เมนู

10. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา

[537] ‘‘น โข มยํ, อาวุโส, จีวรเจตาปนฺนํ ปฏิคฺคณฺหาม…เป.… กาเลน กปฺปิย’’นฺติ อิโต ปุพฺเพ เอว รูปิยปฏิคฺคหณสิกฺขาปทสฺส ปญฺญตฺตตฺตา วุตฺตํฯ อญฺญถา อายสฺมา อุปนนฺโท มํสสฺส เจตาปนฺนํ เอกมฺปิ กหาปณํ หตฺเถน ปฏิคฺคณฺหนฺโต ตโต มหนฺตตรํ จีวรเจตาปนฺนํ กถํ น ปฏิคฺคณฺหิสฺสติ, เอวํ สนฺเตปิ จีวรปฏิสํยุตฺตตฺตา จีวรวคฺเค สงฺคายิํสูติฯ

[538-9] ‘‘อาคตการณํ ภญฺชตี’’ติ วุตฺตตฺตา นนุ ปุน โจเทตุํ น ลภตีติ เอเกฯ อาคมนสฺส สาตฺถกํ น โหติ, จีวรํ น ลภิสฺสติ ปฏิสนฺถารสฺส กตตฺตาติ เอเกฯ โจทนาลกฺขณํ น โหตีติ กตฺวา วุตฺตนฺติ เอเกฯ ‘‘ฐตฺวา โจเทมี’’ติ อาคโต ตํ ฐานํ ภญฺชติ, กโรติ เจกํ, ตีณิปิ เจ กโรติ, เอกเมว, เอกวจนตฺตาติ เอเกฯ ตีณิ ฐานานิ ภญฺชตีติ เอเกฯ อุปติสฺสตฺเถโร ‘‘น โจทนาทิํ ภญฺชติ, โจเทตุกาโม อกตฺตพฺพํ อกาสิ, เตน วตฺตเภเท ทุกฺกฏ’’นฺติ วทติฯ ธมฺมสิริตฺเถโร ปน ‘‘อาสเน เจ นิสีทติ, เอกาย นิสชฺชาย ทฺเว ฐานานิ ภญฺชติฯ อามิสํ เจ ปฏิคฺคณฺหาติ, เอเกน ปฏิคฺคเหน ทฺเว ฐานานิ ภญฺชติฯ ธมฺมํ เจ ภาสติ, ธมฺมเทสนสิกฺขาปเท วุตฺตปริจฺเฉทาย เอกาย วาจาย ทฺเว ฐานานิ ภญฺชติ, ตํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วทติฯ ‘‘ยตฺถา’’ติ วุตฺเต อตฺตโน เอว สนฺติกํ คนฺตพฺพนฺติ วุตฺตํ วิย โหติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘พฺยญฺชนํ ปน น สเมตี’’ติฯ อุปาสเกหิ อาณตฺตา ตํฯ มูลํ อสาทิยนฺเตนาติ มูลสฺส อกปฺปิยภาเว สติ อสาทิยนฺเตนฯ ตญฺจ โข จิตฺเตน , น มุเขนฯ สเจ เอวํ วุตฺเต อกปฺปิยํ ทสฺเสตีติ กตฺวา จิตฺเตน อกปฺปิยํ อิจฺฉนฺโตว มุเขน กปฺปิยํ นิทฺทิสติ ‘‘จีวรํ เม เทถา’’ติ, น วฏฺฏติฯ ปฏิลาเภ รูปิยปฏิคฺคหณสิกฺขาปเทน อาปตฺติฯ

ตตฺรายํ วิจารณา – จิตฺเตน สาทิยนฺโตปิ มุเขน กปฺปิยโวหาเรน เจ โวหรติ ‘‘กหาปณารเหน, ปาทารเหน วา กปฺปิยภณฺเฑน อิทญฺจิทญฺจ อาหรา’’ติฯ กิญฺจาปิ รูปิยํ สนฺธาย วทติ, วฏฺฏติ เอวฯ กสฺมา? กญฺจิ สสฺสุฏฺฐานกํ ภูมิปเทสํ สนฺธาย ‘‘สีมํ เทมาติ วทนฺติ, วฏฺฏตี’’ติ วจนโต, ‘‘วิหารสฺส เทมา’’ติ วุตฺเต ‘‘ปฏิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วจนโต จฯ

