญฺจ เทวทตฺติยญฺจ อจีวรํ กโรติฯ ยทิ เอวํ อวายิมมฺปีติ วทามีติฯ เอวํ สนฺเต สิทฺธา สนฺถเต จีวรสญฺญิตา กมฺพลสีเสน อุณฺณามยสามญฺญโตฯ กิํ ปน เต สนฺถตํ อธิฏฺฐหิํสูติ? ทุฏฺฐุ อธิฏฺฐหิํสุ อจีวรตฺตา, น อธิฏฺฐานุปคตฺตา จ สนฺถตสฺสฯ อถ นาธิฏฺฐหิํสุ, ปุพฺเพว ตตฺถ อจีวรสญฺญิโน เอเตติ กตฺวา ตตฺถ จีวรสญฺญิตาย ตทุภยํ น ยุชฺชตีติฯ

กิํ ปเนตํ อธิฏฺฐานุปคํ นตฺถีติ? ตตฺเถวาคตํ , อปิเจตํ อวิกปฺปนุปคํ เจ, จีวรํ น โหติ, อญฺญถา ‘‘จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวรานํ อญฺญตร’’นฺติ เอตฺตาวตา สิทฺธํ ‘‘วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิม’’นฺติ น วตฺตพฺพํฯ อถ น วิกปฺปนุปคมฺปิ จีวรเมว สิทฺธํ, อนธิฏฺฐานุปคํ , อวิกปฺปนุปคญฺจ เอกชฺฌํ ‘‘จีวร’’นฺติ สงฺขฺยํ คจฺฉติฯ เตเนวาห ‘‘เตจีวริกสฺส จตุตฺถจีวรํ วตฺตมานํ อํสกาสาวเมว วฏฺฏตี’’ติฯ

อปิจ สนฺถเต จีวรสญฺญิตา น เกวลํ เตสํเยว, อญฺเญสมฺปิ อนุพนฺธติ เอว ‘‘ปุราณสนฺถตํ นาม สกิํ นิวตฺถมฺปิ สกิํ ปารุตมฺปี’’ติ วจนโตฯ อฏฺฐกถาจริโย ปนสฺส อจีวรตํ สนฺธายภาสิตตฺถทีปเนน ทีเปติฯ นิวตฺถปารุตนฺติ เอเตสํ นิสินฺนญฺเจว นิปนฺนญฺจาติ อตฺโถฯ อปิจ เอวํ สนฺเตปิ สนฺถเต จีวรสญฺญิตา อนุพนฺธติ เอวฯ ขนฺธเก (มหาว. 358) หิ ‘‘นิสีทนํ อธิฏฺฐาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติ จ, ปริวาเร (ปริ. 329) ‘‘นว จีวรานิ อธิฏฺฐาตพฺพานี’’ติ จ นิสีทนสิกฺขาปเท ‘‘ทสา วิทตฺถี’’ติ จ อิธ ‘‘นิสีทนํ นาม สทสํ วุจฺจตี’’ติ จ วุตฺตํ, อฏฺฐกถายญฺจสฺส ‘‘สนฺถตสทิสํ สนฺถริตฺวา เอกสฺมิํ อนฺเต สุคตวิทตฺถิยา วิทตฺถิมตฺตปเทเส ทฺวีสุ ฐาเนสุ ผาเลตฺวา ติสฺโส ทสา กรียนฺติ, ตาหิ ทสาหิ สทสํ นาม วุจฺจตี’’ติ จ ‘‘นิสีทนํ วุตฺตนเยน อธิฏฺฐาตพฺพเมว, ตญฺจ โข ปมาณยุตฺตํ เอกเมว, ทฺเว น วฏฺฏนฺตี’’ติ จ วุตฺตํ, ตสฺมา นิสีทนํ นาม นวนฺนํ จีวรานํ อญฺญตรํ จีวรํ อธิฏฺฐาตพฺพํ, ตญฺจ สนฺถตสทิสํ เอฬกโลมมยสนฺถตวิเสสนฺติ สิทฺธํ, ตถา นิสีทนเมว นิสีทนสนฺถตญฺจ สิทฺธํฯ โปราณคณฺฐิปเท จ ‘‘เอกเมวา’’ติ วุตฺตํฯ ตสฺมิํ สิทฺเธ สิทฺธา สนฺถเต จีวรสญฺญิตาติ อตฺโถฯ กสฺมา? สนฺถตสามญฺญโตฯ

