เมนู

‘‘อภิกฺกนฺตํ , โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ, โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย – ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตฯ เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติฯ

คณกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ สตฺตมํฯ

8. โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ

[79] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเป อจิรปรินิพฺพุเต ภควติฯ เตน โข ปน สมเยน ราชา มาคโธ อชาตสตฺตุ เวเทหิปุตฺโต ราชคหํ ปฏิสงฺขาราเปติ รญฺโญ ปชฺโชตสฺส อาสงฺกมาโนฯ อถ โข อายสฺมา อานนฺโท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ อถ โข อายสฺมโต อานนฺทสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อติปฺปโค โข ตาว ราชคเห ปิณฺฑาย จริตุํฯ ยํนูนาหํ เยน โคปกโมคฺคลฺลานสฺส พฺราหฺมณสฺส กมฺมนฺโต, เยน โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติฯ

อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน โคปกโมคฺคลฺลานสฺส พฺราหฺมณสฺส กมฺมนฺโต, เยน โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสา โข โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘เอตุ โข ภวํ อานนฺโทฯ สฺวาคตํ โภโต อานนฺทสฺสฯ จิรสฺสํ โข ภวํ อานนฺโท อิมํ ปริยายมกาสิ ยทิทํ อิธาคมนายฯ นิสีทตุ ภวํ อานนฺโท, อิทมาสนํ ปญฺญตฺต’’นฺติฯ นิสีทิ โข อายสฺมา อานนฺโท ปญฺญตฺเต อาสเนฯ โคปกโมคฺคลฺลาโนปิ โข พฺราหฺมโณ อญฺญตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ

เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภวํ โคตโม อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภควา อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธฯ โส หิ, พฺราหฺมณ, ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสญฺชาตสฺส มคฺคสฺส สญฺชเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคญฺญู, มคฺควิทู, มคฺคโกวิโท; มคฺคานุคา จ ปน เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉา สมนฺนาคตา’’ติฯ อยญฺจ หิทํ อายสฺมโต อานนฺทสฺส โคปกโมคฺคลฺลาเนน พฺราหฺมเณน สทฺธิํ อนฺตรากถา วิปฺปกตา อโหสิฯ

อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต ราชคเห กมฺมนฺเต อนุสญฺญายมาโน เยน โคปกโมคฺคลฺลานสฺส พฺราหฺมณสฺส กมฺมนฺโต, เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กายนุตฺถ, โภ อานนฺท, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา, กา จ ปน โว อนฺตรากถา วิปฺปกตา’’ติ? ‘‘อิธ มํ, พฺราหฺมณ, โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ เอวมาห – ‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภวํ โคตโม อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’ติฯ เอวํ วุตฺเต อหํ, พฺราหฺมณ, โคปกโมคฺคลฺลานํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจํ – ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภควา อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธฯ โส หิ, พฺราหฺมณ, ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสญฺชาตสฺส มคฺคสฺส สญฺชเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคญฺญู, มคฺควิทู, มคฺคโกวิโท; มคฺคานุคา จ ปน เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉา สมนฺนาคตา’ติฯ อยํ โข โน, พฺราหฺมณ, โคปกโมคฺคลฺลาเนน พฺราหฺมเณน สทฺธิํ อนฺตรากถา วิปฺปกตาฯ อถ ตฺวํ อนุปฺปตฺโต’’ติฯ

[80] ‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตน โภตา โคตเมน ฐปิโต – ‘อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตี’ติ, ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’’ติ [ปฏิธาเวยฺยาถาติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]? ‘‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ฐปิโต – ‘อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตี’ติ, ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’’ติฯ ‘‘อตฺถิ ปน, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ฐปิโต – ‘อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตี’ติ, ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ฐปิโต – ‘อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตี’ติ, ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’’ติฯ ‘‘เอวํ อปฺปฏิสรเณ จ ปน, โภ อานนฺท, โก เหตุ สามคฺคิยา’’ติ? ‘‘น โข มยํ, พฺราหฺมณ, อปฺปฏิสรณา; สปฺปฏิสรณา มยํ, พฺราหฺมณ; ธมฺมปฺปฏิสรณา’’ติฯ

