เมนู

2. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา

[471] สนฺตรุตฺตเรน ชนปทจาริกํ ปกฺกมนฺติฯ กสฺมา? กิญฺจาปิ ‘‘น, ภิกฺขเว, สนฺตรุตฺตเรน คาโม ปวิสิตพฺโพ, โย ปวิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. 362) ปฐมํ วุตฺตํฯ ปจฺฉา ปน ‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, ปจฺจยา สงฺฆาฏิยา นิกฺเขปาย, อุตฺตราสงฺคสฺส, อนฺตรวาสกสฺส นิกฺเขปาย คิลาโน วา โหติ, วสฺสิกสงฺเกตํ วา, นทีปารํ คนฺตุํ วา, อคฺคฬคุตฺติวิหาโร วา, อตฺถตกถินํ วา โหตี’’ติ วุตฺตตฺตา, อฏฺฐกถายมฺปิสฺส ‘‘ปญฺจสุ เปเตสุ อคฺคฬคุตฺติ เอว ปมาณํฯ คุตฺเต เอว หิ วิหาเร นิกฺขิปิตฺวา พหิ คนฺตุํ วฏฺฏติ, นาคุตฺเต’’ติ วุตฺตตฺตา อปญฺญตฺเตปิ กถิเน ‘‘เต ภิกฺขู อคฺคฬคุตฺติวิหาเร ฐเปถา’’ติ วตฺวา สภาคานํ หตฺเถ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา สนฺตรุตฺตเรน คามปฺปเวเส ลทฺธกปฺปิยา ชนปทจาริกํ ปกฺกามิํสูติ เวทิตพฺพํฯ

[473] อวิปฺปวาสสมฺมุตินฺติ อวิปฺปวาสตฺถํ, วิปฺปวาสปจฺจยา ยา อาปตฺติ, ตทภาวตฺถํ วา สมฺมุติํ ทาตุนฺติ อตฺโถฯ ตโต ปฏฺฐาย วฏฺฏติฯ กิตฺตกํ กาลํ วฏฺฏตีติ? มาสํ วา อติเรกํ วา ยาว คมเน สอุสฺสาโห, ตาว วฏฺฏติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ธุรนิกฺเขปํ กโรนฺเตน ปจฺจุทฺธริตพฺพ’’นฺติฯ ปุน สมฺมุติทานกิจฺจํ นตฺถีติ สเจ ทฺวาทสนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน อญฺโญ โรโค โหติ, วฏฺฏติ, อุปสมฺปทกมฺมํ วิย ยาวชีวํ เอกาสมฺมุติ วฏฺฏตีติ จฯ

‘‘กตํ วา โหตี’’ติอาทิ อิมสฺมิํ สิกฺขาปเท น วตฺตพฺพํ, กสฺมา? กรณปลิโพเธ อุปจฺฉินฺเนปิ อนธิฏฺฐิตจีวรโต วิปฺปวาสปจฺจยา อาปตฺติยา อสมฺภวโต, ตสฺมา ‘‘นิฏฺฐิตจีวรสฺมินฺติ ภิกฺขุโน จีวรํ อธิฏฺฐิตํ โหตี’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพนฺติ เจ? น, ตทายตฺตตฺตา ฯ อธิฏฺฐานญฺหิ กรณปลิโพธสฺส นิฏฺฐาปนายตฺตํ, ตสฺมา ‘‘กตํ วาติอาทิ วุตฺต’’นฺติ จ วุตฺตํฯ ตตฺถ กตนฺติ ปุพฺเพ วุตฺตเมวฯ

[477-8] อวิปฺปวาสลกฺขณววตฺถาปนตฺถนฺติ เอตฺถ ‘‘อนฺโตคาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺโตคาเม วตฺถพฺพ’’นฺติอาทิวจนโต อวิปฺปวาสลกฺขณํ ววตฺถาปิตํ, ตพฺพิปรีตนเยน วิปฺปวาสลกฺขณํ เวทิตพฺพํฯ คาโม เอกูปจาโรติอาทิมฺหิ ปน ฐเปตฺวา สตฺถํ, รุกฺขมูลํ, อชฺโฌกาสญฺจ เสเสสุ ปริกฺเขปาปริกฺเขปวเสน เอกูปจารนานูปจารตา เวทิตพฺพาฯ

