เมนู

3. อกาลจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

ตติเย นิฏฺฐิตจีวรสฺมิํ ภิกฺขุนาติ สามิวเสเนว กรณตฺโถ เวทิตพฺโพฯ อกาลจีวรํ นาม ยฺวายํ ‘‘อนตฺถเต กถิเน วสฺสานสฺส ปจฺฉิโม มาโส, อตฺถเต กถิเน ปญฺจมาสา’’ติ (ปารา. 649) จีวรกาโล วุตฺโต, ตํ ฐเปตฺวา อญฺญทา อุปฺปนฺนํ, ยญฺจ กาเลปิ สงฺฆสฺส วา ‘‘อิทํ อกาลจีวร’’นฺติ, ปุคฺคลสฺส วา ‘‘อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติอาทินา นเยน ทินฺนํ, เอตํ อกาลจีวรํ นามฯ อุปฺปชฺเชยฺยาติ เอวรูปํ จีวรํ อตฺตโน ภาคปฏิลาภวเสน สงฺฆโต วา สุตฺตนฺติกาทิคณโต วา ญาติโต วา มิตฺตโต วา ปํสุกูลํ วา อตฺตโน วา ธเนน (ปารา. 500), อถ วา ปน ‘‘อฏฺฐิมา, ภิกฺขเว, มาติกา จีวรสฺส อุปฺปาทาย สีมาย เทติ, กติกาย เทติ, ภิกฺขาปญฺญตฺติกาย เทติ, สงฺฆสฺส เทติ, อุภโตสงฺฆสฺส เทติ, วสฺสํวุฏฺฐสงฺฆสฺส เทติ, อาทิสฺส เทติ, ปุคฺคลสฺส เทตี’’ติ (มหาว. 379) อิมาสํ อฏฺฐนฺนํ มาติกานํ อญฺญตรโต อุปฺปชฺเชยฺยฯ เอตฺถ จ ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ เอวํ สีมํ ปรามสิตฺวา เทนฺโต สีมาย เทติ นาม, เอส นโย สพฺพตฺถฯ เอตฺถ จ สีมาติ ขณฺฑสีมา อุปจารสีมา สมานสํวาสสีมา อวิปฺปวาสสีมา ลาภสีมา คามสีมา นิคมสีมา นครสีมา อพฺภนฺตรสีมา อุทกุกฺเขปสีมา ชนปทสีมา รฏฺฐสีมา รชฺชสีมา ทีปสีมา จกฺกวาฬสีมาติ ปนฺนรสวิธาฯ ตตฺถ อุปจารสีมา นาม ปริกฺขิตฺตสฺส วิหารสฺส ปริกฺเขเปน, อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺฐาเนน ปริจฺฉินฺนาฯ อปิ จ ภิกฺขูนํ ธุวสนฺนิปาตฏฺฐานโต วา ปริยนฺเต ฐิตโภชนสาลโต วา นิพทฺธวสนกอาวาสโต วา ถามมชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ทฺวินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺโต ‘‘อุปจารสีมา’’ติ เวทิตพฺพาฯ สา ปน อาวาเส วฑฺฒนฺเต วฑฺฒติ, หายนฺเต หายติ , โยชนสตมฺปิ อุปจารสีมาว โหติฯ ตตฺถ ทินฺนลาโภ สพฺเพสํ อนฺโตสีมคตานํ ปาปุณาติ, ภิกฺขุนีนํ อารามปเวสนเสนาสนาปุจฺฉนานิ ปริวาสมานตฺตาโรจนํ วสฺสจฺเฉทนิสฺสยเสนาสนคฺคาหาทิวิธานนฺติ อิทมฺปิ สพฺพํ อิมิสฺสาว สีมาย วเสน เวทิตพฺพํฯ ลาภสีมาติ ยํ ราชราชมหามตฺตาทโย วิหารํ การาเปตฺวา คาวุตํ วา อทฺธโยชนํ วา โยชนํ วา สมนฺตา ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘อยํ อมฺหากํ วิหารสฺส ลาภสีมา, ยํ เอตฺถนฺตเร อุปฺปชฺชติ, ตํ สพฺพํ อมฺหากํ วิหารสฺส เทมา’’ติ ฐเปนฺติ, อยํ ลาภสีมา นามฯ กาสิโกสลาทีนํ ปน รฏฺฐานํ อนฺโต พหู ชนปทา โหนฺติ, ตตฺถ เอโก ชนปทปริจฺเฉโท ชนปทสีมา, กาสิโกสลาทิรฏฺฐปริจฺเฉโท รฏฺฐสีมา, เอกสฺส รญฺโญ อาณาปวตฺติฏฺฐานํ รชฺชสีมา, สมุทฺทนฺเตน ปริจฺฉินฺโน มหาทีโป วา อนฺตรทีโป วา ทีปสีมา, เอกจกฺกวาฬปพฺพตปริกฺเขปพฺภนฺตรํ จกฺกวาฬสีมา, เสสา นิทานกถายํ วุตฺตนยา เอวฯ ตตฺถ ‘‘ขณฺฑสีมาย เทมา’’ติ ทินฺนํ ขณฺฑสีมฏฺฐานํเยว ปาปุณาติ, ตโต พหิสีมาย สีมนฺตริกฏฺฐานมฺปิ น ปาปุณาติฯ ‘‘อุปจารสีมาย เทมา’’ติ ทินฺนํ ปน อนฺโตปริจฺเฉเท ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกาสุ ฐิตานมฺปิ ปาปุณาติ, สมานสํวาสสีมาย ทินฺนํ ขณฺฑสีมาสีมนฺตริกฏฺฐานํ น ปาปุณาติ, อวิปฺปวาสสีมาลาภสีมาสุ ทินฺนํ ตาสํ อนฺโตคธานํเยว ปาปุณาติ, คามสีมาทีสุ ทินฺนํ ตาสํ สีมานํ อพฺภนฺตเร พทฺธสีมฏฺฐานมฺปิ ปาปุณาติ, อพฺภนฺตรสีมาอุทกุกฺเขปสีมาสุ ทินฺนํ ตตฺถ อนฺโตคธานํเยว ปาปุณาติ, ชนปทสีมาทีสุ ทินฺนมฺปิ ตาสํ อพฺภนฺตเร พทฺธสีมฏฺฐานมฺปิ ปาปุณาติ, ตสฺมา ยํ ชมฺพุทีเป ฐตฺวา ‘‘ตมฺพปณฺณิทีเป สงฺฆสฺส เทมา’’ติ ทียติ, ตํ ตมฺพปณฺณิทีปโต เอโกปิ คนฺตฺวา สพฺเพสํ สงฺคณฺหิตุํ ลภติฯ สเจปิ ตตฺเถว เอโก สภาโค ภิกฺขุ สภาคานํ ภาคํ คณฺหาติ, น วาเรตพฺโพฯ โย ปน วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘อสุกสีมายา’’ติ อวตฺวาว เกวลํ ‘‘สีมาย ทมฺมี’’ติ วทติ, โส ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘สีมา นาม พหุวิธา, กตรํ สนฺธาย วทสี’’ติ, สเจ วทติ ‘‘อหเมตํ เภทํ น ชานามิ, สีมฏฺฐกสงฺโฆ คณฺหตู’’ติ, อุปจารสีมฏฺเฐหิ ภาเชตพฺพํฯ