‘‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตน โภตา โคตเมน ฐปิโต – อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ, ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’ติ – อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ฐปิโต – อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ, ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’ติ วเทสิ; ‘อตฺถิ ปน, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ฐปิโต – อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ, ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’ติ – อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ฐปิโต – อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ, ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’ติ – วเทสิ; ‘เอวํ อปฺปฏิสรเณ จ ปน, โภ อานนฺท, โก เหตุ สามคฺคิยา’ติ อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘น โข มยํ, พฺราหฺมณ , อปฺปฏิสรณา; สปฺปฏิสรณา มยํ, พฺราหฺมณ; ธมฺมปฺปฏิสรณา’ติ วเทสิฯ อิมสฺส ปน, โภ อานนฺท, ภาสิตสฺส กถํ อตฺโถ ทฏฺฐพฺโพ’’ติ?

[81] ‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปญฺญตฺตํ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิฏฺฐํฯ

เต มยํ ตทหุโปสเถ ยาวติกา เอกํ คามเขตฺตํ อุปนิสฺสาย วิหราม เต สพฺเพ เอกชฺฌํ สนฺนิปตาม; สนฺนิปติตฺวา ยสฺส ตํ ปวตฺตติ ตํ อชฺเฌสามฯ ตสฺมิํ เจ ภญฺญมาเน โหติ ภิกฺขุสฺส อาปตฺติ โหติ วีติกฺกโม ตํ มยํ ยถาธมฺมํ ยถานุสิฏฺฐํ กาเรมาติฯ

‘‘น กิร โน ภวนฺโต กาเรนฺติ; ธมฺโม โน กาเรติ’’ฯ ‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ ยํ ตุมฺเห เอตรหิ สกฺกโรถ ครุํ กโรถ [ครุกโรถ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] มาเนถ ปูเชถ; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา [ครุกตฺวา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุปนิสฺสาย วิหรถา’’ติ? ‘‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ ยํ มยํ เอตรหิ สกฺกโรม ครุํ กโรม มาเนม ปูเชม; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรามา’’ติฯ

‘‘‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ เตน โภตา โคตเมน ฐปิโต – อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’ติ – อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ฐปิโต – อยํ โว มมจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’ติ วเทสิ; ‘อตฺถิ ปน, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ฐปิโต – อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ ยํ ตุมฺเห เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยาถา’ติ – อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ สงฺเฆน สมฺมโต, สมฺพหุเลหิ เถเรหิ ภิกฺขูหิ ฐปิโต – อยํ โน ภควโต อจฺจเยน ปฏิสรณํ ภวิสฺสตีติ ยํ มยํ เอตรหิ ปฏิปาเทยฺยามา’ติ วเทสิ; ‘อตฺถิ นุ โข, โภ อานนฺท, เอกภิกฺขุปิ ยํ ตุมฺเห เอตรหิ สกฺกโรถ ครุํ กโรถ มาเนถ ปูเชถ; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรถา’ติ – อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ ยํ มยํ เอตรหิ สกฺกโรม ครุํ กโรม มาเนม ปูเชม; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรามา’ติ วเทสิฯ อิมสฺส ปน, โภ อานนฺท, ภาสิตสฺส กถํ อตฺโถ ทฏฺฐพฺโพ’’ติ?

[82] ‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทส ปสาทนียา ธมฺมา อกฺขาตาฯ ยสฺมิํ โน อิเม ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ ตํ มยํ เอตรหิ สกฺกโรม ครุํ กโรม มาเนม ปูเชม; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรามฯ กตเม ทส?