อนุคณฺฐิปเท ปน วุตฺตํ ‘‘สงฺฆํ สนฺธาย ‘วิหารสฺส เทมา’ติ ทินฺนํ ครุภณฺฑํ น โหติ, ทกฺขิโณทกํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ, ‘สาธู’ติ จ วตฺตุํ, อนุโมเทตุญฺจ วฏฺฏติฯ กสฺมา? สงฺฆสฺส ‘วิหาโร’ติ นามาภาวโต, เขตฺตสฺเสว ‘สีมา’ติ นามภาวโต จ, จิตฺเตน อารมฺมณํ กตํ อปฺปมาณํ, กปฺปิยโวหาโรว ปมาณํฯ กปฺปิยเมวาจิกฺขิตตฺตา ‘น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, เกนจิ ปริยาเยน ชาตรูปรชตํ สาทิตพฺพํ ปริเยสิตพฺพนฺติ วทามี’ติ (มหาว. 299) วจเนนปิ น วิรุชฺฌติฯ กปฺปิยวจนปจฺจยา ทายโก สยเมว กตฺตพฺพยุตฺตกํ ชานิสฺสตีติ อธิปฺปายโต ทายเกน เอตสฺส อธิปฺปายํ ญตฺวา กปฺปิยการกสฺส หตฺเถ ฐปิตํ ภิกฺขุสฺส สนฺตกเมว โหตี’’ติฯ อิทํ สพฺพมยุตฺตํ, กสฺมา? สีมาวิหารวจนสฺส ทายกวจนตฺตาฯ อิธ จ ภิกฺขุโน วจนํ ปมาณํฯ เตเนวาห ‘‘อถาปิ ‘มม ตฬากํ วา โปกฺขรณิํ วา สงฺฆสฺส ทมฺมี’ติ วุตฺเต ‘สาธุ, อุปาสก, สงฺโฆ ปานียํ ปิวิสฺสตี’ติอาทีนิ วตฺวา ปริภุญฺชิตุํ วฏฺฏติ เอวา’’ติฯ อญฺญถา เขตฺตํ สนฺธาย ภิกฺขุโน เขตฺตปฏิพทฺธวจนานิ สีมาวจเนน กปฺปนฺตีติ อาปชฺชติฯ อวิหารสฺส จ ภิกฺขุสฺส รูปิยํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อิทํ วิหารสฺส ทมฺมี’’ติ วุตฺเต อตฺตโน อตฺถาย ทิยฺยมานํ ชานนฺเตนาปิ ตํ อปฺปฏิกฺขิปิตพฺพํฯ ตถา กหาปณารหาทิโน อกปฺปิยภณฺฑภาวํ, กหาปณาทิภาวเมว วา ชานนฺตเมว สนฺธาย ตถาโวหรนฺตสฺส จ อนาปตฺตีติ อาปชฺชติฯ ‘‘น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, เกนจิ ปริยาเยนา’’ติ นิปฺปเทสโต วุตฺตตฺตา น สกฺกา เลสํ โอฑฺเฑตุนฺติ โน ตกฺโก, วิจาเรตฺวา ปน คเหตพฺพํฯ ‘‘โน เจ อิจฺฉติ, น กเถตพฺพ’’นฺติ วจนโต ยถาวุตฺตสามิจิยา อกรเณ อนาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ทสฺเสติฯ

‘‘อญฺญาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ วจนโต ยถาวุตฺตสามิจิมฺปิ น กตฺวา เจ นิปฺผาเทติ, อญฺญาตกวิญฺญตฺติสิกฺขาปเทน กาเรตพฺโพติ ทสฺเสติฯ กปฺปิยการกา สยเมว โจเทตฺวา เทนฺติ, วฏฺฏติฯ ‘‘สยํ กรณเมว ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ จ วทนฺติฯ ปิณฺฑปาตาทีนํ …เป.… เอเสว นโยติ เอตฺถ ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ, ททนฺเตสุปีติ อปิ-สทฺเทน สงฺคหิตตฺตา นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยเมวฯ ชาตรูปรชตํ ‘‘สงฺเฆ สาทิเต ทุกฺกฏ’’นฺติ จ วิกปฺเปนฺติฯ ตํ วิเสเสตฺวา นวุตฺตตฺตา ปาจิตฺติยเมวาติ ทสฺเสติฯ ‘‘นิสฺสคฺคิยเมวาติ เยวาปนกสิกฺขาปเทสุ สิยา’’ติ วทนฺติ, อุปปริกฺขิตพฺพํฯ ‘‘ยสฺส กสฺสจิ หิ อญฺญสฺส…เป.… มหาปจฺจริยํ วุตฺต’’นฺติ วจนโต อปพฺพชิตานํ อนฺตมโส มาตาปิตูนมฺปิ อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏเมวาติ ทสฺเสติฯ

