เมนู

11. กยวิกฺกยสมาปตฺติวินิจฺฉยกถา

[57] กยวิกฺกยสมาปตฺตีติ กยวิกฺกยสมาปชฺชนํฯ ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติอาทินา (ปารา. อฏฺฐ. 2.595) หิ นเยน ปรสฺส กปฺปิยภณฺฑํ คณฺหนฺโต กยํ สมาปชฺชติ, อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺโต วิกฺกยํฯ อยํ ปน กยวิกฺกโย ฐเปตฺวา ปญฺจ สหธมฺมิเก อวเสเสหิ คิหิปพฺพชิเตหิ อนฺตมโส มาตาปิตูหิปิ สทฺธิํ น วฏฺฏติฯ

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – วตฺเถน วา วตฺถํ โหตุ, ภตฺเตน วา ภตฺตํ, ยํ กิญฺจิ กปฺปิยํ ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ วทติ, ทุกฺกฏํฯ เอวํ วตฺวา มาตุยาปิ อตฺตโน ภณฺฑํ เทติ, ทุกฺกฏํ, ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ วุตฺโต วา ‘‘อิมํ เทหิ, อิมํ เต ทสฺสามี’’ติ ตํ วตฺวา วา มาตุยาปิ ภณฺฑํ อตฺตนา คณฺหาติ, ทุกฺกฏํ, อตฺตโน ภณฺเฑ ปรหตฺถํ, ปรภณฺเฑ จ อตฺตโน หตฺถํ สมฺปตฺเต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ มาตรํ วา ปน ปิตรํ วา ‘‘อิมํ เทหี’’ติ วทโต วิญฺญตฺติ น โหติ, ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ ททโต สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ น โหติฯ อญฺญาตกํ ‘‘อิมํ เทหี’’ติ วทโต วิญฺญตฺติ, ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ ททโต สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ, ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ กยวิกฺกยํ อาปชฺชโต นิสฺสคฺคิยํฯ ตสฺมา กปฺปิยภณฺฑํ ปริวตฺตนฺเตน มาตาปิตูหิปิ สทฺธิํ กยวิกฺกยํ, อญฺญาตเกหิ สทฺธิํ ติสฺโส อาปตฺติโย โมเจนฺเตน ปริวตฺเตตพฺพํฯ

ตตฺรายํ ปริวตฺตนวิธิ – ภิกฺขุสฺส ปาเถยฺยตณฺฑุลา โหนฺติ, โส อนฺตรามคฺเค ภตฺตหตฺถํ ปุริสํ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ ตณฺฑุลา อตฺถิ, น จ โน อิเมหิ อตฺโถ, ภตฺเตน ปน อตฺโถ’’ติ วทติ, ปุริโส ตณฺฑุเล คเหตฺวา ภตฺตํ เทติ, วฏฺฏติฯ ติสฺโสปิ อาปตฺติโย น โหนฺติ, อนฺตมโส นิมิตฺตกมฺมมตฺตมฺปิ น โหติฯ กสฺมา? มูลสฺส อตฺถิตายฯ โย ปน เอวํ อกตฺวา ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ ปริวตฺเตติ, ยถาวตฺถุกเมวฯ วิฆาสาทํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ โอทนํ ภุญฺชิตฺวา รชนํ วา ทารูนิ วา อาหรา’’ติ วทติ, รชนฉลฺลิคณนาย ทารุคณนาย จ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติฯ ‘‘อิมํ โอทนํ ภุญฺชิตฺวา อิมํ นาม กโรถา’’ติ ทนฺตการาทีหิ สิปฺปิเกหิ ธมฺมกรณาทีสุ ตํ ตํ ปริกฺขารํ กาเรติ, รชเกหิ วา วตฺถํ โธวาเปติ, ยถาวตฺถุกเมวฯ

นหาปิเตน เกเส ฉินฺทาเปติ , กมฺมกาเรหิ นวกมฺมํ กาเรติ, ยถาวตฺถุกเมวฯ สเจ ปน ‘‘อิทํ ภตฺตํ ภุญฺชิตฺวา อิทํ กโรถา’’ติ น วทติ, ‘‘อิทํ ภตฺตํ ภุญฺช, ภุตฺโตสิ, ภุญฺชิสฺสสิ, อิทํ นาม กโรหี’’ติ วทติ, วฏฺฏติฯ เอตฺถ จ กิญฺจาปิ วตฺถโธวเน วา เกสจฺเฉทเน วา ภูมิโสธนาทินวกมฺเม วา ปรภณฺฑํ อตฺตโน หตฺถคตํ นิสฺสชฺชิตพฺพํ นาม นตฺถิ, มหาอฏฺฐกถายํ ปน ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตตฺตา น สกฺกา เอตํ ปฏิกฺขิปิตุํ, ตสฺมา ยถา นิสฺสคฺคิยวตฺถุมฺหิ ปริภุตฺเต วา นฏฺเฐ วา ปาจิตฺติยํ เทเสติ, เอวมิธาปิ เทเสตพฺพํฯ

