เมนู

2. รตนสิกฺขาปทวณฺณนา

[502] ทุติเย มหาลตํ นามาติ ปติกุลํ คจฺฉนฺติยา กิร ตสฺสา ปิตา มหาลตาปิฬนฺธนํ นาม การาเปสิฯ ตสฺมิํ ปิฬนฺธเน จตสฺโส วชิรนาฬิโย ตตฺถ ตตฺถ อปฺเปตพฺพฏฺฐาเน อปฺปนวเสน วินิโยคํ อคมํสุ, มุตฺตานํ เอกาทส นาฬิโย, ปวาฬสฺส ทฺวาวีสติ นาฬิโย, มณีนํ เตตฺติํส นาฬิโยฯ อิติ เอเตหิ จ อญฺเญหิ จ เวฬุริยโลหิตงฺกมสารคลฺลาทีหิ สตฺตวณฺเณหิ จ รตเนหิ นิฏฺฐานํ อคมาสิ ฯ ตํ สีเส ปฏิมุกฺกํ ยาว ปาทปิฏฺฐิยา ภสฺสติ, ปญฺจนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธารยมานาว อิตฺถี นํ ธาเรตุํ สกฺโกติฯ ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ

[506] อาวสถสฺส ปน สุปฺปปาโต วา มุสลปาโต วา อุปจาโร นามาติ โยเชตพฺพํฯ อาวสโถติ เจตฺถ อนฺโตอาราเม วา โหตุ อญฺญตฺถ วา, อตฺตโน วสนฏฺฐานํ วุจฺจติฯ ฉนฺเทนปิ ภเยนปีติ วฑฺฒกีอาทีสุ ฉนฺเทน, ราชวลฺลเภสุ ภเยนฯ ตเมว ภิกฺขุํ อาสงฺกนฺตีติ วิสฺสริตฺวา คมนกาเล อตฺตโน ปจฺฉโต อญฺญสฺสาภาวา อาสงฺกนฺติฯ ปติรูปํ นาม รตนสมฺมเต ปํสุกูลคฺคหณํ วา รตเน นิรุสฺสุกฺกคมนํ วาฯ ยทิ หิ ตํ รตนสมฺมตํ อามาสํ เจ, ‘‘นตฺถิ เอตสฺส สามี’’ติ ปํสุกูลํ คเหสฺสติฯ อนามาสํ เจ, ‘‘นตฺถิ เอตสฺส สามี’’ติ ปํสุกูลฉินฺนปลิโพโธ นิรเปกฺโข คมิสฺสติฯ สมาทเปตฺวาติ อญฺญํ สมาทเปตฺวา, ‘‘อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺฐนฺติ, เอสา อริยานยาจนา’’ติ (ชา. 1.7.59) วุตฺตนเยน ยาจิตฺวาติ อตฺโถฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ อนนุญฺญาตกรณํ, ปรสนฺตกตา, วิสฺสาสคฺคาหปํสุกูลสญฺญานํ อภาโว, อุคฺคหณํ วา อุคฺคหาปนํ วาติ อิมานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิฯ

รตนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

3. วิกาลคามปฺปวิสนสิกฺขาปทวณฺณนา

[508] ตติเย อริยมคฺคสฺสาติ เอตฺถ สคฺคมคฺโคปิ สงฺคเหตพฺโพฯ อนิยฺยานิกตฺตา สคฺคโมกฺขมคฺคานํ ติรจฺฉานภูตา หิ กถา ติรจฺฉานกถาฯ ติรจฺฉานภูตนฺติ ติโรกรณภูตํ วิพนฺธนภูตํฯ ราชปฏิสํยุตฺตํ กถนฺติ (ที. นิ. อฏฺฐ. 1.17; ม. นิ. อฏฺฐ. 2.223; สํ. นิ. อฏฺฐ. 3.5.1080; อ. นิ. อฏฺฐ. 3.10.69-70) ราชานํ อารพฺภ ‘‘มหาสมฺมโต มนฺธาตา ธมฺมาโสโก เอวํมหานุภาโว’’ติอาทินา นเยน ปวตฺตกถํฯ เอตฺถ จ ‘‘อสุโก ราชา อภิรูโป ทสฺสนีโย’’ติอาทินา นเยน เคหสฺสิตกถาว ติรจฺฉานกถา โหติฯ ‘‘โสปิ นาม เอวํมหานุภาโว ขยํ คโต’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน อนิจฺจตาปฏิสํยุตฺตา กมฺมฏฺฐานภาเว ติฏฺฐติฯ โจเรสุปิ ‘‘มูลเทโว เอวํมหานุภาโว, เมฆมาโล เอวํมหานุภาโว’’ติ เตสํ กมฺมํ ปฏิจฺจ ‘‘อโห สูรา’’ติ เคหสฺสิตกถาว ติรจฺฉานกถาฯ ยุทฺเธปิ ภรตยุทฺธาทีสุ ‘‘อสุเกน อสุโก เอวํ มาริโต เอวํ วิทฺโธ’’ติ กามสฺสาทวเสเนว กถา ติรจฺฉานกถาฯ ‘‘เตปิ นาม ขยํ คตา’’ติ เอวํ ปวตฺตา ปน สพฺพตฺถ กมฺมฏฺฐานเมว โหติฯ

