เมนู

1. สุกฺกวิสฺสฏฺฐิสิกฺขาปทวณฺณนา

[235] ‘‘โอกฺกมนฺตาน’’นฺติ ปาโฐฯ เอตฺถาห – ‘‘โย ปน ภิกฺขู’’ติ การโก อิธ กสฺมา น นิทฺทิฏฺโฐติ? อภิ-นิทฺเทเสน อิมสฺส สาเปกฺขาภาวทสฺสนตฺถํฯ กถํ? กณฺฑุวนาทิอธิปฺปายเจตนาวเสน เจเตนฺตสฺส กณฺฑุวนาทิอุปกฺกเมน อุปกฺกมนฺตสฺส, เมถุนราควเสน อูรุอาทีสุ ทุกฺกฏวตฺถูสุ, วณาทีสุ ถุลฺลจฺจยวตฺถูสุ จ อุปกฺกมนฺตสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺฐิยา สติปิ น สงฺฆาทิเสโสฯ โมจนสฺสาทสงฺขาตาธิปฺปายาเปกฺขาว สุกฺกวิสฺสฏฺฐิ สติ อุปกฺกเม, น อญฺญถา ‘‘อนาปตฺติ น โมจนาธิปฺปายสฺสา’’ติ วจนโตฯ ตสฺมา ตทตฺถทสฺสนตฺถํ อิธ การโก น นิทฺทิฏฺโฐ, อญฺญถา ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สญฺเจตนิกํ สุกฺกวิสฺสฏฺฐิํ อาปชฺเชยฺยา’’ติ การเก นิทฺทิฏฺเฐ ‘‘เจเตติ น อุปกฺกมติ มุจฺจติ, อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตวจนวิโรโธฯ ‘‘สญฺเจตนิกาย สุกฺกวิสฺสฏฺฐิยา อญฺญตฺร สุปินนฺตา’’ติ ภุมฺเม นิทฺทิฏฺเฐปิ โสว วิโรโธ อาปชฺชติ, ตสฺมา ตทุภยวจนกฺกมํ อวตฺวา ‘‘สญฺเจตนิกา สุกฺกวิสฺสฏฺฐิ อญฺญตฺร สุปินนฺตา’’ติ วุตฺตํฯ ตตฺถ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมวจนาภาวโต เหตุตฺถนิยโม น กโต โหติฯ ตสฺมิํ อกเต สญฺเจตนิกา สุกฺกวิสฺสฏฺฐิ อญฺญตฺร สุปินนฺตา สงฺฆาทิเสสาปตฺติ, อุปกฺกเม อสติ อนาปตฺตีติ อยมตฺโถ ทีปิโตติ เวทิตพฺพํฯ

[236-7] สญฺเจตนิกาติ เอตฺถ ปฐมวิคฺคเหน อุปสคฺคสฺส สาตฺถกตา ทสฺสิตา, ทุติเยน อิกปจฺจยสฺสฯ วาตปิตฺตเสมฺหรุหิราทิอาสยเภทโตติ อตฺโถฯ ธาตูติ เอตฺถ ‘‘ปถวีธาตุอาทโย จตสฺโส, จกฺขุธาตุอาทโย วา อฏฺฐารสา’’ติ คณฺฐิปเท ลิขิตํฯ วตฺถิสีสนฺติ วตฺถิปุฏสฺส สีสํฯ ‘‘องฺคชาตสฺส มูลํ อธิปฺเปตํ, น อคฺคสีส’’นฺติ วทนฺติฯ ตเถวาติ ‘‘นิมิตฺเต อุปกฺกมโต’’ติอาทิํ คณฺหาติฯ ตโต มุจฺจิตฺวาติ ‘‘น สกลกายโต, ตสฺมา ปน ฐานา จุตมตฺเต โหตู’’ติ คณฺฐิปเท ลิขิตํฯ ‘‘ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต’’ติ อิมินา น สเมตีติ เจ ? ตโต ทกโสโตโรหณญฺเจตฺถาติอาทิ วุจฺจติฯ ตสฺสตฺโถ – นิมิตฺเต อุปกฺกมํ กตฺวา สุกฺกํ ฐานา จาเวตฺวา ปุน วิปฺปฏิสารวเสน ทกโสโตโรหณํ นิวาเรตุํ อธิวาเสมีติฯ

