เมนู

เอวํ สนฺเต อญฺญํ ‘‘เอวํ กโรหี’’ติ อาณตฺติยาปิ อาปตฺติ สิยาติ สงฺกรํ โหติฯ ตสฺมา น วุตฺตนฺติ คเหตพฺพนฺติ เกจิฯ

[267] ‘‘ปุปฺผาวลิยํ สาสวฬิย’’นฺติ ทุวิโธ กิรฯ

สุกฺกวิสฺสฏฺฐิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

2. กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา

[270] ‘‘โอติณฺโณ’’ติ อิมินาสฺส เสวนาธิปฺปายตา ทสฺสิตาฯ ‘‘วิปริณเตน จิตฺเตน มาตุคาเมน สทฺธิ’’นฺติ อิมินาสฺส วายาโม ทสฺสิโตฯ ‘‘สทฺธิ’’นฺติ หิ ปทํ สํโยคํ ทีเปติ, โส จ ปโยโค สมาคโม อลฺลียนํฯ เกน จิตฺเตน? วิปริณเตน จิตฺเตน, น ปตฺตปฏิคฺคหณาธิปฺปายาทินาติ อธิปฺปาโยฯ ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ อิมินาสฺส วายมโต ผสฺสปฏิวิชานนา ทสฺสิตา โหติฯ วายมิตฺวา ผสฺสํ ปฏิวิชานนฺโต หิ สมาปชฺชติ นามฯ เอวมสฺส ติวงฺคสมฺปตฺติ ทสฺสิตา โหติฯ อถ วา โอติณฺโณฯ เกน? วิปริณเตน จิตฺเตน ยกฺขาทินา สตฺโต วิยฯ อุปโยคตฺเถ วา เอตํ กรณวจนํฯ โอติณฺโณ วิปริณตํ จิตฺตํ กูปาทิํ วิย สตฺโตฯ อถ วา ‘‘ราคโต อุตฺติณฺโณ ภวิสฺสามี’’ติ ภิกฺขุภาวํ อุปคโต, ตโต อุตฺติณฺณาธิปฺปายโต วิปริณเตน จิตฺเตน เหตุภูเตน ตเมว ราคํ โอติณฺโณฯ มาตุคาเมน อตฺตโน สมีปํ อาคเตน, อตฺตนา อุปคเตน วาฯ เอเตน มาตุคามสฺส สารตฺตตา วา โหตุ วิรตฺตตา วา, สา อิธ อปฺปมาณา, น ภิกฺขุนีนํ กายสํสคฺเค วิย อุภินฺนํ สารตฺตตาย ปโยชนํ อตฺถิฯ

กายสํสคฺคนฺติ อุภินฺนํ กายานํ สมฺปโยคํฯ ปทภาชเน ปน ‘‘สมาปชฺเชยฺยาติ อชฺฌาจาโร วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ สมาปชฺชนํ สนฺธาย, น กายสํสคฺคํฯ กายสํสคฺคสฺส สมาปชฺชนา หิ ‘‘อชฺฌาจาโร’’ติ วุจฺจติฯ

อฏฺฐกถายํ ปน ‘‘โย โส กายสํสคฺโค นาม, โส อตฺถโต อชฺฌาจาโร โหตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปรโต ปาฬิยํ ‘‘เสวนาธิปฺปาโย, น จ กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อนาปตฺตี’’ติ (ปารา. 279) วุตฺตลกฺขเณน วิรุชฺฌตีติฯ ผสฺสปฏิวิชานนาย หิ สํสคฺโค ทีปิโตฯ โส เจ อชฺฌาจาโร โหติ, กถํ อนาปตฺติ โหตีติฯ สุวุตฺตเมตํ, กินฺตุ ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา ‘‘อชฺฌาจาโร วุจฺจตี’’ติ อุภินฺนมฺปิ ปทานํ สามญฺญภาชนียตฺตา, สมาปชฺชิตพฺพาภาเว สมาปชฺชนาภาเวน ‘‘โส อตฺถโต อชฺฌาจาโร โหตี’’ติ วุตฺตํ สิยาฯ