อปิจ อนฺนาทีสุ ‘‘เอวํ วณฺณวนฺตํ คนฺธวนฺตํ รสวนฺตํ ผสฺสสมฺปนฺนํ ขาทิมฺห ภุญฺชิมฺห ปิวิมฺห ปริภุญฺชิมฺหา’’ติ กามสฺสาทวเสน กเถตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘ปุพฺเพ เอวํ วณฺณาทิสมฺปนฺนํ อนฺนํ ปานํ วตฺถํ สยนํ มาลาคนฺธํ สีลวนฺตานํ อทมฺห, เจติยปูชํ อกริมฺหา’’ติ กเถตุํ วฏฺฏติฯ ญาติกถาทีสุปิ ‘‘อมฺหากํ ญาตกา สูรา สมตฺถา’’ติ วา ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวํ วิจิตฺเรหิ ยาเนหิ วิจริมฺหา’’ติ วา อสฺสาทวเสน วตฺตุํ น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘เตปิ โน ญาตกา ขยํ คตา’’ติ วา ‘‘ปุพฺเพ มยํ เอวรูปา อุปาหนา สงฺฆสฺส อทมฺหา’’ติ วา กเถตพฺพํฯ คามกถาปิ สุนิวิฏฺฐทุนฺนิวิฏฺฐสุภิกฺขทุพฺภิกฺขาทิวเสน วา ‘‘อสุกคามวาสิโน สูรา สมตฺถา’’ติ วา เอวํ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, สาตฺถกํ ปน กตฺวา ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติ วา ‘‘ขยวยํ คตา’’ติ วา วตฺตุํ วฏฺฏติฯ นิคมนครชนปทกถาสุปิ เอเสว นโยฯ

อิตฺถิกถาปิ วณฺณสณฺฐานาทีนิ ปฏิจฺจ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา, ขยํ คตา’’ติ เอวํ วตฺตุํ วฏฺฏติฯ สูรกถาปิ ‘‘นนฺทิมิตฺโต นาม โยโธ สูโร อโหสี’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺโธ อโหสิ, ขยํ คโต’’ติ เอวเมว วฏฺฏติฯ วิสิขากถาปิ ‘‘อสุกา วิสิขา สุนิวิฏฺฐา ทุนฺนิวิฏฺฐา สูรา สมตฺถา’’ติ อสฺสาทวเสเนว น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา, ขยํ คตา’’อิจฺเจว วฏฺฏติฯ

กุมฺภฏฺฐานกถาติ กุฏฏฺฐานกถา อุทกติตฺถกถา วุจฺจติ, กุมฺภทาสีกถา วาฯ สาปิ ‘‘ปาสาทิกา นจฺจิตุํ คายิตุํ เฉกา’’ติ อสฺสาทวเสน น วฏฺฏติ, ‘‘สทฺธา ปสนฺนา’’ติอาทินา นเยเนว วฏฺฏติฯ ปุพฺพเปตกถาติ อตีตญาติกถาฯ ตตฺถ วตฺตมานญาติกถาสทิโสว วินิจฺฉโยฯ

นานตฺตกถาติ ปุริมปจฺฉิมกถาวิมุตฺตา อวเสสา นานาสภาวา นิรตฺถกกถาฯ