กติกายาติเอตฺถ กติกา นาม สมานลาภกติกาฯ

สา ปน เอวํ กาตพฺพา, เอกสฺมิํ วิหาเร สนฺนิปติเตหิ ภิกฺขูหิ ยํ วิหารํ สงฺคณฺหิตุกามา สมานลาภํ กาตุํ อิจฺฉนฺติ, ตสฺส นามํ คเหตฺวา ‘‘อสุโก นาม วิหาโร โปราณโก อปฺปลาโภ’’ติ ยํ กิญฺจิ การณํ วตฺวา ‘‘ตํ วิหารํ อิมินา วิหาเรน สทฺธิํ เอกลาภํ กาตุํ สงฺฆสฺส รุจฺจตี’’ติ ติกฺขตฺตุํ สาเวตพฺพํ, เอตฺตาวตา ตสฺมิํ วิหาเร นิสินฺโนปิ อิธ นิสินฺโนว โหติ, ตสฺมิํ วิหาเรปิ เอวเมว กาตพฺพํ, เอตฺตาวตา อิธ นิสินฺโนปิ ตสฺมิํ นิสินฺโนว โหติฯ เอกสฺมิํ วิหาเร ลาเภ ภาชิยมาเน อิตรสฺมิํ ฐิตสฺส ภาคํ คเหตุํ วฏฺฏติฯ

ภิกฺขาปญฺญตฺติยาติ เอตฺถ ภิกฺขาปญฺญตฺติ นาม ทายกสฺส ปริจฺจาคปญฺญตฺติฏฺฐานํ, ตสฺมา ‘‘ยตฺถ มยฺหํ ธุวการา กรียนฺติ, ตตฺถ ทมฺมี’’ติ วา ‘‘ตตฺถ เทถา’’ติ วา วุตฺเต ยตฺถ ตสฺส ปากวตฺตํ วา วตฺตติ, ยโต วา ภิกฺขู นิจฺจํ โภเชติ, ยตฺถ วา เตน กิญฺจิ เสนาสนํ กตํ, สพฺพตฺถ ทินฺนเมว โหติฯ สเจ ปน เอกสฺมิํ ธุวการฏฺฐาเน โถกตรา ภิกฺขู โหนฺติ, เอกเมว วา วตฺถํ โหติ, มาติกํ อาโรเปตฺวา ยถา โส วทติ, ตถา คเหตพฺพํฯ

สงฺฆสฺส เทตีติ เอตฺถ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ อุปจารสีมาคตานญฺจ ตโต พหิทฺธาปิ เตหิ สทฺธิํ เอกาพทฺธานญฺจ ปาปุณาติ, ตสฺมา เตสํ คาหเก สติ อสมฺปตฺตานมฺปิ ภาโค ทาตพฺโพฯ ยํ ปน พหิ อุปจารสีมาย ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘สงฺฆสฺสา’’ติ ทียติ, ตํ เอกาพทฺธปริสาย ปาปุณาติฯ เย ปน ทฺวาทสหิ หตฺเถหิ ปริสํ อสมฺปตฺตา, เตสํ น ปาปุณาติฯ

อุภโตสงฺฆสฺสาติ เอตฺถ ปน ยํ อุภโตสงฺฆสฺส ทินฺนํ, ตโต อุปฑฺฒํ ภิกฺขูนํ, อุปฑฺฒํ ภิกฺขุนีนํ ทาตพฺพํฯ สเจปิ เอโก ภิกฺขุ โหติ, เอกา วา ภิกฺขุนี, อนฺตมโส อนุปสมฺปนฺนสฺสาปิ อุปฑฺฒเมว ทาตพฺพํฯ ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ ตุยฺหญฺจา’’ติ วุตฺเต ปน สเจ ทส ภิกฺขู จ ทส ภิกฺขุนิโย จ โหนฺติ, เอกวีสติ ปฏิวีเส กตฺวา เอโก ปุคฺคลสฺส ทาตพฺโพ, ทส ภิกฺขุสงฺฆสฺส, ทส ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส จ, เยน ปุคฺคลิโก ลทฺโธ, โส สงฺฆโตปิ อตฺตโน วสฺสคฺเคน คเหตุํ ลภติ, กสฺมา? อุภโตสงฺฆคฺคหเณน คหิตตฺตา, ‘‘อุภโตสงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโยฯ อิธ ปน เจติยสฺส สงฺฆโต ปาปุณโกฏฺฐาโส นาม นตฺถิ, เอกปุคฺคลสฺส ปตฺตโกฏฺฐาสสโม เอโก โกฏฺฐาโส โหติฯ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนญฺจา’’ติ วุตฺเต ปน น มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทาตพฺพํ, ภิกฺขู จ ภิกฺขุนิโย จ คเณตฺวา ทาตพฺพํฯ

‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ภิกฺขุนีนญฺจ ตุยฺหญฺจา’’ติ วุตฺเต ปุคฺคโล วิสุํ น ลภติ, ปาปุณโกฏฺฐาสโต เอกเมว ลภติ ฯ ‘‘เจติยสฺส จา’’ติ วุตฺเต ปน เจติยสฺส เอโก ปุคฺคลปฏิวีโส ลพฺภติฯ ‘‘ภิกฺขูนญฺจ ภิกฺขุนีนญฺจา’’ติ วุตฺเตปิ น มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทาตพฺพํ, ปุคฺคลคณนาย เอว วิภชิตพฺพํ, เตหิ สทฺธิํ ปุคฺคลเจติยปรามสนํ อนนฺตรนยสทิสเมว, ยถา จ ภิกฺขุสงฺฆํ อาทิํ กตฺวา นโย นีโต, เอวํ ภิกฺขุนิสงฺฆํ อาทิํ กตฺวาปิ เนตพฺโพฯ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ ตุยฺหญฺจา’’ติ วุตฺเตปิ ปุคฺคลสฺส วิสุํ น ลพฺภติ , เจติยสฺส ปน ลพฺภติฯ ‘‘ภิกฺขูนญฺจ ตุยฺหญฺจา’’ติ วุตฺเตปิ วิสุํ น ลพฺภติ, เจติยสฺส ปน ลพฺภติเยวฯ

วสฺสํวุฏฺฐสงฺฆสฺสาติ เอตฺถ สเจ วิหารํ ปวิสิตฺวา ‘‘วสฺสํวุฏฺฐสงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, เย ตตฺถ วสฺสจฺเฉทํ อกตฺวา ปุริมวสฺสํวุฏฺฐา, เตสํ พหิ สีมฏฺฐานมฺปิ ปาปุณาติ, น อญฺเญสํฯ สเจ ปน พหิอุปจารสีมายํ ฐิโต ‘‘วสฺสํวุฏฺฐสงฺฆสฺสา’’ติ วทติ, ยตฺถกตฺถจิ วุฏฺฐวสฺสานํ สพฺเพสํ สมฺปตฺตานํ ปาปุณาติฯ อถ ‘‘อสุกวิหาเร วสฺสํวุฏฺฐสฺสา’’ติ วทติ, ตตฺถ วสฺสํวุฏฺฐานํเยว ยาว กถินสฺสุพฺภารา ปาปุณาติฯ คิมฺหานํ ปฐมทิวสโต ปฏฺฐาย เอวํ วทติ, ตตฺร สมฺมุขีภูตานํ สพฺเพสํ ปาปุณาติ, น อญฺเญสํฯ

อาทิสฺส เทตีติ อาทิสิตฺวา ปริจฺฉินฺทิตฺวา เทติ, กถํ? ภิกฺขู อชฺชตนาย วา สฺวาตนาย วา ยาคุยา นิมนฺเตตฺวา เต ฆเร ยาคุํ ปาเยตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ เยหิ มยฺหํ ยาคุ ปีตา, เตสํ ทมฺมี’’ติ วทติ, เยหิ นิมนฺติเตหิ ยาคุ ปีตา, เตสํเยว ปาปุณาติ, ภตฺตขชฺชกาทีหิ นิมนฺติเตสุปิ เอเสว นโยฯ

ปุคฺคลสฺส เทตีติ ‘‘อิทํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส ทมฺมี’’ติ เอวํ ปรมฺมุขา วา, ปาทมูเล ฐเปตฺวา ‘‘อิทํ ตุมฺหาก’’นฺติ เอวํ สมฺมุขา วา เทตีติ อยเมตฺถ สงฺเขปกถา, วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโตฯ อิติ อิมาสํ อฏฺฐนฺนํ มาติกาปทานํ วเสน ยํ อกาลจีวรลกฺขเณน ปฏิลทฺธํ, ตํ สนฺธาย ‘‘อกาลจีวรํ อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ วุตฺตํฯ