เอตฺถาห – กถํ อทสเมว สนฺถตํ จีวรสงฺขฺยํ น คจฺฉติฯ อเนกมฺปิ อนธิฏฺฐิตมฺปิ มหนฺตมฺปิ วฏฺฏติ, ยโต สทสเมว สนฺถตํ จีวรสงฺขฺยํ คจฺฉติ, ตโต อธิฏฺฐานญฺจ อุปคจฺฉตีติฯ อสนฺถตปริยาปนฺนตฺตา โอเรน จ ฉนฺนํ วสฺสานํ วินาปิ สมฺมุติํ, ตญฺจ โปราณํ วิสฺสชฺเชตฺวา เอว, น อวิสฺสชฺเชตฺวา ‘‘ตญฺจ โข ปมาณยุตฺตํ เอกเมว, ทฺเว น วฏฺฏนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺฐ. 2.469) วจนโตติฯ อถาปิ สิยา สนฺถตํ สยนตฺถเมว กรียติ, นิสีทนํ อสนฺถตเมวาติฯ ตญฺจ น นิยมโต ‘‘ปุราณสนฺถตํ นาม สกิํ นิวตฺถํ สกิํ ปารุตมฺปี’’ติ วุตฺตตฺตาติฯ เอตฺถ วุจฺจติ, น เอตฺถ การณํ ปริเยสิตพฺพํ วินยปญฺญตฺติยา อนญฺญวิสยตฺตาฯ

สนฺถตสฺส ปน อจีวรภาเว อยํ ยุตฺติ – อาทิโต ‘‘ตีณิ สนฺถตานิ ปน วินยกมฺมํ กตฺวา ปฏิลภิตฺวา ปริภุญฺชิตุํ น วฏฺฏนฺตี’’ติ อฏฺฐกถาวจนโต ตานิ อกปฺปิยานีติ สิทฺธํ, ภควตา จ โขมาทีนิ ฉ อนุญฺญาตานีติ โกเสยฺยํ กปฺปิยนฺติ สิทฺธํฯ เอวํ สนฺเต สุทฺธโกเสยฺยมฺปิ จีวรํ กปฺปิยํ ชาตํ, ปเคว โกสิยมิสฺสกสนฺถตจีวรนฺติ อาปชฺชติฯ ตถา กมฺพลญฺจ อนุญฺญาตํ, ตญฺจ สุทฺธิกมฺปิ โหติ ชาติกาฬกภาเวน, ปเคว โอทาตโคจริยมิสฺสกสนฺถตจีวรนฺติ อาปชฺชติฯ ตโต จ อญฺญมญฺญวิโรโธ, ตสฺมา น สนฺถตํ จีวรํ นาม โหติ, นิสีทนํ ปน โหติ ตสฺส ปมาณสณฺฐานปริจฺเฉทสมฺภวโตฯ เอตฺถาหุ เกจิ อาจริยา ‘‘ทุวิธํ นิสีทนํ สนฺถตํ, อสนฺถตญฺจฯ ตตฺถ สนฺถตํ สนฺถตเมวฯ อสนฺถตํ โขมาทิฉพฺพิธํ, ตทนุโลมํ วา โหติ, อยเมเตสํ วิเสโส’’ติฯ

เอตฺถาห – กสฺมา ปเนตฺถ ‘‘สนฺถตํ ปน ภิกฺขุนา’’ติ สิกฺขาปทํ อปญฺญาเปตฺวา ‘‘นิสีทนสนฺถต’’นฺติ ปญฺญตฺตนฺติ? จีวรสญฺญิตาย สนฺถตานํ อุชฺฌิตตฺตา เตสํ อจีวรภาวทสฺสนตฺถํ ตถา ปญฺญตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺมา เต ภิกฺขู ธุตงฺคเภทภยา ตานิ อุชฺฌิตฺวา เตรสาปิ ธุตงฺคานิ สมาทิยิํสุ, สีสทสฺสนวเสน ตีเณว วุตฺตานิ, ภควา จ เตสํ สนฺถตํ อนุชานิ, ตโต เนสํ เอวํ โหติ ‘‘นิสีทนจีวรสณฺฐานมฺเปตํ นิสีทนสนฺถตํ โน อนุญฺญาตํ, จตุตฺถจีวรภาเวน ปเคว กตสนฺถตํ วา’’ติฯ ตโต สนฺถเต เนสํ จีวรสญฺญิตา น ภวิสฺสตีติ ตทตฺถํ ภควตา นิสีทนสนฺถตนฺติ ปญฺญตฺตนฺติ อธิปฺปาโยฯ ‘‘ปจฺฉิมานิ ทฺเว วฏฺฏนฺตี’’ติ กถํ ปญฺญายตีติ เจ? ‘‘อนาปตฺติ อญฺเญน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภุญฺชตี’’ติ วจนโตติฯ

นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

6. เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา

[572-3] อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนสฺสาติ อิมินา ปกติยา ทีฆมคฺคปฺปฏิปนฺนสฺส อุปฺปนฺนานิปิ ติโยชนปรมเมว หริตพฺพานิ, ปเคว อปฺปฏิปนฺนสฺสาติ ทสฺเสติฯ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนสฺส นิสฺสคฺคิยนฺติ วา สมฺพนฺโธฯ เตเนว วาสาธิปฺปายสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธคมนุสฺสาหตฺตา ‘‘อปฺปฏิปนฺโน’’ติ สงฺขฺยํ คตสฺส อนาปตฺตีติ สิทฺธาฯ อิมสฺมิํ อตฺถวิกปฺเป หิ ภิกฺขุโน ปเนว เอฬกโลมานิ อุปฺปชฺเชยฺยุํ…เป.… อสนฺเตปิ หารเก อทฺธานํ มคฺคปฺปฏิปนฺนสฺส นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ โยชนา เวทิตพฺพาฯ อากงฺขมาเนน ภิกฺขุนา ปฏิคฺคเหตพฺพานีติ อตฺตโน สนฺตกานํเยว ติโยชนาติกฺกเม อาปตฺติํ ทสฺเสติฯ เตน อนากงฺขมาเนน ปรสนฺตกานิ ปฏิคฺคหิตานิ อติเรกติโยชนํ หรนฺตสฺส อนาปตฺติ สิทฺธาฯ อยมตฺโถ ‘‘ภิกฺขุโน อุปฺปชฺเชยฺยุ’’นฺติ อิมินา, ‘‘อจฺฉินฺนํ ปฏิลภิตฺวา’’ติ อิมินา จ ทีปิโตว โหตีติฯ โปราณคณฺฐิปเท จ ‘‘อญฺญํ ภิกฺขุํ หราเปนฺโต คจฺฉติ เจ, ทฺวินฺนํ อนาปตฺตีติ วุตฺตํ, ตสฺมา ทฺเว ภิกฺขู ติโยชนปรมํ ปตฺวา อญฺญมญฺญสฺส ภณฺฑํ ปริวตฺเตตฺวา เจ หรนฺติ, อนาปตฺตีติ สิทฺธํ, เตเนว อนาปตฺติวาเร ‘‘อญฺญํ หราเปตี’’ติ วุตฺตํฯ กิํ หราเปติ? ชานนฺตํ อชานนฺตํฯ กิญฺเจตฺถ ยทิ ชานนฺตํ, ‘‘อญฺโญ หริสฺสตีติ ฐเปติ, เตน หริเตปิ อาปตฺติเยวา’’ติ เอกํสโต น วตฺตพฺพํฯ ชานนฺโตปิ หิ เอกจฺโจ หรตีติฯ ตโต อฏฺฐกถาย วิรุชฺฌติฯ อถ อชานนฺตํ, ‘‘อญฺญสฺส ยาเน วา ภณฺเฑ วา อชานนฺตสฺส ปกฺขิปิตฺวา ติโยชนํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยานี’’ติ ปาฬิยา วิรุชฺฌติ, อถ อุโภปิ เอกโต เอกํ ภณฺฑํ หราเปนฺติ, ตมฺปิ นิสฺสคฺคิยํ สิยาฯ อนิสฺสคฺคิยนฺติ ยุตฺติยา วิรุชฺฌติ ‘‘ติโยชนปรมํ สหตฺถา หริตพฺพานิ อสนฺเต หารเก’’ติ อวิเสเสน จ ปาฬิ วุตฺตาฯ หารโกปิ สเจตโน อเจตโนติ ทุวิโธฯ สเจตโนปิ เอฬกโลมภาวํ วา ‘‘อหมิทํ หรามี’’ติ วา ‘‘มํ เอส อิทํ หราเปตี’’ติ วา ชานนาชานนวเสน ทุวิโธ โหติฯ ตตฺถ อเจตโน นาม หารโก นทีโสโต วา นาวา วา อสฺสามิกยานํ วา โหติฯ สเจตโน ปากโฏวฯ ตตฺถ ‘‘มํ เอส อิทํ หราเปตี’’ติ เอตฺตกํ ชานนฺตํ มนุสฺสํ วา ติรจฺฉานคตํ วา อญฺญํ หราเปติ, อนาปตฺตีติ อนุคณฺฐิปทนโยฯ อยํ ปาฬิยา, อฏฺฐกถาย จ เอกรโส วินิจฺฉโย, ‘‘อสนฺเต หารเก’’ติ กิญฺจาปิ อิทํ อวิเสสโต วุตฺตํ, ‘‘อญฺญสฺส ยาเน วา ภณฺเฑ วา อชานนฺตสฺสา’’ติ วจนโต ปน สเจตโนว หารโก ตตฺถ อธิปฺเปโตติ ปญฺญายติ, โส จ เอฬกโลมภาวญฺจ ‘‘อิทํ หรามี’’ติ จ ชานนฺโต นาธิปฺเปโตฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อญฺโญ หริสฺสตีติ ฐเปติ, เตน หริเตปิ อาปตฺติเยวา’’ติอาทิฯ ตตฺถ เหตุกตฺตุโน อภาวโตวฯ