‘‘อิธ , พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุฯ

‘‘พหุสฺสุโต โหติ สุตธโร สุตสนฺนิจโยฯ เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา, มชฺเฌกลฺยาณา, ปริโยสานกลฺยาณา, สาตฺถํ, สพฺยญฺชนํ [สาตฺถา สพฺยญฺชนา (สี. สฺยา. กํ.)], เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ อภิวทนฺตฺนฺตฺติ ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺติ ธาตา [ธตา (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺฐิยา สุปฺปฏิวิทฺธาฯ

‘‘สนฺตุฏฺโฐ โหติ ( ) [(อิตรีตเรหิ) ที. นิ. 3.345] จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิฯ

‘‘จตุนฺนํ ฌานานํ อาภิเจตสิกานํ ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหารานํ นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภีฯ

‘‘อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ; อาวิภาวํ ติโรภาวํ; ติโรกุฏฺฏํ [ติโรกุฑฺฑํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ อากาเส; ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรติ, เสยฺยถาปิ อุทเก; อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉติ, เสยฺยถาปิ ปถวิยํ; อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมติ, เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ; อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปริมสติ [ปรามสติ (ก.)] ปริมชฺชติ, ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติฯ

‘‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณาติ – ทิพฺเพ จ มานุเส จ, เย ทูเร สนฺติเก จฯ

‘‘ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติฯ

สราคํ วา จิตฺตํ ‘สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตราคํ วา จิตฺตํ ‘วีตราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สโทสํ วา จิตฺตํ ‘สโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตโทสํ วา จิตฺตํ ‘วีตโทสํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สโมหํ วา จิตฺตํ ‘สโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วีตโมหํ วา จิตฺตํ ‘วีตโมหํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘สํขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิกฺขิตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ , มหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘มหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ ‘อมหคฺคตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘สอุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ ‘อนุตฺตรํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, สมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘สมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ ‘อสมาหิตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘วิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ, อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติฯ

‘‘อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาติํ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปญฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ติํสมฺปิ ชาติโย จตฺตารีสมฺปิ ชาติโย ปญฺญาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป – ‘อมุตฺราสิํ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทิํ; ตตฺราปาสิํ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติฯ อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติฯ

‘‘ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติฯ

‘‘อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ

‘‘อิเม โข, พฺราหฺมณ, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทส ปสาทนียา ธมฺมา อกฺขาตาฯ ยสฺมิํ โน อิเม ธมฺมา สํวิชฺชนฺติ ตํ มยํ เอตรหิ สกฺกโรม ครุํ กโรม มาเนม ปูเชม; สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหรามา’’ติฯ

[83] เอวํ วุตฺเต วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต อุปนนฺทํ เสนาปติํ อามนฺเตสิ – ‘‘ตํ กิํ มญฺญติ ภวํ เสนาปติ [มญฺญสิ เอวํ เสนาปติ (สฺยา. กํ. ปี.), มญฺญสิ เสนาปติ (สี.), มญฺญสิ ภวํ เสนาปติ (ก.)] ยทิเม โภนฺโต สกฺกาตพฺพํ สกฺกโรนฺติ, ครุํ กาตพฺพํ ครุํ กโรนฺติ, มาเนตพฺพํ มาเนนฺติ , ปูเชตพฺพํ ปูเชนฺติ’’? ‘‘ตคฺฆิเม [ตคฺฆ เม (ก.)] โภนฺโต สกฺกาตพฺพํ สกฺกโรนฺติ, ครุํ กาตพฺพํ ครุํ กโรนฺติ, มาเนตพฺพํ มาเนนฺติ, ปูเชตพฺพํ ปูเชนฺติฯ อิมญฺจ หิ เต โภนฺโต น สกฺกเรยฺยุํ น ครุํ กเรยฺยุํ น มาเนยฺยุํ น ปูเชยฺยุํ; อถ กิญฺจรหิ เต โภนฺโต สกฺกเรยฺยุํ ครุํ กเรยฺยุํ มาเนยฺยุํ ปูเชยฺยุํ, สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺยุ’’นฺติ? อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘กหํ ปน ภวํ อานนฺโท เอตรหิ วิหรตี’’ติ? ‘‘เวฬุวเน โขหํ, พฺราหฺมณ, เอตรหิ วิหรามี’’ติฯ ‘‘กจฺจิ ปน, โภ อานนฺท, เวฬุวนํ รมณียญฺเจว อปฺปสทฺทญฺจ อปฺปนิคฺโฆสญฺจ วิชนวาตํ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกํ [มนุสฺสราหเสยฺยกํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] ปฏิสลฺลานสารุปฺป’’นฺติ? ‘‘ตคฺฆ, พฺราหฺมณ, เวฬุวนํ รมณียญฺเจว อปฺปสทฺทญฺจ อปฺปนิคฺโฆสญฺจ วิชนวาตํ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกํ ปฏิสลฺลานสารุปฺปํ, ยถา ตํ ตุมฺหาทิเสหิ รกฺขเกหิ โคปเกหี’’ติฯ ‘‘ตคฺฆ, โภ อานนฺท, เวฬุวนํ รมณียญฺเจว อปฺปสทฺทญฺจ อปฺปนิคฺโฆสญฺจ วิชนวาตํ มนุสฺสราหสฺเสยฺยกํ ปฏิสลฺลานสารุปฺปํ, ยถา ตํ ภวนฺเตหิ ฌายีหิ ฌานสีลีหิฯ ฌายิโน เจว ภวนฺโต ฌานสีลิโน จ’’ฯ