ยสฺมา ปน สตฺถํ ทุวิธํ นิวิฏฺฐํ, อนิวิฏฺฐญฺจ, เตสุ อนิวิฏฺฐํ เอกกุลสฺส วา นานากุลสฺส วา อปริกฺขิตฺตเมว โหติ, นิวิฏฺฐํ สิยา ปริกฺขิตฺตํ, สิยา อปริกฺขิตฺตํ, ตสฺมา ตตฺถ ปริกฺเขปาทิวเสน อทสฺเสตฺวา อพฺภนฺตรวเสน วุตฺโตฯ ตถา อพฺโภกาเสฯ รุกฺขมูเล ฉายาวเสนฯ อญฺญถา ‘‘สตฺโถ เอกูปจาโร นานูปจาโร’’ติอาทิ อุทฺเทสวิโรโธ สิยา วิภงฺเค อทสฺสิตตฺตา, ตสฺมา สตฺถสฺส ปุรโต จ ปจฺฉโต จ สตฺตพฺภนฺตรา, ปสฺสโต จ เอกพฺภนฺตรนฺติ อยเมกูปจาโร, ตโต ปรํ นานูปจาโรฯ ตถา รุกฺขมูลสฺส ยตฺถ มชฺฌนฺหิเก กาเล ฉายา ผรติ, อยํ เอกูปจาโรฯ อิตโร นานูปจาโรฯ กสฺมา? ตตฺถ หิ ปริกฺเขโป อปฺปมาณํฯ ฉายาว ปมาณํฯ อชฺโฌกาสสฺส ปาฬิยํ วุตฺโตวฯ ‘‘สตฺถาทีนํ เอกกุลสนฺตกวเสน เอกูปจารตา’’ติ ลิขิตํ, ตสฺมา นิเวสเน, อุโทสิเต จ วุตฺตปริจฺเฉโทว อฏฺฏาทีสูติ กตฺวา สํขิตฺตํฯ ตโต ปรํ เขตฺตธญฺญกรณอารามวิหาเรสุ ปน ปริกฺขิตฺตาปริกฺขิตฺต-ปทํ ปุน อุทฺธฏํ สตฺถวิภงฺเคน อธิการสฺส ปจฺฉินฺนตฺตาฯ ‘‘นานาคพฺภา’’ติอาทิวจนํ ปน อสมฺภวโต เขตฺตธญฺญกรณอาราเมสุ น อุทฺธฏํฯ วิหาเร สมฺภวนฺตมฺปิ ตตฺถ ปจฺฉินฺนตฺตา น อุทฺธฏํฯ กุลํ วุจฺจติ สามิโก, ตสฺมา ‘‘เอกกุลสฺส นานากุลสฺสา’’ติ อิมินา คามาทีนํ จุทฺทสนฺนํ จีวรนิกฺเขปฏฺฐานานํ สาธารณาสาธารณภาวํ ทีเปติฯ อชฺโฌกาสสฺส ปน อสมฺภวโต น วุตฺตํฯ ยสฺมา ปเนตฺถ เอกกุลสฺส, นานากุลสฺส จ อปริกฺขิตฺเตสุ คามาทีสุ ปริหารวิเสโส กิญฺจาปิ นตฺถิ, ปริกฺขิตฺเตสุ ปน อตฺถิ, ตสฺมา เอกนานากุลคฺคหณํ, เอกนานูปจารคฺคหณญฺจ สาตฺถกนฺติ เวทิตพฺพํฯ ตตฺถปิ อยํ วิเสโส – สตฺเถ, รุกฺขมูเล จ กุลเภทโตว เภโท, โนปจารเภทโตฯ อชฺโฌกาเส อุปจารเภทโต จ, โส ปน ปาฬิยํ น ทสฺสิโตติฯ ‘‘ตํ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวาติ วจนโต อากาเสปิ อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาเณ โทโส นตฺถี’’ติ วทนฺติฯ

[479] ‘‘สภา’’ติ อิตฺถิลิงฺคํฯ ‘‘สภาย’’นฺติ นปุํสกลิงฺคํ, เตน วุตฺตํ ‘‘ลิงฺคพฺยตฺตนเยนา’’ติฯ นปุํสกลิงฺคทสฺสนตฺถํ กิร ‘‘สภาย’’นฺติ ปจฺจตฺตวเสน นิทฺทิฏฺฐํ, ตสฺส อนุปโยคตฺตา ‘‘ทฺวารมูล’’นฺติปิฯ อตฺตโน นิกฺขิตฺตฏฺฐาเน อนิกฺขิตฺตตฺตา วีถิหตฺถปาโส น รกฺขติ, ยสฺมิํ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมิํ ฆเร วตฺถพฺพํฯ