‘‘หตฺถคฺคาหํ วา’’ติ เอตฺถ หตฺเถน สพฺโพปิ อุปาทินฺนโก กาโย สงฺคหิโต, น ภินฺนสนฺตาโน ตปฺปฏิพทฺโธ หตฺถาลงฺการาทิฯ เวณิคฺคหเณน อนุปาทินฺนโก อภินฺนสนฺตาโน เกสโลมนขทนฺตาทิโก กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺฐาโน คหิโตติ เวทิตพฺพํฯ เตเนวาห อฏฺฐกถายํ ‘‘อนุปาทินฺนเกนปิ เกนจิ เกสาทินา อุปาทินฺนกํ วา อนุปาทินฺนกํ วา ผุสนฺโตปิ สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติเยวา’’ติ (ปารา. อฏฺฐ. 2.274)ฯ เตน อนุปาทินฺนกานมฺปิ เกสโลมาทีนํ องฺคภาโว เวทิตพฺโพฯ เอวํ สนฺเตปิ ‘‘ผสฺสํ ปฏิชานาตีติ ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโสฯ ผสฺสสฺส อปฺปฏิวิชานนโต ทุวงฺคสมฺปตฺติยา ทุกฺกฏ’’นฺติ อิมินา ปาฬิอฏฺฐกถานเยน วิรุชฺฌตีติ เจ? น, ตทตฺถชานนโตฯ ผุฏฺฐภาวญฺหิ ปฏิวิชานนฺโตปิ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ นาม, อยเมโก อตฺโถ, ตสฺมา มาตุคามสฺส, อตฺตโน จ กายปริยาปนฺนานํ เกสาทีนํ อญฺญมญฺญํ ผุฏฺฐภาวํ ผุสิตฺวา ตํ สาทิยนํ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ นาม, น กายวิญฺญาณุปฺปตฺติยา เอวฯ อเนกนฺติกญฺเหตฺถ กายวิญฺญาณํฯ มาตุคามสฺส อุปาทินฺนเกน กาเยน, อนุปาทินฺนเกน วา กาเยน ภิกฺขุโน อุปาทินฺนกกาเย ผุฏฺเฐ ปสนฺนกายินฺทฺริโย เจ โหติ, ตสฺส กายวิญฺญาณํ อุปฺปชฺชติ, เตเนว ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ นาม โส โหติฯ อนุปาทินฺนกกาโย, โลลุปฺโป อปฺปสนฺนกายินฺทฺริโย วา โหติ, ติมิรวาเตน อุปหตกาโย วา ตสฺส กายวิญฺญาณํ นุปฺปชฺชติฯ น จ เตน ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ นาม, เกวลํ เสวนาธิปฺปาเยน วายมิตฺวา กายสํสคฺคํ สมาปชฺชนฺโต ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ นาม มโนวิญฺญาเณน, เตน วุตฺตํ ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยาติ อิมินาสฺส วายมโต ผสฺสปฏิวิชานนา ทสฺสิตา’’ติฯ