‘‘เอกมิทาหํ , โภ อานนฺท, สมยํ โส ภวํ โคตโม เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํฯ อถ ขฺวาหํ, โภ อานนฺท, เยน มหาวนํ กูฏาคารสาลา เยน โส ภวํ โคตโม เตนุปสงฺกมิํฯ ตตฺร จ ปน โส [ตตฺร จ โส (สี. ปี.)] ภวํ โคตโม อเนกปริยาเยน ฌานกถํ กเถสิฯ ฌายี เจว โส ภวํ โคตโม อโหสิ ฌานสีลี จฯ สพฺพญฺจ ปน โส ภวํ โคตโม ฌานํ วณฺเณสี’’ติฯ

[84] ‘‘น จ โข, พฺราหฺมณ, โส ภควา สพฺพํ ฌานํ วณฺเณสิ, นปิ โส ภควา สพฺพํ ฌานํ น วณฺเณสีติฯ กถํ รูปญฺจ , พฺราหฺมณ, โส ภควา ฌานํ น วณฺเณสิ? อิธ, พฺราหฺมณ, เอกจฺโจ กามราคปริยุฏฺฐิเตน เจตสา วิหรติ กามราคปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ กามราคสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส กามราคํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติฯ พฺยาปาทปริยุฏฺฐิเตน เจตสา วิหรติ พฺยาปาทปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ พฺยาปาทสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส พฺยาปาทํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติฯ

ถินมิทฺธปริยุฏฺฐิเตน เจตสา วิหรติ ถินมิทฺธปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ ถินมิทฺธสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส ถินมิทฺธํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติฯ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปริยุฏฺฐิเตน เจตสา วิหรติ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรเตน, อุปฺปนฺนสฺส จ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติฯ วิจิกิจฺฉาปริยุฏฺฐิเตน เจตสา วิหรติ วิจิกิจฺฉาปเรเตน, อุปฺปนฺนาย จ วิจิกิจฺฉาย นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ; โส วิจิกิจฺฉํเยว อนฺตรํ กริตฺวา ฌายติ ปชฺฌายติ นิชฺฌายติ อปชฺฌายติฯ เอวรูปํ โข, พฺราหฺมณ, โส ภควา ฌานํ น วณฺเณสิฯ

‘‘กถํ รูปญฺจ, พฺราหฺมณ, โส ภควา ฌานํ วณฺเณสิ? อิธ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ…เป.… ตติยํ ฌานํ… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ เอวรูปํ โข, พฺราหฺมณ, โส ภควา ฌานํ วณฺเณสี’’ติฯ