ตโต พหิ นิกฺขมนฺเต อธิวาเสตุํ น สกฺกา, ตถาปิ อธิวาสนาธิปฺปาเยน อธิวาเสตฺวา อนฺตรา ทกโสตโต อุทฺธํ นิวาเรตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ‘‘อนิกฺขนฺเต วา’’ติ วุตฺตํฯ กสฺมา? ฐานา จุตญฺหิ อวสฺสํ ทกโสตํ โอตรตีติ อฏฺฐกถาธิปฺปาโย คณฺฐิปทาธิปฺปาเยน สเมติฯ ตโต มุจฺจิตฺวาติ สกฏฺฐานโตฯ สกสรีรโต หิ พหิ นิกฺขนฺตเมว โหติ, ตโต ‘‘พหิ นิกฺขนฺเต วา อนิกฺขนฺเต วา’’ติ วจนํ วิรุชฺเฌยฺยฯ ยสฺมา ปน ตมฺหา ตมฺหา สรีรปเทสา จุตํ อวสฺสํ ทกโสตํ โอตรติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต’’ติ, อิมินา จ อาปตฺติยา ปากฏกาลํ ทสฺเสติ, กิํ วุตฺตํ โหติ? โมจนสฺสาเทน นิมิตฺเต อุปกฺกมโต สุกฺกํ พหุตรมฺปิ สรีรปเทสา จุตํ ตตฺถ ตตฺถ ลคฺคาวเสสํ ยตฺตกํ เอกา ขุทฺทกมกฺขิกา ปิเวยฺย, ตตฺตเก ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต สงฺฆาทิเสสาปตฺติฯ วุตฺตญฺหิ กงฺขาวิตรณิยํ (กงฺขา. อฏฺฐ. สุกฺกวิสฺสฏฺฐิสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘ทกโสตํ อโนติณฺเณปิ สงฺฆาทิเสโส’’ติอาทิฯ ตตฺตกสฺส พหิ นิกฺขมนํ อสลฺลกฺเขนฺโต ‘‘เจเตติ อุปกฺกมติ น มุจฺจติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ วจนโต ถุลฺลจฺจยนฺติ สญฺญาย เทเสนฺโตปิ น มุจฺจติ, ปสฺสาวมฺปิ วณฺณตํ ปสฺสิตฺวา วตฺถิโกสคตสฺส ปิจฺฉิลตาย วา ญตฺวา สงฺฆาทิเสสโต วุฏฺฐาตพฺพํฯ อยเมตฺถ ตติยตฺเถรวาเท ยุตฺติฯ สพฺพาจริยา อิเม เอว ตโย เถรา, เตสมฺปิ ทกโสโตโรหณํ นิมิตฺเต อุปกฺกมนนฺติ อยํ ทุติโย วินิจฺฉโย สาธารณโต เอตฺถ, เอวํ อุปติสฺสตฺเถโร วทติ กิรฯ

ฐานา จุตญฺหิ อวสฺสํ ทกโสตํ โอตรตีติ กตฺวา ‘‘ฐานา จาวนมตฺเตเนเวตฺถ อาปตฺติ เวทิตพฺพา’’ติ วุตฺตํฯ ทกโสตํ โอติณฺเณ เอว อาปตฺติฯ สุกฺกสฺส หิ สกลํ สรีรํ ฐานํ, อโนติณฺเณ ฐานา จุตํ นาม น โหตีติ วีมํสิตพฺพํฯ อาภิธมฺมิกตฺตา เถรสฺส ‘‘สุกฺกวิสฺสฏฺฐิ นาม ราคสมุฏฺฐานา โหตี’’ติ (กถา. อฏฺฐ. 307) กถาวตฺถุฏฺฐกถายํ วุตฺตตฺตา สมฺภโว จิตฺตสมุฏฺฐาโน, ‘‘ตํ อสุจิํ เอกเทสํ มุเขน อคฺคเหสิ, เอกเทสํ องฺคชาเต ปกฺขิปี’’ติ (ปารา. 503) วจนโต อุตุสมุฏฺฐาโน จ ทิสฺสติ, โส จ โข อวีตราคสฺเสว ‘‘อฏฺฐานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส ยํ อรหโต อสุจิ มุจฺเจยฺยา’’ติ (มหาว. 353; กถา. 313) วจนโตฯ

ปรูปาหารฏฺฐกถายํ ‘‘อตฺถิ ตสฺส อาสโยติ ตสฺส สุกฺกสฺส อุจฺจารปสฺสาวานํ วิย ปติฏฺฐาโนกาโส อตฺถี’’ติ (กถา. อฏฺฐ. 309) จนโต ตสฺส อาสโยติ สิทฺธํฯ ปากติกจิตฺตสมุฏฺฐานรูปํ วิย อสํสฏฺฐตฺตา, นิกฺขมนโต จ ‘‘วตฺถิสีสํ, กฏิ, กาโย’’ติ ติธา สุกฺกสฺส ฐานํ ปกปฺเปนฺติ อาจริยาฯ สปฺปวิสํ วิย ตํ ทฏฺฐพฺพํ, น จ วิสสฺส ฐานนิยโม, โกธวเสน ผุสนฺตสฺส โหติ, เอวมสฺส น จ ฐานนิยโม, ราควเสน อุปกฺกมนฺตสฺส โหตีติ ตกฺโกฯ

โขภกรณปจฺจโย นาม เภสชฺชเสนาสนาหาราทิปจฺจโยฯ สํสคฺคเภทโตปีติ เอเตสุ ทฺวีหิปิ ตีหิปิฯ ปหีนวิปลฺลาสตฺตาติ เอตฺถ ยํ กิญฺจิ สุปินนฺเตน เสกฺขปุถุชฺชนา ปสฺสนฺติ, ตํ สพฺพํ วิปลฺลตฺถํ อภูตเมวาติ อาปชฺชติฯ ตโต ‘‘ยํ ปน ปุพฺพนิมิตฺตโต ปสฺสติฯ ตํ เอกนฺตสจฺจเมว โหตี’’ติ อิทํ วิรุชฺฌติ, ตสฺมา น วิสยํ สนฺธาย วุตฺตํฯ โส หิ สจฺโจ วา โหติ, อลิโก วาติ กตฺวา ตญฺเจ สนฺธาย วุตฺตํ สิยา, ‘‘อเสกฺขา ปหีนวิปลฺลาสตฺตา สจฺจเมว ปสฺสนฺติ, นาสจฺจ’’นฺติ วตฺตพฺพํ สิยาฯ กินฺตุ ทสฺสนํ สนฺธาย วุตฺตํฯ ตญฺหิ อภูตํ, อปสฺสนฺโตปิ หิ ปสฺสนฺโต วิย อสุณนฺโตปิ สุณนฺโต วิย อมุนนฺโตปิ มุนนฺโต วิย โหติฯ สจฺจมฺปิ วิปสฺสตีติ โน ตกฺโกติ อาจริโยฯ ตํ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณํ น โหติ, อาคนฺตุกปจฺจุปฺปนฺนํ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณํ สนฺธาย วุตฺตํฯ กมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตภูตานิ หิ รูปนิมิตฺตาทีนิ ภวงฺคสฺส อารมฺมณานิ โหนฺติ เอวฯ ตตฺถ กมฺมนิมิตฺตมตีตเมว, คตินิมิตฺตํ โถกํ กาลํ ปจฺจุปฺปนฺนํ สิยาฯ

อีทิสานีติ ปจฺจกฺขโต อนุภูตปุพฺพปริกปฺปิตาคนฺตุกปจฺจุปฺปนฺนรูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณานิ, ราคาทิสมฺปยุตฺตานิ จาติ อตฺโถฯ มกฺกฏสฺส นิทฺทา ลหุปริวตฺตา โหติฯ โส หิ รุกฺขสาขโต ปตนภยา อภิกฺขณํ อุมฺมีลติ จ สุปติ จฯ มนุสฺสา กิญฺจาปิ ปุนปฺปุนํ อุมฺมีลนฺติ สุพฺยตฺตตรํ ปฏิพุทฺธา วิย ปสฺสนฺติ, อถ โข ปฏิพุทฺธานํ ปุนปฺปุนํ ภวงฺโคตรณํ วิย สุปินกาเลปิ เตสํ ภวงฺโคตรณํ โหติ, เยน ‘‘สุปตี’’ติ วุจฺจติฯ ‘‘ภวงฺคจิตฺเตน หิ สุปตี’’ติ วจนโต ภวงฺโคตรณํ กรชกายสฺส นิรุสฺสาหสนฺตภาวูปนิสฺสยตฺตา ‘‘นิทฺทา’’ติ วุจฺจติฯ

สา กรชกายสฺส ทุพฺพลภาเวน สุปินทสฺสนกาเล ภวงฺคโต อุตฺตรเณ สติปิ นิรุสฺสาหสนฺตภาวปฺปตฺติยา ‘‘ปวตฺตตี’’ติ จ วุจฺจติ, ยโต สตฺตา ‘‘ปฏิพุทฺธา’’ติ น วุจฺจนฺติ, กรชกายสฺส นิรุสฺสาหสนฺตสภาวปฺปตฺติโต จ ตนฺนิสฺสิตํ หทยวตฺถุ น สุปฺปสนฺนํ โหติ, ตโต ตนฺนิสฺสิตาปิ จิตฺตปฺปวตฺติ อสุปฺปสนฺนวฏฺฏินิสฺสิตทีปปฺปภา วิยฯ เตเนว อฏฺฐกถายํ ‘‘สฺวายํ ทุพฺพลวตฺถุกตฺตา เจตนาย ปฏิสนฺธิํ อากฑฺฒิตุํ อสมตฺโถ’’ติอาทิ วุตฺตํฯ

คณฺฐิปเท ปน ‘‘ทุพฺพลวตฺถุกตฺตาติ สุปิเน อุปฏฺฐิตํ นิมิตฺตมฺปิ ทุพฺพล’’นฺติ ลิขิตํฯ ตํ อเนกตฺถํ สพฺพมฺปิ นิมิตฺตํ โหติ, น จ ทุพฺพลารมฺมณวตฺถุกตฺตา เจตนา, ตาย จิตฺตปฺปวตฺติ ทุพฺพลา อตีตานาคตารมฺมณาย, ปญฺญตฺตารมฺมณาย วา อทุพฺพลตฺตา, อวตฺถุกาย ทุพฺพลภาโว น ยุชฺชติ เจตนาย อวตฺถุกาย ภาวนาปภาวายาติเรกพลสพฺภาวโตฯ ภาวนาพลสมปฺปิตญฺหิ จิตฺตํ อรูปมฺปิ สมานํ อติภาริยมฺปิ กรชกายํ คเหตฺวา เอกจิตฺตกฺขเณเนว พฺรหฺมโลกํ ปาเปตฺวา ฐเปติฯ ตปฺปฏิภาคํ อนปฺปิตมฺปิ กามาวจรจิตฺตํ กรชกายํ อากาเส ลงฺฆนสมตฺถํ กโรติ, ปเคเวตรํฯ กิํ ปเนตฺถ ตํ อนุมานการณํ, เยน จิตฺตสฺเสว อานุภาโวติ ปญฺญาเยยฺย จิตฺตานุภาเวน วา ลทฺธาเสวนาทิกิริยาวิเสสนิพฺพตฺติทสฺสนโต, ตสฺมา ทุพฺพลวตฺถุกตฺตาติ ทุพฺพลหทยวตฺถุกตฺตาติ อาจริยสฺส ตกฺโกฯ อตฺตโน มนฺทติกฺขากาเรน ตนฺนิสฺสิตสฺส จิตฺตสฺส มนฺทติกฺขภาวนิปฺผาทนสมตฺถญฺเจ, หทยวตฺถุ จกฺขุโสตาทิวตฺถุ วิย อินฺทฺริยํ ภเวยฺย, น เจตํ อินฺทฺริยํฯ ยโต ธมฺมสงฺคเห อุปาทายรูปปาฬิยํ อุทฺเทสารหํ น ชาตํฯ อนินฺทฺริยตฺตา หิ ตํ กายินฺทฺริยสฺส อนนฺตรํ น อุทฺทิฏฺฐํ, วตฺถุรูปตฺตา จ อวตฺถุรูปสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส อนนฺตรมฺปิ น อุทฺทิฏฺฐํ, ตสฺมา ยํ วุตฺตํ ‘‘ตสฺส อสุปฺปสนฺนตฺตา ตนฺนิสฺสิตา จ จิตฺตปฺปวตฺติ อสุปฺปสนฺนา โหตี’’ติ, ตํ น สิทฺธนฺติ เจ? สิทฺธเมว อนินฺทฺริยานมฺปิ สปฺปายาสปฺปายอุตุอาหาราทีนํ ปจฺจยานํ สมาโยคโต, จิตฺตปฺปวตฺติยา วิการทสฺสนโต, ปจฺจกฺขตฺตา จฯ ยสฺมา อปฺปฏิพุทฺโธปิ ปฏิพุทฺธํ วิย อตฺตานํ มญฺญตีติฯ เอตฺตาวตา กรชกายสฺส นิรุสฺสาหสนฺตภาวาการวิเสโส นิทฺทา นามฯ สา จิตฺตสฺส ภวงฺโคตรณาการวิเสเสน โหติ, ตาย สมนฺนาคโต สตฺโต ภวงฺคโต อุตฺติณฺโณ สุปินํ ปสฺสติ, โส ‘‘กปิมิทฺธปเรโต’’ติ วุจฺจติ, โส สุตฺโต อปฺปฏิพุทฺโธ โหตีติ อยมตฺโถ สาธิโต โหติฯ

ยสฺมา ภวงฺควารนิรนฺตรตาย อจฺจนฺตสุตฺโต นาม โหติ, ตสฺมา ‘‘ยทิ ตาว สุตฺโต ปสฺสติ, อภิธมฺมวิโรโธ อาปชฺชตี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ยสฺมา ปน นิทฺทากฺขเณ น ปฏิพุทฺโธ นาม โหติ, ตสฺมา ‘‘อถ ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ, วินยวิโรโธ’’ติอาทิ วุตฺตํ, ยสฺมา จ อขีณนิทฺโท, อโนติณฺณภวงฺโค จ อตฺถิ, ตสฺมา ‘‘กปิมิทฺธปเรโต ปสฺสตี’’ติ วุตฺตํฯ อญฺญถา อยํ เนว สุตฺโต น ปฏิพุทฺโธ, อตฺตนา ตํ นิทฺทํ อโนกฺกนฺโต อาปชฺเชยฺยฯ เอตฺตาวตา จ อภิธมฺโม, วินโย, นาคเสนตฺเถรวจนํ ยุตฺติ จาติ สพฺพํ อญฺญมญฺญสํสนฺทิตํ โหติฯ ตตฺถ กปิมิทฺธปเรโตติ ภวงฺคโต อุตฺติณฺณนิทฺทาปเรโตฯ สา หิ อิธ กปิมิทฺธํ นามฯ ‘‘ตตฺถ กตมํ มิทฺธํ? ยา กายสฺส อกลฺยตา อกมฺมญฺญตา…เป.… สุปนํ, อิทํ วุจฺจติ มิทฺธ’’นฺติ (ธ. ส. 1163) เอวมาคตํฯ อิทญฺหิ อรูปํ, อิมสฺส ผลภูโต กรชกายสฺส อกลฺยตา’ปจลายิกาสุปิ นิทฺทาวิเสโส การโณปจาเรน ‘‘กปิมิทฺธ’’นฺติ ปวุจฺจติฯ ยญฺเจว ‘‘กปิมิทฺธปเรโต โข, มหาราช, สุปินํ ปสฺสตี’’ติ (มิ. ป. 5.3.5 โถกํ วิสทิสํ) วุตฺตนฺติฯ

ยํ ตํ อาปตฺติวุฏฺฐานนฺติ เอตฺถ เยน วินยกมฺเมน ตโต วุฏฺฐานํ โหติ, ตํ อิธ อาปตฺติวุฏฺฐานํ นามฯ อวยเว สมูหโวหาเรน วาติ เอตฺถ สาขจฺเฉทโก รุกฺขจฺเฉทโกติ วุจฺจตีติอาทิ นิทสฺสนํ, เวทนากฺขนฺธาทิ รุฬฺหีสทฺทสฺส นิทสฺสนํฯ น จ มยาติ วีมํสนปทสฺส ตสฺส กิริยํ สนฺธาย, โมจเน จ สนฺนิฏฺฐานํ สนฺธาย มุจฺจนปกติยา จาติ วุตฺตํฯ

[240] เคหนฺติ ปญฺจกามคุณาฯ วนภงฺคิยนฺติ ปาภติกํฯ สมฺปยุตฺตสุขเวทนามุเขน ราโคว ‘‘อสฺสาโท’’ติ วุตฺโตฯ สุปนฺตสฺส จาติ อิทํ กปิมิทฺธปเรโต วิย ภวงฺคสนฺตติํ อวิจฺฉินฺทิตฺวา สุปนฺตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ, วีมํสิตพฺพํฯ ชคฺคนตฺถายาติ โสธนตฺถายฯ

[266] ‘‘ทารุธีตลิกเลปจิตฺตานํ องฺคชาตปฏินิชฺฌาเนปิ ทุกฺกฏ’’นฺติ วทนฺติฯ ‘‘อุปฺปนฺเน ปริฬาเห โมจนราคโช’’ติ ลิขนฺติฯ วาลิกาย วา ‘‘หตฺถิกามํ นสฺสตี’’ติ เอตฺถ วิย ‘‘อาปตฺติ ตฺว’’นฺติ สพฺพตฺถ ปาโฐฯ ‘‘เอหิ เม ตฺวํ, อาวุโส สามเณร, องฺคชาตํ คณฺหาหี’’ติ อาคตตฺตา ‘‘วจีกมฺม’’นฺติปิ วตฺตุํ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติฯ

เอวํ สนฺเต อญฺญํ ‘‘เอวํ กโรหี’’ติ อาณตฺติยาปิ อาปตฺติ สิยาติ สงฺกรํ โหติฯ ตสฺมา น วุตฺตนฺติ คเหตพฺพนฺติ เกจิฯ

[267] ‘‘ปุปฺผาวลิยํ สาสวฬิย’’นฺติ ทุวิโธ กิรฯ

สุกฺกวิสฺสฏฺฐิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

2. กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา

[270] ‘‘โอติณฺโณ’’ติ อิมินาสฺส เสวนาธิปฺปายตา ทสฺสิตาฯ ‘‘วิปริณเตน จิตฺเตน มาตุคาเมน สทฺธิ’’นฺติ อิมินาสฺส วายาโม ทสฺสิโตฯ ‘‘สทฺธิ’’นฺติ หิ ปทํ สํโยคํ ทีเปติ, โส จ ปโยโค สมาคโม อลฺลียนํฯ เกน จิตฺเตน? วิปริณเตน จิตฺเตน, น ปตฺตปฏิคฺคหณาธิปฺปายาทินาติ อธิปฺปาโยฯ ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ อิมินาสฺส วายมโต ผสฺสปฏิวิชานนา ทสฺสิตา โหติฯ วายมิตฺวา ผสฺสํ ปฏิวิชานนฺโต หิ สมาปชฺชติ นามฯ เอวมสฺส ติวงฺคสมฺปตฺติ ทสฺสิตา โหติฯ อถ วา โอติณฺโณฯ เกน? วิปริณเตน จิตฺเตน ยกฺขาทินา สตฺโต วิยฯ อุปโยคตฺเถ วา เอตํ กรณวจนํฯ โอติณฺโณ วิปริณตํ จิตฺตํ กูปาทิํ วิย สตฺโตฯ อถ วา ‘‘ราคโต อุตฺติณฺโณ ภวิสฺสามี’’ติ ภิกฺขุภาวํ อุปคโต, ตโต อุตฺติณฺณาธิปฺปายโต วิปริณเตน จิตฺเตน เหตุภูเตน ตเมว ราคํ โอติณฺโณฯ มาตุคาเมน อตฺตโน สมีปํ อาคเตน, อตฺตนา อุปคเตน วาฯ เอเตน มาตุคามสฺส สารตฺตตา วา โหตุ วิรตฺตตา วา, สา อิธ อปฺปมาณา, น ภิกฺขุนีนํ กายสํสคฺเค วิย อุภินฺนํ สารตฺตตาย ปโยชนํ อตฺถิฯ

กายสํสคฺคนฺติ อุภินฺนํ กายานํ สมฺปโยคํฯ ปทภาชเน ปน ‘‘สมาปชฺเชยฺยาติ อชฺฌาจาโร วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ สมาปชฺชนํ สนฺธาย, น กายสํสคฺคํฯ กายสํสคฺคสฺส สมาปชฺชนา หิ ‘‘อชฺฌาจาโร’’ติ วุจฺจติฯ