ยํ กิญฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ คณฺหิตุกามตาย อคฺฆํ ปุจฺฉิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘อยํ ตว ปตฺโต กิํ อคฺฆตี’’ติ ปุจฺฉิเต ‘‘อิทํ นามา’’ติ วทติ, สเจ อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ มหคฺฆํ โหติ, เอวญฺจ นํ ปฏิวทติ ‘‘อุปาสก มม อิทํ วตฺถุ มหคฺฆํ, ตว ปตฺตํ อญฺญสฺส เทหี’’ติฯ ตํ สุตฺวา อิตโร ‘‘อญฺญํ ถาลกมฺปิ ทสฺสามี’’ติ วทติ, คณฺหิตุํ วฏฺฏติฯ สเจ โส ปตฺโต มหคฺโฆ, ภิกฺขุโน วตฺถุ อปฺปคฺฆํ, ปตฺตสามิโก จสฺส อปฺปคฺฆภาวํ น ชานาติ, ปตฺโต น คเหตพฺโพ, ‘‘มม วตฺถุ อปฺปคฺฆ’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํฯ มหคฺฆภาวํ ญตฺวา วญฺเจตฺวา คณฺหนฺโตปิ หิ ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺพตํ อาปชฺชติฯ สเจ ปตฺตสามิโก ‘‘โหตุ, ภนฺเต, เสสํ มม ปุญฺญํ ภวิสฺสตี’’ติ เทติ, วฏฺฏติฯ กปฺปิยการกสฺส ปน ‘‘อิมินา อิมํ คเหตฺวา เทหี’’ติ อาจิกฺขิตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ยสฺส หตฺถโต ภณฺฑํ คณฺหาติ, ตํ ฐเปตฺวา อญฺญํ อนฺตมโส ตสฺส ปุตฺตภาติกมฺปิ กปฺปิยการกํ กตฺวา ‘‘อิมินา อิมํ นาม คเหตฺวา เทหี’’ติ อาจิกฺขติ, โส เจ เฉโก โหติ, ปุนปฺปุนํ อปเนตฺวา วิวทิตฺวา คณฺหาติ, ตุณฺหีภูเตน ฐาตพฺพํฯ โน เจ เฉโก โหติ, น ชานาติ คเหตุํ, วาณิชโก จ ตํ วญฺเจติ, ‘‘มา คณฺหาหี’’ติ วตฺตพฺโพฯ

‘‘อิทํ ปฏิคฺคหิตํ เตลํ วา สปฺปิ วา อมฺหากํ อตฺถิ, อมฺหากญฺจ อญฺเญน อปฺปฏิคฺคหิตเกน อตฺโถ’’ติ วุตฺเต ปน สเจ โส ตํ คเหตฺวา อญฺญํ เทติ, ปฐมํ อตฺตโน เตลํ น มินาเปตพฺพํฯ กสฺมา? นาฬิยญฺหิ อวสิฏฺฐเตลํ โหติ, ตํ ปจฺฉา มินนฺตสฺส อปฺปฏิคฺคหิตํ ทูเสยฺยฯ อยญฺจ กยวิกฺกโย นาม กปฺปิยภณฺฑวเสน วุตฺโตฯ

กปฺปิเยน หิ กปฺปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺส กยวิกฺกยสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ วุตฺตํ, อกปฺปิเยน ปน อกปฺปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺส, กปฺปิเยน วา อกปฺปิยํ อกปฺปิเยน วา กปฺปิยํ ปริวตฺเตนฺตสฺส รูปิยสํโวหารสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ, ตสฺมา อุโภสุ วา เอกสฺมิํ วา อกปฺปิเย สติ รูปิยสํโวหาโร นาม โหติฯ

[58] รูปิยสํโวหารสฺส จ ครุภาวทีปนตฺถํ อิทํ ปตฺตจตุกฺกํ เวทิตพฺพํฯ โย หิ รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา เตน อยพีชํ สมุฏฺฐาเปติ, ตํ โกฏฺฏาเปตฺวา เตน โลเหน ปตฺตํ กาเรติ, อยํ ปตฺโต มหาอกปฺปิโย นาม, น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุํฯ สเจปิ ตํ วินาเสตฺวา ถาลกํ กาเรติ, ตมฺปิ อกปฺปิยํฯ วาสิํ กาเรติ, ตาย ฉินฺนทนฺตกฏฺฐมฺปิ อกปฺปิยํฯ พฬิสํ กาเรติ, เตน มาริตา มจฺฉาปิ อกปฺปิยาฯ วาสิํ ตาเปตฺวา อุทกํ วา ขีรํ วา อุณฺหาเปติ, ตมฺปิ อกปฺปิยเมวฯ

โย ปน รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา เตน ปตฺตํ กิณาติ, อยมฺปิ ปตฺโต อกปฺปิโยฯ ‘‘ปญฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น กปฺปตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํฯ สกฺกา ปน กปฺปิโย กาตุํฯ โส หิ มูเล มูลสามิกานํ, ปตฺเต จ ปตฺตสามิกานํ ทินฺเน กปฺปิโย โหติ, กปฺปิยภณฺฑํ ทตฺวา คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํ วฏฺฏติฯ