‘‘สภาเย วา วตฺถพฺพํ ทฺวารมูเล วา, หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพ’’นฺติ หิ วุตฺตํฯ ‘‘หตฺถปาเสเยว อรุณํ อุฏฺฐเปตพฺพ’’นฺติ นิยมิตตฺตา ชานิตุํ น สกฺกาติ เจ? อนฺโตฆเร น สกฺกา, ตถา ตถา วุตฺตตฺตา, ตสฺมา ‘‘ยุตฺติ ปมาณ’’นฺติ วุตฺตํฯ อยมตฺโถ อฏฺฐกถายมฺปิ ปกาสิโต, ปุนปิ ขุทฺทกคาเม สพฺพสาธารณคามทฺวารวเสนฯ สเจ ตสฺส ทฺวารทฺวยํ โหติ, มชฺเฌ จ ฆรสภายํ, ยตฺถิจฺฉติ, ตตฺถ วสิตพฺพ’’นฺติฯ

[480-1] ยานิ นิเวสนาทีนิ คามสงฺขฺยํ น คจฺฉนฺติ, ตานิ นิเวสนาทีนีติ อธิปฺเปตานิฯ อชฺโฌกาเส อปริสงฺกิตมฺปิ จีวรํ อติเรกสตฺตพฺภนฺตเร นิกฺขิตฺตํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, เอตฺถ อนฺโตสีมตา น รกฺขติ, สตฺเถ ปน รกฺขติฯ ‘‘นทีปริหาโร จ ลพฺภตี’’ติ วจนโต อุทกุกฺเขปสีมายํ ปริหาโร ลพฺภตีติ สิทฺธํฯ สามนฺตวิหาโร เจ เอกสีโม, จีวรํ น นิสฺสคฺคิยํฯ

อิทานิ –

‘‘ฉินฺนํ ธุตงฺคํ สาสงฺก-สมฺมโต สนฺตรุตฺตรํ;

อจีวรสฺสานาปตฺติ, ปจฺจุทฺธาราทิสิทฺธิโต’’ติฯ –

อิทํ ปกิณฺณกํ, ตตฺถายํ โจทนาปุพฺพงฺคโม วินิจฺฉโย – เกจิ ‘‘ทิคุณํ สงฺฆาฏิ’’นฺติ (มหาว. 348) วจนโต ‘‘เอกจฺจิกา สงฺฆาฏิปิ นาธิฏฺฐาตพฺพาฯ สเจ อธิฏฺฐาติ น รุหตี’’ติ วตฺวา อุปสมฺปทาเปกฺขานมฺปิ ทิคุณเมว สงฺฆาฏิํ ทตฺวา อุปสมฺปาเทนฺติ, เต อิมินา สุตฺตเลเสน สญฺญาเปตพฺพาฯ ภควตา หิ ‘‘ฉินฺนกํ สงฺฆาฏิํ ฉินฺนกํ อุตฺตราสงฺคํ ฉินฺนกํ อนฺตรวาสก’’นฺติ ปฐมํ อนุญฺญาตํฯ ตโต ‘‘อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน ติจีวเร กริยมาเน สพฺพํ ฉินฺนกํ นปฺปโหติฯ ทฺเว ฉินฺนกานิ เอกํ อจฺฉินฺนกํ นปฺปโหติฯ ทฺเว อจฺฉินฺนกานิ เอกํ ฉินฺนกํ นปฺปโหตี’’ติ อิมสฺมิํ วตฺถุสฺมิํ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อนฺวาธิกมฺปิ อาโรเปตุ’’นฺติ (มหาว. 360) อนุญฺญาตํ, ตสฺมา เอกจฺจิกาปิ สงฺฆาฏิ วฏฺฏตีติ สิทฺธํฯ ยา ฉิชฺชมานา นปฺปโหติ, ตสฺสา กุโต ทิคุณตาติฯ อฏฺฐกถายมฺปิสฺส วุตฺตํ ‘‘อนฺวาธิกมฺปิ อาโรเปตุนฺติ อาคนฺตุกปตฺตมฺปิ ทาตุํฯ อิทํ ปน อปฺปโหนเก อาโรเปตพฺพํฯ สเจ ปโหติ, อาคนฺตุกปตฺตํ น วฏฺฏติ, ฉินฺทิตพฺพเมวา’’ติ (มหาว. อฏฺฐ. 360)ฯ กถินํ ปน ฉินฺนกเมว วฏฺฏติ อาเวณิกลกฺขณตฺตา , ‘‘ฉินฺนกํ ทิคุณํ นปฺปโหตี’’ติ วจนาภาวโต จาติ สนฺนิฏฺฐานเมตฺถ คนฺตพฺพํฯ