อปโรปิ ภิกฺขุ มาตุคามสฺส กายปฏิพทฺเธน วา นิสฺสคฺคิเยน วา ผุฏฺโฐ กายวิญฺญาณํ อุปฺปาเทนฺเตน ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ นาม, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อเนกนฺติกญฺเหตฺถ กายวิญฺญาณ’’นฺติฯ อปโร วตฺถํ ปารุปิตฺวา นิทฺทายนฺตํ มาตุคามํ กายสํสคฺคราเคน วตฺถสฺส อุปริภาเค สณิกํ ผุสนฺโต วตฺถนฺตเรน นิกฺขนฺตโลมสมฺผสฺสํ อปฺปฏิวิชานนฺโตปิ เสวนาธิปฺปาโย กาเยน วายมิตฺวา ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ นาม, สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติฯ ‘‘นีลํ ฆฏฺเฏสฺสามีติ กายํ ฆฏฺเฏติ, สงฺฆาทิเสโส’’ติ หิ วุตฺตํฯ อยํ ทุติโย อตฺโถฯ เอวํ อเนกตฺถตฺตา, เอวํ ทุวิญฺเญยฺยาธิปฺปายโต จ มาติกาฏฺฐกถายํ ผสฺสปฏิวิชานนํ องฺคนฺเตฺวว น วุตฺตํฯ ตสฺมิญฺหิ วุตฺเต ฐานเมตํ วิชฺชติ, ยํ ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชิตฺวาปิ นเขน โลเมน สํสคฺโค ทิฏฺโฐ, น จ เม โลมฆฏฺฏเนน กายวิญฺญาณํ อุปฺปนฺนํ, ติมิรวาตถทฺธคตฺโต จาหํ น ผสฺสํ ปฏิวิชานามีติ อนาปนฺนสญฺญี สิยาติ น วุตฺตํ, อปิจ ‘‘ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาตี’’ติ จ เอเตสํ ปทานํ อฏฺฐกถายํ วุตฺตนยํ ทสฺเสตฺวา โส ปญฺญาเปตพฺโพฯ เอตฺตาวตา น ตทตฺถชานนโตติ การณํ วิตฺถาริตํ โหติฯ