โยปิ รูปิยํ อุคฺคณฺหาเปตฺวา กปฺปิยการเกน สทฺธิํ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ รุจฺจตี’’ติ วทติ, กปฺปิยการโก จ ตํ รูปิยํ ทตฺวา กมฺมารํ สญฺญาเปติ, อยมฺปิ ปตฺโต กปฺปิยโวหาเรน คหิโตปิ ทุติยปตฺตสทิโสเยว, มูลสฺส สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา อกปฺปิโยฯ กสฺมา เสสานํ น กปฺปตีติ? มูลสฺส อนิสฺสฏฺฐตฺตาฯ

โย ปน รูปิยํ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘เถรสฺส ปตฺตํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ ปหิตกปฺปิยการเกน สทฺธิํ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิเม กหาปเณ คเหตฺวา อิมํ เทหี’’ติ กหาปเณ ทาเปตฺวา คหิโต, อยํ ปตฺโต เอตสฺเสว ภิกฺขุโน น วฏฺฏติ ทุพฺพิจาริตตฺตา, อญฺเญสํ ปน วฏฺฏติ มูลสฺส อสมฺปฏิจฺฉิตตฺตาฯ มหาสุมตฺเถรสฺส กิร อุปชฺฌาโย อนุรุทฺธตฺเถโร นาม อโหสิฯ โส อตฺตโน เอวรูปํ ปตฺตํ สปฺปิสฺส ปูเรตฺวา สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชิฯ ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกานํ เอวรูโป ปตฺโต อโหสิฯ ตํ เถโรปิ สปฺปิสฺส ปูเรตฺวา สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชาเปสีติฯ อิทํ อกปฺปิยปตฺตจตุกฺกํฯ

สเจ ปน รูปิยํ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘เถรสฺส ปตฺตํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ ปหิตกปฺปิยการเกน สทฺธิํ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ รุจฺจตี’’ติ วา ‘‘อิมาหํ คเหสฺสามี’’ติ วา วทติ, กปฺปิยการโก จ ตํ รูปิยํ ทตฺวา กมฺมารํ สญฺญาเปติ, อยํ ปตฺโต สพฺพกปฺปิโย พุทฺธานมฺปิ ปริโภคารโหฯ อิมํ ปน รูปิยสํโวหารํ กโรนฺเตน ‘‘อิมินา อิมํ คเหตฺวา เทหี’’ติ กปฺปิยการกมฺปิ อาจิกฺขิตุํ น วฏฺฏติฯ

อิติ ปาฬิมุตฺตกวินยวินิจฺฉยสงฺคเห

กยวิกฺกยสมาปตฺติวินิจฺฉยกถา สมตฺตาฯ

12. รูปิยาทิปฏิคฺคหณวินิจฺฉยกถา

[59] รูปิยาทิปฏิคฺคโหติ ชาตรูปาทิปฏิคฺคณฺหนํฯ ตตฺถ (ปารา. อฏฺฐ. 2.583-4) ชาตรูปํ รชตํ ชาตรูปมาสโก รชตมาสโกติ จตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุฯ ตมฺพโลหาทีหิ กโต โลหมาสโกฯ สารทารุนา วา เวฬุเปสิกาย วา อนฺตมโส ตาลปณฺเณนปิ รูปํ ฉินฺทิตฺวา กโต ทารุมาสโกฯ ลาขาย วา นิยฺยาเสน วา รูปํ สมุฏฺฐาเปตฺวา กโต ชตุมาสโกฯ โย โย ยตฺถ ยตฺถ ชนปเท ยทา ยทา โวหารํ คจฺฉติ, อนฺตมโส อฏฺฐิมโยปิ จมฺมมโยปิ รุกฺขผลพีชมโยปิ สมุฏฺฐาปิตรูโปปิ อสมุฏฺฐาปิตรูโปปีติ อยํ สพฺโพปิ รชตมาสเกเนว สงฺคหิโตฯ มุตฺตา มณิ เวฬุริโย สงฺโข สิลา ปวาฬํ โลหิตงฺโก มสารคลฺลํ สตฺต ธญฺญานิ ทาสิทาสเขตฺตวตฺถุปุปฺผารามผลารามาทโยติ อิทํ ทุกฺกฏวตฺถุฯ ตตฺถ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ อตฺตโน วา สงฺฆคณปุคฺคลเจติยานํ วา อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติฯ อตฺตโน อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ โหติ, เสสานํ อตฺถาย ทุกฺกฏํฯ ทุกฺกฏวตฺถุํ สพฺเพสมฺปิ อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉโต ทุกฺกฏเมวฯ

ตตฺรายํ วินิจฺฉโย (ปารา. อฏฺฐ. 2.538-9) – สเจ โกจิ ชาตรูปรชตํ อาหริตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส ทมฺมิ, อารามํ วา กโรถ เจติยํ วา โภชนสาลาทีนํ วา อญฺญตร’’นฺติ วทติ, อิทํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติฯ