เมนู

4. ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

[503-505] ภตฺตวิสฺสคฺคนฺติ ภตฺตกิจฺจาธิฏฺฐานํฯ ภตฺตกิจฺจาธิฏฺฐานวิภาคนฺติ โปราณาฯ ตตฺถ นาม ตฺวนฺติ ตตฺถ ตยา กตกมฺเม เอวํ อกตฺตพฺเพ สติ โธวาปิสฺสสิ นามฯ อถ วา โส นาม ตฺวนฺติ อตฺโถฯ อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปนฺนาติ ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปทาย ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ตทนุปสงฺคภยา เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ‘‘ปุราณจีวร’’นฺติ เอตฺถ ปุราณภาวทีปนตฺถเมว ‘‘สกิํ นิวตฺถมฺปิ สกิํ ปารุตมฺปี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘จีวรํ นาม ฉนฺนํ จีวรานํ อญฺญตรํ จีวรํ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิม’’นฺติ วจนสฺส โอกาโส น ชาโตติ เอเกฯ ยสฺมา วิกปฺปนุปคปจฺฉิมํ อิธ นาธิปฺเปตํ, นิวาสนปารุปนุปคเมวาธิปฺเปตํ, เตเนว นิสีทนปจฺจตฺถรเณ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, ตสฺมา น วุตฺตนฺติ เอเกฯ ชาติปฺปมาณาวจนโต ยํ กิญฺจิ ปุราณวตฺถํ โธวาเปนฺตสฺส นิสฺสคฺคิยเมว, เตเนว ‘‘อนาปตฺติ จีวรํ ฐเปตฺวา อญฺญํ ปริกฺขารํ โธวาเปตี’’ติ วุตฺตํฯ ถวิกมฺปิ หิ อสุจิมกฺขิตํ ปริภุตฺตํ โธวาเปติ, นิสฺสคฺคิยเมว โอฬาริกตฺตา, อปฺปติรูปตฺตา จฯ เตเนว กงฺขาวิตรณิยํ อิมสฺมิํ ฐาเน จีวรปริจฺเฉโท น วุตฺโตติ เอเก, วิจาเรตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํฯ ‘‘รชิตฺวา กปฺปํ กตฺวาติ กปฺปิยํ กตเมว นิวาเสตุํ, ปารุปิตุํ วา วฏฺฏติ, เนตร’’นฺติ วุตฺตํฯ อิมินา จ มชฺฌิมตฺเถรวาโท อุปตฺถมฺภิโต โหติ, โนปตฺถมฺภิโตฯ รชิตฺวาติอาทิ ปน วินยวิธิทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ มม ตกฺโกฯ ยถา อญฺญาติกาย อญฺญาติกสญฺญีวาเร ตีณิ จตุกฺกานิ, เอวํ เวมติกญาติกวาเรสุ จาติ นว จตุกฺกานิ โหนฺติฯ เอตฺถาห – เอกวารํ โธวิตฺวา โธวเนสุ ธุรํ นิกฺขิปิตฺวา ปุน ‘‘ทุทฺโธต’’นฺติ มญฺญมานา โธวติ, อนาปตฺติยา ภวิตพฺพํ, ทุติยวารํ อวุตฺตา โธวติ นาม โหตีติ? วุจฺจเต – สเจ ภิกฺขุ ‘‘อลํ เอตฺตาวตา โธเตนา’’ติ ปฏิกฺขิปติ, ปุน โธวนฺตี อวุตฺตา โธวติ นามาติ ยุชฺชติฯ โน เจ, วุตฺตาว โหตีติ เวทิตพฺพํฯ ภิกฺขุสฺส ลิงฺคปริวตฺตเน เอกโตอุปสมฺปนฺนาย วเสน อาปตฺติ สากิยานีนํ วิยฯ

[506] เอเกน วตฺถุนาติ เยน เกนจิ ปฐเมนฯ ‘‘ติณฺณํ จตุกฺกานํ วเสนา’’ติ ปาโฐฯ ภิกฺขูนํ สนฺติเก อฏฺฐวาจิกาย อุปสมฺปนฺนาย ปากฏตฺตา ตํ อวตฺวา สากิยานิโยว วุตฺตา อปากฏตฺตาฯ

ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

5. จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา

[508-510] อปญฺญตฺเต สิกฺขาปเทติ เอตฺถ ‘‘คณมฺหา โอหียนสิกฺขาปเท’’ติ ลิขิตํฯ อรญฺญวาสีนิเสธนสิกฺขาปเท อปญฺญตฺเตติ เอเก, ‘‘ตํ น สุนฺทร’’นฺติ วทนฺติฯ วิหตฺถตายาติ อายาเสนฯ

[512] อุปจาโรติ ทฺวาทสหตฺโถฯ

มหาปจฺจริยํ, กุรุนฺทิยญฺจ วุตฺตนฺติ เอตฺถ รตฺติภาเค ธมฺมกถิกสฺส ภิกฺขุโน พหูสุ จีวเรสุ มหาชเนน ปสาททานวเสน ปฏิกฺขิตฺเตสุ ปุนทิวเส ‘‘อุปาสกานํ ปสาททานานิ เอตานี’’ติ สุทฺธจิตฺเตน คณฺหนฺตสฺส โทโส นตฺถิ, ‘‘ภิกฺขุนีหิปิ ทินฺนานิ อิธ สนฺตี’’ติ ญตฺวา คณฺหโต โทโสฯ ตํ อจิตฺตกภาเวนาติ ภิกฺขุนีหิ ทินฺนภาวํ ญตฺวา พหูสุ ตสฺสา จีวรสฺส อชานเนนาติ อตฺโถฯ ปํสุกูลํ อธิฏฺฐหิตฺวาติ ‘‘ภิกฺขุนีหิ นุ โข ทินฺนํ สิยา’’ติ อวิกปฺเปตฺวา ‘‘ปํสุกูลํ คณฺหามี’’ติ คณฺหนฺตสฺส วฏฺฏติฯ กุรุนฺทิอาทีสุ วุตฺโตปิ อตฺโถ อยเมว, เอกํ, ‘‘อจิตฺตกภาเวนา’’ติ วจเนน ‘‘ยถา ตถา คณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อุปฺปโถว ปฏิเสธิโตติ อปเรฯ เอวํ ธมฺมสิริตฺเถโร น วทติ, อุชุกเมว วทตีติ ปปญฺจิตํฯ ตสฺเสว วิสโย, ตสฺสายํ อธิปฺปาโย – ยถา ‘‘ปํสุกูลํ คณฺหิสฺสตีติ ฐปิตํ กามํ ภิกฺขุนิสนฺตกมฺปิ อวิกปฺเปตฺวา ปํสุกูลํ อธิฏฺฐหิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ, ตถา ธมฺมกถิกสฺส ภิกฺขุนิยา ทินฺนมฺปิ อปญฺญายมานํ วฏฺฏตีติ, ตสฺมา ตํ วุตฺตํ มหาปจฺจริยํ, กุรุนฺทิยญฺจ อจิตฺตกภาเวน น สเมตีติฯ ปฏิกฺเขโป ปน วิกปฺปคฺคหเณ เอว รุหติฯ อญฺญถา ปุพฺพาปรํ วิรุชฺฌตีติฯ ตํ น ยุตฺตํ ปํสุกูเลน อสมานตฺตาฯ ปํสุกูลภาเวน สงฺการกูฏาทีสุ ฐปิตํ ภิกฺขุนีหิ, น ตํ ตสฺสา สนฺตกํ หุตฺวา ฐิตํ โหติฯ อสฺสามิกญฺหิ ปํสุกูลํ สพฺพสาธารณญฺจ, อญฺโญปิ คเหตุํ ลภติฯ อิทํ ปุพฺเพว ‘‘ภิกฺขุนีนํ จีวร’’นฺติ ชานิตฺวาปิ ปํสุกูลิโก คเหตุํ ลภติ ตทา ตสฺสา อสนฺตกตฺตาฯ ‘‘ปํสุกูลํ อธิฏฺฐหิตฺวา’’ติ สลฺเลขกฺกมนิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ มํสํ ททนฺเตน ตถาคเตน สลฺเลขโต กปฺปิยมฺปิ ภุตฺตํ นิสฺสคฺคิยํ จีวรมาห โย มํสํ กถนฺติ สยมาทิเสยฺยาติฯ

อจิตฺตกตฺตา กถํ ปํสุกูลํ วฏฺฏตีติ เจ? ตาย ตสฺส อทินฺนตฺตา, ภิกฺขุนาปิ ตโต ภิกฺขุนิโต อคฺคหิตตฺตา จฯ อสฺสามิกมฺปิ หิ ปํสุกูลํ อญฺญิสฺสา หตฺถโต คณฺหาติ, น วฏฺฏติ ‘‘อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา จีวรํ ปฏิคฺคณฺเหยฺยา’’ติ วุตฺตลกฺขณสมฺภวโตฯ อญฺญาติกาย สนฺตกํ ญาติกาย หตฺถโต คณฺหาติ, วฏฺฏตีติ เอเกฯ ยถา สิกฺขมานสามเณราทีนํ หตฺถโต ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส อนาปตฺติ, ตถา กงฺขาวิตรณิยญฺจ ‘‘อญฺญาติกาย หตฺถโต คหณ’’นฺติ (กงขา. อฏฺฐ. จีวรปฺปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา) องฺคํ วุตฺตํฯ

ตถา ญาติกาย สนฺตกํ สิกฺขมานาย, สามเณริยา, อุปาสกสฺส, อุปาสิกาย, ภิกฺขุสฺส, สามเณรสฺส สนฺตกํ อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา หตฺถโต คณฺหนฺตสฺส จ อนาปตฺติ เอวํ ยถาวุตฺตลกฺขณาสมฺภวโตติ เอเก, เตเนว ‘‘เอกโตอุปสมฺปนฺนาย จีวรํ ปฏิคฺคณฺหาตี’ติ อวตฺวา ‘หตฺถโต ปฏิคฺคณฺหาติ อญฺญตฺร ปาริวตฺตกา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’ติ (ปารา. 513) วุตฺตํ, ตสฺมา อญฺญาติกาย สนฺตกมฺปิ เอกโตอุปสมฺปนฺนาย หตฺถโต ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏ’’นฺติ วทนฺติ, อุโภเปเต น สารโต ทฏฺฐพฺพา, การณํ ปริเยสิตพฺพํฯ

[514] โก ปน วาโท ปตฺตตฺถวิกาทีสูติ อนธิฏฺฐาตพฺเพสุ พหูสุ ปฏเลสุฯ เตเนวาห มาติกาฏฺฐกถายํ ‘‘ปตฺตตฺถวิกาทิมฺหิ อนธิฏฺฐาตพฺพปริกฺขาเร’’ติฯ อธิฏฺฐานุปเคสุ วา เตสํ ปริกฺขารตฺตา ภิสิฉวิยา วิย อนาปตฺติฯ กิํ ปฏปริสฺสาวนํ ปริกฺขารํ น โหตีติ? โหติ, กินฺตุ ตํ กิร นิวาสนาทิจีวรสณฺฐานตฺตา น วฏฺฏติฯ ตสฺมา อิธ นิวาสนาทิจีวรสาธนํ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมํ จีวรํ นามฯ อนนฺตราตีเต นิวาสนปารุปนุปคเมวาติ สนฺนิฏฺฐานํฯ เอวํ สนฺเต กงฺขาวิตรณิยํ (กงฺขา. อฏฺฐ. จีวรปฺปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา) กปฺปนุปคปจฺฉิมตา, ปาริวตฺตกาภาโว, อญฺญาติกาย หตฺถโต คหณนฺติ ตีเณว องฺคานิ อวตฺวา อปริกฺขารตาติ จตุตฺถมงฺคํ วตฺตพฺพนฺติ เจ? น วตฺตพฺพํ, อิมสฺมิํ สิกฺขาปเท ปตฺตตฺถวิกาทิปริกฺขารสฺส อจีวรสงฺขฺยตฺตาฯ ปฐมกถินาทีสุ วิกปฺปนุปคตา ปมาณํ, อิธ กายปริโภคุปคตาติฯ ‘‘อญฺญํ ปริกฺขาร’’นฺติ อุทฺธริตฺวา ‘‘ปตฺตตฺถวิกาทิํ ยํกิญฺจี’’ติ วุตฺตตฺตา วิกปฺปนุปคมฺปิ ปตฺตตฺถวิกาทิํ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, ‘‘ปฏปริสฺสาวนมฺปี’’ติ วุตฺตฏฺฐาเน จ ‘‘จีวรํ นาม วิกปฺปนุปคปจฺฉิม’’นฺติ วจนโต ปฏปริสฺสาวนํ จีวรเมว, น ปริกฺขารํฯ ‘‘โก ปน วาโทติ นิคมนวจนมฺปิ สาธก’’นฺติ เกจิ วทนฺติ, ปณฺณตฺติํ อชานนโต อจิตฺตกํ, น วตฺถุํ, ‘‘อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา สนฺตกภาวาชานนโต, จีวรภาวาชานนโต จ อจิตฺตก’’นฺติ อนุคณฺฐิปเท วุตฺตํฯ

จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

6. อญฺญาตกวิญฺญตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา

[515] ปริกฺขารานนฺติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํฯ เอกสาฏกนฺติ ภาวนปุํสกํ, ‘‘อญฺญาตโก โมฆปุริสา’’ติ วจเนน ปวาริโตปิ อทาตุกาโม อญฺญาตโก อปฺปวาริตฏฺฐาเน ติฏฺฐตีติ ทีปิตํ โหติฯ อญฺญถา ‘‘อนาปตฺติ ปวาริตาน’’นฺติ อิมินา วิรุชฺฌติฯ

[517] เนว ตาว วิญฺญาเปตพฺพํ, น ภญฺชิตพฺพนฺติ อนจฺฉินฺนานํ จีวรานํ อตฺตโน สนฺตกานํ อตฺถิตาย, ตตฺถ ปจฺจาสาสพฺภาวโต จฯ ปจฺจาสา กิตฺตกํ กาลํ รกฺขตีติ? ยาว คามนฺตรา, ยาว อทฺธโยชนาติ เอเกฯ ยาว ทสฺสนสวนูปจาราติ เอเกฯ ยาว อญฺเญ น ปสฺสนฺตีติ เอเกฯ ยาว ปจฺจาสา ฉิชฺชตีติ เอเกฯ ยาว สาขาปลาสปริเยสนภญฺชนสชฺชนกาลปริจฺเฉทาติ เอเกฯ อิทํ สพฺพํ ยถาสมฺภวํ ยุชฺชติฯ กถํ ปญฺญายตีติ เจ? ‘‘สเจ ปน เอเตสํ วุตฺตปฺปการานํ คิหิวตฺถาทีนํ ภิสิฉวิปริยนฺตานํ กิญฺจิ น ลพฺภติ, เตน ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพ’’นฺติ อฏฺฐกถาวจนโตฯ

น ตาว เถรานํ ทาตพฺพานีติ น ตาว อตฺตโน รุจิยา ทาตพฺพานิ, ยทา เถรา ‘‘เทถาวุโส’’ติ วทนฺติ, ตทา ทาตพฺพานิฯ ‘‘เอวํ สติ ทหราปิ อจฺฉินฺนจีวรฏฺฐาเน ติฏฺฐนฺติ, สาขาปลาสํ ภญฺชิตุํ วฏฺฏติ, น อญฺญถาฯ ‘เยหิ เกหิจิ วา อจฺฉินฺนํ โหตี’ติ หิ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํฯ อาจริโย ปน เอวํ วทติ ‘‘อตฺตโน รุจิยาปิ ทาตุํ ลภนฺตี’’ติฯ ตถา หิ อฏฺฐกถายํ ‘‘ปริโภคชิณฺณํ วา’ติ เอตฺถ จ ‘อจฺฉินฺนจีวรานํ อาจริยุปชฺฌายาทีนํ อตฺตนา ติณปณฺเณหิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ทินฺนจีวรมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉตี’ติ วตฺตุํ ยุชฺชตี’’ติ วุตฺตํฯ อถาปิ สิยา อาจริยาทีหิ ‘‘อาหราวุโส’’ติ วุตฺเตเยว, นาวุตฺเตติ, น, ‘‘เกหิจิ วา อจฺฉินฺน’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตเลสโต ทุติยเลสสฺส อวิเสสภาวปฺปสงฺคโตติฯ อถ กิมตฺถํ ‘‘น ตาว เถรานํ ทาตพฺพานี’’ติ วุตฺตนฺติ เจ? ยาว เถรานํ อตฺถาย สาขาปลาสานิ ภญฺชติ, ตาว น ทาตพฺพานิ, ตโต ตานิ เถรุทฺทิสฺสกานิ สาขาปลาสานิ สยํ ปริทหิตฺวา วินาปิ เถราณตฺติยา อตฺตโน รุจิยา ทาตพฺพานิ, ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติยํ น โหติ สตฺถุนาปิ อนุญฺญาตตฺตาฯ