อากงฺขมาเนนาติ อิจฺฉมาเนนฯ ขิปฺปเมว กาเรตพฺพนฺติ สีฆํ อนฺโตทสาเหเยว กาเรตพฺพํฯ โน จสฺส ปาริปูรีติ โน เจ ปาริปูรี ภเวยฺย, ยตฺตเกน กริยมานํ อธิฏฺฐานจีวรํ ปโหติ, ตํ จีวรํ ตตฺตกํ น ภเวยฺย, อูนกํ ภเวยฺยาติ อตฺโถฯ

สติยา ปจฺจาสายาติ ‘‘อสุกทิวสํ นาม สงฺโฆ จีวรานิ ลภิสฺสติ, ตโต เม จีวรํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติอิมินา นเยน สงฺฆคณญาติมิตฺเตสุ วา อญฺญตรฏฺฐานโต, ‘‘ปํสุกูลํ วา ลจฺฉามี’’ติ, ‘‘อิมินา วา กปฺปิยภณฺเฑน จีวรํ คณฺหิสฺสามี’’ติ เอวํ วิชฺชมานาย จีวราสายฯ ตโต เจ อุตฺตรีติ มาสปรมโต เจ อุตฺตริ นิกฺขิเปยฺย, นิสฺสคฺคิยนฺติ อตฺโถฯ ยทิ ปนสฺส มูลจีวรํ สณฺหํ โหติ, ปจฺจาสาจีวรํ ถูลํ โหติ, น สกฺกา โยเชตุํ, รตฺติโย จ เสสา โหนฺติ, น ตาว มาโส ปูรติ, น อกามา จีวรํ กาเรตพฺพํ, อญฺญํ ปจฺจาสาจีวรํ ลภิตฺวา เอว กาลพฺภนฺตเร กาเรตพฺพํฯ สเจ น ลภติ, ปจฺจาสาจีวรมฺปิ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺฐาตพฺพํฯ อถ มูลจีวรํ ถูลํ โหติ, ปจฺจาสาจีวรํ สณฺหํ, มูลจีวรํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺฐหิตฺวา ปจฺจาสาจีวรเมว มูลจีวรํ กตฺวา ฐเปตพฺพํ, ตํ ปุน มาสปริหารํ ลภติ, เอเตนุปาเยน ยาว น ลจฺฉติ, ตาว อญฺญํ มูลจีวรํ กตฺวา ฐเปตุํ ลพฺภติฯ อิมสฺส ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, อกาลจีวรํ มาสาติกฺกนฺตํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. 500) อิมินา นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํฯ

สาวตฺถิยํ สมฺพหุเล ภิกฺขู อารพฺภ อกาลจีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา มาสํ อติกฺกมนวตฺถุสฺมิํ

ปญฺญตฺตํ, สาธารณปญฺญตฺติ, อนาณตฺติกํ, อิโต ปรํ สพฺพํ ปฐมกถิเน วุตฺตสทิสเมวฯ เกวลญฺหิ ตตฺถ ทสาหาติกฺกโม, อิธ มาสาติกฺกโมติ อยํ วิเสโสฯ เสสํ ตาทิสเมวาติฯ

อกาลจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

4. ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

จตุตฺเถ อญฺญาติกายาติ น ญาติกาย, มาติโต วา ปิติโต วา ยาว สตฺตมํ ยุคํ, ตาว เกนจิ อากาเรน อสมฺพทฺธายาติ อตฺโถฯ ภิกฺขุนิยาติ สากิยานิโย วิย สุทฺธภิกฺขุสงฺเฆ วา อุภโตสงฺเฆ วา อุปสมฺปนฺนายฯ ปุราณจีวรนฺติ รชิตฺวา กปฺปํ กตฺวา เอกวารมฺปิ นิวตฺถํ วา ปารุตํ วา, ยํ อนฺตมโส ปริโภคสีเสน อํเส วา มตฺถเก วา กตฺวา มคฺคํ คโต โหติ, อุสฺสีสกํ วา กตฺวา นิปนฺโน, เอตมฺปิ ปุราณจีวรเมวฯ โธวาเปยฺย วาติ สเจ ‘‘โธวา’’ติวาจาย วทติ, กายวิการํ วา กโรติ, หตฺเถน วา หตฺเถ เทติ, ปาทมูเล วา ฐเปติ, อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเส ฐตฺวา อุปริ วา ขิปติ, อญฺญสฺส วา หตฺเถ เปเสติ, ตาย โธตํ, โธวาปิตเมว โหติ, รชาปนาโกฏาปเนสุปิ เอเสว นโยฯ สิกฺขมานาย วา สามเณริยา วา อุปาสิกาย วา หตฺเถ โธวนตฺถาย เทติ, สา สเจ อุปสมฺปชฺชิตฺวา โธวติ, เอวมฺปิ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํฯ อุปาสกสฺส วา สามเณรสฺส วา หตฺเถ ทินฺนํ โหติ, โส เจ ลิงฺเค ปริวตฺเต อุปสมฺปชฺชิตฺวา โธวติ, ทหรสฺส ภิกฺขุสฺส วา ทินฺนํ โหติ, โสปิ ลิงฺเค ปริวตฺเต โธวติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยเมว, รชาปนาโกฏาปเนสุปิ เอเสว นโยฯ ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, ปุราณจีวรํ อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา โธวาปิตํ นิสฺสคฺคิย’’นฺติ (ปารา. 505) อิมินา ปเนตฺถ นเยน นิสฺสชฺชนวิธานํ เวทิตพฺพํฯ

สาวตฺถิยํ อุทายิตฺเถรํ อารพฺภ ปุราณจีวรโธวาปนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, อสาธารณปญฺญตฺติ, สาณตฺติกํ ‘‘โธวา’’ติอาทิกาย อาณตฺติยา, เอวํ อาณตฺตาย จ ภิกฺขุนิยา อุทฺธนสชฺชนาทีสุ สพฺพปฺปโยเคสุ ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํฯ โธวิตฺวา อุกฺขิตฺตมตฺตํ ปน รตฺตมตฺตํ อาโกฏิตมตฺตญฺจ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, โธวนาทีนิ ตีณิปิ ทฺเว วา การาเปนฺตสฺส เอเกน วตฺถุนา นิสฺสคฺคิยํ, อิตเรหิ ทุกฺกฏํฯ สเจ ปน ‘‘โธวา’’ติ วุตฺตา สพฺพานิปิ กโรติ, โธวนปจฺจยาว อาปตฺติฯ ‘‘อิมสฺมิํ จีวเร ยํ กตฺตพฺพํ, ตํ กโรหี’’ติ วทโต ปน เอกวาจาย ปาจิตฺติเยน สทฺธิํ ทฺเว ทุกฺกฏานิ, ภิกฺขุนิสงฺฆวเสน เอกโตอุปสมฺปนฺนาย โธวาเปนฺตสฺส อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภุญฺชนฺตสฺส, อญฺญสฺส วา สนฺตกํ นิสีทนปจฺจตฺถรณํ วา โธวาเปนฺตสฺส, ญาติกาย อญฺญาติกสญฺญิโน เจว, เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ, อญฺญาติกาย ญาติกสญฺญิโนปิ เวมติกสฺสาปิ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยเมวฯ อิโต ปรํ ปน เอวรูเปสุ ฐาเนสุ ‘‘ติกปาจิตฺติย’’นฺติ วกฺขาม, สเจ ญาติกาย สหายา อญฺญาติกา ‘‘โธวา’’ติ อวุตฺตา วา โธวติ, อปริภุตฺตํ วา อญฺญํ วา ปริกฺขารํ โธวติ, สิกฺขมานสามเณริโย วา โธวนฺติ, อนาปตฺติ, อุมฺมตฺตกาทีนํ อนาปตฺติเยวฯ ปุราณจีวรตา, อุปจาเร ฐตฺวา อญฺญาติกาย ภิกฺขุนิยา อาณาปนํ, ตสฺสา โธวนาทีนิ จาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ สญฺจริตฺตสมุฏฺฐานํ, กิริยํ, โนสญฺญาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ

ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