ปทภาชนียวณฺณนา

[271] ‘‘รตฺตํ จิตฺตํ อิมสฺมิํ อตฺเถ อธิปฺเปตํ วิปริณต’’นฺติ กิญฺจาปิ สามญฺเญน วุตฺตํ, วินีตวตฺถูสุ ‘‘มาตุยา มาตุเปเมน อามสติ…เป.… อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา กายสํสคฺคราเคเนว รตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ตถา ‘‘มาตุคาโม นาม มนุสฺสิตฺถี’’ติ กิญฺจาปิ อวิเสเสน วุตฺตํ, อถ โข อวินฏฺฐินฺทฺริยาว มนุสฺสิตฺถี อิธาธิปฺเปตา ‘‘มติตฺถิยา กายสํสคฺคํ สมาปชฺชิ…เป.… อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตาฯ ‘‘มนุสฺสิตฺถี’’ติ เอตฺตาวตา สิทฺเธ ‘‘น ยกฺขี น เปตี น ติรจฺฉานคตา’’ติ วจนํ อวินฏฺฐินฺทฺริยาปิ น สพฺพา มนุสฺสวิคฺคหา อิตฺถี อิธ มนุสฺสิตฺถี นามฯ ยกฺขิอาทโย หิ อตฺตโน ชาติสิทฺเธน อิทฺธิวิเสเสน อิชฺฌนฺติโย มนุสฺสวิคฺคหาปิ โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ ตาสุ ยกฺขี ถุลฺลจฺจยวตฺถุ โหติ วินีตวตฺถูสุ ยกฺขิยา กายสํสคฺเคน ถุลฺลจฺจยสฺส วุตฺตตฺตาฯ ตทนุโลมตฺตา เปติตฺถี, เทวิตฺถี จ ถุลฺลจฺจยวตฺถุฯ ติรจฺฉานคติตฺถี ทุกฺกฏวตฺถุฯ ติรจฺฉานคตมนุสฺสวิคฺคหิตฺถี จ ถุลฺลจฺจยวตฺถุเมวาติ เอเกฯ วิภงฺเค ปน ‘‘มนุสฺสิตฺถี จ โหติ มนุสฺสิตฺถิสญฺญี’’ติ ปาฬิยา อภาเวน ‘‘อิตฺถี จ โหติ ยกฺขิสญฺญี’’ติอาทิวจเน สติ ยกฺขิอาทีนํ อนิตฺถิตาปสงฺคโต, ‘‘อิตฺถี จ โหติ อิตฺถิสญฺญี’’ติอาทิมฺหิ ยกฺขิอาทีนํ อนฺโตกรเณ สติ ตาสํ สงฺฆาทิเสสวตฺถุภาวปฺปสงฺคโต จ ยกฺขิอาทโย น วุตฺตาติ เวทิตพฺพาฯ เอเก ปน ‘‘วินีตวตฺถุมฺหิ ‘อญฺญตโร ภิกฺขุ ติรจฺฉานคติตฺถิยา กาย…เป.… ทุกฺกฏสฺสา’ติ เอตฺถ อมนุสฺสวิคฺคหา ปากติกติรจฺฉานคติตฺถี อธิปฺเปตา, ตสฺมา ทุกฺกฏํ วุตฺตํฯ ‘อิตฺถี จ โหติ ติรจฺฉานคตสญฺญีติ ติรจฺฉานคตา จ โหติ อิตฺถิสญฺญี’ติอาทิวาเรสุปิ ปากติกติรจฺฉานคโตว อธิปฺเปโต, โส จ ติรจฺฉานคตปุริโสวฯ เตเนว ทุฏฺฐุลฺลวาจาอตฺตกอามปาริจริยสิกฺขาปเทสุ มนุสฺสปุริสปฏิสํยุตฺตวารา วิย ติรจฺฉานปฏิสํยุตฺตวาราปิ นาคตา’’ติ วทนฺติฯ ตถา ปณฺฑโกติ อิธ มนุสฺสปณฺฑโกว, ปุริโสติ จ อิธ มนุสฺสปุริโสว อาคโต, ตสฺมา อมนุสฺสิตฺถี อมนุสฺสปณฺฑโก อมนุสฺสปุริโส ติรจฺฉานคติตฺถี ติรจฺฉานคตปณฺฑโก มนุสฺสามนุสฺสติรจฺฉานคตอุภโตพฺยญฺชนกา จาติ อฏฺฐ ชนา อิธ นาคตา, เตสํ วเสน วตฺถุสญฺญาวิมติเภทวเสน อาปตฺติเภทาเภทวินิจฺฉโย, อนาคตวารคณนา จ อสมฺมุยฺหนฺเตน เวทิตพฺพา, ตถา เตสํ ทุกมิสฺสกาทิวารา, อาปตฺติอนาปตฺติเภทวินิจฺฉโย จฯ ‘‘ตตฺถ อมนุสฺสปณฺฑกอมนุสฺสปุริสติรจฺฉานคติตฺถิติรจฺฉานคตปณฺฑกาติ จตฺตาโร ทุกฺกฏวตฺถุกา, อมนุสฺสิตฺถิมนุสฺสอุภโตพฺยญฺชนกา ถุลฺลจฺจยวตฺถุกา, อมนุสฺสอุภโตพฺยญฺชนกา ติรจฺฉานคตอุภโตพฺยญฺชนกา ทุกฺกฏวตฺถุกา, ปาฬิยํ ปน อมนุสฺสิตฺถิยา อนาคตตฺตา อมนุสฺสปณฺฑกา, อุภโตพฺยญฺชนกา ปุริสา จ นาคตาฯ ติรจฺฉานคติตฺถิปณฺฑกอุภโตพฺยญฺชนกา ติรจฺฉานคตปุริเสน สมานคติกตฺตา นาคตา, มนุสฺสอุภโตพฺยญฺชนโก มนุสฺสปณฺฑเกน สมานคติกตฺตา อนาคโต’’ติ วทนฺติฯ อฏฺฐกถายํ (ปารา. อฏฺฐ. 2.281) ปน ‘‘นาคมาณวิกายปิ สุปณฺณมาณวิกายปิ กินฺนริยาปิ คาวิยาปิ ทุกฺกฏเมวา’’ติ วุตฺตตฺตา ตเทว ปมาณโต คเหตพฺพํฯ