เมนู

4. สกฺกจฺจวคฺควณฺณนา

[608] จตุตฺถวคฺเค สปทานนฺติ เอตฺถ ทานํ วุจฺจติ อวขณฺฑนํ, อเปตํ ทานโต อปทานํ, อนวขณฺฑนนฺติ อตฺโถฯ สห อปทาเนน สปทานํ, อวขณฺฑนวิรหิตํ , อนุปฏิปาฏิยาติ วุตฺตํ โหติฯ เตนาห ‘‘ตตฺถ ตตฺถ โอธิํ อกตฺวา อนุปฏิปาฏิยา’’ติฯ

[611] ยสฺมิํ สมเย ‘‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ’’ติ ราชาโน เภริํ จราเปนฺติ, อยํ มาฆาตสมโย นามฯ อิธ อนาปตฺติยํ คิลาโน น อาคโต, ตสฺมา คิลานสฺสปิ อาปตฺติฯ สูโปทนวิญฺญตฺติสิกฺขาปเท อสญฺจิจฺจ อสฺสติยาติ เอตฺถ ‘‘มุเข ปกฺขิปิตฺวา ปุน วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ฉฑฺเฑนฺตสฺส อรุจิยา ปวิสนฺเต ‘อสญฺจิจฺจา’ติ วุจฺจติ, วิญฺญตฺติมฺปิ อวิญฺญตฺติมฺปิ เอตสฺมิํ ฐาเน ฐิตํ สหสา คเหตฺวา ภุญฺชนฺเต ‘อสฺสติยา’ติ วุจฺจตี’’ติ ตีสุปิ คณฺฐิปเทสุ วุตฺตํฯ

[614-615] อุชฺฌาเน สญฺญา อุชฺฌานสญฺญา, สา อสฺส อตฺถีติ อุชฺฌานสญฺญีฯ ‘‘มยูรณฺฑํ อติมหนฺต’’นฺติ วจนโต มยูรณฺฑปฺปมาโณ กพโฬ น วฏฺฏติฯ เกจิ ปน ‘‘มยูรณฺฑโต มหนฺโต น วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ, ‘‘นาติมหนฺต’’นฺติ จ อติมหนฺตสฺเสว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ขุทฺทเก อาปตฺติ น ทิสฺสติฯ ‘‘มยูรณฺฑํ อติมหนฺตํ, กุกฺกุฏณฺฑํ อติขุทฺทกํ, เตสํ เวมชฺฌปฺปมาโณ’’ติ อิมินา ปน สารุปฺปวเสน ขุทฺทกมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปริจฺเฉโท น ทสฺสิโตติ เวทิตพฺพํฯ

สกฺกจฺจวคฺควณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

5. กพฬวคฺควณฺณนา

[618] ปญฺจมวคฺเค สพฺพํ หตฺถนฺติ เอตฺถ หตฺถ-สทฺโท ตเทกเทเสสุ องฺคุลีสุ ทฏฺฐพฺโพ ‘‘หตฺถมุทฺทา’’ติอาทีสุ วิย, สมุทาเย ปวตฺตโวหารสฺส อวยเวปิ วตฺตนโต เอกงฺคุลิมฺปิ มุเข ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติฯ

กพฬวคฺควณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

6. สุรุสุรุวคฺควณฺณนา

[627] ฉฏฺฐวคฺเค สีตีกโตติ สีตฏฺโฏ, สีตปีฬิโตติ วุตฺตํ โหติฯ สิลกพุทฺโธติ ปริหาสวจนเมตํฯ สิลกญฺหิ กญฺจิ ทิสฺวา ‘‘พุทฺโธ อย’’นฺติ โวหรนฺติฯ

[634] วิลีวจฺฉตฺตนฺติ เวณุวิลีเวหิ กตํ ฉตฺตํฯ ตตฺถชาตกทณฺฑเกน กตนฺติ ตาลปณฺณํ สห ทณฺฑเกน ฉินฺทิตฺวา ตเมว ฉตฺตทณฺฑํ กโรนฺติ โคปาลกาทโย วิย, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ ฉตฺตปาทุกาย วา ฐิตํ โหตีติ เอตฺถ ฉตฺตปาทุกา วุจฺจติ ฉตฺตาธาโรฯ ยสฺมิํ ฉตฺตํ อปตมานํ กตฺวา ฐเปนฺติ, ตาทิสิกาย ฉตฺตปาทุกาย ฐิตํ ฉตฺตํ ‘‘ฉตฺต’’นฺติ อชฺฌาหริตพฺพํฯ ‘‘ฉตฺตํ ฉตฺตปาทุกาย ฐิต’’นฺติปิ ปฐนฺติ, ตตฺถาปิ อยเมวตฺโถฯ

[637] จาโปติ มชฺเฌ วงฺกา กาจทณฺฑสทิสา ธนุวิกติฯ โกทณฺโฑติ วฏฺฏลทณฺฑา ธนุวิกติฯ ปฏิมุกฺกนฺติ ปเวสิตํ ลคฺคิตํฯ

สุรุสุรุวคฺควณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

7. ปาทุกวคฺควณฺณนา

[647] สตฺตมวคฺเค ปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวาติ โส กิร รตฺติภาเค อุยฺยานํ คนฺตฺวา อมฺพํ อภิรุหิตฺวา สาขาย สาขํ อมฺพํ โอโลเกนฺโต วิจริฯ ตสฺส ตถา กโรนฺตสฺเสว รตฺติ วิภายิฯ โส จินฺเตสิ ‘‘สเจ อิทานิ โอตริตฺวา คมิสฺสามิ, ทิสฺวา มํ โจโรติ คเหสฺสนฺติ, รตฺติภาเค คมิสฺสามี’’ติฯ อเถกํ วิฏปํ อภิรุหิตฺวา นิลีโน อจฺฉิฯ ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํฯ โส รุกฺขโต โอตรนฺโต เอกํ โอลมฺพินิสาขํ คเหตฺวา เตสํ อุภินฺนมฺปิ อนฺตเร ปติฏฺฐาสิฯ ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เตสํ ทฺวินฺนมฺปิ อนฺตรา รุกฺขโต ปติโต’’ติฯ ปาฬิยา อตฺถํ น ชานนฺตีติ อตฺตโน คหณสฺส อตฺถํ น ชานนฺติฯ

ชาตกปาฬิยํ (ชา. 1.4.33) ปน อยํ คาถา –

‘‘สพฺพมิทํ จริมํ กตํ, อุโภ ธมฺมํ น ปสฺสเร;

อุโภ ปกติยา จุตา, โย จายํ มนฺเตชฺฌาเปติ;

โย จ มนฺตํ อธียตี’’ติฯ –

เอวมาคตาฯ ตสฺสายมตฺโถ (ชา. อฏฺฐ. 3.4.33) – สพฺพมิทํ จริมํ กตนฺติ ยํ อมฺเหหิ ตีหิ ชเนหิ กตํ, สพฺพมิทํ กิจฺจํ ลามกํ นิมฺมริยาทํ อธมฺมิกํฯ