‘‘คารยฺหํ กิร, โภ อานนฺท, โส ภวํ โคตโม ฌานํ ครหิ, ปาสํสํ ปสํสิฯ หนฺท, จ ทานิ มยํ, โภ อานนฺท, คจฺฉาม; พหุกิจฺจา มยํ พหุกรณียา’’ติฯ ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, พฺราหฺมณ, กาลํ มญฺญสี’’ติฯ อถ โข วสฺสกาโร พฺราหฺมโณ มคธมหามตฺโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ

อถ โข โคปกโมคฺคลฺลาโน พฺราหฺมโณ อจิรปกฺกนฺเต วสฺสกาเร พฺราหฺมเณ มคธมหามตฺเต อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ – ‘‘ยํ โน มยํ ภวนฺตํ อานนฺทํ อปุจฺฉิมฺหา ตํ โน ภวํ อานนฺโท น พฺยากาสี’’ติฯ ‘‘นนุ เต, พฺราหฺมณ, อโวจุมฺหา – ‘นตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, เอกภิกฺขุปิ เตหิ ธมฺเมหิ สพฺเพนสพฺพํ สพฺพถาสพฺพํ สมนฺนาคโต เยหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต โส ภควา อโหสิ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธฯ

โส หิ, พฺราหฺมณ, ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา, อสญฺชาตสฺส มคฺคสฺส สญฺชเนตา, อนกฺขาตสฺส มคฺคสฺส อกฺขาตา, มคฺคญฺญู, มคฺควิทู, มคฺคโกวิโท ฯ มคฺคานุคา จ ปน เอตรหิ สาวกา วิหรนฺติ ปจฺฉา สมนฺนาคตา’’’ติฯ

โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ อฏฺฐมํฯ

9. มหาปุณฺณมสุตฺตํ

[85] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ ปุพฺพาราเม มิคารมาตุปาสาเทฯ เตน โข ปน สมเยน ภควา ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส ปุณฺณาย ปุณฺณมาย รตฺติยา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อพฺโภกาเส นิสินฺโน โหติฯ อถ โข อญฺญตโร ภิกฺขุ อุฏฺฐายาสนา เอกํสํ จีวรํ กตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ –

‘‘ปุจฺเฉยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ กิญฺจิเทว เทสํ, สเจ เม ภควา โอกาสํ กโรติ ปญฺหสฺส เวยฺยากรณายา’’ติฯ ‘‘เตน หิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, สเก อาสเน นิสีทิตฺวา ปุจฺฉ ยทากงฺขสี’’ติฯ

[86] อถ โข โส ภิกฺขุ สเก อาสเน นิสีทิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิเม นุ โข, ภนฺเต, ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา, เสยฺยถิทํ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สญฺญุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิญฺญาณุปาทานกฺขนฺโธ’’ติ? ‘‘อิเม โข, ภิกฺขุ, ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา, เสยฺยถิทํ – รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, สญฺญุปาทานกฺขนฺโธ, สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ, วิญฺญาณุปาทานกฺขนฺโธ’’ติฯ

‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา ภควนฺตํ อุตฺตริํ ปญฺหํ ปุจฺฉิ – ‘‘อิเม ปน, ภนฺเต, ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา กิํมูลกา’’ติ? ‘‘อิเม โข, ภิกฺขุ, ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ฉนฺทมูลกา’’ติฯ ‘‘ตํเยว นุ โข, ภนฺเต, อุปาทานํ เต ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา, อุทาหุ อญฺญตฺร ปญฺจหุปาทานกฺขนฺเธหิ อุปาทาน’’นฺติ? ‘‘น โข, ภิกฺขุ, ตํเยว อุปาทานํ เต ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา, นาปิ อญฺญตฺร ปญฺจหุปาทานกฺขนฺเธหิ อุปาทานํฯ โย โข, ภิกฺขุ, ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฉนฺทราโค ตํ ตตฺถ อุปาทาน’’นฺติฯ