ธุตงฺคนฺติ อนุปสมฺปนฺนานํ เตจีวริกธุตงฺคาภาวโต ติจีวเรเนว เตจีวริโกติฯ เตสํ อธิฏฺฐานาภาวโต ‘‘อธิฏฺฐิเตเนวา’’ติ วตฺตพฺพํ โหตูติ เจ? น, ธุตงฺคเภเทน วิโรธปฺปสงฺคโตฯ จตุตฺถจีวรสาทิยเนน หิ ธุตงฺคเภโท, น ติจีวรวิปฺปวาเสน, นาปิ อติเรกจีวรสาทิยเนน, นาปิ อติเรกจีวรธารเณนฯ ยสฺมา ปน ภิกฺขูนํเยว ภควตา อธิฏฺฐานวเสน นว จีวรานิ อนุญฺญาตานิ, ชาติวเสน จ วุตฺตานิ, น เอวํ อนุปสมฺปนฺนานํฯ ตสฺมา เตสํ จีวรนิยมาภาวา น ตํ ธุตงฺคํ อนุญฺญาตํ คหฏฺฐานํ วิย, ตสฺมา ตสฺส สมาทานวิธาเน อวจนโต จ สนฺนิฏฺฐานเมตฺถ คนฺตพฺพํฯ

สาสงฺกสมฺมโตติ กงฺขาวิตรณิยํ สาสงฺกสิกฺขาปเท วิสุํ องฺคานิ น วุตฺตานิ, ‘‘เสสเมตฺถ จีวรวคฺคสฺส ทุติยสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน เวทิตพฺพ’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺฐ. สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตํ, น จ ปเนตํ วุตฺตํฯ ตตฺถ รตฺติวิปฺปวาโส จตุตฺถํ องฺคํ, อิธ ฉารตฺตวิปฺปวาโส, อยเมตฺถ วิเสโสติ, ตสฺมา องฺคสามญฺญโต, สมฺมุติสามญฺญโต จ สาสงฺกสิกฺขาปทเมว วทนฺติฯ อิทํ นิปฺปเทสํ, ตํ สปฺปเทสํ มาสปรมตฺตาฯ ตตฺถ พหิคาเมปิ คามสีมํ โอกฺกมิตฺวา วสิตฺวา ปกฺกมนฺตสฺส อนาปตฺติ, อิธ น ตถา, อิธ อนนฺตเร อนนฺตเร อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิยํ, ตตฺถ สตฺตเมติ อยํ อิเมสํ ทฺวินฺนํ วิเสโสฯ องฺคานิ ปน จีวรนิกฺเขปงฺคสมฺปตฺติโต วิปริยาเยน, อิธ วุตฺตนเยน จ สิทฺธตฺตา น วุตฺตานิฯ ตานิ กามํ น วุตฺตานิ, ตถาปิ จตุตฺถมงฺคํ วิเสสิตพฺพํ, น ปน วิเสสิตํฯ กิํการณา? อิธ วุตฺตนิสฺสชฺชนกฺกเมน นิสฺสชฺเชตฺวา อาปตฺติเทสนโต, ตตฺถาปนฺนาปตฺติวิโมกฺขทีปนตฺถํฯ สํวจฺฉรวิปฺปวุตฺถมฺปิ รตฺติวิปฺปวุตฺถเมว, ปเคว ฉารตฺตํ วิปฺปวุตฺถํฯ เอวํ สนฺเตปิ ตตฺถ ยถาวุตฺตองฺคสมฺปตฺติยา สติ ตตฺถ วุตฺตนเยเนว นิสฺสชฺชิตพฺพํฯ เหมนฺเต วา คิมฺเห วา นิสฺสชฺชติ เจ? อิธ วุตฺตนเยนาปิ นิสฺสชฺชิตุํ วฏฺฏตีติ ญาปนตฺถํ จตุตฺถํ องฺคํ น วิเสสิตนฺติ โน ตกฺโกติ อาจริโยฯ มาสาติกฺกนฺตมฺปิ จีวรํ ‘‘ทสาหาติกฺกนฺต’’นฺติ วตฺวา นิสฺสฏฺฐเมวฯ ทฺวเยน อูนมาสํ หุตฺวา ‘‘ทสาหาติกฺกนฺต’’นฺติ วตฺวา มาสาติกฺกนฺตนฺติ เอเกฯ ตถาปิ สเจ ปจฺจาสาจีวรํ โหติ, นิสฺสคฺคิยํ ‘‘ทสาหาติกฺกนฺต’’นฺติ วตฺวา, มูลจีวรํ ปน ‘‘มาสาติกฺกนฺต’’นฺติ วตฺวา นิสฺสชฺชิตพฺพํฯ

‘‘สนฺตรุตฺตร’’นฺติ วา ‘‘สงฺฆาฏิ’’นฺติ วา ‘‘จีวร’’นฺติ วา กิํ ติจีวรํ, อุทาหุ อญฺญมฺปีติ ฯ กิญฺเจตฺถ – ยทิ ติจีวรเมว ปฏิสิทฺธํ, ปริยาปนฺนวเสน อจฺฉินฺนจีวรจฺฉินฺทนโธวาปนวิญฺญตฺติอาทิวิโรโธฯ อถ อญฺญมฺปิ, ‘‘นิฏฺฐิตจีวรสฺมิ’’นฺติ เอวมาทินา วิโรโธติ? วุจฺจเต – น นิยมโต เวทิตพฺพํ ยถาสมฺภวํ คเหตพฺพโตฯ ตถา หิ ‘‘จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา สนฺตรุตฺตเรน ชนปทจาริกํ ปกฺกมนฺตี’’ติ (ปารา. 471) เอวมาทีสุ ติจีวรเมวฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, สนฺตรุตฺตเรน คาโม ปวิสิตพฺโพ, สนฺตรุตฺตรปรมํ ตโต จีวรํ สาธิตพฺพ’’นฺติ เอวมาทีสุ ยํกิญฺจิ, ตถา สคุณํ กตฺวา สงฺฆาฏิโย ทาตพฺพา, นิวาสนํ ทาตพฺพํ, สงฺฆาฏิ ทาตพฺพา, หนฺท เต, อาวุโส, สงฺฆาฏิ, เทหิ เม ปฏนฺติอาทีสุฯ วุตฺตญฺเหตํ ‘‘สพฺพญฺหิ จีวรํ สงฺฆฏิตฏฺเฐน ‘สงฺฆาฏี’ติ วุจฺจตี’’ติฯ ตถา ‘‘นิฏฺฐิตจีวรสฺมิ’’นฺติ เอตฺถาปีติ เอเกฯ อนฺโตสมเย หิ ยาวทตฺถํ จีวรํ อนุญฺญาตํ, ตํ สพฺพํ กริยมานํ กทา นิฏฺฐานํ คจฺฉิสฺสติ, ตสฺมา ติจีวรเมวาติ เอเกฯ อจีวรสฺสานาปตฺติ ปจฺจุทฺธาราทิสิทฺธิโตติ กิํ วุตฺตํ โหติ? อุโทสิตสิกฺขาปทสฺส นิปฺปโยชนภาวปฺปสงฺคโต ติจีวรวิปฺปวาเส เตจีวรสฺส อาปตฺตีติ เอเกฯ ตตฺเถตํ วุจฺจติ น โหติ อาปตฺติ ปจฺจุทฺธาราทิสิทฺธิโตฯ ‘‘อนาปตฺติ อนฺโตอรุเณ ปจฺจุทฺธรติ, วิสฺสชฺเชตี’’ติ หิ วุตฺตํฯ อญฺญถา ปจฺจุทฺธรนฺตสฺส, อนฺโตอรุเณ วิสฺสชฺเชนฺตสฺส จ ยาว อญฺโญ นาธิฏฺฐาติ, ตาว อาปตฺติํ อาปชฺชติ ยถาวุตฺตนเยนฯ อญฺญถา สตฺตพฺภนฺตเรน วิปฺปวาสสฺสาติ วิปฺปวาสโต ยถารุตํเยว สติ วิปฺปวาเส วิปฺปวาสโต อวิปฺปวาเส สติ อวิปฺปวาสโตติฯ

อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

3. ตติยกถินสิกฺขาปทวณฺณนา

[497] นปฺปโหตีติ ลามกปริจฺเฉทํ น ปาปุณาติ, เตเนว ติจีวรสฺส มุฏฺฐิปญฺจกาทิลามกปริจฺเฉโทว ตาว วุตฺโตฯ จีวเร ปจฺจาสา จีวรปจฺจาสาฯ เตเนตํ ทีเปติ – ตํ จีวรํ ปจฺฉา ลพฺภตุ วา มา วา, ยาว สา ปจฺจาสา ฉิชฺชติ, ตาว อิทํ มูลจีวรํ ฐเปตุํ อนุชานามีติฯ ‘‘จีวรปจฺจาสา’’ติ มริยาทตฺเถ นิสฺสกฺกวจนํ, ภุมฺมตฺเถ วา ปจฺจตฺตวจนํ กตํฯ