เมนู

อุภยมฺปิ สาวตฺถิยํ ถุลฺลนนฺทํ อารพฺภ เอเตสุ วตฺถูสุ ปญฺญตฺตํ, ทฺวีสุปิ สติ อนฺตราเย, ปริเยสิตฺวา อลภนฺติยา, คิลานาย, อาปทาสุ, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อุภยตฺถ ‘‘เอวาหํ ตํ วุฏฺฐาเปสฺสามี’’ติ ปฏิญฺญา, อากงฺขิตนิปฺผตฺติ, ปจฺฉา ธุรนิกฺเขโป, อนุญฺญาตการณาภาโวติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิฯ สมุฏฺฐานาทีนิ สมนุภาสนสทิสานีติฯ

สิกฺขมานนวุฏฺฐาปนปฐมทุติยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

9. โสกาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา

นวเม โสกาวาสนฺติ สงฺเกตํ กตฺวา อาคจฺฉมานา ปุริสานํ อนฺโตโสกํ ปเวเสตีติ โสกาวาสา, ตํ โสกาวาสํฯ อถ วา ฆรํ วิย ฆรสามิกา อยมฺปิ ปุริสสมาคมํ อลภมานา โสกํ อาวิสติ, อิติ ยํ อาวิสติ, สฺวาสฺสา อาวาโส โหตีติ โสกาวาสาฯ เตเนวสฺส ปทภาชเน (ปาจิ. 1160) ‘‘โสกาวาสา นาม ปเรสํ ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, โสกํ อาวิสตี’’ติ ทฺวิธา อตฺโถ วุตฺโตฯ ปาจิตฺติยนฺติ เอวรูปํ วุฏฺฐาเปนฺติยา วุตฺตนเยเนว กมฺมวาจาปริโยสาเน อุปชฺฌายาย ปาจิตฺติยํฯ

สาวตฺถิยํ ถุลฺลนนฺทํ อารพฺภ เอวรูปํ สิกฺขมานํ วุฏฺฐาปนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํฯ อชานนฺติยา , อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ โสกาวาสตา, ชานนํ, วุฏฺฐาปนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ สมุฏฺฐานาทีนิ คพฺภินิวุฏฺฐาปนสทิสาเนวาติฯ

โสกาวาสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

10. อนนุญฺญาตสิกฺขาปทวณฺณนา

ทสเม มาตาปิตูหีติ วิชาตมาตรา จ ชนกปิตรา จฯ สามิเกนาติ เยน ปริคฺคหิตา, เตนฯ อนนุญฺญาตนฺติ อุปสมฺปทตฺถาย อนนุญฺญาตํฯ ทฺวิกฺขตฺตุญฺหิ ภิกฺขุนีหิ อาปุจฺฉิตพฺพํ, ปพฺพชฺชากาเล จ อุปสมฺปทากาเล จ, ภิกฺขูนํ ปน สกิํ อาปุจฺฉิเตปิ วฏฺฏติ ฯ ตสฺมา ยา อุปสมฺปทากาเล อนาปุจฺฉา อุปสมฺปาเทติ, ตสฺสา วุตฺตนเยเนว ปาจิตฺติยํฯ

สาวตฺถิยํ ถุลฺลนนฺทํ อารพฺภ อนนุญฺญาตวุฏฺฐาปนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํฯ อปโลเกตฺวา วุฏฺฐาเปนฺติยา, เตสํ อตฺถิภาวํ อชานนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อนปโลกนํ, อตฺถิภาวชานนํ, วุฏฺฐาปนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ อนนุญฺญาตสมุฏฺฐานํ, กิริยากิริยํ, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ

อนนุญฺญาตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

11. ปาริวาสิกสิกฺขาปทวณฺณนา

เอกาทสเม ปาริวาสิกฉนฺททาเนนาติ ปาริวาสิเยน ฉนฺททาเนนฯ ตตฺถ จตุพฺพิธํ ปาริวาสิยํ ปริสปาริวาสิยํ รตฺติปาริวาสิยํ ฉนฺทปาริวาสิยํ อชฺฌาสยปาริวาสิยนฺติฯ

ตตฺถ ปริสปาริวาสิยํ นาม ภิกฺขู เกนจิเทว กรณีเยน สนฺนิปติตา โหนฺติ, อถ เมโฆ วา อุฏฺฐหติ, อุสฺสารณา วา กรียติ, มนุสฺสา วา อชฺโฌตฺถรนฺตา อาคจฺฉนฺติ, ภิกฺขู ‘‘อโนกาสา มยํ, อญฺญตฺร คจฺฉามา’’ติ ฉนฺทํ อวิสฺสชฺชิตฺวาว อุฏฺฐหนฺติ, อิทํ ปริสปาริวาสิยํ นาม, กิญฺจาปิ ปริสปาริวาสิยํ, ฉนฺทสฺส ปน อวิสฺสฏฺฐตฺตา กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติฯ

ปุน ภิกฺขู ‘‘อุโปสถาทีนิ กริสฺสามา’’ติ รตฺติํ สนฺนิปติตฺวา ‘‘ยาว สพฺเพ สนฺนิปตนฺติ, ตาว ธมฺมํ สุณิสฺสามา’’ติ เอกํ อชฺเฌสนฺติ, ตสฺมิํ ธมฺมกถํ กเถนฺเตเยว อรุโณ อุคฺคจฺฉติฯ สเจ ‘‘จาตุทฺทสิกํ อุโปสถํ กริสฺสามา’’ติ นิสินฺนา, ‘‘ปนฺนรโส’’ติ กาตุํ วฏฺฏติฯ สเจ ปนฺนรสิกํ กาตุํ นิสินฺนา, ปาฏิปเท อนุโปสเถ อุโปสถํ กาตุํ น วฏฺฏติฯ อญฺญํ ปน สงฺฆกิจฺจํ กาตุํ วฏฺฏติ, อิทํ รตฺติปาริวาสิยํ นามฯ

ปุน ภิกฺขู ‘‘กิญฺจิเทว อพฺภานาทิสงฺฆกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ สนฺนิสินฺนา โหนฺติ, ตตฺเรโก นกฺขตฺตปาฐโก ภิกฺขุ เอวํ วทติ ‘‘อชฺช นกฺขตฺตํ ทารุณํ, มา อิทํ กมฺมํ กโรถา’’ติฯ