สพฺพตฺถ สมฺปฏิจฺฉนํ นาม ‘‘อุคฺคณฺเหยฺย วา อุคฺคณฺหาเปยฺยวา อุปนิกฺขิตฺตํ วา สาทิเยยฺยา’’ติ เอวํ วุตฺตลกฺขณเมวฯ เอวํ สนฺเตปิ กตฺถจิ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ, กตฺถจิ น ปฏิกฺขิปิตพฺพํ, กตฺถจิ ปฏิกฺขิตฺตํ สาทิตุํ วฏฺฏติ, เอวํ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ กิญฺจิ วฏฺฏติ, อิทํ สพฺพมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ ปนา’’ติ วิตฺถาโร อารทฺโธฯ ตตฺถ ‘‘เจติยสฺส…เป.… น วฏฺฏตี’’ติ วจนโต อปฺปฏิกฺขิตฺตํ วิหารสฺส ทินฺนํ สาทิตุํ วฏฺฏตีติ สิทฺธํฯ ตถา เถรสฺส ‘‘มาตุยา เทมา’’ติอาทินา วุตฺเตปิ ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติ ปาจิตฺติยเมวฯ สาปตฺติโก โหตีติ เอตฺถ กาย อาปตฺติยา สาปตฺติโก โหตีติ? ทุกฺกฏาปตฺติยาติ เอเกฯ น ยาย กายจิ, เกวลํ อฏฺฐาเน โจเทตีติ กตฺวา ‘‘สาปตฺติโก’’ติ วุตฺตํฯ ยถา กถนฺติ? ‘‘ปญฺจหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต สทฺธิวิหาริโก ปณาเมตพฺโพ…เป.… ปณาเมนฺโต อนติสาโร’’ติ (มหาว. 68) เอตฺถ น สมฺมาวตฺตนฺตํเยว อปณาเมนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํฯ ยถาห – ‘‘น จ, ภิกฺขเว, อสมฺมาวตฺตนฺโต น ปณาเมตพฺโพ, โย น ปณาเมยฺย, อาปตฺติทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. 68), ตสฺมา อธิมตฺตเปมาทิอภาเวปิ อปณาเมนฺตสฺส อนาปตฺติ ทิสฺสติฯ อปิจ ‘‘สาติสาโร โหตี’’ติ วุตฺตํฯ เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺฐพฺพํฯ อฏฺฐกถาย ‘‘สาติสาโร โหตีติ สโทโส โหติ, อาปตฺติํ อาปชฺชตี’’ติ (มหาว. อฏฺฐ. 68) วุตฺตตฺตา น ยุตฺตนฺติ เจ? น, ตทนนฺตรเมว ตํมิจฺฉาคาหนิวตฺตนตฺถํ, ตสฺมา ‘‘น สมฺมาวตฺตนฺโต ปณาเมตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา อนาปตฺติกา กตาติฯ ทุกฺกฏาปตฺติ โหตีติ อาจริโย, วีมํสิตพฺพํฯ ‘‘กปฺปิยภณฺฑมฺปิ อกปฺปิยเมวาติ ตฬากโต นิปฺผนฺนธญฺเญน ปริวตฺเตตฺวา ลทฺธํ โครสมฺปิ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํฯ

กปฺปิยโวหาเรปิ วิธานํ วกฺขาม, เสยฺยถิทํ – ‘‘อุทกวเสนา’’ติอาทิฯ ทุพฺพินิพฺโภคํ โหตีติ อิทํ ปรโต ‘‘ตสฺเสว อกปฺปิยํฯ กสฺมา? ธญฺญสฺส วิจาริตตฺตา’’ติ อิมินา อสทิสํ, ตสฺมา สุวุตฺตํฯ อิทญฺหิ ภิกฺขุสฺส ปโยควเสน อาทิโต ปฏฺฐาย อุปฺปนฺเนน มิสฺสนฺติฯ อกตปุพฺพํ นวสสฺสํ นามฯ ขเล วา ฐตฺวา รกฺขตีติ ‘‘อิทํ วา เอตฺตกํ วา มา คณฺห, อิทํ คเหตุํ ลพฺภตี’’ติ วา ‘‘อิโต อปเนหิ, อิธ ปุญฺชํ กโรหี’’ติ เอวมาทินา วา ปโยเคน เจ รกฺขติ, ตํ อกปฺปิยํฯ ‘‘สเจ ‘มยิฐิเต รกฺขิตํ โหตี’ติ รกฺขติ, คณฺหนฺเต วา ปสฺสิตฺวา ‘กิํ กโรถา’ติ, ภณติ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํฯ

รูปิยปฏิคฺคหณสิกฺขาปเท ‘‘ทฺวารํ ปิทหิตฺวา รกฺขนฺเตน วสิตพฺพ’’นฺติ หิ วุตฺตํฯ ตสฺเสว ตํ อกปฺปิยํฯ กสฺมา? อปุพฺพสฺส อนุปฺปาทิตตฺตาฯ เหฏฺฐา ‘‘สสฺสํ กตฺวา อาหรถา’’ติ วตฺตุํ ปน น วฏฺฏตีติฯ ปณฺเณปิ เอเสว นโยฯ ‘‘ปกติยา สยเมว กโรนฺตานํ อุสฺสาหชนนโต’’ติ วุตฺตํฯ กสฺมา? ‘‘กหาปณานํ วิจาริตตฺตา’’ติ วจนโต, ปเคว อุฏฺฐาปิตตฺตาติ สิทฺธํ โหติฯ สเจ ทายกา วา สงฺฆสฺส คามเขตฺตารามาทิํ เกณิยา คหิตมนุสฺสา วา ตตฺถ กุฏุมฺพิโน ‘‘อิเม สงฺฆสฺส กหาปณา อาหฏา’’ติ วทนฺติ, ‘‘น กปฺปตี’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํฯ กปฺปิยการกาว เจ วทนฺติ, ‘‘สงฺฆสฺส กหาปณา น กปฺปนฺติ, สปฺปิอาทีนิ วฏฺฏนฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ, ตสฺมา ‘‘สงฺฆสฺส กปฺปิยการเก วา คุตฺตฏฺฐานํ วา อาจิกฺขถา’’ติ วตฺวา เตหิ สมฺปาทิตํ เกนจิ อกตฺตพฺพตาย ‘‘อิมินา สปฺปิํ อาหราหี’’ติ วิจาเรติ นิฏฺฐาเปตฺวา อิตเรสํ กปฺปิยํ ปรโต ปตฺตจตุกฺเก จตุตฺถปตฺโต วิยฯ วุตฺตญฺหิ ตตฺถ ‘‘อิเม กหาปเณ คเหตฺวา อิมํ เทหี’ติ กหาปเณ ทาเปตฺวา คหิโต, อยํ ปตฺโต เอตสฺเสว ภิกฺขุโน น วฏฺฏติ, ทุพฺพิจาริตตฺตา, อญฺเญสํ ปน วฏฺฏติ, มูลสฺส อสมฺปฏิจฺฉิตตฺตา’’ติอาทิฯ ยทิ เอวํ สพฺเพสํ อกปฺปิยํฯ กสฺมา? กหาปณานํ วิจาริตตฺตาติฯ อิทํ ทุวุตฺตนฺติ เจ? น, มูลสฺส สมฺปฏิจฺฉิตฏฺฐานํ สนฺธาย อิมสฺส วุตฺตตฺตา ปตฺตจตุกฺเก ทุติยตติยปตฺตา วิย, เตเนว วุตฺตํ สยํการิวาเร ‘‘น กปฺปตี’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพ’นฺติฯ ตโต ปรํ มูลํ สมฺปฏิจฺฉติ นามฯ

มหาวิสยสิกฺขตฺตา, ราชสิกฺขาปทํ อิทํ;

รญฺโญ วิย ทุวิญฺเญยฺยํ, จิตฺตาธิปฺปายโตปิ วาฯ

ราชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

นิฏฺฐิโต จีวรวคฺโค ปฐโมฯ

2. โกสิยวคฺโค